รู้จัก"พิบูลศักดิ ละครพล"

พิบูลศักดิ์ ละครพล
เขาเป็นหลายอย่างในตัวคนเดียว
นักวาด กวี นักเขียน นักรัก นักฝัน
แต่ในสายตานักอ่านนั้นเขาเป็น
“เจ้าชายโรแมนติก”



พิบูลศักดิ์ ละครพล
มาจากหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีแม่น้ำ (หัว) ใจ
ไหลผ่านกลางหุบเขาที่ทอดเทือกจากผีปันน้ำ
กำเนิดทะเลสาบน้ำจืดที่กว้างใหญ่ที่สุด
ในภาคเหนือของประเทศไทย



เรียนศิลปะปนครูอยู่เชียงใหม่
ก่อนข้ามเทือกเขาถนนธงไชย
ไปสอนหนังสือชาวเราและชาวเขา ที่แม่ฮ่องสอน
ก่อนเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ..



หลังจากนั้น ชีวิตผกผัน นักเขียนฝึกหัด
ผู้สื่อข่าวภูธรของหนังสือพิมพ์เดลิไทม์
ถูกการเมืองเตะข้ามฟ้า
ฝ่ามรสุม มาเร่ร่อนหลบเร้นในเมืองใหญ่
ยึดงานเขียนสารคดีเป็นงานหลักเลี้ยงปากท้อง
เคยเป็น บก.นิตยสารสารคดี ‘วันนี้’
บก.สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น นักเขียนประจำในสกุลไทย ขวัญเรือน รจนา หนุ่มสาว แมน เรื่องจริง หญิงไทย วัยหวาน วัยฝัน ใช้ทั้งชื่อนี้และนามปากกา เช่น มาชา
ศรีปฐวี, สัญจร ดาวส่องทาง ฯลฯ



มีผลงานหลากหลายประเภท
เล่มที่นำชื่อเสียงมาสู่เขา เช่น หุบเขาแสงตะวัน
ขอความรักบ้างได้ไหม, สู่อ้อมแขนแผ่นดินล้านนา
ถนนสีแดง , บทกวีจากภูเขา , วัยฝันวัยเยาว์
และอีกมากมายหลายเรื่อง



ปัจจุบัน พิบูลศักดิ์ ละครพล
ยังเป็นผู้พเนจรของหัวใจ ยังคงเดินทางรอนแรม
ยังทำงานเขียน ยังร้องรำทำเพลง ยังนอนทอดหุ่ย
ยังหัวเราะ ยังร้องไห้ และยังมีชีวิตอยู่..









Create Date : 16 เมษายน 2550
Last Update : 5 พฤษภาคม 2550 19:25:41 น. 21 comments
Counter : 1779 Pageviews.

 
ตราบใดที่ยังหัวเราะ และยังร้องไห้ ก็จงอิ่มใจว่า ชีวิตยังคงอยู่...


โดย: คนเลวที่แสนดี วันที่: 23 เมษายน 2550 เวลา:17:06:14 น.  

 
ใช่แล้ว,
-ชีวิต,
ไฉนมิตรเจ้าจะรู้จัก
ในเมื่อมันผ่านไปไม่เคยทัก
ไม่เคยชวนปักหลักร่ำเมรัย
ไม่เคยคบหามิตรสหาย
ไม่เคยเดียวดาย ว้าเหว่ หวั่นไหว
ไม่เคยเปิดห้องหับต้อนรับใคร
ไม่เคยจ่ายหัวใจให้ชีวิต

-จริงอยู่,
บทเรียนรู้ชีวิตแพง
กว่าจะแจ้งความจริง สิ่งถูกผิด
รู้ซึ้งถึงศัตรูและหมู่มิตร
รู้คิด รู้ค่า ราคาคน

แต่ไฉนชีวิตไร้ชีวา
มีเพื่อนมิตรรอท่าทุกแห่งหน
เพียงรู้จักจับจ่ายหัวใจตน
ดั้นด้นเสาะหาคุณค่านั้น

บทนี้ชอบสามท่อนแรก ไม่ชอบท่อนจบ ที่นึกได้นี่ก็เพี้ยนไปจากที่ตีพิมพ์ในขลุ่ยหญ้า งานในชุดนี้ กระจัดกระจายไม่มีเอกภาพ เพราะเขียนในห้วงยามของการร่อนเร่พเนจรไปในสายธารสีน้ำเงิน ฝากให้อ่านเพลิน ๆ จ้ะ คนเลวที่แสนดี


โดย: สัญจร ดาวส่องทาง วันที่: 28 เมษายน 2550 เวลา:23:24:25 น.  

