Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
16 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
เธอ เขา และ รัก เรา ตอนที่ 5

***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย ****



ในเดือนถัดมา...หลังจากในวันงานแถลงข่าวประกาศการแต่งงานของพวกเขา ทั้งฮยอนจุงและฮวางโบก็แทบจะไม่ได้เจอหน้ากันเลย พวกเขาได้พบกันเพียงแค่ 2-3 ครั้งที่บริษัท DSP เพื่อพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องงานแต่งงานของพวกเขาเท่านั้น นอกนั้นในเวลาอื่นๆ พวกเขาแทบจะกลายเป็นคนแปลกหน้าของกันและกันไปทันที ซึ่งมันดูไม่เหมือนกับ...คนที่กำลังจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในอนาคตเลย

และวันนี้....ฮวางโบก็ต้องมาที่ร้านเวดดิ้งตามที่ได้โทรนัดกันไว้...เพื่อมาลองชุดเจ้าสาวของเธอ โดยที่มีโบรัมมาเป็นเพื่อนเธอด้วย หลังจากที่เข้ามาในร้าน....ฮวางโบก็ใช้เวลาไม่นานในการเลือกชุดเจ้าสาวออกมาลองเพียงไม่กี่ชุดเท่านั้น แต่ทุกชุดที่เลือกออกมาและลองสวมใส่มันช่างดูเหมาะเจาะและสมกับตัวเธอเป็นที่สุด เหมือนกับว่าพวกมันถูกสั่งตัดขึ้นมาให้เธอโดยเฉพาะอย่างงั้นแหละ

“นี่...ฮวางโบ...พอเธอใส่ชุดแบบนี้แล้วเธอดูสวยมากจริงๆ นะ” โบรัมพูดขณะที่มองฮวางโบที่กำลังอยู่ในชุดเจ้าสาว

“เฮ้อออ~...ฉันก็เห็นเธอพูดแบบนี้ทุกที....กับทุกชุดที่ฉันเปลี่ยนออกมาให้เธอดูนั่นแหละ แล้วยังงี้...เธอว่าฉันควรจะเลือกชุดทั้งหมดนี่เลยดีไหมล่ะ...โบรัม?” ฮวางโบพูดแหย่โบรัม

“ก็เธอใส่ชุดพวกนี้แล้วเธอดูสวยจริงๆ นิ เพราะฉะนั้นมันยากมากเลยที่เธอจะเลือกเอาชุดใดชุดหนึ่งนะ” โบรัมบอกเธอ

“งั้นทำไมไม่รอให้ว่าที่เจ้าบ่าวของคุรมาก่อนละค่ะ แล้วค่อยตัดสินใจกันอีกทีว่าคุณจะเลือกชุดไหน...ทำแบบนี้ดีกว่าไหมค่ะ?” ผู้ช่วยในร้านพูดกับพวกเธอ

“เอ่อ...ใช่ ฮวางโบ ว่าแต่วันนี้คิมฮยอนจุงเขาจะมาที่นี่รึเปล่า?” โบรัมหันไปถามฮวางโบ

“คิดว่าน่าจะมานะ เพราะเขาเองก็ต้องมาลองชุดของเขาเหมือนกัน” ฮวางโบตอบออกมาอย่างไม่แน่ใจ

แล้วพวกเธอก็นั่งรอคิมฮยอนจุงอยู่นั่นเป็นชั่วโมงโดยมีวี่แววว่าเขาจะมาถึงที่นี่เลย “ฮวางโบ...เธอโทรหาเค้าซิ? บอกให้เขาออกมาพบเธอที่นี่...เดี๋ยวนี้...” สุดท้ายโบรัมก็หมดความอดทนพูดมันออกมา

“เธอจะให้ฉันโทรหาเขาจริงๆ หรือ? เธอก็น่าจะรู้ดีนี่ว่า...ฉันกับเขา...เราสองคนไม่ได้สนิทกันมากพอที่ฉันจะโทรหาและเรียกเขาให้ออกมาพบได้นะ” ฮวางโบเอียงตัวเขาหาโบรัมและกระซิบบอกเธอ

“งั้นเธอจะปล่อยให้เรานั่งรอเค้าอยู่ที่นี่แบบนี้หรือ? มันไม่ทำให้เธอถึงตายหรอกนะ...ก็แค่เธอหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาแล้วโทรหาเขานะ...” โบรัมพูดอย่างหงุดหงิด

“งั้นฉันว่า...ฉันจะโทรหาผู้จัดการของเขาแทนก็แล้วกัน” ฮวางโบพูด

เธอหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอขึ้นมาแล้วกดเบอร์ผู้จัดการของเขา เธอรอสายเขาอยู่นานแต่ก็ยังไม่มีคนรับ สุดท้าย...เธอก็ลังเลใจอยู่ครูนึงก่อนที่จะตัดสินใจวางสายและกดหาเบอร์ของฮยอนจุงแทน ขณะที่เธอกำลังรอสายของเขาอยู่นั้นเธอก็รู้สึกได้ว่าหัวใจของเธอตอนนี้กำลังเต้นไม่เป็นจังหวะ

“สวัสดีฮะ” เสียงปลายสายทักทายเธอ

“เอ่อ...สวัสดีจ๊ะ ฮยอนจุง...นี่ฉันเองนะ..ฮวางโบ” เธอพูดตอบกลับอย่างตื่นเต้น

“อ้อ!...ฮะ คุณมีอะไรฮะ?” เขาถามเธอ

“นี่...คิมฮยอนจุง เธอหมายความว่าไง? เธอลืมไปแล้วหรือว่าวันนี้เธอมีนัดมาลองชุดที่ร้านเวดดิ้งนะ?” ฮวางโบพูดอย่างหงุดหงิด

“ลองชุดหรือฮะ? อ้าห์~ ให้ตายซิ ผมลืมเรื่องนี้ไปเลย” เขาพูด

“....................” ฮวางโบเงียบไปเพราะพูดอะไรไม่ออก

“ผมมัวแต่ยุ่งๆ กับการซ้อมท่าเต้นเพลงใหม่ที่จะใช้ถ่ายทำ MV ของผมนะฮะ ผมเลยลืมคิดไปว่าวันนี้ผมมีอะไรจะทำอีกรึเปล่า” เขาพูดต่อ

