Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
23 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 

ตอนที่ 11 พาร์ท 2

***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย

ปล. เนื้อหาที่แปลอาจถูกปรับแต่งเพื่อความเหมาะสมและใส่อารมณ์ความรู้สึกของตัว ละครนั้นๆ ลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความบันเทิง หากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยด้วยนะค่ะ****



“ว้าววว~ เกือบไปแล้วนะฮะ” เขาหันมาพูดกับเธอหลังจากที่หนีจากเด็กผู้หญิงสองคนนั้นมาได้

“ฮ่าๆๆๆ...แต่นี่มันก็สนุกดีนะ...เอ่อ...แต่ฉันว่าเราน่าจะกลับกันได้แล้วล่ะ เพราะตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจกำลังจะวายเพราะความตื่นเต้นจะตายอยู่แล้ว” ฮวางโบพูดไปหัวเราะไปด้วยความตื่นเต้นหลังจากที่เจอกับเหตุการณ์นั้น

“เข้าใจแล้วฮะ...งั้นเราออกไปเรียกรถแท็กซี่กลับโรงแรมกันเถอะฮะ” ฮยอนจุงพูดกับเธอ ในขณะที่ยังจับมือเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย และพาเธอเดินขึ้นบันได้เลื่อนเพื่อออกจากสถานีรถไฟใต้ดิน และในตอนนั้นเอง...พวกเขาก็เริ่มรู้สึกตัว

“เอ่ออออ....ฮยอนจุง...มือเธอ...” ฮวางโบพูดขึ้นมาอย่างตะกุกตะกัก ในขณะที่ใบหน้าของเธอเริ่มแดงกล่ำจนร้อนผ่าวไปหมด ตอนที่เธอชูมือที่ยังจับกันแน่นอยู่กับเขาขึ้นมาให้เขาดู

“โอ๊ะ...ขอโทษฮะ...” เขาอุทานออกมาด้วยความตกใจ ก่อนที่จะค่อยๆ ปล่อยมือของเธอไปอย่างเสียดาย

และเมื่อพวกเขากลับมาถึงโรงแรม...ฮยอนจุงก็ยังเดินตามฮวางโบเข้าไปในห้องพักของเธอ

“มีอะไรอีกล่ะ? นี่เธอไม่ได้จองห้องพักในโรงแรมนี้เอาไว้หรือไง?” ฮวางโบถามเขาด้วยความสงสัย

“ก็มันแค่คืนเดียวเองนี่ฮะ และอีกอย่างพี่ผู้จัดการเขาก็เป็นห่วงว่าอาจจะมีคนสงสัยก็ได้ถ้าเรานอนแยกห้องกัน เขาก็เลยไม่ได้โทรจองห้องพักไว้ผมคืนนี้” ฮยอนจุงพยายามอธิบายกับเธออย่างใสซื่อ แต่แววตากลับซ่อนความเจ้าเล่ห์เอาไว้ไม่อยู่

“เฮ้อ...งั้นเธอก็นอนที่โซฟานี่ก็แล้วกัน...แต่...เอ่อ....” ฮวางโบพยายามพูดอะไรบางอย่างกับเขา แต่เธอก็พูดไม่ออก

“ทำไมฮะ...มีอะไรงั้นหรือ?” ฮยอนจุงถามเธอ เมื่อเห็นว่าเธอหยุดชะงักไป

“แต่...เอ่อ...ชุดนอนของฉัน...กับ...เธอที่อยู่ที่นี่...เฮ้อ~~...ฉันใส่ชุดนอนของฉันไม่ได้ถ้าเธออยู่ที่นี่นะสิ” ฮวางโบพูดตะกุกตะกักด้วยความเขินอาย แต่สุดท้ายเธอก็รวบรวมความกล้าทั้งหมดพูดมันออกมาต่อเขา