 
"นานเหลือเกินที่เราจากกัน
หยุดอยู่ตรงนั้นฉันขอร้องไห้
ขอร้องให้สากับความอาลัย
วันนี้เธอได้..นำฝันของฉันกลับมา"

ยินดีที่เห็นความเคลื่อนไหวของพี่ปอนค่ะ..เพราะรู้สึกเหมือนจากกันไปนาน..ทั้งๆที่ความจริงไม่เคยพบกัน ..แต่คล้ายผูกพันอยู่ใกล้ ใกล้


โดย: นกแสงตะวัน IP: 203.188.32.63 วันที่: 29 เมษายน 2550 เวลา:22:18:50 น.  

 


ขอต้อนรับการกลับมาค่ะ

จะแวะมาเยี่ยมบ้านนี้บ่อยๆ ค่ะ



ปล.คงจำกันได้นะคะ


โดย: ป้าแอ๊ด (addsiripun ) วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:41:37 น.  

 
แวะมาทักทายครับ รู้สึกเหมือนห่างเหินเนิ่นนานระหว่างกัน หลังจากอ่านชูมานจบเมื่อสิบกว่าปีก่อน ก็ไม่ได้พบปะกันกับพี่ปอนอีกเลย โห..เกินไป ช่วงปี35-36 ได้ฟังเพลงของพี่ปอนสองชุด บทกวีในเสียงเพลง ปกเทปขาว-ดำ เข้มขลังอลังการมากครับ จากนั้นก็เงียบหายไปเลย คือผมเงียบหายจากการติดตามพี่ปอน
กระทั่งวันหนึ่งวันนี้ เดินทางพลัดหลงเข้ามาในโลกไอที ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆว่าจะสามารถพบพี่ได้ที่นี่
มีเรื่องราวมากมายอยากเล่าให้ฟัง แต่ช้าก่อน..คราวหน้าค่อยว่ากันนะครับ


โดย: ไข สังเกต IP: 203.146.63.187 วันที่: 12 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:21:22 น.  

 
ป้าแอ๊ดครับ
ดีใจจังที่ได้เจอกัน ยิ่งกว่าจำได้ครับ
วันหลังจะให้ตัดเชิ้ตมาชารี(ดีไหม) แอบไปเยี่ยมมาแล้ววว

ไข สังเกต
หมายเหตุสังนิด ไข-กันข้อง ว่าตอนนี้อยู่บ้านนอก ไม่สะดวกคุย (แอบมายื้อคอมชาวบ้านเขา)
นะครับ

ก็ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยม


โดย: ปอน ปอน IP: 222.123.215.214 วันที่: 13 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:27:30 น.  

 
ชื่นชมจริง ๆ เลยค่ะ พี่ปอนเป็นผู้ชายที่เก่งมาก ๆ ค่ะ
ภาพตอนเบบี๋ก็น่ารักมากค่ะ เด็ก ๆ สมัยแต่ก่อนโน้นเขามักจะมีพระห้อยคอกันหลายคน สมัยที่ยีนส์เด็ก ๆ พ่อก็โกนผมจุกให้เหมือนเด็กโบราณเลยค่ะ แล้วพ่อก็เอาอะไรไม่รู้เหลือง ๆ มาแปะไว้ที่บนหัวด้วยค่ะ ...ไม่รู้ภาษาไทยเขาเรียกอะไร เพราะรู้แต่ภาษาเขมรค่ะ

เห็นภาพของพี่ปอนตอนเด็กๆ แล้วคิดถึงบรรยากาศเมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมาค่ะ คิดถึงชีวิตความเป็นเด็กของตัวเอง นึกถึงรอยยิ้มเวลาที่พ่ออยากจะดุยีนส์ แต่ท่านก็ไม่กล้าดุค่ะ ...เพราะพ่อสงสารลูกค่ะ แต่ก็โชคดีเพราะยีนส์เชื่อฟังพ่อค่ะ วีถีชีวิตสาวบ้านนาคนนี้ ไม่มีวันลืมวันเก่า ๆ แน่นอนค่ะ

ยีนส์หลงรักบทกลอนที่พี่เขียนมากค่ะ มันดูมีชีวิตเหมือนถูกถ่ายทอดออกมาสด ๆ ค่ะ ไว้เรียนไม่หนักยีนส์จะหาเวลามาเขียนกลอนบ้างค่ะ แล้วจะแวะมาดูผลงานของพี่บ่อยๆ เรื่อย ๆ ค่ะ


ยีนส์ขอให้พี่ปอนมีความสุขมาก ๆ นะค่ะ


โดย: roslita วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:8:29:06 น.  