“งั้นสรุปว่าเธอจะแก้ผ้าไม่ใส่อะไรเลยในวันงานแต่งงานของเรางั้นซิ?” เธอพูดประชดเขาด้วยความโมโห

“ปะกี้คุณว่าอะไรนะ? ผมไม่ได้หมายความว่างั้นซะหน่อย และอีกอย่างผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะลืมเรื่องนี้ด้วย คุณไม่ต้องห่วงหรอก...ผมมีชุดสูทอยู่หลายตัวที่บานของผม พอถึงวันงานจริงๆ ผมแค่เลือกพวกมันตัวใดตัวหนึ่งออกจากตู้แล้วใส่มันไปงานของเราก็แค่นั้น” ฮยอนจุงพูดกลับไปด้วยความโมโหเช่นกัน

เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น ฮวางโบก็กดวางสายทันที <ฉันรู้ดีว่านี่มันไม่ใช่การแต่งงานแบบปรกติซักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยฉันก็อยากให้เขาใส่ใจกับการเตรียมงานแต่งงานครั้งนี้บ้าง แต่นี่...ไม่เลย เขาไม่เคยใส่ใจกับมันเลย หรือว่ามันเป็นเพราะเขาคิดว่าฉันเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาจำเป็นต้องแต่งงานด้วยกันแน่ เขาถึงได้ทำเหมือนไม่สนใจมันแบบนี้?> ฮวางโบคิดขึ้นมาด้วยความน้อยใจ

-------------------------------

ที่ห้องซ้อมของ SS501

“ฮัลโหล...ฮ้ลโหล? ฮวางโบ ฮัลโหล? อ้าห์~.....จริงๆ เลยนะ...นี่เธอกล้าวางหูใส่ฉันแบบนี้เลยหรือ...” เขาพูดกับตัวเองอย่างหงุดหงิด

“ทำไมฮะ...พี่? พี่สะใภ้เขาทำอะไรหรือฮะ?” จองมินถามด้วยความสงสัย

“ไม่..ไม่มีอะไรหรอก แต่...เธอเป็นบ้าอะไรของเธอก็ไม่รู้? ฉันแค่บอกว่าฉันลืมนัดไปลองชุดแต่งงานแค่นั้น เธอถึงกับวางหูใส่ฉันเลย...นี่มันบ้าที่สุด” ฮยอนจุงพูดอย่างหงุดหงิด

“พี่ว่าอะไรน่ะ? พี่ลืมเรื่องสำคัญอย่างงี้ได้ไง? ทั้งหมดมันเป็นความผิดของพี่...พี่ยังไม่รู้ตัวอีกหรือ....” จองมินพูดใส่หน้าเขา

“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรซักหน่อย? ฉันเองก็มีชุดสูทแบบนั้นเก็บไว้ที่บ้านตั้งหลายตัว....พอถึงวันงานจริงๆ ฉันก็แค่เลือกหยิบมันออกมาใส่ซักตัวแค่นั้นก็พอแล้วไม่ใช่หรือ...” ฮยอนจุงพูดแบบไม่ใส่ใจ

“นั่นแหละที่เป็นความผิดของพี่...พี่ยังไม่รู้ตัวอีกหรือฮะ พี่ฮะ...สำหรับผู้หญิงแล้ววันแต่งงานถือเป็นวันที่พิเศษที่สุดสำหรับพวกเธอเลยนะฮะ เพราะฉะนั้นพวกเธอทุกคนก็ต้องอยากให้ตัวเองและคนที่ยืนอยู่เคียงข้างเธอดูดีที่สุดในวันงานวันนั้น และยิ่งไปกว่านั้น...มันถือเป็นงานที่มีเพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิตของพวกเธอด้วย แต่นี่....พี่เล่นดันไปพูดกับพี่สะใภ้ว่า...พี่ต้องการหยิบชุดสูทที่มีอยู่ในตู้เสื้อผ้าของพี่อยู่แล้วไปใส่ในวันงานอย่างงั้นหรือฮะ?” จองมินพยายามอธิบายให้เข้าใจ...และรู้สึกผิดหวังในตัวพี่ชายของเขามาก

คำพูดของจองมินทำให้ฮยอนจุงหวนไปนึกถึงตอนที่เขากับฮวางโบถ่ายทำรายการ WGM ด้วยกัน ตอนนั้นเขาจำได้ว่า..เธอยืนอยู่บนแท่นโชว์ตัวของทางร้านเวดดิ้ง...เธอดูประหม่าและต้องการถามความคิดเห็นของเขาว่าเขารู้สึกยังไงกับชุดแต่งงานของเธอที่เธอกำลังลองใส่อยู่ตอนนั้น....และเธอก็ดูจะกระตือรืนร้อนขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่าเขาแสดงความรู้สึกออกมาว่าชอบและพอใจกับชุดเจ้าสาวที่เธอใส่อยู่มากแค่ไหน และเมื่อถึงคราวที่เขาต้องฝ่ายลองชุดเจ้าบ่าวของเขาบ้าง เขากลับรู้สึกเหมือนกับว่าเขามาทำหน้าที่เป็นหุ่นให้คนพวกนั้นจับเขาใส่นู้นใส่นี่ในการถ่ายแบบซะมากกว่า เพราะสำหรับเขาแล้วเรื่องนี้มันก็เป็นแค่การแสดงเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้น...เธอยังพยายามใส่ใจในทุกๆ รายละเอียดของเขาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสี หรือเรื่องการผูกเน็คไทและโบ ก็ต้องเข้ากับชุดที่เขาใส่ด้วย เธออยากให้เขาดูดีที่สุดถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ในการแสดงก็ตาม

“พี่....พี่ฮะ....พี่กำลังคิดอะไรอยู่ฮะ?” จองมินถามเมื่อเห็นเขานิ่งไปนาน

“โอ๊ะ!~ เปล่า...ไม่มีอะไร...ว่าแต่...พี่ผู้จัดการของเรา เขาอยู่ไหนนะ?” ฮยอนจุงสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากภวังค์และตอบเขา

