บ้านรักกะลา..เกาะช้าง
บ้านรักกะลา..เกาะช้าง เปลี่ยนโฉมกะลา จนเลอค่า ราคางาม ! ได้ไปเที่ยว เกาะช้าง ถิ่นทะเลตราด ครั้งล่าสุด ผมมีโอกาสได้ไปสัมผัส ของดี ภูมิปัญญาอีกด้าน ที่ซ่อนอยู่บนเกาะท่องเที่ยวระบือนาม ที่ยังมี ยังดำรงอยู่นอกเหนือไปจาก ธรรมชาติโดดเด่น หาดทรายขาว น้ำทะเลสีคราม รีสอร์ทหรู และอาหารการกินที่แสนแพง !! ของดีที่ว่าก็คือ สินค้าจากภูมิปัญญาชาวเกาะ ที่เขาสืบทอด และบรรเจิดไอเดียไม่เหมือนใคร นำ กะลามะพร้าวที่ดูเหมือนจะไร้ค่า และมีอยู่ดาษดื่นไปทั่วชุมชน มาปรุงแต่ง คิดเองทำเอง ผ่านไอเดียสร้างสรรค์สุดแจ๋ว จนกลายมาเป็น ผลิตภัณฑ์ของตกแต่งบ้านแปรรูปเลิศหรูจากกะลามะพร้าว ล้วนๆ ครับ ซึ่งทั้งขายดี และโด่งดังไปทั้งจังหวัดตราด และกำลังจะดังไกลไปทั่วประเทศในเร็ววันนี้แหละ ที่นี่คือ บ้านรักกะลา (ตั้งชื่อได้โดนมากๆ) ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 บ้านสลักเพชรเหนือ ครับ ที่ตั้งของ บ้านรักกะลา เป็นอาคารสีเหลืองสดใสชั้นเดียว ใช้เป็นโชว์รูมสินค้าจากกะลานานาชนิด หน้าบ้านมีป้ายภาษาอังกฤษเคียงคู่ว่า Hand Made Coconut Shell เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวฝรั่งที่ขับมอเตอร์ไซด์ แวะเวียนผ่านไปมา ให้เข้ามาอุดหนุน สินค้าของ บ้านรักกะลา นั้นมีให้เลือกอุดหนุนซื้อหาอย่างละลานตา กว่า 20 ชนิด ที่ผมเห็นก็มีทั้ง โคมไฟ กล่องใส่ทิชชู พวงกุญแจ สร้อยข้อมือ กระเป๋าใส่สตางค์ ตุ๊กตาตั้งโชว์ เรือสำเภาจำลอง กรอบใส่รูป ถ้วยรางวัลจากกะลามะพร้าว ก็ยังมี (อันนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตจริงๆ ที่ได้มาเห็น) แต่ที่เด็ดจริงๆ กลับเป็น เสื้อชั้นในจากกะลามะพร้าวนี่แหละ โดยมีหุ่นแสดงแบบแทนคนจริง ราคาผลิตภัณฑ์มีให้เลือกซื้อหาตั้งแต่ราคาต่ำสุดที่ 20 บาท ไปจนถึง โคมไฟห้อยระย้าหรูหราบนเพดานที่มีราคาสูงถึง 5,500 บาทเลยทีเดียว ผลิตภัณฑ์จากกะลาเหล่านี้ เป็นผลงานจากการสรรค์สร้างของ คู่สามีภรรยาคนรุ่นใหม่คือ พี่น้ำค้าง กุศลจิต และ พี่พงษ์ศักดิ์ สวัสดิผล ผู้ก่อตั้ง วิสาหกิจชุมชนบ้านรักกะลา แห่งตำบลเกาะช้างใต้ ที่ปัจจุบันมีสมาชิกร่วมด้วยช่วยกันทำราว 20 ชีวิต พี่น้ำค้าง ผู้เป็นประธานกลุ่มฯ บอกว่า จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2545 ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดโครงการฝึกอบรมอาชีพเพื่อสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนเกาะช้าง โดยมีการนำครูผู้สอนจากภาคใต้มาสอนให้ ตัวเธอเอง และสามีก็ได้เข้าไปเรียนรู้การแปรรูปกะลามะพร้าวให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากโครงการนี้แหละ เมื่อได้เรียนรู้ ก็เริ่มทำต่อเนื่องจนชำนาญ และยังเห็นว่ากะลามะพร้าวบนเกาะช้าง มีเหลือทิ้งขว้างอยู่มากมาย แทบไม่ต้องมีต้นทุนซื้อหามาจากไหนเลย จนถึงปี 2549 เป็นต้นมาทางกลุ่มก็เริ่มผลิตผลงานกันอย่างจริงจัง รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณ และการประชาสัมพันธ์ให้กว้างไกลออกไป จาก อบต. และหน่วยงานภาครัฐของท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ภายในกลุ่มจึงเติบโตขึ้น มียอดสั่งจองจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ต่างประเทศ และโรงแรม รีสอร์ทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าวของกลุ่ม ได้รับการการันตีคุณภาพจากการชนะบนเวทีประกวดระดับภาค และระดับประเทศมาแล้วอย่างมากมาย ได้มาเห็นผลิตภัณฑ์รูปลักษณ์เก๋ๆ จากมันสมอง และฝีมือคนในชุมชนเอง ที่มีทั้งความคงทน สวยงาม และประณีตมากๆ นำกะลา ที่เหมือนจะไม่มีค่าอะไร มาสร้างสรรค์แปรรูปจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ชั้นยอดได้ ก็ได้รู้ซึ้งว่าพวกพี่ๆ ที่นี่เขารักกะลากันจริงๆ รักกันอย่างสุดจิตสุดใจครับ ไม่อย่างนั้น เขาจะมานั่งหลังขดหลังแข็งพากเพียร สร้างสรรค์ผลงานกันอยู่อย่างนี้หรอกหรือ นั่นทำให้คนมาเยี่ยมมาเยือนอย่างผมพลอยหลงรักกะลาไปด้วยโดยไม่รู้ตัว.. ฉะนั้นแล้วหากใครมีโอกาส ได้มาเที่ยวเกาะช้าง ก็อย่าลืมแวะมาเยี่ยมชม ซื้อหา และให้กำลังใจ คนสร้างงานคุณภาพ ที่ทำให้ กะลามะพร้าว กลายเป็นสัญลักษณ์ของ เกาะช้าง อย่างสง่างามในวันนี้ ด้วยฝีมือของคนในท้องถิ่นอย่างแท้จริงครับ..
Create Date : 03 กันยายน 2557 |
Last Update : 3 กันยายน 2557 9:29:15 น. |
|
2 comments
|
Counter : 5324 Pageviews. |
|
|