Mr.Pos : The Thinking & Learning in My Life
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2556
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
1 พฤษภาคม 2556
 
All Blogs
 
‘หนังสงคราม’ กับ ภาพสะท้อนความงามที่สัมผัส

ตะกอนความคิด อันเนื่องมาจากหนัง..

 

 

‘หนังสงคราม’ กับ ภาพสะท้อนความงามที่สัมผัส

 

 

                พูดได้เต็มปากว่าผมเป็นคนชอบดู ‘หนังสงคราม’ ครับ และใครหลายคนก็คงชอบเหมือนกัน.. เพียงเปลือกนอกด้วยสายตาฉาบฉวย หนังสงคราม อาจสื่อถึงความโหดร้าย เต็มล้นไปด้วยฉากการเข่นฆ่า มุ่งหมายชีวิตระหว่างมนุษย์ต่างเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ หรือแม้กระทั่งคนชาติพันธุ์เดียวกันเอง บางคนตัดสินว่า คนดูหนังสงคราม คือผู้ชื่นชม นิยมความรุนแรง แต่นั่นย่อมไม่จริง เพราะในเรื่องราวของการต่อสู้โรมรันเลือดตากระเด็น หนังสงคราม ยังมีปรัชญา ความอ่อนโยน ความเปราะบางของจิตใจมนุษย์ซ่อนแฝงอยู่ และขณะห้วงวิกฤตความเป็นความตายในสมรภูมิ กำลังคืบคลาน บ่อยครั้งมันก็ได้เผยแง้มแก่นแท้จิตมนุษย์ออกมาอย่างหมดเปลือก ความหวาดกลัว การดิ้นรนเอาชีวิตรอด ความเสียสละ และมิตรภาพดีๆ ในทัศนะของผม การดูหนังสงคราม จึงให้อะไรเรามากมาย มากกว่าความตื่นตาเร้าใจในฉากแอ๊กชั่นกระหน่ำยิงอย่างที่หลายคนเข้าใจมากนัก..

 

                ‘การก่อสงคราม’ คือตัวอย่างชัดเจนของความไร้เหตุไร้ผล มันคือการถดถอยทางจิตวิญญาณของสัตว์ประเสริฐเช่น มนุษย์ ท้ายที่สุดแล้ว ปลายทางสงคราม ไม่มีผู้แพ้ ผู้ชนะอย่างแท้จริง สงคราม ทิ้งไว้เพียงความสูญเสียให้ผู้ที่ข้องเกี่ยวกับมันเท่านั้น ไม่ว่ามากหรือน้อย..

 

                ในภาพยนตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 สุดละเมียด ‘Flags of Our fathers’ ของ คลินส์ อีสวู้ด คือภาพสะท้อนเด่นชัดถึงคำว่า “สงครามไม่มีวีรบุรุษที่แท้จริง” นายทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ ที่ก้าวขึ้นไปปักธงชาติบน ‘ยอดเขาซึริบาชิ’ บน ‘เกาะอิโวจิมา’ เขตแดนญี่ปุ่น ต่างรู้ดี เหล่าทหารผ่านศึก ผู้ได้รับการประดับเหรียญกล้าหาญ ไม่ใช่ ฮีโร่ ดังที่ใครๆ ยกยอให้พวกเขาเป็น เพราะ ‘วีรบุรุษ’ ล้วนจากไปหมดสิ้นแล้วในสมรภูมิ สิ่งที่สังคมรอบข้างมอบให้ ทหารผ่านศึกเหล่านี้ ภายหลังที่รอดชีวิตกลับมายังมาตุภูมิ คือ การตอกย้ำ กระหน่ำความทรงจำที่เลวร้ายของพวกเขาให้หนักหน่วงขึ้นไปอีก ความทรงจำที่อยากสลัดทิ้งไป คำสรรเสริญเยินยอความเป็น วีรบุรุษ ยิ่งดังก้องเท่าใด จิตใจพวกเขาก็ยิ่งปวดร้าวราวป่วยไข้เท่านั้น มโนภาพการสูญเสีย ภาพทรงจำของเพื่อนร่วมรบคนแล้วคนเล่าที่ล้ม และหมดลมหายใจลง

 

               

 