“ฉันอยู่นี่...นายมีอะไร...นายถามหาฉันทำไมเหรอ?” ผู้จัดการของเขาถาม

“ทำไมพี่ไม่เตือนผมเลย ว่าผมมีนัดไปลองชุดแต่งงานในวันนี้นะฮะ?” ฮยอนจุงต่อว่าผู้จัดการของตัวเอง

“ทำไมจะไม่เตือน...ตอนเช้าฉันก็เตือนนายรอบนึงแล้ว และก่อนที่ฉันจะไปเก็บอุปกรณ์สำหรับสำหรับถ่ายทำ MV ของพวกนาย ฉันก็เตือนนายอีกรอบนึงแล้วด้วย โอ้ว!~ ให้ตายซิ แล้วทำไมตอนนี้นายยังยืนอยู่ที่นี่อีกล่ะ? นายอย่าบอกฉันนะ...ว่านายลืม?” ผู้จัดการของเขาพูด

“อ้าห์!~....งั้นวันนี้ผมขอหยุดซ้อมเต้นแค่นี้นะฮะ” เขาพูดเสร็จก็รีบเดินออกไปจากห้องซ้อมในทันที เขาขับรถด้วยความเร็วทั้งหมดที่เขามีเพื่อยังร้านเวดดิ้งที่เธอนัดเขาไว้

-------------------------------

ที่ร้านเวดดิ้ง

“เขาไม่มาแล้วล่ะ...เขาบอกฉันแบบนี้” ฮวางโบพูดออกมาด้วยความน้อยใจ

“หา...ทำไมล่ะ? มันเกิดอะไรขึ้น?” โบรัมถามด้วยตกใจ

“ฉันคิดว่าฉันคงพยายามเรียกร้องบางสิ่งบางอย่างจากการแต่งงานครั้งนี้มากเกินไป ใช่...นี่มันเป็นงานแต่งงานของเรา แต่ฉันลืมไปว่าเรื่องทั้งหมดนี่มันการเสแสร้งและมันก็ต้องจบลงในซักวันหนึ่ง

“ฮวางโบ....อย่าเสียใจไปเลย เธอก็แค่ทำในส่วนของเธอให้ดีที่สุดก็พอ...เธอต้องทำให้ตัวเองดูดีและสวยที่สุดในวันแต่งงานนั้นนะ และเรื่องนี้มันจะเป็นเรื่องเสแสร้งหรือไม่ แต่ถึงยังไงในวันนั้น...มันก็ยังวันที่สำคัญที่สุดสำหรับเธออยู่ดีไม่ใช่หรือ...” โบรัมพยายามพูดปลอบใจเธอ

“เอ่อ...คุณฮวางโบค่ะ แล้วตกลงคุณตัดสินใจได้หรือยังค่ะ...ว่าจะเลือกชุดเจ้าสาวชุดไหนด๊?” ผู้ช่วยในร้านถามเธอ

ฮวางโบหันไปมองที่ชุดเจ้าสาวที่เธอเลือกและลองใส่เมื่อกี้นี้ทันที แต่เธอคิดว่ามันไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว เธอตัดสินใจแล้ว...ว่าเธอจะเลือกชุดๆ หนึ่งที่เธอไม่ได้สนใจจะลองมันตั้งแต่ทีแรก “ฉันตัดสินใจเลือกแล้วค่ะ...ฉันจะเลือกชุดนี้” ฮวางโบพูดพร้อมยื่นมือออกไปชี้ที่ชุดๆ หนึ่ง

“อะไรนะ? ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้สนใจแม้แต่จะลองชุดนี้เลยนี่....และฉันว่า...ไอ้ชุดนี้นะ มันจะ....เอ่อ...โชว์รูปร่างเธอมากเกินไปรึเปล่า?” โบรัมพูดออกมาด้วยความตกใจ

“อืม...มันก็จริงนะ แต่ฉันว่า...ฉันก็มีรูปร่างดีพอที่จะโชว์กับคนอื่นเขาได้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ ไม่รู้ละ...ฉันตัดสินใจแล้ว ไปเถอะโบรัม...เราน่าจะออกไปหาอะไรกินกันได้แล้ว” ฮวางโบพูดเสร็จก็จูงมือโบรัมออกไปนอกร้าน

และถ้าหากจะพูดถึงตัวชุดเจ้าสาวเจ้าปัญหาที่ฮวางโบตัดสินใจเลือกเมื่อกี้นี้นั้น...มันก็เป็นชุดที่ถูกออกแบบมาอย่างดีตามสไตล์ของมัน...โดยที่ตัวชุดจะมีสายสปาเก็ตตี้เส้นเล็กๆ ไว้คล้องคอ ด้านหน้าของชุดก็เว้าลึกจนแทบจะบังหน้าอกหน้าใจของเธอไม่มิดอยู่แล้ว ส่วนด้านหลังก็ยิ่งเว้าลึกลงไปอีกจนโชว์แผ่นหลังขาวเนียนและรูปร่างของเธอไปจนถึงช่วงเอว และตัวชายกระโปรงถึงแม้จะยาวและดูมีรสนิยม แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอย่างก้าว รอยผ่าของกระโปรงที่ทำไว้สูงอยู่แล้วนั้นก็พร้อมจะเผยให้เห็นเรียวขาของเธอที่ซ่อนอยู่ภายในได้อย่างชัดจนอีกด้วย

-------------------------------

และในเวลาต่อมาหลังจากที่ฮวางโบกับโบรัมออกไปได้ไม่นาน ฮยอนจุงก็ขับรถมาถึงหน้าร้านเวดดิ้ง

“อ้าว!~ คุณฮยอนจุง....เจ้าสาวของคุณเพิ่งออกไปได้ซัก 15 นาทีนี่เองค่ะ” ผู้ช่วยของร้านบอกเขา

“อ้อ...หรือฮะ” ฮยอนจุงตอบผู้ช่วยของร้านได้แค่นั้น <โธ่เว้ย!....ฉันคลาดกับเธอไปนิดเอง ให้ตายซิ> เขาบ่นพึมพำกับตัวเองในใจ

“เอ่อ...แต่ก่อนที่เธอจะไป เธอได้เลือกชุดเจ้าบ่าวที่เหมาะกับคุณไว้ให้คุณเลือก 2 ชุดนะค่ะ คุณอยากดูไหมค่ะ?” ผู้ช่วยของร้านพูดเสริม

