"ม.5 เกรดตก" เผาโรงเรียน
มหิดลวิทยานุสรณ์ เสียหายกว่า100 ล. ม.5 เครียดอยากหยุดเรียน วางเพลิงเผาโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ วอด 100 ล้าน แอบซื้อน้ำมันเบนซินกับไฟแช๊ก แล้วซ่อนตัวในห้องเรียนคอมพ์กลางดึก ก่อนจะวางเพลิงเผาห้อง จนลุกลามวอดวายเกือบทั้งอาคาร เจ้าหน้าที่เห็นปีนรั้วออกมา ประสานครูตามหิ้วตัวสอบ รับสารภาพเครียดเกรดตก-คิดถึงบ้าน อยากกลับไปพักใจ ครวญไม่ได้ตั้งใจให้ไฟไหม้ใหญ่โตขนาดนี้ ชินวรณ์ ขนคณะลุยตรวจสอบ สั่งปิดโรงเรียน 7 วัน เตรียมความพร้อม ให้นักเรียนหายตกใจและได้กลับไปเยี่ยมบ้าน ส่วนที่อุบลฯ ไฟไหม้โรงเรียนประถม ตร.กั๊กวางเพลิงหรือไฟช็อต เมื่อเวลา 03.20 น. วันที่ 6 มิ.ย. พ.ต.ท.เชษฐ์ สังข์ศรีแก้ว สวส.สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ หมู่ 2 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จึงรายงานผู้บังคับบัญชา รุดไปตรวจสอบ พ.ต.อ.สุรพจน์ พิสุทธิวงส์ ผกก. นายปริญญา โพธิสัตย์ นายอำเภอ พุทธมณฑล พร้อมรถดับเพลิงกว่า 20 คัน ที่เกิดเหตุเป็นอาคารมหิดลวิทยานุสรณ์ 2 ซึ่งเป็นอาคารขนาดใหญ่สูง 7 ชั้น กว้างขนาดตึกแถว 8 คูหา และลึกถึง 40 เมตร เจ้าหน้าที่พบเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง บริเวณชั้นที่ 1 ซึ่งเป็นห้องสมุด และลุกลามขึ้นไปชั้นที่ 2 ซึ่งเป็นห้องคอมพิว เตอร์ กับชั้นที่ 3 ซึ่งเป็นห้องเรียนและห้องประชุม โดยมีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาไม่ขาดสาย เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงจากด้านหน้าอาคาร และขึ้นรถกระเช้าไปฉีดน้ำด้านบน เพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังชั้นอื่น ๆ และ อาคารข้างเคียง แต่เปลวเพลิงยังโหมลุกไหม้สู้กับกระแสน้ำจากสายดับเพลิง สุดท้ายต้อง ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิง ไว้ได้ในวงจำกัด แต่ยังมีเปลวเพลิงคุกรุ่นอยู่ เจ้าหน้าที่จึงต้องฉีดน้ำเลี้ยงไว้อีกประมาณ 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดอาคารดังกล่าว เพราะเป็นเขตพื้นที่อันตราย เกรงว่าพื้นอาคารที่ถูกไฟเผาลนนานหลายชั่วโมงจะพังถล่มลงมา สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ในอาคาร มีเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลตรวจตราอยู่โดยรอบ และเห็นกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากอาคาร พร้อมมีเปลวเพลิงลุกไหม้ จึงรีบแจ้งตำรวจและหน่วยดับเพลิง อย่างไรก็ดี ขณะควบคุมเพลิง เจ้าหน้าที่พบนายต่าย (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี นร.ชั้น ม.5 โรงเรียนดังกล่าว ปีนรั้วโรงเรียนออกมา ท่าทางมีพิรุธโดยเฉพาะที่ผมบนศีรษะมีร่องรอยถูกไฟไหม้ จึงประสานครูให้นำตัวมาสอบสวนที่โรงพัก หลัง พ.ต.อ.สุรพจน์ สอบสวนอยู่นาน นายต่ายก็รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือวางเพลิงเอง โดยวางแผนไปซื้อน้ำมันเบนซิน 1 ลิตร ใส่ขวดน้ำ และซื้อไฟแช็ก 1 อัน จากร้านค้าหน้าโรงเรียน จากนั้นคืนเกิดเหตุวันที่ 5 มิ.