Ramen King @ A Square ซอยสุขุมวิท 26

สวัสดีค่ะ วันนี้ขอพาทุกท่านไปชม ไปชิมราเมงร้านเปิดใหม่กับแหม่มค่ะ ร้านนี้สาขาเดียวกับ MENYA KOUJI สุขุมวิท 39 ตรง 39 Boulervard Bldg. เลยนะคะ (อิอิ จำน้องพนักงานญี่ปุ่นและเค้าบอกมา)
สำหรับแหม่มไป 2 วันติดกันเลยนะ เนื่องจากวันแรกไปร่วมเปิดร้านกับทีมงานวงใน Wongnai และ วันที่สองได้บัตร VIP 2 ใบ และ ได้จากลงทะเบียนชิงรางวัลทานฟรีกับ Facebook
ของทางร้านอีก 1 ใบค่ะ

ดังนั้น ขอรีวิวรวบยอด 2 วันติดเป็นรีวิวเดียวกันเลยนะคะ เพราะได้ชิมหมดทุกร้านแล้วค่ะ และ รสชาติความอร่อยก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวด้วยนะคะ




บรรดาเจ้าของร้านมายืนให้ถ่ายรูปกันค่ะ



ชื่อร้าน Ramen King มาถูกแล้วค่ะ



หลังจากเห็นตัวจริงเชฟแล้ว ก็มาถ่ายรูปที่อยู่หน้าร้านบ้างค่ะ



รูปเชฟอีกฝั่งนึงค่ะ



บัตร VIP ที่ได้จาก Wongnai ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ


Ramen King มีร้านราเมงทั้งหมด 5 ร้านกับ 1 ร้านอาหารญี่ปุ่น ได้แก่

1. ร้าน TONKOTSU ITTO โดย Chef Yukihiko Sakamoto
2. ร้าน MISOBANCHO โดย Chef Masakatsu Chiyoda
3. ร้าน MIYAMOTO โดย Chef Ryutaro Miyamoto
4. ร้าน BUTAOU โดย Chef Toshikazu Yoneda
5. ร้าน JYOSHOKEN โดย Chef Koichi Horikawa
6. ร้าน UOMASA (อาหารญี่ปุ่น)

ราเมงมีหลากหลายชนิดแตกต่างกันตามภูมิภาค โดยชนิดของราเมงจะแบ่งตาม เส้นก๋วยเตี๋ยว เนื้อ และน้ำซุป สามอย่างนี้เป็นหลัก
ตัวอย่างของราเมง ได้แก่ โชยุราเมง (ราเมงซีอิ๊ว), มิโซะราเมง, บันชูราเมง, ทะกะยะมะราเมง, โอโนะมิจิราเมง และ ชาชูราเมง

งั้นมาชมทีละร้านเลยนะคะ




ร้านที่ 1 - TONKOTSU ITTO โดย Chef Yukihiko Sakamoto
เป็นราเมงซุปกระดูกหมูของจังหวัดฮะคะตะ ที่รวมเอาความอร่อยและกลมกล่อมเข้าไว้ด้วยกัน เริ่มจากการต้มกระดูกหมูในส่วนขาและศรีษะก่อน หลังจากที่รสชาติเริ่มออกแล้วก็เพิ่มกระดูกส่วนหลังเข้าไป
โดยเคี่ยวนานกว่า 12 ชั่วโมง ส่วนเส้นราเมงจะเป็นเส้นเล็ก ทานง่ายอร่อยดีนะคะ



ร้านที่ 1 - TONKOTSU ITTO โดย Chef Yukihiko Sakamoto



เมนูของทางร้าน จริงๆ มีหลายเมนูเลยค่ะ



เมนูนี้ถ่ายจากไอโฟน สีสดใสมากเลยค่ะ เส้นเล็กน่าทาน



ซูมกับแบบชัดๆ ขอบอกว่าหมูนุ่มมากเลยค่ะ แทบละลายในปาก



อร่อยหรือไม่ ให้ชมผลงานค่ะ ซดจนน้ำซุปจะหมดชามกันเลยทีเดียว ^__^




ร้านที่ 2 - MISOBANCHO โดย Chef Masakatsu Chiyoda
เป็นร้านราเมงซุปกระดูกหมูมิโซะรสกลมกล่อม ซึ่งกำเนิดจากจังหวัดฮอกไกโด ที่เป็นที่คุ้นเคยที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นอีกชามที่สามารถปรุงแต่งรสชาติให้ออกมาได้กลิ่นหอมของมิโซะที่กำลังพอดีเลยค่ะ
และในวันเปิดงาน ร้านนี้ได้รับคัดเลือกจากนักชิมทั้งหลายให้เป็นร้านที่อร่อยที่สุดในบรรดา 5 ร้านที่ร่วมรายการ