“หา...อะไรน่ะฮะ? โอ๊ะ..หรือว่า...คุณหมายถึง...คุณมีแต่ไอ้ชุดแบบนั้นใส่นอนหรือฮะ...โอ๊ย!~ ให้ตายซิ ไอ้ชุดแบบนั้น...ไอ้ชุดนอนซีทรูที่ผมเห็นเมื่อเช้านี้นั่นนะหรือฮะ?” เขาถามเธออย่างกลุ้มใจ และเริ่มรู้สึกว่าหัวใจของเขากำลังเต้นแรงเมื่อคิดถึงไอ้ชุดนอนนั้นที่เขาเห็นตอนที่เธอเปิดประตูออกมารับเขาเมื่อเช้านี้

ฮวางโบได้แต่ก้มหน้าและพยักหน้ารับเขาอย่างอายๆ

“นี่คุณ...เฮ้ออออ!!~...คุณห้ามใส่ไอ้ชุดพวกนั้นตอนที่เรากลับถึงบ้านเด็ดขาดเลยนะฮะ ว่าแต่...ทำไมคุณถึงได้เอาแต่ไอ้ชุดบ้านั้นมาใส่นอนที่นี่ล่ะฮะ? นี่คุณกำลังหวังจะใส่มันเพื่อรอให้ใครมาหา....ซึ่งผมไม่ควรจะรู้รึเปล่าฮะ?” ฮยอนจุงถามเธอเสียงดังอย่างหงุดหงิด และรู้สึกหึงขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงว่าเธออาจใส่ชุดพวกนี้ไว้รอใครบางคนที่ไม่ใช่เขา....

“แล้วฉันใส่ชุดนอนซีทรูแบบนั้นมันผิดตรงไหนล่ะ ก็ในเมื่อฉันใส่พวกมันนอนแล้วฉันรู้สึกสบายนี่ แล้วอีกอย่างเธอเคยเห็นใส่ชุดนอนพวกนี้ตอนฉันอยู่บ้างของเธอรึเปล่าล่ะ? แต่นี่...ที่ฉันใส่ชุดนอนแบบนั้นเพราะตอนนี้ฉันกำลังอยู่ที่ต่างประเทศ...อยู่ที่นี่ต่างหากล่ะ...ฉันก็แค่อยากผ่อนคลายเมื่ออยู่ในห้องของตัวเองบ้างก็เท่านั้น...” เธอพูดแก้ตัวกับเขาด้วยความเขินอาย

“เฮ้อ~ ผมไม่รู้จะจัดการกับคุณยังไงดีแล้ว...เอานี่ฮะ...ใส่เสื้อยืดกับบ็อกเซอร์ของผมไปก่อนแล้วกัน คุณจะได้ไม่ต้องนอนหนาวตายในชุด...เอ่อ...ชุดนอนซีทรูตัวจิ๋วนั้น เฮ้อ~~...ผมไม่เห็นว่ามันจะปกปิดอะไรได้เลยซักนิด...นี่คุณใส่มันเข้าไปได้ยังไงกัน...ผมอยากจะบ้าตาย..” ฮยอนจุงบ่นออกมาอย่างกลุ้มใจ

ฮวางโบเดินเข้ามาหยิบเสื้อและกางเกงของเขาที่เขาวางเอาไว้ให้ ก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันทีด้วยความเขินอายและไม่ยอมพูดต่อปากต่อคำกับเขาอีกเลย...

ส่วนฮยอนจุงที่รออยู่ที่โซฟาด้านนอก เมื่อได้ยินเสียงน้ำจากฝักบัวที่ดังมาจากข้างในห้องน้ำ เขาก็ถึงกับกลืนน้ำอย่างยากเย็นเมื่อคิดถึงว่าที่ข้างหลังประตูบานนั้น...มีภรรยาของเขากำลังเปลือยกายอาบน้ำอยู่ข้างใน

<อ๊ายยยยย...นายนี่มันเลวจริงๆ นายคิดแบบนั้นกับเธอได้ยังไง เธอไม่ใช่เมียของนายจริงๆ ซะหน่อย นายต้องเตือนตัวเองเอาไว้สิว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นแค่การแสดง...ตื่น...ตื่นได้แล้ว ออกจากความคิดชั่วร้ายนี้ได้แล้ว> ฮยอนจุงคิดกับตัวเอง ก่อนที่จะเอามือทั้งสองข้างตบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติ

และหลังจากที่ฮวางโบอาบน้ำเสร็จ เธอก็เดินออกจากห้องน้ำ และทันได้เห็นฮยอนจุงกำลังคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่และดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องซีเรียสมากซะด้วย

และหลังจากฮยอนจุงคุยธุระเสร็จและกดวางสาย เขาก็หันกลับมาและเห็นฮวางโบกำลังนั่งรอเขาอยู่ที่โซฟาโดยใส่เสื้อยืดกับกางเกงบ็อกเซอร์ของเขา และผมของเธอก็กำลังเปียกหมาดๆ...มันช่างดูเซ็กซี่เย้ายวนใจเขาอย่างบอกไม่ถูกซะจริงๆ

<อ้าาาา~ ทำไมเธอถึงดูมีเสน่ห์ดึงดูดใจแบบนี้นะ ทั้งๆ ที่เธอใส่แค่เสื้อยืดกับกางเกงบ็อกเซอร์ของฉันแบบนี้น่ะ?> ฮยอนจุงคิดกับตัวเองขณะที่มองสำรวจเสื้อผ้าและเรือนร่างของเธออย่างไม่วางตา แต่แล้วเขาก็ได้สติกลับมาและพูดกับเธอต่อ...

“พี่ผู้จัดการเขาเพิ่งโทรมาบอกผมว่า...ทางตำรวจได้ติดตามหาแหล่งที่มาของกล่องพัสดุนั่นได้แล้วนะฮะ มันถูกส่งมาจากเกาหลี นั่นจึงเป็นไปได้ว่าผู้ต้องสงสัยเองก็คงยังอยู่ในเกาหลีเช่นกัน แต่มันถูกส่งมาด้วยชื่อปลอม...พวกเขาก็เลยขอเวลาอีกซักพักเพื่อหาว่าใครกันแน่เป็นคนส่งพัสดุนั่นมาหาคุณ” เขาพูดกับเธอด้วยท่าทางเคร่งขรึม

“พวกเขาทำงานกันดี และมันก็เร็วมากเลยนะ” ฮวางโบพูดอย่างทึ่งๆ เมื่อเห็นว่าทางตำรวจสามารถสืบหาแหล่งที่มาของพัสดุนั่นได้อย่างรวดเร็ว

“ยังไงมันก็เป็นหน้าที่ของเขาอยู่แล้วนี่ฮะ...นี่คุณรู้เรื่องสิทธิพลเมืองเกาหลีบ้างรึเปล่าฮะเนี่ย แล้วก็...พรุ่งนี้ผมคงต้องบินกลับเกาหลีแล้วนะฮะ แล้วก็อีกอย่าง....พี่ผู้จัดการเขาบอกผมว่าเขาจะรีบส่งผู้ช่วยอีกคนมาช่วยคุณทันที เพราะตอนนี้คุณจำเป็นต้องมีผู้ช่วยเป็นผู้ชายซักคนเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง” เขาพูดกับเธอด้วยเสียงที่อ่อนโยนและแสดงออกถึงความเป็นห่วงได้อย่างชัดเจน

“ฉันไม่เป็นไรหรอก...ฮยอนจุง...เพราะตอนนี้เราก็รู้แล้วนี่ว่าผู้ต้องสงสัยอยู่ห่างไกลจากฉันมากแค่ไหน เธอไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกนะ” ฮวางโบพูดกับเขาเพื่อให้เขาสบายใจ หลังจากที่เห็นสีหน้าและแววตาของเขาที่กำลังเป็นกังวลอยู่ในขณะนี้

“เอ่อ...คุณอย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะฮะ ผมไม่ได้เป็นห่วงคุณซะหน่อย ผมแค่ไม่อยากรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต ถ้าหากว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ...เพราะผมเป็นต้นเหตุ...” เขารีบพูดแก้ตัวกับเธอทันที หลังจากที่รู้สึกว่าเธอเริ่มจับความรู้สึกของเขาได้ ว่าเขารู้สึกยังไงกับเธอ

