" เรื่องราวต่างๆเป็นดั่งทองคำในเทพนิยาย เมื่อคุณแจกจ่ายไปมากขึ้น คุณก็ได้รับกลับมามากขึ้น " พอลลี แมคไกวร์
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
22 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
015. แม่น้ำแยงซี จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

แม่น้ำแยงซี
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี




เส้นทางแม่น้ำแยงซีในประเทศจีน
ภาพประกอบ จาก //www.


แม่น้ำแยงซี หรือ แยงซีเกียง (จีน-ตัวเต็ม: 揚子江 หรือ 長江, ตัวย่อ: 扬子江 หรือ 长江, พินอิน: Yángzǐ Jiāng หรือ Cháng Jiāng ฉางเจียง อังกฤษ: Yangtze River) เป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในทวีปเอเชีย และเป็นแม่น้ำที่ยาวเป็นอันดับที่สามของโลก รองจากแม่น้ำไนล์ในทวีปแอฟริกาและแม่น้ำแอมะซอนในทวีปอเมริกาใต้ แม่น้ำแยงซีเกียงยาว 6,300 กิโลเมตร[1] ต้นน้ำอยู่ที่มณฑลชิงไห่และทิเบต ในทิศตะวันตกของสาธารณรัฐประชาชนจีน และไหลมาทางทิศตะวันออก ออกสู่ทะเลจีนตะวันออก




โค้งแรกของแม่น้ำแยงซี ณ ซีกุ(石鼓) มณฑลยูหนานโค้ง180องศา จากใต้ สู่ เหนือ


ชื่อ

ชื่อแม่น้ำแยงซีเกียงที่คนไทยเรียกกันนั้น เป็นชื่อที่ตกทอดมาจากแม่น้ำหยางจี๋เจียง (อักษรจีนตัวเต็ม: 揚子江;อักษรจีนตัวย่อ: 扬子江; พิงอิน:Yángzǐ Jiāng) ) ซึ่งเริ่มเรียกในสมัยราชวงศ์สุย. ชื่อแม่น้ำหยางจี๋เจียงถูกเรียกตามเรือบรรทุกสินค้าในสมัยก่อนจากเมืองหยางจีจิน(อักษรจีน:扬子津, ความหมายว่า ข้ามหยางจี) ในสมัยราชวงศ์หมิง ตัวเขียนของแม่น้ำหยางจีจินบางครั้งเขียนเป็น洋子(พินอิน: Yáng Zĭ) เนื่องจากกลุ่มแรกๆที่ได้ยินชื่อแม่น้ำหยางจีจินคือกลุ่มมิชชันนารีและพ่อค้า ชื่อแม่น้ำนี้จึงถูกเรียกแทนแม่น้ำทั้งสาย ในเวลาต่อมาชื่อของแม่น้ำหยางจี๋เจียงได้รับการพิจารณาว่าเป็นชื่อที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวรรณคดีของประเทศจีน ชื่อใหม่ของแม่น้ำหยางจี๋เจียงคือ แม่น้ำฉางเจียง(อักษรจีนตัวเต็ม:長江;อักษรจีนตัวย่อ:长江; พินอิน: Cháng Jiāng) ซึ่งมีความหมายว่า แม่น้ำสายยาว(Long River) ซึ่งชาวตะวันตกก็เรียกเช่นเดียวกันนี้ในบางครั้ง

