รับน้อง .. นอกรอบเฉพาะกิจ (ภาคจบ)
สวัสดีครับ ความจริงอยากเขียนต่อตั้งนานแล้ว แต่ติดเตรียมงานรับปริญญา และแข่งเชียร์โต้ เลยมาช้าไปหน่อย ไม่ว่ากันนะครับ อิอิ ส่วนใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนแรกตามไปที่นี่เลยครับ ความเดิมตอนที่แล้ว
วันที่สอง อาการมึนเบลอจากการอดนอนเริ่มปรากฎ ออกจากห้องตี5 มาออกกำลังกาย แต่ละคนต้องมานำเพื่อน โดยคิดท่าให้รุ่นพี่ขำ ไม่ขำโดนทำโทษ เสร็จแล้วให้กลับเข้าห้องไปอาบน้ำ มีเวลาสองชม. ทุกคนสลบกันหมด ส่วนผมไม่กล้านอน กลัวจะหลับยาว แล้วก็ได้เวลากินข้าวเช้า พี่ปี2 ออกมาช้าที่สุด โดนลุกนั่ง ด้วยความที่อดนอน พอต้องร้องเพลง TU35 , มอญดูดาว เลยหมดสภาพ ปี2 ขอรุ่นพี่ว่าอย่าทำโทษน้องหนักเลยโดนลุกนั่งแทน ตอนกินข้าว พวกผมต้องนั่งรวมกับรุ่นพี่ ก็กินไปเงียบไปครับ
ทีนี้ถึงเวลาเข้าฐาน แบ่งปี1 เป็นสองทีม ใช้เชือกผูกข้อเท้า แล้วให้เดินไปตักทราย กับหยิบขวด ทุกครั้งที่เดินไม่พร้อมกันเชือกก็รัดมากขึ้น เจ็บเลยครับ ทีมผมชนะทั้งสองรอบ พี่ปี2 ถามว่า คิดยังไงที่ชนะ ไม่สงสารเพื่อนบ้างเลยหรอ รอบต่อไปทีมผมก็เลยบอกเคล็ดลับ แล้วรอเข้าเส้นชัยพร้อมกัน
เกมต่อไป ให้ยืนบนพื้นทรายระดับน้ำแค่เข่า แล้วต้องพาเพื่อนข้ามไปอีกฝั่ง โดยที่เท้าเพื่อนต้องไม่โดนพื้น ไปได้ทีละคน คนที่ข้ามไปแล้วกลับมาอีกไม่ได้ ก็อุ้มเพื่อนไปทีละคน สุดท้ายก็เหลือเพื่อนคนเดียว รุ่นพี่ถามว่า ทำไมไม่ขอความช่วยเหลือ ไม่เห็นความสำคัญของเขาเลยหรอ สุดท้ายก็พาข้ามมาได้ ถึงตอนนี้เราก็ยืนเรียงแถว หันหน้าเข้าหาพี่ปี2 รุ่นพี่ให้ร้องเพลงประจำโต๊ะ คือ โดมในดวงใจ ให้ปี2 ร้องให้ฟังจนกว่าพวกผมจะร้องได้ ด้วยความที่ไม่ได้นอน ร้องจบไปเกือบสิบรอบ ก็ยังร้องไม่ได้ และด้วยเนื้อหาเพลง พวกผมบางคนก็เริ่มน้ำตาซึม รุ่นพี่ถามพี่ปี2 คนนึงว่า.. รักน้องไหม แล้วพี่ตอบว่า รักค่ะ รักมาก พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา สุดท้ายแล้วก็ร้องไม่ได้ รุ่นพี่เลยให้ขึ้นฝั่ง ปิดตาแล้วไปนั่งล้อมวง ดื่มน้ำในขวดทีละคน โดยคนสุดท้ายต้องดื่มให้หมด ผมเป็นคนเกือบสุดท้าย อึกแรกก็แทบสำลัก มันคือเป็ปซี่ใส่เกลือที่ยังเหลืออีกครึ่งขวด กินไปได้สิบอึก เพื่อนที่นั่งต่อจากผมกินไปเยอะมาก ทีนี้ก็เปิดตา แล้วให้ดื่มน้ำเปล่า แต่ละคนแทบจะไม่มองหน้ากัน
