แกะรอยทีมฆ่าแม่แอร์ 'กิมจิ'ร.ต.ท.-ด.ต.พัวพัน
คมชัดลึก : ถึงแม้ว่าตำรวจอุดรธานีจะสามารถจับกุม "เยาวลักษณ์ โฆษิต" หัวหน้าคนครัว รพ.ศูนย์อุดรธานี วัย 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 529 หมู่ 2 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ในข้อหาจ้างวานฆ่า "กุหลาบ อินทร์ศรี" วัย 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 464/277 แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ภรรยาที่สามของสามีได้แล้วก็ตาม แต่ตำรวจอุดรธานียังคงตามติดเบาะแสผู้เกี่ยวข้อง โดยในชั้นนี้ได้ข้อมูลมาว่ามีตำรวจระดับ "ร.ต.ท." กับ "ด.ต." เข้ามาพัวพันด้วย !?! กุหลาบเป็นแม่ของ "กุสุมา อินทร์ศรี" วัย 25 ปี แอร์โฮสเตสสายการบินเกาหลีแอร์ไลน์ ทุกๆ วันสองแม่ลูกจะต้องโทรศัพท์พูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบกันอยู่เสมอ แต่แล้ว 17 พฤศจิกายน 2552 กุหลาบก็เงียบหายไปจนผิดสังเกต กุสุมาจึงเดินทางไปหาที่บ้าน ด.ต.สุรชัย ศรีศิริสุขะ อายุ 48 ปี ผบ.หมู่ ป.สภ.บ้านเทื่อม อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี พบคราบเลือดและทรัพย์สินของมารดาจำนวนหนึ่ง ด้วยความเป็นห่วงเกรงว่าจะได้รับอันตรายจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านเทื่อม เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ปีเดียวกันสาเหตุที่หวั่นเกรงเช่นนั้นก็เนื่องมาจาก ด.ต.สุรชัยมีภรรยาอยู่แล้ว คือ เยาวลักษณ์ ขณะเดียวกันก็ยังคบหากับกุหลาบในฐานะภรรยาอีกคน ความสัมพันธ์สองหญิงหนึ่งชายจึงไม่ค่อยราบรื่นนัก เยาวลักษณ์กับกุหลาบมักมีปากเสียงกันเป็นประจำ เวลาผ่านไปกุสุมาพยายามติดต่อสอบถามความคืบหน้าเรื่องคดีความ แต่ได้รับคำตอบจากผู้เกี่ยวข้องว่ากำลังรอผลการตรวจดีเอ็นเอคราบเลือดว่า เป็นของมนุษย์หรือสัตว์ หากเป็นคราบเลือดมนุษย์เป็นเลือดของใคร ? กุสุมาเริ่มไม่มั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรม เธอจึงเข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก พ.ต.อ.สนั่น ชวาลธรรม รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ช่วงปลายเดือนธันวาคม 2552 ก่อนจะรายงานให้ พล.ต.ต.เดชา ชวยบุญชุม ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ทราบพร้อมประสาน พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ ผกก.สส.บก.สส.ภ.4 พ.ต.ท.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.4 และ ชุดเฉพาะกิจเข้าร่วมคลี่คลายคดี ชุดสืบสวนตั้งข้อสมมติฐานเบื้องต้นว่า กุหลาบพักอาศัยอยู่กับ ด.ต.สุรชัย ซึ่งมีบ้านพักอยู่ในละแวก สภ.บ้านเทื่อม คนร้ายที่ไหนจะกล้าลงมืออย่างท้าทายกฎหมาย ?!! ขณะเดียวกันก็ออกหาข้อมูลเกี่ยวกับกุหลาบจนทราบว่า เดิมทีกุหลาบเป็นคนอุดรธานี แต่ไปทำมาหากินอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่งงานมีสามีและบุตรสาว กระทั่งหลายปีก่อนได้เลิกรากับสามีเก่า แล้วมาคบหากับ ด.ต.สุรชัย อย่างไรก็ดีเมื่อครั้งเลิกกันแรกๆ สามีเก่ายังตามมาหากุหลาบ จนเป็นเรื่องราวถึงขึ้นโรงพัก แต่ชุดสืบสวนได้ตัดประเด็นนี้ทิ้งไป เพราะเรื่องเกิดขึ้นมานานแล้ว เหลือเพียงปัญหารักสามเส้า ระหว่างเยาวลักษณ์กับกุหลาบเท่านั้น จากการสืบสวนทำให้ทราบว่าระยะหลังมานี้ กุหลาบพยายามอ้างสิทธิและแสดงเอกสารทำนองว่าเป็นใบสมรส ยิ่งทำให้เยาวลักษณ์เกิดความไม่พอใจอย่างรุนแรง ถึงกับมีปากเสียงและขู่อาฆาตกันไว้ ดังนั้น วันที่ 7 มกราคม 2553 เมื่อได้หลักฐานมามากพอ ชุดสืบสวนจึงเชิญเยาวลักษณ์มาสอบปากคำ ไม่นานก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนจ้างวานฆ่ากุหลาบ เพราะโกรธแค้นที่มาแย่งสามี โดยก่อนหน้านี้เคยมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง เมื่อสอบถามสามีว่าจะเลือกอยู่กับใคร แล้วได้รับคำตอบว่าจะอยู่กับกุหลาบ ยิ่งทวีความโกรธแค้นมากขึ้น เนื่องจากกุหลาบหน้าตาดีกว่าและอายุน้อยกว่า จนทำให้สามีหลงใหลไม่สนใจเธอเหมือนเก่า ครอบครัวไม่มีความสุขอย่างเคย จึงวางแผนจ้างวานฆ่าเป็นเงิน 6 หมื่นบาท โดยวันที่ 19 พฤศจิกายน 2552 ทีมฆ่าได้ติดต่อกลับมาบอกว่าได้ลงมือฆ่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ทราบว่านำศพไปทิ้งไว้ที่ไหน หรือลงมือฆ่า ณ ที่แห่งใด ซึ่งประเด็นนี้ พ.ต.อ.สมเกียรติ เกิดจงรักษ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี และชุดสืบสวนกำลังออกค้นหาอยู่ ควบคู่ไปกับการรวบรวมพยานหลักฐานมัดตัวผู้ร่วมขบวนการ ทั้งนี้ มีข้อมูลจากชุดสืบสวนว่า หลังจากเยาวลักษณ์ให้การรับสารภาพ ได้บอกรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับการอุ้มฆ่า โดยผู้รับงานเป็นตำรวจยศ ร.ต.ท.กับ ด.ต. ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังเร่งรวบรวมข้อมูล และตรวจสอบพฤติกรรมของตำรวจที่ถูกซัดทอดทั้ง 2 นาย ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุฆาตกรรมกุหลาบ เบื้องต้นอาจจะมีความเป็นไปได้ว่า ทั้งสองนายมีส่วนรู้เห็นด้วย แต่ให้ผู้อื่นลงมือแทน ตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับ
Create Date : 03 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 3 มิถุนายน 2553 7:47:11 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1782 Pageviews. |
|
|