พิษสาวพัทยา-ปมฝรังผู้ดีฆ่า12 ศพ
ปมคลั่ง - นายเดอร์ริก เบิร์ด ชาวอังกฤษ วัย 52 ปี มือปืนคลั่งไล่ยิง 12 ศพแล้วยิงตัวตายเมื่อต้นเดือนมิ.ย. ถ่ายภาพคู่กับ"น้องอร"สาวบาร์เบียร์พัทยา ซึ่งตำรวจเชื่อว่าอาจเป็นชนวนให้นายเบิร์ดคลุ้มคลั่ง เพราะเพิ่งถูกฝ่ายหญิงบอกเลิก สื่อเมืองผู้ ดีแฉ เหตุโช เฟอร์แท็กซี่ชาวอังกฤษคลั่งยิงแหลกฆ่าหมู่ 12 ศพ บาดเจ็บ 25 ราย เมื่อเร็วๆ นี้ ต้นเหตุมาจากความอกหักในตัวสาวบาร์พัทยาชาวไทย ชื่อ "อร" ส่งข้อความสั้นมาตัดสวาท ทั้งที่ฝ่ายชายขับรถหาเงินได้มา ก็ส่งกลับมายังเมืองไทยให้ใช้หลายแสนบาท แฉครั้งสุดท้ายเจ็บปวดสุดชีวิต ส่งเงินให้ 1 พันปอนด์หรือ 5 หมื่นบาท สิ่งที่ได้รับจากแฟนสาวไทยคือเอสเอ็มเอสกลับมา "ขอเลิก" คาดเป็นแรงกระตุ้นสำคัญให้เกิดอาการบ้าคลั่ง นอกเหนือจากปัญหาหนี้สินรุมเร้า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. หนังสือพิมพ์ชั้นนำของอังกฤษ ไม่ว่า เดอะซัน และเดลี่เมล์ รายงานความคืบหน้าคดีช็อกชาวอังกฤษครั้งใหญ่ เมื่อนายเดอร์ริก เบิร์ด คนขับรถแท็กซี่ วัย 52 ปี คลั่งยิงเหยื่อ 12 ศพ บาดเจ็บ 25 ราย ในเมืองไวต์เฮเวน แคว้นคัมเบรีย ทางภาคเหนือฝั่งตะวัน ตกของเกาะอังกฤษ ว่า จากการสอบสวนพบเบาะแสเพิ่มเติมที่อาจเป็นแรงจูงใจให้นายเบิร์ดก่อคดีอีกประเด็น คือถูกสาวไทยที่พัทยาบอกเลิก ทั้งที่ส่งเงินไปให้ใช้หลายพันปอนด์ หรือหลายแสนบาท อาจทำให้ผิดหวังรุนแรง ถึงขั้นใช้ความรุนแรงระบายความคับแค้นใจ เพื่อนฝูงของนายเบิร์ดให้ข้อมูลว่า นายเบิร์ดพบกับหญิงไทยชื่อ อร วัย 32 ปี ซึ่งทำงานอยู่ที่เคนเนล บาร์ พัทยา ระหว่างมาเที่ยวเมืองไทยพร้อมเพื่อนเมื่อ 3 ปีก่อน นายเบิร์ด ซึ่งหย่ากับภรรยาตั้งแต่ปี 2537 ติดใจสาวอรมาก ขณะที่เพื่อนร่วมงานของ "อร" รายหนึ่งระบุว่า หญิงสาวน่ารักและเป็นที่ชื่นชอบของแขก แต่น่าเสีย ดายที่มีแฟนเป็นหนุ่มไทยอยู่แล้ว นายคริส เจ้าของบาร์ สไปซี่ อะโกโก้ ที่พัทยา วัย 45 ปี ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากเคนเนล บาร์ เล่าว่า ทุกคืนนายเบิร์ดและอรจะมาพบกันที่ผับ เบิร์ดจ่ายเงินให้ร้อยบาทเพื่อให้อรออกไปข้างนอกด้วย และจ่ายเงิน 400 บาทแลกกับเพศสัมพันธ์และอยู่รับประทานอาหารเช้า หญิงสาวให้สัญญาว่าจะย้ายไปอยู่อังกฤษกับนายเบิร์ดด้วย จากนั้นเมื่อนายเบิร์ดกลับไปอังกฤษ ได้โอนเงินที่ได้จากการขับรถแท็กซี่มาให้หญิงสาวตลอด รวมแล้วหลายพันปอนด์ พร้อมทั้งติดต่อมาหาอรเสมอทั้งทางจดหมาย อีเมล์ และเอส เอ็มเอส เมื่อปีก่อนยังคิดกลับมาหาหญิงสาวอีก แต่ต้องถูกส่งกลับอังกฤษ ระหว่างเปลี่ยนเครื่องที่กาตาร์ เนื่องจากเมาอาละวาด ก่อนเกิดเหตุคลั่งยิงไม่กี่สัปดาห์ นายเบิร์ดส่งเงินมาให้อรอีก 1,000 ปอนด์ หรือราว 5 หมื่นบาท แต่หญิงสาวกลับส่งเอสเอ็มเอสมาบอกว่าสั้นๆ ว่า "ขอเลิก" เพราะไปเจอคนใหม่แล้ว เรื่องดังกล่าวทำให้เพื่อนคนขับแท็กซี่ด้วยกันล้อเลียนว่านายเบิร์ดฝันสลาย ซึ่งตอนนั้นนายเบิร์ดมีเรื่องวิวาทกับคนขับแท็กซี่บางคนอยู่แล้วในเรื่องแย่งรายได้ ตำรวจเชื่อว่า เรื่องนี้อาจเป็นปัจจัยเร่งอารมณ์แค้นให้เดือดยิ่งขึ้น และซ้ำเติมวิกฤตการเงินของนายเบิร์ด ซึ่งเป็นหนี้ไม่จ่ายภาษีกว่า 60,000 ปอนด์ หรือราว 3 ล้านบาท โดยไปบ่นกับเพื่อนว่า กลัวจะต้องติดคุกเพราะเรื่องนี้ คดีคลั่งยิงดังกล่าวเป็นคดีสะเทือนขวัญครั้งใหญ่ของอังกฤษ ซึ่งแทบไม่มีคดีแบบนี้เกิดขึ้น เนื่องจากมีกฎหมายควบคุมอาวุธปืนเข้มงวด สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ประมุขแห่งสหราชอาณาจักร ถึงกับมีพระราชดำรัสว่า "น่าสลดใจและน่าหวาดหวั่นอย่างยิ่ง" พร้อมแสดงความห่วงใยมายังประชาชน ส่วนนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ สั่งทบทวนการบังคับใช้กฎหมายควบคุมอาวุธปืนอีกครั้งว่า มีช่องโหว่ใดบ้าง หลังผลสอบสวนพบว่า นายเบิร์ดมีใบอนุญาตพกพาและใช้อาวุธปืน อย่างถูกต้องตามกฎหมาย นายเบิร์ดก่อเหตุสยองในวันที่ 1 มิ.ย. สัง หารน้องฝาแฝดของตนเอง คือนายเดวิด เบิร์ด เป็นเหยื่อรายแรก เพราะแค้นใจที่แม่ยกมรดกให้แต่กับนายเดวิด ส่วนเหยื่อที่เป็นคนรู้จักอีกราย คือทนายของครอบครัว คนขับแท็กซี่ที่เคยทะเลาะวิวาทด้วย แต่เหยื่อส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินอยู่ตามท้องถนนในเขตเลกดิสทริกต์ ที่นายเบิร์ดขับรถผ่าน แล้วเปิดกระจกยิงใส่ เมื่อ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ลูกชายทั้งสองของนายเบิร์ด ได้แก่ นายแกรม และนายเจมี่ เพิ่งออกแถลงการณ์ว่า ปวดร้าวกับเหตุการณ์ที่พ่อก่อขึ้น แต่สำหรับพวกตนแล้ว พ่อเป็นคนที่น่ารักที่สุด เป็นพ่อที่น่ารัก และเพิ่งจะเป็นคุณปู่ เราไม่รู้ว่าเหตุใดพ่อถึงได้ก่ออาชญากรรมสยองขวัญเช่นนี้ เราต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่น่าสลดนี้ ส่วนนายไบรอัน พี่ชายของนายเดอร์ริก ผู้ก่อเหตุ และนายเดวิด แฝดที่ถูกสังหาร กล่าวว่า การสูญเสียน้องถึงสองคนเป็นเรื่องเศร้าสลดมาก ทั้งสองต่างก็เป็นคนที่ห่วงใยคนในครอบครัวเสมอ จึงอธิบายไม่ได้ว่า ทำไมเดอร์ริกถึงทำเช่นนี้ ข้อมูลจากข่าวสด
Create Date : 08 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 8 มิถุนายน 2553 8:26:28 น. |
|
0 comments
|
Counter : 3175 Pageviews. |
|
|