“ฮะ” เขาตอบ แล้วหลังจากนั้นเขาก็เดินตามผู้ช่วยของร้านไปที่ชั้นที่เก็บชุดสูทที่ฮวางโบเลือกไว้ให้เขาเป็นพิเศษ

“เจ้าสาวของคุณ...เธอใส่ใจรายละเอียดเกี่ยวกับชุดเจ้าบ่าวของคุณมากเลยนะ เธอใช้เวลาเลือกชุดสูทให้คุณมากกว่าเลือกชุดเจ้าสาวให้ตัวเธอซะอีก” ผู้ช่วยของร้านกล่าวชื่นชมเธอต่อหน้าเขา

ฮยอนจุงยื่นมือออกไปแล้วกวาดดูชุดสูทที่ฮวางโบเลือกไว้ให้ ทั้งสี....ทั้งเนื้อผ้า ทั้งสไตล์การออกแบบ มันช่างเป็นแบบที่เขาชอบไปซะทั้งหมด <นี่เธอจำมันได้หมดเลยเหรอ...ที่ฉันเคยบอกเธอตอนที่เราถ่ายรูปแต่งงานด้วยกันในรายการ WGM นะ> ฮยอนจุงคิดขณะจับดูชุดสูทพวกนั้น

“ผมขอลองสูทสีขาวตัวนี้ได้ไหมฮะ” เขาถามผู้ช่วยของร้าน

“อ้อ...ได้สิคะ แล้วก็....มันน่าแปลกนะคะ ฉันเพิ่งได้ยินเจ้าสาวของคุณบอกกับเพื่อนของเธอคุณต้องชอบชุดสูทตัวนี้แน่ๆ ถ้าคุณเห็นมัน” ผู้ช่วยของร้านพูดไปยิ้มไป

“จริงหรือฮะ?” เขาพูด แล้วก็นึกย้อนไปถึงตอนที่เขากับเธอถ่ายรายการ WGM ด้วยอีกครั้ง <อ้อใช่ซิ...ก่อนหน้านี้เธอก็เคยบอกกับฉัน...ว่าชุดสูทสีขาวแบบนี้มันเหมาะที่จะใส่ในโอกาสพิเศษที่สำคัญๆ นี่นา> แล้วฮยอนจุงก็หยิบสูทชุดนั้นเข้าไปลอง และบอกกับทางผู้ช่วยของร้านว่าเขาตัดสินใจเลือกชุดสูทสีขาวตัวนี้

หลังจากที่เขาทำธุระทุกอย่างที่ร้านเวดดิ้งเสร็จแล้วและเตรียมที่จะออกจากร้าน จู่ๆ เขาก็เกิดอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาว่าชุดเจ้าสาวที่เธอเลือกจะหน้าเป็นยังไง “เอ่อ...ขอโทษนะฮะ ชุดเจ้าสาวที่...เอ่อ...เจ้าสาว...ของผมเลือกหน้าตาเป็นแบบไหนฮะ?” ฮยอนจุงถามผู้ช่วยของร้าน

แล้วผู้ช่วยของร้านก็เดินเข้าไปหยิบชุดเจ้าสาวที่ฮวางโบเลือกไว้ออกมาให้ฮยอนจุงดู

“นี่มันชุดบ้าอะไรกันเนี่ย? ชุดแบบนี้เนี่ยนะที่เขาเรียกว่าชุดเจ้าสาว? นี่มันเหมือนกับไม่ได้ใส่อะไรเลยซะมากกว่า!” ฮยอนจุงพูดออกมาด้วยความตกใจเมื่อเขาได้เห็นชุดเจ้าสาวที่ฮวางโบเลือก

“แต่คุณเจ้าสาว...เธอใส่ชุดนี้แล้วออกมาดูดีมากเลยนะคะ และรูปร่างของเธอก็ดีมากจริงๆ...เธอสามารถเอามันออกมาโชว์ได้สบายๆ ในชุดเจ้าสาวแบบนี้เลยนะค่ะ” ผู้ช่วยของร้านพยายามอธิบาย

“ผมรู้อยู่แล้วละน่า...ว่าเธอนะรูปร่างดีแค่ไหน และผมก็ไม่จำเป็นต้องให้คุณมาบอกผมในเรื่องนี้ด้วย...แต่นั่นยังไม่สำคัญเท่าไหร่...เพราะที่สำคัญจริงๆ ก็คือ...ผมไม่เห็นด้วยที่เธอจะใส่ชุดแบบนี้ไปอวดใครต่อใคร...เฮ้อ!~ จริงๆ เลยนะ....ผมจะไม่มีทางยอมให้เธอใส่ชุดแบบนี้เด็ดขาด เดี๋ยวผมจะกลับไปบอกให้เธอกลับมาเลือกชุดใหม่แทน.....” ฮยอนจุงพูดออกมาด้วยโมโหและหงุดหงิด

และหลังจากที่ฮยอนจุงพูดจบ เขาก็รีบเดินออกจากร้านเวดดิ้งนั้นไปทันทีราวกับลมพายุเฮอริเคนพัดผ่าน เขาก็หยิบมือถือของเขาขึ้นมาและกดโทรหาฮวางโบ....แต่....เธอไม่ยอมรับสายของเขา......

-------------------------------

ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง

“ใครโทรมานะ? ทำไมเธอไม่รับสายเขาล่ะ...ฮวางโบ?” โบรัมถามฮวางโบด้วยความสงสัย

“ก็มันเป็นใครไม่รู้โทรมานะสิ....ฉันเลยคิดว่า....ฉันคงไม่จำเป็นต้องรับสายเขาหรอกมั่ง” ฮวางโบตอบแบบไม่ใส่ใจ

-------------------------------
ตอนที่ 5 Part 2

และวันต่อมา หลังจากที่ฮวางโบถ่ายทำรายการ Infinity Girl เสร็จแล้ว เธอก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังบริษัท DSP ทันที เพราะวันนี้พวกเขาจำเป็นต้องหาข้อสรูปเกี่ยวกับกำหนดการต่างๆ ในวันแต่งงานของพวกเขา และขณะที่ฮวางโบกำลังขับรถอยู่นั้น ในใจเธอก็กำลังคิดว่า <ไม่รู้ว่าเด็กนั้น...คิมฮยอนจุง...จะแผลงฤทธิ์อะไรใส่ฉันอีกนะ ถ้าเราเจอกันในวันนี้ เฮ้อ!~ แล้วฉันจะรับมือกับเขายังไงดีนะ?>