“อืม...งั้นก็ดีแล้วล่ะ...ฉันเข้าใจความคิดของเธออย่างท่องแท้และชัดเจนแล้ว งั้นตอนนี้ฉันขอตัวไปนอนก่อนนะ” ฮวางโบพูดออกมาด้วยความน้อยใจทันที หลังจากที่รู้ว่าตัวเองมันโง่แค่ไหนที่หลงเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นห่วงเธอจริงๆ

เช้าวันต่อมา...หลังจากที่พวกเขาทานอาหารเช้าด้วยกันเรียบร้อยแล้ว ฮยอนจุงก็ต้องบินกลับเกาหลีทันที ทั้งๆ ความรู้สึกลึกๆ ในใจของเขา...เขายังไม่อยากจะกลับไปตอนนี้เลยจริงๆ เพราะเขายังรู้สึกเป็นห่วงเธอมาก...

<ไม่...ฉันไม่มีทางทิ้งเธอไว้ที่นี่คนเดียวแบบนี้แน่ๆ...ฉันจะต้องหาทางทำอะไรซักอย่างเพื่อพาเธอกลับเกาหลีให้เร็วที่สุด> ฮยอนจุงคิดกับตัวเองขณะที่เขาอยู่บนเครื่องบิน

และแล้ววันเวลาก็ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์...ฮวางโบยังคงทำงานของเธอต่อไปและก็ปลอดภัยดีอยู่ เพราะผู้ช่วยคนใหม่ของเธอ หรืออาจจะเรียกว่าบอดี้การ์ดคนใหม่ของเธอก็ว่าได้...เขาคอยดูแลความปลอดภัยให้เธออยู่ตลอดเวลาและไม่ยอมห่างจากเธอเลยแม้แต่ก้าวเดียว และนั่นมันก็ทำให้ฮยอนจุงรู้สึกสบายใจขึ้นและสามารถมีสมาธิมุ่งมั่นกับงานของตัวเองที่จะต้องทำได้มากขึ้นด้วย

ที่ห้องประชุมของบริษัท DSP

หลังจากที่พวกเขาเสร็จสิ้นการให้สัมภาษณ์การเปิดตัวอัลบั้มใหม่ของพวกเขาแล้ว ฮยอนจุงก็กำลังเก็บข้าวของของตัวเองอยู่ และตอนนั่นเองพี่ผู้จัดการของเขาก็ยื่นของบางอย่างให้เขา...

“นี่มันอะไรกันฮะ?” ฮยอนจุงถามด้วยความแปลกใจ

“ก็ใบเสร็จค่าดอกไม้ไงล่ะ” พี่ผู้จัดการของเขาตอบ

“หา...อะไรนะฮะ? ดอกไม้อะไรกันฮะ?” ฮยอนจุงถามผู้จัดการของตัวเองอย่างงงๆ

“ก็พรุ่งนี้มันเป็นวันเกิดของคุณฮวางโบนะสิ ฉันเลยจัดการสั่งดอกไม้ทางอินเทอร์เน็ตเพื่อส่งให้กับเธอแทนนายยังไงล่ะ เพราะฉะนั้นนายจะต้องจ่ายค่าดอกไม้คืนให้ฉันนะ เพราะฉันเรียกเก็บเงินนี่จากทางบริษัทไม่ได้” ผู้จัดการเขาตอบเขาหน้าตาย

“วันเกิดของเธอหรือฮะ? โอ๊ย...ให้ตายซิ ผมลืมเรื่องนี้ไปเลย” ฮยอนจุงพูดอย่างหัวเสียกับตัวเอง