แม่น้ำแยงซีเกียงถูกเรียกต่างชื่อกันไปตามเส้นทางของลำน้ำเช่นเดียวกับแม่น้ำหลายๆสาย เช่น ต้นทางของแม่น้ำแยงซีเกียงถูกเรียกโดยชาวทิเบตว่า ตางชู(ตัวอักษรจีน:当曲, ความหมายว่า บึงแม่น้ำหรือ หนองแม่น้ำ) ตามทางของแม่น้ำแยงซีเกียงถูกเรียกว่า แม่น้ำถัวทัว(อักษรจีน: 沱沱河) ลาดลงมาอีกเรียกว่า แม่น้ำถงเทียน(อักษรจีน: 通天河, ให้ความหมายทางวรรณกรรมว่า ผ่านแม่น้ำสวรรค์) นอกจากนี้แล้วแม่น้ำแยงซีเกียงยังถูกเรียกว่า แม่น้ำจินชา(อักษรจีน: 金沙江; พินอิน: Jīnshā Jiāng, ให้ความหมายทางวรรณกรรมว่า แม่น้ำหาดทรายทอง) จากเส้นทางน้ำไหลผ่านช่องแคบระหว่างเทือกเขาต่างๆสู่ แม่น้ำแม่กองและ แม่น้ำสาละวิน ก่อนที่จะไหลผ่านเข้าสู่ที่ราบลุ่มเสฉวน หรือ ชิชวน(อักษรจีน: 四川; พินอิน: Sì Chuān) ซึ่งตั้งอยู่ด้านตะวันตกของจีน ชาวจีนสมัยก่อนเรียกแม่น้ำแยงซีเกียงเพียงสั้นๆว่า เจียง (อักษรจีน: 江; พินอิน: Jiāng) หรือ ต้าเจียง(อักษรจีน: 大江; พินอิน: Dà Jiāng, ให้ความหมายทางวรรณกรรมว่า แม่น้ำใหญ่) ซึ่งต่อมาชาวจีนเรียกแทนแม่น้ำว่า เจียง ชาวทิเบตเรียกแม่น้ำว่า บีร์ชู(ภาษาทิเบต: འབྲི་ཆུ་; วายลี่: 'bri chu, ให้ความหมายทางวรรณกรรมว่า แม่น้ำแม่วัวป่า) แม่น้ำแยงซีเกียงยังถูกเรียกว่าเป็นแม่น้ำสายทองคำ อีกด้วย



ภูมิศาสตร์

ต้นกำเนิดของแม่น้ำแยงซีเกียงอยู่ใต้ธารน้ำแข็งทางทิศตะวันตกของภูเขาเก้อลาตานตง(ตัวอักษรจีน: 各拉丹东; พินอิน:Gèlādāndōng) แม่น้ำแยงซีเกียงไหลผ่านไปฝั่งตะวันออกของมณฑลชิงไห่ และไหลลงไปทางใต้สู่หุบเขาที่ลึกตามแนวเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างมณฑลเสฉวน กับ ทิเบต แล้วไหลเข้าสู่มณฑลหูหนาน หรือ ฮูนาน(อักษรจีน: 湖南; พินอิน: Húnán;) ซึ่งเส้นทางไหลเลาะ ลาด ตามหุบเขานั้นได้ลดระดับความสูงของแม่น้ำจากมากกว่า 5000เมตร สู่ระดับที่ต่ำกว่า 1000เมตร

แม่น้ำแยงซีเกียงไหลเข้าสู่ แอ่งน้ำเสฉวน ณ อี๋ปิน(อักษรจีนตัวเต็ม: 宜賓; อักษรจีนตัวย่อ: 宜宾; พินอิน: Yíbīn) ซึ่งแม่น้ำแยงซีเกียงได้บรรจบกับแม่น้ำอีกหลายสาย ณ แอ่งน้ำเสฉวน นี้ จึงทำให้มีปริมาณน้ำมากขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากนั้นแม่น้ำแยงซีเกียงก็ไหลเลาะตามเส้นแบ่งเขตระหว่างมณฑลฉงชิ่ง (อักษรจีนตัวเต็ม: 重慶; อักษรจีนตัวย่อ: 重庆; พินอิน: Chóngqìng)กับ มณฑลหูเป่ย์ (อักษรจีน: 湖北; พินอิน: Húběi) จากเส้นทางไหลเลาะตามเส้นแบ่งเขตนี้ ก่อให้เกิดซานเชี่ย(อักษรจีนตัวเต็ม: 三峽; อักษรจีนตัวย่อ: 三峡; พินอิน: Sānxiá;) อันโด่งดัง