ภายในห้องประชุมของบริษัท DSP

ฮวางโบมาถึงก่อนเวลาที่นัดกันไว้ 10 นาที และในขณะที่เธอกำลังนั่งพักรอทีมงานและคิมฮยอนจุงอยู่นั้น เธอก็หยิบนิตยสารแฟชั่นเล่มหนึ่งที่เธอซื้อมาเมื่อเช้านี้ขึ้นมาอ่าน เธอพลิกเปิดนิตยสารเล่มนั้นไปยังหน้าที่เธอให้ความสนใจเป็นพิเศษ และในตอนที่เธอกำลังจ้องมองไปยังหน้านิตยสารที่เธอให้ความสนใจอยู่นั้น คิมฮยอนจุงก็เปิดประตูเข้ามาในห้องประชุมและเริ่มพูดจาตะคอกใสหน้าเธอทันที

“ทำไมเมื่อคืนคุณถึงไม่ยอมรับสายผม?” เขาพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่เต็มโกรธ

“ก็ฉันไม่เห็นว่ามันมีความจำเป็นอะไรที่ฉันต้องรับสายเธอนี่” ฮวางโบพูดประชดเขากลับไปเช่นกัน เพราะเธอยังรู้สึกโกรธเขากับเรื่องที่เขาทำกับเธอเมื่อวาน

“นี่...คุณ...เฮ้อ!~ เอาเถอะ ผมยอมรับผิดก็ได้ว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นความผิดของผมเอง ผมไม่ควรจะลืมเรื่องสำคัญแบบนั้น แต่สุดท้ายผมก็ไปตามนัดแล้วนะ...ไปลองชุดเจ้าบ่าวของผมถึงแม้ว่ามันจะดึกไปซักหน่อยก็ตาม” เขายอมอ่อนข้อให้เธอและสารภาพผิดออกมา

“เธอไม่จำเป็นต้องมาอธิบายหรือขอโทษอะไรฉันหรอก มันขึ้นอยู่กับตัวเธอเองว่าเธออยากจะใส่อะไรในวันนั้น เพราะมันก็แค่การแสดงอยู่แล้วนี่” ฮวางโบยังไม่หยุดพูดจาประชดประชันเขา

“นี่คุณต้องการให้เรากลับมาเริ่มพูดจากันแบบนั้นอีกแล้วใช่ไหมฮะ?” เขาเริ่มหงุดหงิดที่เธอไม่หายงอนเขาซักที

“ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะผิดอะไรตรงไหนเลยนี่ เพราะเราสองคนมีหน้าที่แค่แกล้งทำเป็นสามีภรรยาที่รักกันปานจะกลืนกินต่อหน้าคนอื่นๆ เท่านั้น ส่วนนอกเหนือจากนั้น เราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันเกินไปกว่าคนรู้จักกันเลยไม่ใช่หรือ” ฮวางโบพูดออกมาด้วยความน้อยใจ

“นี่คุณ....อ้าห์!~....แล้วก็...ไอ้ชุดเจ้าสาวของคุณด้วย....คุณต้องไปเลือกมันใหม่เลยนะ” เขาพูดกับเธอ...เพราะความโกรธมันเลยทำให้เขานึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้

“อะไรนะ? ทำไมล่ะ ทำฉันต้องไปเลือกมันใหม่ด้วย?” เธอถามกลับด้วยความตกใจ ที่จู่ๆ เขาก็พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา

“ก็ไอ้ชุดเจ้าสาวนั่นมัน....โชว์เนื้อหนังคุณมากเกินไปนะซิ!” เขาพูดตะกุกตะกักขึ้นมาทันทีเมื่อใจของเขาพานไปคิดถึงชุดบ้านนั่น

“ฉันไม่เห็นว่ามันเสียหายตรงไหน ทำไมเธอต้องไปกังวัลกับมันด้วย?” ฮวางโบพูดอย่างไม่ยี่หระ

“ไม่ให้กังวลกับมันได้ไง? คุณอย่าลืมซิว่า คุณกำลังจะก้าวผ่านประตูโบสถ์เข้ามาทำพิธีเพื่อมาเป็นภรรยาของผม...ภรรยาของคิมฮยอนจุงนะ แล้วคุณจะใส่ไอ้ชุดบ้านั้นมาเข้าพิธีงั้นหรือ ไม่...ผมไม่มีทางยอมหรอก” เขาพูดอย่างหงุดหงิด

“อ้อ...ฉันรู้แล้ว...เธอกลัวว่าฉันจะทำให้เธอขายหน้าอย่างงั้นซิ...ใช่ไหมคิมฮยอนจุง?” เธอพูดด้วยความโกรธปนความน้อยใจ

“มันไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย แต่...มันเป็นเพราะงานแต่งงานของเรามันต้องอากาศทางทีวีด้วยต่างหาก ผมถึงไม่อยากให้แต่งตัวเหมือนกับผู้หญิงราคาถูกแบบนั้น......” ฮยอนจุงพูด และกว่าเขาจะรู้ตัวว่าเขาพูดจาไม่ดีออกไปมันก็สายไปซะแล้ว เพราะคำพูดพวกนั้นมันได้หลุดออกจากปากเขาไปแล้ว และเขาก็ไม่สามารถเรียกมันกลับคืนมาได้ด้วย

“นั่นคือสิ่งที่เธอรู้สึกเกี่ยวกับฉันใช่ไหม...ฮยอนจุง? ใช่ซิ...ฉันน่าจะรู้ตัวดีอยู่แล้ว แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมเธอต้องมากังวลว่าฉันจะใส่หรือไม่ใส่อะไรด้วย เธออย่าลืมซิ! ว่าการแต่งงานของเรามันเป็นแค่การจัดฉากขึ้นเพื่อผลประโยชน์ของพวกเราเท่านั้น” ฮวางโบพูดประชดด้วยน้อยใจ เธอรู้สึกเสียใจที่ฮยอนจุงคิดกับเธอแบบนั้น