เช่นนี้แล้ว สงครามสร้างวีรบุรุษจริงหรือ ? นี่ยังเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเสมอมา

 

 

                ลองนึกภาพ.. ในห้วงเวลาสุดคับขัน ที่ความเป็นความตายกำลังต่อกรกัน กลางสนามรบที่กรุ่นคลุ้งไปด้วยห่ากระสุน และควันระเบิด ทหารแต่ละนายเหล่านั้น กำลังคิดคำนึงถึงประเทศชาติตนจริงหรือ ? ไม่มีใครรู้ แต่คงมีไม่น้อยรายที่อุดมการณ์รักชาติอันเข้มข้น คงเลือนหายชั่วขณะ เป้าประสงค์เดียวที่พวกเขาลั่นกระสุนเข้าใส่ศัตรูตรงข้าม คงเป็นเพียงการรักษาชีวิตตนเองไว้ ให้ผ่านพ้นข้ามอีกคืนเท่านั่นเอง..

 

                ยิ่งผ่านสัมผัส บรรดา หนังสงคราม มากเท่าใด ผมก็ยิ่งครุ่นคิด แท้ที่จริง ทหาร อาจจะเป็นอาชีพที่ไร้ความจำเป็นมากที่สุดในทุกสังคมก็ว่าได้ ทุกชาติแผ่นดินคงไม่จำเป็นต้องดำรงอาชีพนี้ไว้เลย หากมนุษยชาติไม่คิดร้าย กร่ำกรายแผ่นดิน หรือปล้นชิงทรัพยากรต่อกัน ความหวาดระแวง คิดไม่ซื่อ อคติต่อชาติพันธุ์ และความโลภที่ไม่สิ้นสุดนี้เอง ที่กลายเป็นคำอ้างเหตุผล ‘ความมั่นคง’ ของชาติ และนั่นทำให้ อาชีพทหาร จึงเกิดขึ้น..

 

                นึกภาพตาม เนื้อหาของบทเพลงสะเทือนโลกอย่าง Imagine ของ จอห์น เลนนอน ดูก็ได้ โลกที่ดินแดนต่างๆ ปราศจากทหาร ปราศจากการสร้างกองทัพ ปราศจากการสะสมอาวุธ เมื่อมนุษย์ไม่ต้องทุ่มเทสติปัญญาเพื่อคิดค้น อานุภาพความร้ายกาจของ อาวุธ แล้ว เมื่อนั้นสงครามก็ย่อมไม่มีวันเกิด.. แต่นี่อาจเป็นเพียง ‘โลกแห่งอุดมคติ’ วันยังค่ำ เพราะ มนุษย์ ยังไม่อาจตัดขาดจากกิเลส ตัณหา และความโลภได้พ้น

 

                เพราะความโลภ และจิตใจด้านมืดของมนุษย์โดยแท้ ที่ทำให้ความขัดแย้ง และการก่อสงครามยังเกิดขึ้นทุกยุคสมัย และนี่จึงกลายเป็นวัตถุดิบชั้นเลิศ ให้ผู้กำกับ สร้างหนังสงคราม ออกมาให้เราดู ให้เหล่าคนรักหนัง ต่างได้ซึมซับสัมผัสหนังสงครามมากมาย เรื่องแล้วเรื่องเล่าไม่จบสิ้น ผมยังคงรัก และรื่นรมย์ที่จะเสพชม หนังสงคราม ต่อไป ขณะเดียวกันก็เชื่อมั่นว่า ผู้ที่ชื่นชอบ หนังสงคราม ทั้งหลาย ล้วนแต่มีจิตใจที่อ่อนโยน และเฝ้าภาวนาแต่เพียงว่า ซักวัน..

 

 

วันหนึ่งข้างหน้า จะมี สงคราม เกิดขึ้นแต่เพียงในโลกภาพยนตร์เท่านั้น… 




Create Date : 01 พฤษภาคม 2556
Last Update : 1 พฤษภาคม 2556 21:09:50 น. 1 comments
Counter : 10802 Pageviews.

 
ขอขอบคุณข้อความ และเนื้อหา


โดย: สัมพันธ์ จันทร์ผา IP: 223.206.80.123 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:4:48:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

โปสการ์ดราดซอส
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add โปสการ์ดราดซอส's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.