ย. อาศัยจังหวะเข้าไปแอบซ่อนตัวอยู่ในอาคารชั้น 2 พอเวลา ประมาณ 02.50 น. จึงราดน้ำมันที่ห้องคอมพิวเตอร์และจุดไฟเผา ก่อนจะหนีไปซ่อนตัวในห้องน้ำโรงอาหาร ซึ่งเป็นอาคารที่อยู่ติดกัน สาเหตุที่วางเพลิงก็เพราะเครียดเรื่องผลการเรียนตกต่ำได้เกรดน้อยลง เข้ากับเพื่อนไม่ได้ และรู้สึกคิดถึงบ้านเกิดที่ต่างจังหวัด จึงอยากให้โรงเรียนหยุดเรียน 1 สัปดาห์ เพื่อกลับไปหาครอบครัวและพักใจที่บ้าน จึงคิดแผนวางเพลิงขึ้น แต่ไม่ได้ตั้งใจจะให้ไฟไหม้รุนแรงใหญ่โตขนาดนี้ แค่อยากให้ไฟไหม้เล็กน้อยจนทางโรงเรียนต้องประกาศหยุดเรียนชั่วคราวเท่านั้น ต่อมาเวลา 12.00 น. นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ประชุมรับทราบปัญหาและสาเหตุที่เกิดขึ้นกับผู้เกี่ยวข้อง โดยนายชินวรณ์แสดงความห่วงใยกับเรื่องที่เกิดขึ้น และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ไปดำเนินตามหน้าที่ ทั้งเรื่อง คดี และเรื่องการตรวจสอบสภาพอาคารว่าปลอดภัยหรือไม่ พร้อมเน้นย้ำให้ระมัดระวังเรื่องการให้ข่าว อย่างไรก็ดี ได้มีคำสั่งให้หยุดเรียนเป็นเวลา 7 วัน เพื่อให้ทางโรง เรียนเตรียมความพร้อมต่าง ๆ รวมทั้งให้ นักเรียนหายตกใจ และได้กลับไปอยู่กับผู้ปกครองที่บ้าน โดยทางโรงเรียนจะได้ประเมิน ความเสียหาย และจะขออนุมัติงบประมาณสำรองจ่ายเป็นกรณีพิเศษให้ทางโรงเรียนเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป แต่ในชั้นนี้ไม่อยากให้ทุกฝ่ายสรุปว่าสาเหตุเกิดจากความเครียดของเด็ก คงต้องให้กระบวนการตรวจสอบได้ข้อสรุปที่ ชัดเจนก่อน จากนั้นจะหาทางแก้ไขปรับปรุง กันในระยะยาว สำหรับความเสียหายที่ประเมินไว้ น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ประกอบ ด้วยห้องสมุดขนาดใหญ่ที่มีความสมบูรณ์แบบ อาจจะเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ และมีหนังสือมากกว่า 80,000 เล่ม ห้องคอมพิวเตอร์ที่มีคอมพิวเตอร์ใช้สืบค้นข้อมูลกว่า 100 ตัว ยังไม่รวมคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กอีกจำนวนมากที่ไว้ให้นักเรียนใช้ยืมเรียน และห้องเรียนวิชาคณิตศาสตร์กับห้องประชุมชั้น 3 ซึ่งมีเครื่องฉายภาพทางวิทยาศาสตร์ ส่วนอาคารด้านหลังที่ต่อเพิ่มขึ้นมาเป็นหอสำหรับฉายภาพยนตร์เพื่อการเรียนการสอน รองรับผู้เข้าชมได้มากกว่า 200 คน ส่วน ชั้น 4 ก็ถูกไฟไหม้เสียหายไปบางส่วน ส่วนที่ จ.อุบลราชธานี เมื่อเวลา 05.00 น. วันเดียวกัน เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนก่อวิทยาคาร (โรงเรียนบ้านก่อ) ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับชั้นประถมศึกษา ต.แสนสุข อ.วารินชำราบ พล.ต.ต.เสริมสุข วีระวงศ์ รักษาการ ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี พร้อมรถดับเพลิงจากเทศบาลวารินชำราบ 5 คัน ไปตรวจสอบ พบเพลิงกำลังลุกไหม้ อาคารเรียนครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งฉีดน้ำดับไฟ แต่เพราะลมกระโชกแรง ประกอบกับรถดับเพลิงบางคันไม่สมบูรณ์ เพลิงจึงลุกลามอย่างรวดเร็ว ต้องฉีดน้ำดับนานเกือบ 1 ชั่วโมง เพลิงสงบ แต่เผาผลาญอาคารเรียนวอดทั้งหลัง สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าอาคารนี้อายุกว่า 67 ปี มีห้องเรียน 3 ห้อง กับห้องผู้บริหาร ห้องประชุม และห้องธุรการ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือถูกลอบวางเพลิง เพราะมีพยานเห็นรถปิกอัพต้องสงสัยแล่นออกจากที่เกิดเหตุช่วงเกิดเพลิงไหม้. ข้อมูลจากเดลินิวส์
Create Date : 08 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 8 มิถุนายน 2553 8:00:30 น. |
|
6 comments
|
Counter : 2024 Pageviews. |
|
|