แม่น้ำแยงซีเกียงได้รับปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจากทะเลสาบพันๆแห่งหลังจากไหลเข้าสู่มณฑลหูเป่ย์ ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดที่มาบรรจบกับแม่น้ำแยงซีเกียงคือ ทะเลสาบต้งถิง(อักษรจีน: 洞庭湖; พินอิน: Dòngtíng Hú) ซึ่งเลาะเลียบตามเส้นแบ่งเขตของมณฑลหูหนานกับมณฑลหูเป่ย์ หลังจากเข้าสู่เมืองอู๋ฮั่น(อักษรจีนตัวเต็ม: 武漢; อักษรจีนตัวย่อ: 武汉; พินอิน: Wǔhàn;) แม่น้ำแยงซีเกียงได้บรรจบกับแม่น้ำสายย่อยที่ใหญ่ที่สุด นั่นคือแม่น้ำฮั่น โดยที่แม่น้ำฮั่นนำพาปริมาณน้ำมาจากเขตทางเหนือเริ่มจากมณฑลฉ่านซี(อักษรจีนตัวเต็ม: 陝西; อักษรจีนตัวย่อ: 陕西; พินอิน: Shǎnxī)

ทะเลสาบโป๋หยาง(อักษรจีน: 鄱阳湖; พินอิน: Póyáng Hú)ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีนเข้าบรรจบกับแม่น้ำแยงซีเกียงที่ปลายทางตอนเหนือของมณฑลเจียงซี(อักษรจีน: 江西; พินอิน: Jiāngxī) จากนั้นแม่น้ำแยงซีเกียงก็ได้รับปริมาณน้ำเพิ่มจากทะเลสาบและแม่น้ำใหญ่น้อยที่นับไม่ถ้วนจากเส้นทางที่ไหลผ่านเข้าสู่มณฑลอานฮุย(อักษรจีน: 安徽; พินอิน: Ānhuī) และมณฑลเจียงซู(อักษรจีนตัวเต็ม: 江蘇; อักษรจีนตัวย่อ: 江苏; พินอิน: Jiāngsū) แล้วสุดท้ายก็ไหลผ่านลงสู่ทะเลจีนตะวันออก(อักษรจีน: 中国东海)ที่เมืองช่างไห่ หรือ เซี่ยงไฮ้ (อักษรจีน: 上海, พินอิน: Shànghǎi)





Ships_on_the_Yangtze_at_dawn.JPG‎


สภาพแวดล้อม

ในปี2007 ความวิตกกังวลว่าปลาโลมาจีน(Finless Porpoise) หรือที่ชาวพื้นเมืองรู้จักในนาม เจียงจู(Jiangzhu) มีแนวโน้มว่าจะสูญพันธุ์ตามปลาโลมาในแม่น้ำแยงซีเกียงนามว่า ป๋ายชื่อ(baiji)(อักษรจีน: 白鱀豚; พินอิน: Báijìtún) ในขณะที่ปลาโลมาพันธุ์ป๋ายชื่อถูกเปิดเผยเมื่อปี2006ว่าได้สูญพันธุ์ไปแล้ว

มีการเรียกร้องให้อนุรักษ์ปลาโลมาจีน ซึ่งมีจำนวนประชากรประมาณ 1400ตัว ปลาโลมาจีน700-900ตัวอาศัยอยู่ในแม่น้ำแยงซีเกียง และอีกประมาณ500ตัวอาศัยอยู่ในทะเลสาบต้งถิงและ ทะเลสาบโป๋หยาง(อักษรจีน: 鄱阳湖; พินอิน: Póyáng Hú)

จำนวนประชากรปลาโลมาจีนในปี2007ลดลงจากในปี1997มากกว่าครึ่ง และจำนวนประชากรปลาโลมาจีนลดลงที่7.3% ต่อปี

การจราจรที่คับแน่นบนผิวน้ำของแม่น้ำแยงซีเกียงได้ขับไล่ปลาโลมาจีนให้ไปอยู่ในทะเลสาบต่างๆแทน ณ ทะเลสาบโป๋หยาง ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน มีการขุดลอกพื้นทรายใต้ทะเลสาบเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาคในช่วงปีหลังๆ ทั้งยังเป็นรายได้ที่สำคัญของภูมิภาคตามแนวทะเลสาบอีกด้วย ซึ่งโครงการขุดลอกพื้นทรายเหล่านี้เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อประชากรสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคนี้ให้ถึงแก่ความตาย