“เฮ้ออออ...ฉันก็ไม่หวังอะไรจากคนอย่างนายอยู่แล้ว และนั่นล่ะมั่งที่สาเหตุว่าทำไมฉันถึงต้องคอยจัดการทุกอย่างให้กับนาย ฮยอนจุง...ถึงแม้ว่าฉันจะรู้ว่าเรื่องทั้งหมดนี้ดีว่ามันเป็นแค่เรื่องโกหก และฉันก็ไม่คิดว่าคุณฮวางโบจะมีความสุขมากนักหรอกหลังจากที่แต่งงานกับนายแล้ว แต่ฉันก็อยากจะขอร้องให้นายพยายามรักษาน้ำใจของเธอหน่อย เพราะยังไงมันตั้ง 2 ปี และยังไงผู้หญิงก็ยังขึ้นชื่อว่าเป็นฝ่ายเสียเปรียบและเสียหายอยู่ดีหลังจาก 2 ปีที่เธอหย่ากับนายแล้วอ่ะนะ” ผู้จัดการของเขาพูดกับเขาอย่างปลงๆ

“ฮะ....ผมรู้แล้วฮะว่าผมจะต้องทำตัวยังไง...พี่ไม่ต้องห่วงหรอกฮะ” ฮยอนจุงรับปากพี่ชายของเขาอย่างเต็มใจและจริงจังเป็นที่สุด และหลังจากนั้นเขาก็หยิบมือถือของเขาขึ้นมาและกะว่าจะโทรหาเธอซะหน่อย แต่แล้วกลับมีสายเข้า...เข้ามาขัดจังหวะซะก่อน....

ในขณะที่ทางฮ่องกง

ทีมงานและผู้บริหารของบริษัทเครื่องสำอางค์ที่เธอไปฝึกอบรมได้จัดงานเซอร์ไพรส์วันเกิดเล็กๆ ให้กับฮวางโบ โดยที่เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าพวกเขาจะให้ความสำคัญและใส่ใจกับวันเกิดของเธอมากขนาดนี้ เพราะเธอไม่เคยมีฉลองวันเกิดดีๆ แบบนี้มานานแล้วตั้งแต่ที่บอมซันทิ้งเธอไป

<ฮยอนจุงจะจำวันเกิดของฉันได้รึเปล่านะ? แล้วเขาจะส่งข้อความมาให้ฉันเหมือนตอนที่เราถ่ายรายการ WGM ด้วยกันรึเปล่า> ฮวางโบคิดกับตัวเองในใจอย่างตื่นเต้นและมีความสุขเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น

และทุกครั้งหัวใจของฮวางโบก็จะเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น เมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าหรือเสียงข้อความดังมาจากมือถือของเธอ แต่ปรากฏว่าทุกสายกลับเป็นเสียงเรียกเข้าหรือข้อความ ไม่จากแม่ของเธอ ก็เพื่อนสนิท หรือไม่ก็เพื่อนร่วมงานของเธอเท่านั้น แต่มันไม่ใช่เสียงเรียกเข้าหรือข้อความจากฮยอนจุง...คนที่เธอกำลังรออยู่เลย เธอนั่งรอการติดต่อจากเขาจนเกือบจะตี 2 ของวันรุ่งขึ้นอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังไม่ยอมโทรหรือส่งข้อความมาหาเธอเลย แต่แล้วในเวลานั่นเอง...เธอก็ได้ยินเสียงตอบรับข้อความดังขึ้นจากมือถือของเธอ เธอรีบคว้าโทรศัพท์และกดดูข้อความอย่างรวดเร็ว...

“หวัดดี...ฮวางโบฉันไม่กล้าติดต่อเธอเลยหลังจากที่เกิดเรื่องคืนนั้นแล้ว แต่เพราะวันนี้มันเป็นวันเกิดของเธอ ฉัน...ไม่ได้ขอให้เธอยกโทษให้ฉันหรอกนะ...แต่...อย่างน้อยฉันก็อยากอวยพรให้เธอมีความสุขในวันเกิดของเธอ มีความสุขมากๆ นะ
จาก...บอมซัน”

ฮวางโบอ่านจบก็รีบลบความข้อความนั้นทิ้งทันที ตอนนี้...เธอรู้แล้วว่าบอมซัมไม่สามารถทำให้หัวใจของเธอหวั่นไหวได้อีกต่อไป แต่....เป็นฮยอนจุงต่างหากที่ทำให้หัวใจของเธอหวั่นไหวได้ทุกครั้งที่เจอหน้า และตอนนี้เธอก็กำลังรู้สึกหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูกเมื่อไม่รับข้อความหรือการติดต่อจากเขาในวันเกิดของเธอเลย...

