รวมเรื่องสั้นสะกดใจของ มูราคามิ
เส้นแสงที่สูญหาย เราร้องไห้เงียบงัน Firefly , Barn Burning and other stories และ คำสาปร้านเบเกอรี The Second Bakery Attack . ผลงานลำดับถัดมาของ สนพ.กำมะหยี่ มีคุณดวงฤทัย (สาวก มูราคามิ ตัวจริง) เป็นแม่งานและบรรณาธิการ. . . . ผม สถาปนาตัวเองเป็นสาวก เฮียมู มาเนิ่นนาน ผลงานของเค้าที่แปลเป็นไทยล้วนแล้วแต่ผ่านสายตาของ ผม ทั้งสิ้น บ้างรอบเดียวบ้างสอง แต่ผลงานของ เฮียมู ประเภทเดียวที่ยังไม่เคยพา ผม ไปถึงจุดที่ผลงานอื่นๆของเค้าทำมาตลอด นั่นคือ รวมเรื่องสั้น ไม่ว่าจะเป็น อาฟเตอร์เดอะเควก หรือ เรือเชื่องช้าสู่เมืองจีน ก็ยังไม่สามารถไปยืนในจุดที่เพื่อนๆของมันยืนอยู่ได้เลย . จนวันนึง โปรเจค แฟนมูราคามิรวมหัว ของสนพ.กำมะหยี่ก็เกิดขึ้น โดยมีพี่แป๊ด ดวงฤทัย เอสะนาชาตัง เป็นแม่งานและบรรณาธิการของโปรเจค ไตรภาครวมเรื่องสั้นครั้งนี้ เพราะมีสามชุดนั่นเอง เล่มแรกของโปรเจค "เส้นแสงที่สูญหาย เราร้องไห้เงียบงัน Firefly , Barn Burning and other stories "(แค่ชื่อ+หน้าปกก็เริ่มสร้างความประทับใจ) คลอดจากโรงพิมพ์เมื่อช่วงเดือนมีนา 52 ผม เป็นเจ้าของทันที แต่ไม่ได้คาดหวังอะไรไว้มากนัก เพราะว่ามันเป็น รวมเรื่เรื่องสั้น นั่นเอง แต่ด้วยศักดิ์ศรีสาวกเฮียมู จะมาพลาดกันง่ายๆอย่างนี้ได้ยังไง . แต่ผิดคาด หนังสือรวมเรื่องสั้นเล่มนี้ ก้าวไปยืนทักทายเพื่อนๆเล่มอื่นของ มูราคามิ ทันทีที่หน้าสุดท้ายถูกปิดลง ผม เกิดความประทับใจ อิ่มเอม และเพิ่มความคิดถึงงานชิ้นต่อไปของเฮียมูทันที แค่เรื่องสั้นเรื่องแรกที่ชื่อเดียวกับชื่อหนังสือ ก็สะกด ผม ซะจนอยู่หมัด เนื่องด้วยเรื่องสั้นเรื่องนี้ เป็นต้นเรื่องหนังสือที่อยู่ยอดสุดของบรรดาผลงาน มูราคามิ นั่นคือ norwegian wood ด้วยรัก ความตายและหัวใจสลาย นี่นี้เอง ซึ่งคล้ายๆเป็นการเกริ่นนำ หรือ ปูทางถึงเรื่องราวในฉบับสมบูรณ์ ก็ชนะใจ ผม ได้ไม่ยากเลย และยังมีอีกเรื่องที่ประทับใจคือ มือเพลิง Barn Burning ซึ่งเป็นเรื่องราวของมือเพลิงที่ชอบเผาโรงนา เฮียมู เขียนเรื่องราวได้แปลกประหลาด และชวนติดตามอย่างยิ่ง อีกเรื่องที่ประทับใจคือ คนแคระนักเต้น The Dancing Dwarf ก็ยังเป็นเรื่องราวที่น่าติดตาม ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงเรื่องสั้น แต่ก็พาให้ ผม คิดว่าน่าจะมีเรืองราวที่เป็นฉบับสมบูรณ์ได้ทุกเรื่อง . . เล่มถัดมา ได้มาจากงานหนังสือ(วันแรก)ตุลา ปีก่อน "คำสาปร้านเบเกอรี The Second Bakery Attack " เล่มนี้ ก็ยังทำให้ ผม ประทับใจเหมือนเดิม ไม่แพ้เล่มแรกเลย อีกทั้งเมื่ออ่านเล่มแรกจบ ก็ตั้งตารอเล่มสองอย่างใจจดใจจ่อ และก็ไม่ผิดหวังเลย ในเล่มนี้ ผม ชอบเรื่องที่ชื่อเดียวกับหนังสือเล่มนี้ ผม คิดว่ามันได้ให้บรรยากาศเดียวกับตอนอ่าน มือเพลิง ในเล่มที่แล้ว ได้ความรู้สึกคล้ายๆกัน อีกเรื่องที่ชอบเป็นพิเศษคือเรื่อง " ช้างหาย The Elephant Vanishes " ผม ว่าบรรยากาศในเรื่องนี้ใกล้เคียงกับบรรยากาศส่วนใหญ่ ที่ มูราคามิ มักจะเสกขึ้นมาในหนังสือของเค้าอยู่บ่อยๆ และบรรยากาศตอนที่ "ผม" คุยกับ "เธอ" มันเป็นอารมณ์ที่ ผม และคนอื่นๆที่ชอบอ่านงานของเค้ามักจะพบเจออยู่บ่อย เรื่องสุดท้ายที่ประทับใจมาก และก็เป็นเรื่องสุดท้ายในเล่มด้วย "ตำนานนกไขลาน The Wind-Up Bird and Tuesday's Women " เรื่องนี้แปลโดยนักเขียนในดวงใจอีกคนของ ฉายา มูราคามิ เมืองไทย อนุสรณ์ ติปยานนท์ เรืองจบนี้เป็นเรื่องราวของต้นกำเนิด บันทึกนกไขลาน วรรณกรรมชิ้นโตเล่มหนาแต่สร้างความประทับใจมาแล้วทั่วโลก อ่านจบแล้วอยากย้อนกลับไปอ่านเจ้าเล่มโตนั่นอีกครั้ง หากเวลาและวารีจะเป็นใจ . . หลังจากอ่านเล่มสองจบ ซึ่งใช้เวลาเบ็ดเสร็จไม่ถึงวัน ถ้าไม่ติดที่ว่ารอมานาน ก็คงจะอ่านให้จบซะในงานหนังสือ แต่ก็ยังเสียดายอยู่อยากอ่านนานนานสักหน่อย พอจบก็ถามหาเล่มสุดท้าย ปิดไตรภาค รวมเรื่องสั้นชุดนี้ทันที ได้ความมาแล้วว่าเป็น "ปีศาจแห่งเล็กซิงตัน" ได้ข่าวแว่วมาว่า เล่มนี้แม่งานลงมือแปลเองด้วยหนึ่งเล่ม และตอนนี้หน้าปกอัพเดทกำลังถูกส่งไปให้ เฮียมู อนุญาตอยู่ อัพเดทมาจากทวิตเตอร์ของกำมะหยี่เอง . . หนังสือรวมเรื่องสั้นคราวนี้ สะกด ผม สะกดใจ ผม อยู่หมัด อยากให้สาวก เฮียมู คนไหนที่เคยรู้สึกแบบ ผม ให้รีบหามาอ่านเถอะนะ อยากให้โดน สะกดใจ เหมือนเหมือนกันครับ.
Create Date : 21 มกราคม 2553 |
|
10 comments |
Last Update : 21 มกราคม 2553 2:13:15 น. |
Counter : 2191 Pageviews. |
|
|
|