 
อ่านเงียบๆ
พี่เก่งค่ะ


โดย: สายลม สีเงิน IP: 124.121.37.225 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:25:25 น.  

 
ยังเป็นเจ้าชายพเนจรที่มีความสุข ในการเดินทาง...

ให้พี่ปอนสุขภาพแข็งแกร่ง คร๊าบบบป๋ม



โดย: โมกสีเงิน วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:59:43 น.  

 
ตั้งใจเข้ามาอ่าน
รู้สึกชื่นชมในผลงานของ"คุณพิบูลย์ศักดิ์ ละครพล"


โดย: yawaiam IP: 125.24.134.201 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:54:57 น.  

 
yawaiam
ขอบคุณครับที่เข้ามาอ่าน
ว่างก็แวะมานะครับ ยินดีต้อนรับ


โดย: สัญจร ดาวส่องทาง วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:51:14 น.  

 
แวะเข้ามาทักทายและสวัสดีค่ะ


โดย: นักเดินทางพเนจร (นักเดินทางพเนจร ) วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:11:06:03 น.  

 
ดีใจจังที่เจอพี่ปอนในนี้ เมื่อวันก่อนเพิ่งคุยเรื่องตอนที่เจอพี่ปอนที่งานที่นึง (ขอโทษด้วยคะ จำชื่องานไม่ได้แล้ว) ให้เพื่อนฟังว่าดีใจที่เจอพี่ที่งาน สงสัยเดี๋ยวต้องไปเล่าให้เพื่อนฟังอีกแล้วว่าเจอพี่ในนี้ ช่วงนี้อากาศไม่ค่อยดี พี่ปอนดูแลสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: นิดหน่อยลูกโกศักดิ์ IP: 58.8.171.206 วันที่: 17 มีนาคม 2551 เวลา:17:18:04 น.  

 
ผมมีโอกาสดีที่ค้นเจอหนังสือเก่าเก็บเรื่อง ถนนสีแดง ของคูณปอนโดยบังเอิญ เมื่อหลาย ปีที่ผ่านมา รู้สึกรักงานเขียนของคุณมากๆและ อิ่มใจเมื่อรู้ว่าคุณสุขสบายดีครับ


โดย: ลูกแม่นำใจไหลลงกว๊าน... IP: 118.172.65.34 วันที่: 18 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:00:00 น.  

 
ได้เทปหนึ่งม้วนชื่อชุด มาชารีที่คิดถึง มาเมื่อปี2535
มีแต่เพลงเพราะๆ จึงได้รู้จักพี่ปอน ชอบมากๆ
จนนำชื่อ มาชารี มาตั้งชื่อลูกสาวที่เกิดเมื่อปี 2542


โดย: มาชารี มั่งสมบัติ IP: 125.26.165.252 วันที่: 6 มิถุนายน 2551 เวลา:23:43:44 น.  

 
เมื่อตอนอยู่มัธยมผูกคอซอง..กระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย จำได้ว่าตามอ่านหนังสือของเขาแทบทุกเล่ม..และก็ยังมีหนังสือของเขา 2 เล่มวางอยู่บนโต๊ะ..เพราะไปขุดเจอมาจากแผงหนังสือเก่าที่ท่าพระจันทร์...
ฉันคิดว่าฉันรู้จักเขาดีทางตัวอักษร..ไม่คิดว่าจะได้เจอเขา
ในนี้...ชอบหนังสือทุกเล่มที่เขาเขียน ชอบฟังเพลงที่เขาร้อง
เขาเป็นแบบฉบับของผู้ชายในฝัน..กระทั่งวันนี้ก็ยังมีชื่อเขาในใจอยู่

ตามมาจากบล็อคคุณโดมค่ะ...


โดย: ผู้หญิงที่มาจากโลกสีคราม (girl from sea ) วันที่: 30 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:04:31 น.  

 
ขอบคุณครับทุกท่าน
ทั้งที่ผ่านทางมา ผ่านตา
และผ่านทางมาผ่านใจ
ขอโทษถ้ามิได้ตอบถ้อยทั่วถึง

เข้าใจว่าเข้าใจ



โดย: ปอน ปอน IP: 118.172.131.76 วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:11:20:45 น.  