<ลืมมันซะเถอะ...เฮจุง...เธอไม่ได้มีความหมายอะไรกับเขาซักหน่อย จำใส่ใจตัวเองเอาไว้สิว่า...อย่าได้ไปคาดหวังอะไรจากคนอย่างเขา...> ฮวางโบคิดกับตัวด้วยความน้อยใจ และเสียใจอย่างบอกไม่ถูกที่เขาไม่เคยใส่ใจเธอเลย แม้แต่ในวันเกิดของเธอเอง และเมื่อเธอคิดมาถึงตรงนี้...น้ำตาของเธอก็ผลาญจะไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้

เช้าวันต่อมา เธอตื่นขึ้นและเดินไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาตามปกติ เธอส่องกระจกและเริ่มพูดกับเงาสะท้อนของตัวเอง...

“เฮจุง....สุขสันต์วันเกิด...ขอให้วันนี้เธอมีความสุขมากๆ นะ” ฮวางโบพูดและยิ้มกับตัวเองในกระจก แต่แววตากลับแฝงไปด้วยความเศร้าสร้อยจากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน

หลังจากนั้นเธอก็เดินไปชงกาแฟ และเปิดโน้ตบุ๊คเพื่อเช็คอีเมลของเธอ และภายในกล่องจดหมายก็เต็มไปด้วยการ์ดและข้อความอวยพรวันเกิดสำหรับเธอ เธออ่านพวกมันทั้งหมดทีละข้อความอย่างตั้งใจ จนในที่สุดเธอก็ไปสะดุดตากับข้อความหนึ่งที่ไม่ได้ระบุชื่อผู้ส่ง และเมื่อเธอเปิดดูเธอก็พบข้อความพร้อมไฟล์วิดีโอแนบที่มากับจดหมายนั่นด้วย ข้อความข้างในมันเขียนว่า....

“สุขสันต์วันเกิด ฉันพนันได้เลยว่าเธอจะต้องจดจำของขวัญชิ้นนี้ไปอีกนานแสนนาน”

เมื่อเธออ่านข้อความนั่นจบแล้วเธอก็เปิดไฟล์วิดีโอที่แนบมากับข้อความนั่นทันที และก็พบว่าในไฟล์วิดีโออันนั้นเป็นไฟล์ข่าวเช้าของเกาหลีที่ถูกตัดออกมาบางช่วงบางตอน โดยที่ฉากที่ถูกตัดออกมาให้เธอดูนั่นเป็นรายงานข่าวเกี่ยวกับ....

“เช้าวันนี้เวลาตี 1 เศษมีคนพบเห็นหัวหน้าวง SS501 คิมฮยอนจุง เดินออกจากอพาร์ทเมนท์ของตัวเองพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง...ที่มีการยืนยันว่า ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่คุณฮวางโบภรรยาของเขา เพราะจากข้อมูลที่ได้รับมาเราพบว่า ตอนนี้คุณฮวางโบกำลังไปฝึกอบรมการแต่งหน้ากับทางบริษัทเครื่องสำอางค์ยี่ห้อหนึ่งอยู่ที่ฮ่องกง” นักข่าวรายงานข่าวที่เกิดขึ้นกับเขา

และนอกจากนี้ในรายงานข่าวยังได้มีการโชว์คลิปวิดีโอที่มีคนแอบถ่ายภาพฮยอนจุงกำลังเดินออกมาจากอพาร์ทเมนท์ของเขาพร้อมกับผู้หญิงคนนั้น แต่ก็เห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นได้ไม่ชัดนักเพราะตอนนั้นเธอกำลังยืนหันหลังให้กับกล้องอยู่ และเมื่อแสดงคลิปนั่นจบลง นักข่าวก็กล่าวเสริมอีกว่า