“อ่อ...ใช่...ใช่ซิ....ผมน่ารู้ดีว่าคุณต้องการใส่ชุดแบบนั้นเพราะอะไร บางทีมันอาจจะมีคนพูดถึงชุดเจ้าสาวของคุณที่คุณใส่ในวันงานของเราเป็นจำนวนมากก็ได้ แล้วหลังจากนั้นคุณก็จะกลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน เพราะทุกอย่างที่คุณทำมาทั้งหมดมันก็เพื่อชื่อเสียงเงินทองที่คุณต้องการอยู่แล้วนี่ เพราะงั้นคุณถึงได้ตัดสินใจยอมรับข้อเสนอมาแต่งงานกับผมใช่ไหมล่ะ!” ฮยอนจุงตะคอกใส่เธอ เพราะโกรธและรู้สึกผิดหวังในตัวเธอมากจริงๆ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้

“ใช่!~ เธอเข้าใจถูกต้องแล้ว” เธอตะโกนออกมาสุดเสียง และพยายามกลั้นน้ำตาของเธอไม่ให้ไหลออกมา เพราะคำพูดสุดท้ายของเขามันช่างบาดลึกเข้าไปในจิตใจของเธอจนทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสเหมือนกับที่บอมซัม...อดีตคนรักของเธอได้ทำไว้กับเธอไม่มีผิด

และในขณะนั่นเองผู้จัดการส่วนตัวของเขาก็เดินเข้ามาในห้อง “นี่มันเกิดอะไรขึ้น? คุณสองคนทะเลาะกันดังมากเลยรู้ตัวไหม ผมได้ยินเสียงของพวกคุณสองคนได้อย่างชัดเจนเลยระหว่างทางที่ผมเดินมาที่นี่ พวกคุณอยากให้คนอื่นรู้เรื่องข้อตกลงของเรารึไง?” ผู้จัดการของเขาพูด

“ฉันว่าวันนี้ฉันคงไม่มีอารมณ์จะคุยเรื่องงานแต่งงานนี่แล้วละ เพราะฉะนั้นคุณตัดสินเองไปเลยแล้วกันว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง แล้วส่งอีเมลไปบอกฉันก็พอว่าในวันงานวันนั้นฉันต้องทำอะไรบ้าง” เธอพูดกับผู้จัดการของเขาเสร็จก็รีบเดินไปคว้ากระเป๋าสะพายและเตรียมตัวจะเดินออกจากห้องทันที เพราะเธอไม่ต้องการอยู่ใกล้เขา...ใกล้คิมฮยอนจุงอีกแม้แต่วินาทีเดียว

“เดี๋ยวครับ...คุณฮวางโบ...แล้วเรื่องถ่ายรูปแต่งงานละครับ? ทางคุณยังไม่บอกวันเวลาและสถานที่กับเราเลย” ผู้จัดการของเขารีบถามเธอขึ้นมาก่อนที่เธอจะออกจากห้องประชุมไป

“มันไม่สำคัญแล้วละ เพราะฉันว่าฮยอนจุงเขาคงอยากจะแยกไปถ่ายในส่วนของเขาเองมากกว่า เพราะฉะนั้นเดี๋ยวเราค่อยบอกให้ช่างภาพทำโฟโทซ้อปตัดต่อรูปของฉันกับเขาเข้าด้วยกันทีหลังก็แล้วกัน” ฮวางโบพูดจบก็เดินออกไปจากห้องทันที คราวนี้เธอเดินออกไปจริงๆ และไม่หันกลับมาคนที่อยู่ภายในห้องนั้นอีกเลย

“หา? โฟโต้ซ็อปงั้นหรือ?” ผู้จัดการของเขาพูดอย่างงงๆ

“เฮ้อ!~ ผู้หญิงคนนี้....เธอกำลังจะทำให้ผมเป็นบ้าตายอยู่แล้ว!” ฮยอนจุงพูดออกอย่างหมดความอดทน

“อ้าว...เฮ้ย...รอเดี๋ยวครับ...คุณฮวางโบ...คุณฮวางโบครับ...คุณลืมเช็คของคุณครับ!” ผู้จัดการของเขานึกขึ้นได้เลยร้องตะโกนเรียกตามหลังเธอไป แต่มันไม่ทันแล้ว เธอได้ออกจากที่นั่นไปไกลแล้ว

“พี่ฮะ....นั่นเช็คอะไรหรือฮะ?” ฮยอนจุงถามผู้จัดการของเขาด้วยความสงสัย

“ก็เช็คเงินบางส่วนจากการที่เธอตกลงยอมรับข้อเสนอของเรานะสิ แล้วส่วนที่เหลือเธอจะได้รับมันหลังจากที่เธอแต่งงานกับนายแล้ว” ผู้จัดการของเขาอธิบาย

หลังจากฮยอนจุงก็หยิบเช็คในมือถือของพี่ผู้จัดการไปอ่าน ข้อความในเช็คมันเขียนว่า....

‘สั่งจ่ายให้กับ: Compassionate Charity Group
เป็นจำนวนเงิน: USD200,000’

“กลุ่มองค์กรการกุศล คอมแพชชั่นเนท ชาร์ริตี้....นี่มันหมายความว่าไงฮะ?” ฮยอนจุงถาม

“ก็ก่อนหน้านี้เราเพิ่งได้รับข้อเสนอบางอย่างจากเธอเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เธอยอมเซ็นสัญญากับเรานะสิ จริงๆ นะ ฉันคิดว่าคุณฮวางโบ...เธอเป็นผู้หญิงที่แปลกมากจริงๆ เพราะดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากการที่เธอยอมตกลงรับข้อเสนอนี้ของเราเลย ส่วนใหญ่ผลประโยชน์ทั้งหมดจะตกอยู่กับกลุ่มองค์กรการกุศลและบริษัทตันสังกัดเก่าของเธอซะมากกว่า เธอช่างแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นจริงๆ และนั่นมันยิ่งทำให้คนอื่นอยากรู้เรื่องของเธอมากขึ้น นายว่าจริงไหม...ฮยอนจุง” ผู้จัดการของเขาอธิบายให้เขาฟัง