การขุดลอกทำให้น้ำในทะเลสาบขุ่นมัวขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้ปลาโลมาจีนไม่สามารถมองเห็นทางได้ไกลเหมือนเช่นแต่ก่อน จึงทำให้ปลาโลมาจีนต้องพึ่งพาระบบโซน่า(Sonar Systems)ของตนในการหลบหลีกอุปสรรคต่างๆและหาอาหาร การขนส่งทางน้ำในทะเลสาบยังส่งผลกระทบต่อการได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของเหยื่อของปลาโลมาจีนอีกด้วย นอกจากนี้ปฏิกูลหนักจากแอมโมเนีย (Ammonia)ไนโตรเจน (Nitrogen) ฟอสฟอรัส (Phosphorus) และอื่นๆยังสร้างมลพิษอย่างสาหัสแก่พื้นที่ประมาณหนึ่งในสามส่วนของแม่น้ำสายย่อยหลักๆอย่าง แม่น้ำมินเจียง (อักษรจีน: 岷江; พินอิน: Mín Jiāng)แม่น้ำถัวเจียง แม่น้ำเซียงเจียง (อักษรจีน: 湘江; พินอิน: Xiāng Jiāng) และหวางชู (อักษรจีน: 黃浦江; พินอิน: Huángpŭ Jiāng) ซึ่งส่งผลให้ปลาที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำเหล่านั้นมีขนาดเล็ก





สุสานบนเนินเขาหนหน้าให้กับแม่น้ำแยงซีที่ไหลผ่าน
Yangzi river shrines on hill top.jpg



ลักษณะทางภูมิศาสตร์

แม่น้ำแยงซีเกียงที่ไหลเข้าสู่ทะเลจีนตะวันออกนั้นมีขนาดกว้างและลึกพอสำหรับการสัญจรของเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่เป็นระยะทางหลายพันไมล์จากปากทางเข้า แม้ว่าเขื่อนสามผา(อักษรจีน: 三峽大壩; พินอิน: Sānxiá Dàbà)จะยังไม่ได้สร้างก็ตาม ต่อมาในปี2003 เดือนมิถุนายน เขื่อนสามผา ถูกสร้างขึ้นเพื่อควบคุมปริมาณน้ำจากแม่น้ำแยงซีเกียงที่ไหลท่วมเขตการปกครองเฟิ้งเจี๋ย(อักษรจีน: 奉节县; พินอิน: Fèngjié Xiàn) จึงทำให้เขตการปกครองเฟิ้งเจี๋ยเป็นเมืองแรกที่ได้รับการคุ้มครองจากอุทกภัยและได้รับผลประโยชน์จากโครงการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากเขื่อนสามผา

เขื่อนสามผา เป็นโครงการชลประทานแบบครอบคลุมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรมของประเทศจีนเป็นอย่างมาก ฝ่ายผู้สนับสนุนโครงการชี้แจงว่า เขื่อนสามผา สามารถให้ผู้คนอาศัยตามริมฝั่งแม่น้ำแยงซีเกียงโดยไม่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างที่เกิดขึ้นบ่อยๆในอดีต พร้อมทั้งยังจำหน่ายไฟฟ้าและลำเลียงเส้นทางน้ำให้ แม้ว่า เขื่อนสามผา จะถูกสร้างขึ้นทับเมืองต่างๆ(รวมถึงโบราณสถานหลายแห่ง) และส่งผลกระทบถึงการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศน์ในชุมชนขนาดใหญ่

ฝ่านผู้คัดค้านโครงการชี้แจงว่าอุทกภัยที่เกิดขึ้นบริเวณแม่น้ำแยงซีเกียงแบ่งได้เป็น 3 ชนิด กล่าวคือ อุทกภัยบนที่สูง อุทกภัยบนที่ต่ำ และอุทกภัยตามเส้นทางลำน้ำ ฝ่ายผู้คัดค้านกล่าวโต้แย้งว่าที่จริงแล้ว เขื่อนสามผา ทำให้อุทกภัยบนที่สูงร้ายแรงกว่าเดิม แต่บรรเทาอุทกภัยบนที่ต่ำจนแทบไม่ได้รับผลกระทบ เส้นขีดวัดแนวน้ำตื้นของแม่น้ำแยงซีเกียงที่บันทึกอยู่ในประวัติศาสตร์จีนตลอด 1200 ปีที่แล้ว ปัจจุบันน้ำได้ขึ้นท่วมทับเส้นวัดระดับนี้