“และจนนถึงตอนนี้ทางบริษัท DSP ต้นสังกัดของเขายังคงปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ แต่ทางเราจะติดตามความคืบหน้าแล้วมารายงานให้ท่านผู้ชมได้รับทราบกันต่อไปครับ” นักข่าวในรายงานนั่นพูด

หลังจากนั้นเธอก็ค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อ และเห็นว่าภายในเว็บไซด์ต่างๆ ต่างก็พูดถึงเรื่องนี้กันเป็นจำนวนมาก และบางเว็บไซด์ถึงกับพาดหัวข้อข่าวว่า....

“คิมฮยอนจุงถูกจับได้ว่านอกใจภรรยาของตัวเองตอนเธอไม่อยู่”

และในเวลานั้นเองโทรศัพท์ในห้องพักของเธอก็ดังขึ้น และมันเป็นสายจากพนักงานของโรงแรมที่โทรมาขออนุญาตเธอเพื่อขึ้นไปส่งของบางอย่างให้กับเธอที่ห้องพัก....

หลังจากนั้นไม่นานเสียงกริ่งที่หน้าประตูห้องพักของเธอก็ดังขึ้น และพนักงานก็ยื่นช่อดอกไม้จากฮยอนจุงส่งให้กับเธอ เธอเซ็นชื่อรับมันลงในใบเสร็จ และก็ปิดประตูห้องพักของเธอทันที หลังจากนั้นก็โยนช่อดอกไม้นั้นทิ้งลงในถังขยะโดยไม่ใส่ใจหรือคิดจะดูมันก่อนเลยซักนิด....

--------------------------------------------------------

โปรดติดตามตอนต่อไป (ตอนที่ 12 พาร์ท 1)

ตัวอย่างบางช่วงบางตอน
“พี่ว่าอะไรน่ะฮะ? นี่มันบ้าที่สุด...พวกเขามีสิทธิอะไรมาบอกให้พวกเราสองคนหย่ากันแบบนี้?”
“ฮยอนจุง...ฉันอยากฟังความจริงจากปากของนาย”
“พี่ฮยอนจุง.....”
“ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรโทรมาหาพี่ แต่...ฉันอยากพูดเรื่องนี้กับใครซักคน..ฉันก็เลย...”
“ใจเย็นๆ ก่อนนะ...ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? เดี๋ยวฉันจะไปหาเธอเดี๋ยวแหละ...”
“ฮัลโหล...หวัดดีฮะ”
“เอ่อ...ทุกอย่างที่นู้นเรียบร้อยดีไหมฮะ”
“จ๊ะ...แล้วก็ขอบคุณนะสำหรับดอกไม้ช่อนั้น มันสวยมากเลย”
“ฮยอนจุง...เธอต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยนะ และอย่าทำให้เฮจุงต้องผิดหวังหรือเสียใจเป็นอันขาด เธอเข้าใจที่ฉันพูดนะ”
“ได้..ถ้าเธอพูดอย่างนั้น...แม่ก็จะเชื่อใจเธอนะ”




 

Create Date : 23 กรกฎาคม 2553
2 comments
Last Update : 23 กรกฎาคม 2553 21:34:31 น.
Counter : 604 Pageviews.

 

เรื่องเริ่มดราม่าขึ้นทุกทีแล้ว น่าติดตามจริงๆ ขอบคุณคุณแป๋วและยายนาจาด้วยความซาบซึ้งงงง สู้ๆๆ

 

โดย: มินมิน IP: 125.25.52.78 23 กรกฎาคม 2553 23:26:55 น.  

 

อ้า เรื่องตรงกับวันเกิดป้าเลย ขอบคุณค่ะ คุณแป๋ว ที่แปลเรื่องสนุกๆ ให้อ่าน ได้ลุ้น รักษาสุขภาพนะคะ

 

โดย: ป้ารดา IP: 124.122.203.109 27 กรกฎาคม 2553 3:02:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.