“ผมก็อยากรู้เรื่องของเธอเหมือนกันฮะ....ผมอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงแบบนั้น? แล้วเมื่อกี้ผมพูดจารุนแรงกับเธอเกินไปรึเปล่า” เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง เพราะตอนนี้เขาเริ่มไม่มั่นใจว่าสิ่งที่เขาคิดเกี่ยวกับตัวเธอมันถูกต้องรึเปล่า แล้วจู่ๆ เขาก็ไปสะดุดตาเข้ากับนิตยสารเล่มหนึ่งที่ฮวางโบลืมวางทิ้งไว้บนโต๊ะ เขาหยิบมันขึ้นมาและดูที่หน้าที่เธอเปิดค้างไว้ ภาพในหน้านั้นมันเป็นภาพแหวนสำหรับคู่แต่งงาน ที่ตัวแหวนทำจากทองคำขาวบริสุทธิ์ ตัวแหวนของผู้หญิงจะมีเพชรเม็ดเล็กๆ ฝังไว้รอบๆ ดูสวยงามน่ารักและไม่หรูหราจนเกินไป ส่วนของผู้ชายตัวแหวนจะเป็นแบบเรียบๆ และฝังเพชรเม็ดใหญ่ขึ้นมากหน่อยไว้ตรงกลางเพียงเม็ดเดียวเท่านั้น

‘แหวนแต่งงาน....มันควรจะเป็นอะไรที่ดูเรียบง่าย สะอาดบริสุทธ์ และสวยงามซิถึงจะถูก’ จู่ๆ คำพูดของฮวางโบก็ดังก้องขึ้นมาในหัวของฮยอนจุง <แหวนแบบนี้นะหรือที่เป็นแบบแหวนแต่งงานที่เธอพูดถึงนะ?> ฮยอนจุงคิดขึ้นมาทันทีในขณะที่จ้องมองแหวนแต่งงานในนิตยสารนั้นใกล้ๆ อีกครั้ง

“พี่ฮะ...ผมอยากไปเลือกแหวนแต่งงานของเราด้วยตัวของผมเอง พี่พอรู้ไหมฮะ ว่าเธอใส่แหวนไซส์ไหน” เขาหันไปพูดกับพี่ผุ้จัดการของเขา

-------------------------------

และแล้ววันแต่งงานของพวกเขาก็ใกล้เข้ามาถึงทุกที เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 2 อาทิตย์เท่านั้นก็จะถึงวันงานสำคัญสำหรับพวกเขา ฮยอนจุงจึงยอมเปลี่ยนตารางงานของเขาเพื่อถ่ายรูปแต่งงานของเขาพร้อมกับเธอ

“โอ๊ะ!~ ฉันตกใจหมดเลย...เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง...ฮยอนจุง” ฮวางโบถามเขาทันทีที่เขามาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเธอ

“ทำไมละฮะ...ทำไมคุณต้องตกใจด้วย? หรือคุณอยากให้เราสองคนต้องทำรูปโฟโต้ช็อปกันจริงๆ?” ฮยอนจุงถามเธอด้วยความหงุดหงิด เพราะเขานึกว่าเธอจะดีใจซะอีกที่เห็นเขามาที่นี่

“ฉันว่าแบบนั้นมันก็ดีสำหรับเราแล้วไม่ใช่หรือ?” เธอไม่วายที่จะพูดจาประชดประชันเขาอีกครั้ง เธอเมินหน้าหนีเขาและหันไปเห็นน้องๆ ของเขากำลังเดินมาที่ที่พวกเขาสองคนกำลังยืนอยู่พอดี “อ้าว...พวกเธอก็มาที่นี่ด้วยหรือจ๊ะ” ฮวางโบทักพวกเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน

“ก็ใช่นะสิฮะ เพราะพวกเราเองก็อยากถ่ายรูปร่วมกับพี่แล้วก็พี่สะใภ้บ้างนี่น่า ซักรูปนึงก็ยังดีฮะ” เบบี้พูดจาประจบเอาใจฮวางโบ

“ใช่ฮะ...เบบี้มันพูดถูกฮะ...เพราะหลังจากพี่ฮยอนจุงเขาแต่งงานแล้ว พวกเราเองก็ไม่แน่ใจว่าในบรรดาพวกเราเหลืออยู่เนี่ย...ใครกันที่จะมีโอกาสได้แต่งงานเป็นคนต่อไป...ฮ่าๆๆๆ...แต่ผมว่าที่แน่ๆ มันคงไม่ใช่เร็วๆ นี้อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นวันนี้พวกเราเลยอยากมาถ่ายรูปร่วมกับพวกพี่เพื่อเก็บเอาเป็นความทรงจำดีๆ ของพวกเราไงฮะ” คยูจงพูดเสริม

และเมื่อพวกเขาพูดคุยเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่พวกเขาต้องถ่ายภาพแต่งงาน และดูเหมือนว่าทุกอย่างในวันนั้นจะเป็นไปได้ด้วยดี บางที่นั่นอาจเป็นเพราะทั้งฮยอนจุงและฮวางโบต่างวางตัวได้ดีเมื่ออยู่ต่อหน้ากล้องและคนอื่นๆ พวกเขาแค่พยายามทำตามทุกอย่างที่ช่างภาพขอร้องเพื่อให้ภาพออกมาดีที่สุดเท่านั้น

“เอ่อ...ตอนนี้ ผมอยากให้คุณเจ้าบ่าวช่วยโน้มตัวลงไปจูบที่ริมฝีปากของคุณเจ้าสาวหน่อยได้ไหมครับ” ช่างภาพบอกความต้องการของเขาออกมา….แต่เมื่อเขาเห็นว่าทั้งฮยอนจุงและฮวางโบมีท่าทีลังเลและเกิดอาการประหม่า เขาก็พูดเสริมต่อไปว่า “เอ่อ...แค่แตะเบาๆ ที่ริมฝีปากของเธอเท่านั้นเองครับ ผมว่าภาพมันต้องออกมาสวยแน่ๆ”

“โทษฮะ....ปะกี้คุณว่าอะไรนะฮะ?” ฮยอนจุงถามช่างภาพซ้ำอีกครั้ง เพราะเมื่อกี้เขากำลังรู้สึกประหม่าจนแทบไม่ได้ยินอะไรที่ช่างภาพคนนั้นพูดเลย

