โคโลอาน กับ ตำนาน ทาร์ตไข่ Egg Tart อันลือลั่น

โคโลอาน กับ ตำนาน ทาร์ตไข่ Egg Tart อันลือลั่น

                ‘โฮเซ่ รามอส – ฮอร์ต้า’ นักต่อสู้ เรียกร้องเอกราชชาวติมอร์ตะวันออก เจ้าของรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ปี 1996 เคยกล่าวถึง ชาติเจ้าอาณานิคมอย่าง ‘โปรตุเกส’ ที่ปกครอง ติมอร์ตะวันออก แผ่นดินแม่ของเขามายาวนานว่า..

โดยพื้นฐานพวกโปรตุเกสเป็นชาติที่ขี้เกียจ และเป็นเจ้าอาณานิคมที่เกียจคร้าน จนแทบไม่ได้พัฒนา หรือนำความเจริญใดๆ มาสู่ดินแดนอาณานิคมอันห่างไกลอย่าง ติมอร์ เลย !

แต่อีกด้านหนึ่งสำหรับ ดินแดนอาณานิคมอย่าง ‘มาเก๊า’ ที่อยู่ใต้การปกครองของโปรตุเกส ยาวนาน 400 ปี ก่อนในวันที่ 19 ธันวาคม 1999 มาเก๊า จะหลุดพ้นจากร่มเงา โปรตุเกส อย่างเป็นทางการ และกลายเป็นหนึ่งในเขตปกครองพิเศษของจีนโดยสมบูรณ์ ตลอด 4 ศตวรรษ โปรตุเกส ได้ทิ้งร่องรอยด้านสิ่งปลูกสร้าง สถาปัตยกรรม ภาษา และวัฒนธรรมแบบตะวันตกมากมายให้กับ มาเก๊า ทั้งจัตุรัสกลางเมือง  คฤหาสน์โอ่อ่า โบสถ์คริสต์แบบบารอค ป้อมปราการที่แข็งแกร่ง ถนนหนทางคดเคี้ยวที่ปูลาดด้วยพื้นหิน จนไปถึงวัฒนธรรมอาหารการกินแสนอร่อย ที่ถูกผสมผสาน ระหว่าง เอเชีย กับ ยุโรป จนกลายมาเป็นตำรับอาหารแบบท้องถิ่น ที่เรียกว่า ‘แมกกานีส’ และที่ไม่อาจพลาดกล่าวถึงได้เลย ก็คือ ‘ขนมทาร์ตไข่ Egg Tart’ แสนอร่อยนั่นเอง

                ปลายเดือนธันวาคม บนเกาะมาเก๊า เต็มไปด้วยสีสัน ของไฟประดับประดา บ่งบอกช่วงเวลาของเทศกาลคริสต์มาส แห่งความสุข ด้วยอุณหภูมิปลายปีที่เย็นสบาย จนถึงหนาวจับใจในบางช่วงเวลา ผู้เขียน นั่งรถเมล์สายไกล จากหน้า ‘จัตุรัสเซนาโด้’ เพื่อข้ามเกาะหลบลี้หนีความอึกทึก มายัง ‘เกาะโคโลอาน’ ชนบทที่ยังเหลืออยู่ของ มาเก๊า ซึ่งมี โบสถ์คริสต์สีเหลืองแจ่มจรัสอย่าง ‘โบสถ์เซ็นต์ฟรานซิส ซาเวียร์’ ตั้งอยู่เป็นศูนย์กลางดึงดูดนักท่องเที่ยว หมายมั่นตั้งใจจะมาหาความอร่อย ของ ขนมทาร์ตไข่ ตำรับดั้งเดิมของ มาเก๊า เขาครับ