เกมต่อไปให้ฟิวเจอร์บอร์ดเจาะรูกับเชือก โดยต้องเอาเชือกผูกฟิวเจอร์บอร์ดกับเอวทุกคน บนฟิวเจอร์บอร์ดมีน้ำหนึ่งกระติก เป็นน้ำที่จะได้กินตลอดบ่ายนี้ เดินถึงอีกฝั่งน้ำก็หกไปเกือบครึ่ง ได้กินคนละอึกสองอึก เสร็จกิจกรรมเข้าฐานก็ไปนั่งคุยกับรุ่นพี่รหัส 40 คุยได้ไม่มากเพราะเหนื่อย ทีนี้รุ่นพี่ก็ให้แบ่งเป็นสองทีม ผูกลูกโป่งที่ขาแล้วเดินคาบช้อนส่งไข่ต้ม แล้วก็เล่นเกมโซน ใบ้คำ กับเกม "ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร" คือแบ่งทุกคนเป็น 4 กลุ่ม แต่ละกลุ่มมีครบทุกชั้นปี แจกกระดาษให้เขียน อย่างกลุ่มผมตอนแรกได้หัวข้อ "ที่ไหน" ก็เขียนว่ากลางวงวอลเล่ แล้วพอรวมกันก็ได้เป็น "พี่หวาน (พี่ปี4 ที่ไซโคน้อง) เต้นฮูลาฮูล่ากลางวงวอลเล่อย่างเซ็กซี่ยั่วยวน (ลาดกระบังที่มารับน้องกำลังเล่นวอลเล่อยู่) ต้องทำจริงด้วย ฮามากครับ ตอนนี้อารมณ์เครียดและกดดันหายไปหมด มาถึงเวลาพักผ่อน ก่อนเริ่มการแสดง ปัญหาคือ ต้องเปลี่ยนการแสดงใหม่ (อันที่เตรียมมาเป็นเกมตอบคำถาม กลัวจะยากเกินไป) เลยทำเป็นละครเกย์ ส่วนพี่ปี2 เต้นเพลงอินเดีย พี่ปี3+4 เลียนแบบรายการกุ๊กกุ๊กกู๋ ขำมากกก จบการแสดงก็แยกย้ายกันเข้านอน ดีใจที่จะได้หลับยาวถึง 9 โมงเช้า
วันที่สาม ถูกปลุกขึ้นมาตั้งแต่ตี4 ทั้งแปดคนมานั่งอยู่ในห้องพักของรุ่นพี่ ล้อมด้วยพี่ปี2,3,4 มาคุยเปิดใจกันทุกเรื่อง ตอนนี้เองที่ผมได้กระเป๋าคืน เสร็จแล้วออกไปนั่งตรงสนามหญ้าให้รุ่นพี่ผูกข้อมือให้ จากนั้นก็เก็บข้าวของขึ้นรถกลับบ้าน กิจกรรมบนรถก็มี ทายชื่อปี1 จากฉายา ร้องคาราโอเกะ แล้วก็แวะซื้อของที่มอเตอร์เวย์ รถจอดส่งพวกเราที่ศูนย์รังสิต และท่าพระจันทร์.. จบเรื่องราวการรับน้องในครั้งนี้ครับ
- - - - - นึกถึงประโยคนึงที่เคยได้ยินนานมากแล้ว .. ไม่มีการทำที่ไม่ได้ ไม่มีการได้ที่ไม่ทำ ..
ณ วันนี้ ผมและเพื่อนร้องเพลง TU35 ด้วยความภาคภูมิใจในงานแข่งเชียร์โต้ ฟังเพลง โดมในดวงใจ และนึกถึงความทรงจำริมทะเลวันนั้น ใช้รหัสประจำตัว ช่วยเพื่อนลงทะเบียนเรียนและตามข่าวต่างๆ สิ่งที่ได้จากการรับน้อง มากมายเกินกว่าจะบรรยายเป็นตัวอักษร พวกเราไม่เคยโกรธรุ่นพี่ เพราะตระหนักแล้วว่า ทุกอย่างมีเหตุและผลในตัวมันเอง
ขอบคุณจากใจครับ
Create Date : 12 สิงหาคม 2548 |
|
49 comments |
Last Update : 12 สิงหาคม 2548 15:14:44 น. |
Counter : 822 Pageviews. |
|
|
|
อยู่ที่คนมอง ว่าจะเห็นหรือเปล่า
แอบรู้สึกแก่ๆ แฮะ