แต่ผิดกลับน้องๆ ของเขา และทีมงานคนอื่นๆ ที่ได้ยินอย่างชัดเจน ต่างพากันส่งเสียงเชียร์และพยายามยุให้ฮยอนจุงทำตามที่ช่างภาพบอก “จูบเลย....จูบเลยฮะ...จูบเลย” น้องๆ เขาต่างพากันตะโกนออกมาพร้อมกัน

แล้วฮยอนจุงก็หันหน้ากลับไปมองที่ฮวางโบเพื่อดูว่าเธอจะมีท่าทีไม่พอใจหรือคัดค้านที่จะทำแบบนั้นบ้างรึเปล่า แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่แสดงอาการใดๆ ออกเลย เธอมีสีหน้าที่เรียบเฉยค่อนไปทางเย็นชาซะด้วยซ้ำขณะที่มองกลับมาที่เขา

“เธอเคยเข้าฉากจูบในละครมาแล้วนี่...งั้นตอนนี้ก็ถือซะว่านี้เป็นฉากหนึ่งในละครของเธอก็แล้วกัน ไม่ซิ...ความจริงตอนนี้เราก็กำลังแสดงละครกันอยู่แล้วนี่น่า เพราะฉะนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรแล้วล่ะ เร็วเข้าเถอะฮยอนจุง รีบทำมันให้เสร็จๆ ไปซะ” ฮวางโบกระซิบบอกเขาตอนที่เธอโน้มตัวเข้าไปหาเขานั่นเอง

สุดท้ายฮยอนจุงและฮวางโบก็ยอมทำตามใจช่างภาพและทุกๆ คน แต่มันต้องเสียเวลาถ่ายกันอยู่ถึง 4 เทคกว่าจะได้ภาพจูจุ๊บที่ออกมาสมบูรณ์แบบและถูกใจช่างภาพ

-------------------------------

ในที่สุด...นี่ก็เป็นคืนสุดท้ายก่อนวันแต่งงานของพวกเขา

ที่บ้านแม่ของฮวางโบ

ตอนนี้ฮวางโบกำลังซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนแม่ของเธอ “จริงๆ เลยนะ ลูกคนนี้ โตจนป่านนี้แล้วยังทำตัวเหมือนเด็กๆ อยู่ได้ ทำไมหนูถึงมาซุกตัวอยู่แม่แบบนี้ล่ะจ๊ะ?” แม่ของเธอถามเธอด้วยความเอ็นดู เพราะสำหรับแม่ของเธอแล้วเธอยังคงเป็นเด็กน้อยในสายตาของแม่ของเธออยู่ดี

“ขอหนูอยู่แบบนี้ซักพักเถอะคะ เพราะเวลาหนูได้ซุกตัวอยู่กับแม่แบบนี้มันทำให้หนูรู้สึกอบอุ่นใจและปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก จริงๆ นะคะ” ฮวางโบพูดจาออดอ้อน

“เฮจุง...หนูต้องมีความสุขให้มากๆ นะลูกหลังจากที่หนูแต่งงานไปแล้วนะ” แม่ของเธอพูดกับเธออย่างอ่อนโยน

“ค่ะแม่ หนูจะมีความสุขให้มากๆ” ฮวางโบตอบกลับแม่ของเธอพร้อมร้อยยิ้ม และพูดต่อไปในใจว่า <แต่...ถึงแม้ว่าวันข้างหน้าหนูอาจจะไม่มีความสุขเหมือนอย่างที่แม่ต้องการ...แต่แม่ก็ไม่ต้องห่วงนะค่ะ เพราะนี่คือทางที่หนูเลือกด้วยตัวของหนูเอง และหนูก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมันด้วยความกล้าหาญ>


“เฮจุง...ถึงแม้ว่าแม่จะไม่รู้ว่าลูกกับฮยอนจุงแอบไปคบกันหลังจบรายการนั้นตอนไหน และอะไรที่คือเหตุผลจริงๆ ที่ทำให้ลูกตัดสินใจแต่งงานกับเขากะทันหันแบบนี้ แต่เมื่อนี่เป็นการตัดสินใจของลูก...ของลูกสาวสุดที่รักของแม่ แม่ก็พร้อมจะยืนให้กำลังใจลูกอยู่ข้างหลังและมองดูลูกเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงบนเส้นทางที่ลูกได้เลือกเองนี้ และโปรดจำเอาไว้เสมอนะว่า...แม่และประตูบ้านหลังนี้พร้อมจะเปิดตอนรับลูกเสมอเมื่อลูกต้องการ” แม่ของเธอพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและแฝงไปด้วยความห่วงใยและจริงใจของผู้เป็นแม่ที่มีให้กับลูกสาวของเธอ

“ขอบคุณมากค่ะ...แม่...หนูจะจำเอาเสมอ” ฮวางโบพูดจบก็โผเข้ากอดแม่ของเธอทันทีพร้อมน้ำตาที่ไหลรินออกมาด้วยความซาบซึ้ง

และในคืนนั้น...ฮวางโบก็ไม่สามารถข่มตาหลับลงได้ เธอจึงลุกขึ้นเปิดลิ้นชักโต๊ะที่อยู่ข้างเตียงนอนของเธอและหยิบกล่องเล็กๆ กล่องหนึ่งที่ซ่อนอยู่ข้างในออกมาเปิดดู และข้างในกล่องๆ เล็กกล่องนั้นมันก็เต็มไปด้วยรูปของเธอที่ถ่ายคู่บอมซันนั่นเอง เธอหยิบรูปของใบหนึ่งของเขาขึ้นมาและพูดกับตัวเอง “บอมซัม...เธอทำร้ายความรู้สึกของฉันมามากพอแล้ว และหลังจากพรุ่งนี้เธอก็จะกลายเป็นแค่อดีตสำหรับฉัน...ตลอดไป”

-------------------------------



Create Date : 16 กรกฎาคม 2553
Last Update : 16 กรกฎาคม 2553 22:02:00 น. 1 comments
Counter : 493 Pageviews.

 
สะเทือนอารมณ์มากเลยค่ัะ อินไปด้วยเลย T_T


โดย: AE IP: 124.122.167.166 วันที่: 25 กรกฎาคม 2553 เวลา:23:52:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.