                 รถเมล์สายไกล แล่นมุ่งหน้าสู่ทิศใต้ ออกจาก เกาะมาเก๊า ข้ามสู่ ไทปา ที่ตั้งโรงแรม คาสิโนใหญ่ระดับ 5 ดาว ก่อนจะเข้าสู่เขตชนบทของ โคโลอาน พอรถเมล์จอดตรงวงเวียนน้ำพุ ‘รูปปั้นเทพคิวปิด’ ศูนย์กลางของหมู่บ้าน ผู้เขียน ก็มองเห็น ร้านทาร์ตไข่เล็กๆ ในตำนานอย่าง ‘Lord Stow’ แล้วครับ

‘ทาร์ตไข่ Egg Tart’ เป็นขนมหวานลูกครึ่งสไตล์โบราณของ โปรตุเกส ที่ขึ้นชื่อมากๆ ของ มาเก๊า ประวัติกล่าวว่า มันถูกคิดค้นขึ้นครั้งแรกโดย แม่ชี ที่ทำขายเพื่อเป็นรายได้ให้กับ คอนแวนต์ ลักษณะพิเศษเฉพาะ คือ หน้าต้องออกไหม้ๆ ครับ แบบนี้เขาเรียกกันว่า ‘หน้าคาราเมลไลซ์’ (Caramelized) คือ อบจนน้ำตาลเกรียมที่ผิวหน้าขนม  ซึ่งเกิดจากส่วนผสมและการอบแบบพิเศษสุด เพื่อดึงน้ำตาลให้ออกมาด้านบน และให้กรอบเกรียมหอมกรุ่นตามแบบฉบับของต้นตำรับจริงๆ

                ‘แอนดรูว์ สโตว์’ นั้นเป็นชาวอังกฤษที่ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่เกาะโคโลอาน มาเก๊า และเปิดร้านขายทาร์ตไข่ ในชื่อของ ‘Lord Stow's Bakery’ มาตั้งแต่ปี 1989 แล้วครับ จากนั้นเขาจึงได้พบรักกับ สาวสวยที่ชื่อ ‘มาการ์เร็ต’ และตกล่องปล่องชิ้น แต่งงานกัน จากนั้นทั้งคู่จึงช่วยกันดำเนินกิจการร้านขายทาร์ตไข่ ค่อยๆ สั่งสมชื่อเสียง จนเฟื่องฟูโด่งดังในที่สุด

ความอร่อยพิเศษของ ทาร์ตไข่ สูตร แอนดรูว์ สโตว์ เนื่องจากเป็นสูตรต้นตำรับจริงๆ ครับ เป็นทาร์ตไข่บนแป้งพัฟฟ์ชุ่มเนย และเนื้อไข่ที่ผสมอย่างดี ทำให้น้ำตาลบนผิวหน้าเกรียมเล็กน้อย เพิ่มความหอมขึ้นอีก ยิ่งทานตอนร้อนๆ กรุ่นๆ ออกมาจากเตา แล้วโรย ซินนามอน ลงไป ยิ่งได้รสชาติที่เลอเลิศครับ ถึงแม้ แอนดรูว์ สโตว์ จะเสียชีวิตไปแล้ว ในปี 2006 แต่ ทาร์ตไข่ ของเขา ก็ยังได้รับการสืบทอด สานต่อความอร่อยโดยภรรยา และลูกหลาน ขยับขยายไปอีกหลายสาขาต่อมาจนทุกวันนี้

                สำหรับผม เมื่อมองเห็นป้ายโฆษณา ขนมทาร์ตไข่ ยี่ห้อไก่ทอดยักษ์ใหญ่ ของ ผู้พันแซนเดอร์ ครั้งใด ก็จะหวนนึกถึง รสชาติ ทาร์ตไข่ ต้นตำรับ บนเกาะโคโลอาน ทุกครั้งไป กลิ่นหอมเตะจมูก แป้งก็นุ่มลิ้นจริงๆ ครับ.

Create Date : 27 สิงหาคม 2556		2 comments
Last Update : 27 สิงหาคม 2556 11:59:16 น.
Counter : 6049 Pageviews.
Share Tweet