 
รักและคิดถึงครับ


โดย: ดอกหญ้า IP: 125.26.86.251 วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:14:39:05 น.  

 
สวัสดีค่ะ ไม่อยากจะเชื่อเลย ที่ได้พบคุณอีกบนโลกไซเบอร์
เสียดายเหลือเกิน ที่จดหมายหอมๆที่คุณเขียนด้วยลายมือ
มันหายไปตอนย้ายบ้าน..ชีวิตหลังจากที่ห่างจากการติดต่อคุณไป มันก็พัดเหวี่ยงไปตามกระแสโลก..ทุกครั้งที่ชีวิตหมุนติ้ว..แต่ยังนึกถึงกลิ่นหอมของกระดาษ และถ้อยคำที่ีทำให้พอจะเข้าใจชีวิตมากขึ้น..ที่คุณบอกว่า พ่อแม่รักลูกทุกคน วันหนึ่งเมื่อเราโตได้เป็นพ่อแม่คน วันนั้นเราจะรู้เอง..ความรักที่ยิ่งใหญ่แสนสาหัสอยู่ตรงนั้น...โลกของผู้ใหญ่มันช่างสาหัสเสียจริง

ด้วยความนับถือและคิดถึงเสมอ


โดย: สาวน้อยคนหนึ่ง จาก รร.ชัยนาทพิทยาคม IP: 84.83.21.134 วันที่: 17 มกราคม 2553 เวลา:1:00:31 น.  

 
ช่วยย่อเรื่องวัยฝันวันเยาว์ให้หน่อยได้ไหมครับ?


โดย: นักเรียน คนหนึ่ง IP: 113.53.21.153 วันที่: 20 มิถุนายน 2553 เวลา:21:56:07 น.  

 
ขอบคุณค่ะ...............................


โดย: jingjokDoy วันที่: 30 กันยายน 2554 เวลา:17:33:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สัญจร ดาวส่องทาง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




บ้านความรัก พิบูลศักดิ์ ละครพล w e l c o m e t o P i b u l s a k L a k o n p o l' B l o g s
"พิ บู ล ศั ก ดิ์ ล ะ ค ร พ ล" มีคนถามพิบูลศักดิ์ ละครพล ว่า คุณเป็นอะไรแน่ ? นักเขียน กวี นักดนตรี คนเขียนรูป คนขายฝัน เขาตอบยิ้มๆว่า "ผมเป็นอย่างที่ผมเป็น"....
.............................
"วัยฝัน วันเยาว์"....... เด็ก ๆ จะสร้างบ้านขึ้นด้วยปุยเมฆ เล่นกับก้อนหินที่เก็บมาจากชายหาด เก็บเอาวิชาเลขคณิตไว้ในกระเป๋ากางเกง และฉีกกระดาษสมุดจดงาน มาพับเป็นเรือกระดาษล่องแม่น้ำ....
..........................
"บ้านดวงใจ" นวนิยายที่ทำให้ทุกหัวใจอิ่มเอม และเต็มไปด้วยความสุข เรื่องราวของความรัก ความผูกพันระหว่างพ่อกับลูกสาว ที่ไม่ต้องบอกว่า "รัก" ด้วยคำพูด ....
............................
"ชูมาน" กาลเวลานั้น ไม่สามารถลดทอน ความสวยงาม น่ารัก เหงา เศร้า และสะทกสะเทือนใจ ของนวนิยายเรื่องนี้ได้เลย....
..............................
"ขอความรักบ้างได้ไหม"..... ระหว่างหญิงหนึ่งชายสองที่มาพบกัน มีชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขกันในช่วงสั้นๆ จากฤดูร้อนที่ทองกวาว ฉายฉานเต็มท้องฟ้า ถึงฤดูฝนที่เต็มไปด้วยเมฆสีเทาทึบ ล้วนเป็นคนที่มีหัวใจแตกร้าวมากับครอบครัว..
.....................................
"คือวารวันอันแสนอุ่น" ห้วงความรู้สึกอันงดงามในวันวาน ระหว่างฉันกับผู้ที่ฉันศรัทธา มิตรสหายอันเป็นที่รัก น้องๆในวงการนักเขียน และเพื่อนร่วมร้องรำทำเพลง ....
.......................................
Group Blog
 
 
เมษายน 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
16 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สัญจร ดาวส่องทาง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.