สายการผลิตทางอุตสาหกรรมอันทันสมัย เช่น การทำเหมืองแร่ โรงงานไฟฟ้า โรงงานก่อสร้าง ถูกสร้างระนาบตามลำน้ำแยงซีเกียง ซึ่งสายการผลิตทางอุตสาหกรรมเหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่ ทั้งยังเป็นจุดเชื่อมระหว่างการส่งสินค้าจากต่างประเทศเข้าสู่ภายในประเทศ แม่น้ำแยงซีเกียงเป็นเส้นทางหลักในการคมนาคมขนส่งทางน้ำ บัดนี้สามารถรองรับการท่องเที่ยวทางน้ำ

ตั้งแต่ปี 2004 บริษัทเรือสำราญจากยุโรปได้นำมาตรฐานระดับสูงเข้ามา พร้อมทั้งความช่วยเหลือจากนักการโรงแรมชาวสวิตเซอร์แลนด์ ชื่อ นิโคลัส ซี โซลารี่ (Nicolas C. Solari) ช่วยกันพัฒนาและเปิดบริการเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่สามลำ ล่องเที่ยวบนแม่น้ำแยงซีเกียง แม่น้ำแยงซีเกียงเป็นหนึ่งในลำน้ำที่มีความวุ่นวายมากที่สุด การคมนาคมของลำน้ำนี้ประกอบด้วยการขนส่งสินค้าจำพวก ถ่านหิน และ สินค้าอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงการขนส่งผู้คนและนักท่องเที่ยว

ในปี 2005 ยอดการขนส่งมีถึง 795ล้านตัน การท่องเรือใหญ่แบบกินนอนหลายๆวันเพื่อไปชมทัศนียภาพของ หุบเขาซานเชี่ย กำลังเป็นที่นิยมเห็นได้จากการเจริญเติบโตทางภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศจีน

น้ำท่วมตามแนวแม่น้ำแยงซีเกียงเป็นปัญหาใหญ่มาแต่ช้านาน ฤดูฝนในประเทศจีนเริ่มเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนมิถุนายนในทางตอนใต้ของแม่น้ำแยงซีเกียง และเดือนกรกฎาคม ถึงเดือนสิงหาคมในทางตอนเหนือ ระบบแม่น้ำได้รับน้ำจากทางใต้และทางเหนือ ก่อเกิดปัญหาน้ำท่วมตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงเดือนสิงหาคม ซึ่งปัญหาได้ทวีความรุนแรงขึ้นและเสียหายมากขึ้น เนื่องด้วยประชากรที่อาศัยกันหนาแน่นและเมืองที่คับคั่งตามแนวเส้นทางลำน้ำแยงซีเกียง ปัญหาน้ำท่วมขนาดหนักได้พรากชีวิตผู้คนในปี 1954 ประมาณ 30,000คน ในปี 1935 ประมาณ 142,000คน ในปี 1931 ประมาณ 145,000คน ในปี 1911 ประมาณ 100,001คน





เรือขนส่งทางใต้ ใกล้กับหนานทง
Ferry_on_the_Yangtze_near_Nantong.JPG‎





เขื่อนสามผา ตั้งเป้าก่อสร้างเสร็จในปี 2009
ไฟล์:Dreischluchtendamm hauptwall 2006.jpg


เขื่อนซานเสียต้าป้า เขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ำตั้งเหนือแม่น้ำแยงซีซึ่งกำลังก่อสร้าง

Source://th.wikipedia.org/wiki


Create Date : 22 มีนาคม 2553
Last Update : 22 มีนาคม 2553 10:13:05 น. 1 comments
Counter : 7224 Pageviews.

 
ขอบคุณครับ ข้อมูลละเอียดมากครับ


โดย: camel_27 วันที่: 5 ธันวาคม 2555 เวลา:14:37:21 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

moonfleet
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




ไม่มีสิ่งใดจะเกิดขึ้นมาได้ หากไม่เคยเป็นความฝันมาก่อน
New Comments
Friends' blogs
[Add moonfleet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.