ร้านที่ 2 - MISOBANCHO โดย Chef Masakatsu Chiyoda



ชามนี้ได้ชิมในวันเปิดร้านค่ะ อร่อยมาก น้ำซุปเข้มข้นเลยค่ะ


Special Miso Ramen มิโซะราเมงสเปเชี่ยล อร่อยค่ะ น้ำซุปกลมกล่อมมาก ชามนี้ได้ชิมอีกวันนึงค่ะ




ร้านที่ 3 - MIYAMOTO โดย Chef Ryutaro Miyamoto
เป็นราเมงที่น้ำซุปอร่อย ไม่ได้บอกว่ามาจากจังหวัดไหนนะคะ อิอิ หน้าตาอาจจะดูรสชาติเข้มข้นมากเลยนะคะ
(วันที่ไปทานรสชาติออกเค็มมากเลยค่ะ) แต่พอหากไม่นับรสชาติ ทานง่าย หมูชาชูนุ่มมากค่ะ



ร้านที่ 3 - MIYAMOTO โดย Chef Ryutaro Miyamoto



ส่วนตัวนะคะ วันที่ไปทานรสชาติออกเค็มมากเลยค่ะ แต่น้องๆ ไปทานวันอื่นบอกว่าอร่อยอยู่นะ
ขออภัยค่ะ ภาพไม่ค่อยชัดถ่ายด้วยไอโฟนแบบรีบๆ >_<




ร้านที่ 4 - BUTAOU โดย Chef Toshikazu Yoneda
เป็นราเมงแนวสุกี้ยากี้ค่ะ รสชาติน้ำซุปจะออก “รสหวาน” กลมกล่อม ร้านนี้มีการเปลี่ยนรสชาติความหวานโดยการเพิ่มไข่ลวกออนเซนหรือเพิ่มความเผ็ดลงไปค่ะ
ลอง 2 แบบแล้วอร่อยค่ะ แนะนำ เพราะชอบมากที่สุดในบรรดา 5 ร้านทั้งหมด



ร้านที่ 4 - BUTAOU โดย Chef Toshikazu Yoneda



มีท๊อปปิ้ง ให้เลือกเพียบเลยนะคะ แต่เสียตังส์เพิ่มนะตัวเอง



สุกี้ยากี้ราเมง ที่ไปทานวันเปิดร้าน น้ำซุปกลมกล่อม อร่อยโดนใจมากเลยค่ะ



สุกี้ยากี้ราเมง ไปทานอีกวัน ขอชิมของน้อง น้ำซุปก็ยังโดนใจเหมือนเดิมค่ะ



คิงราเมงรสเผ็ด ขอบอกว่ารสชาติเผ็ดสะใจดีแท้ แม้รสชาติจะมีเปลี่ยนไปแต่ยังคงอร่อยดังเดิม ชอบค่ะ



ซูมให้เห็นเส้นที่เหนียวนุ่มอร่อย กับ คิงราเมงรสเผ็ดค่ะ




ร้านที่ 5 - JYOSHOKEN โดย Chef Koichi Horikawa
จุดเด่นของร้านอยู่ที่น้ำซุปค่ะ เป็นน้ำซุปที่ทำจากกระดูกหมูและสัตว์ทะเล ใช้เวลาเคี่ยว 3 วันกันเลยทีเดียว และที่แนะนำเลยคือเมนูที่ชื่อว่า “TSUKEMEN (สีเคะเมง)” เส้นราเมงแบบใหญ่มาก มีกลิ่นหอมของข้าวสาลี



ร้านที่ 5 - JYOSHOKEN โดย Chef Koichi Horikawa



เชฟของร้านค่ะ ยังเด็กๆ อยู่เลย



ขอบอกว่า ราเมงร้านนี้เข้มข้นสุดๆ เลยค่ะ เมื่อทานพร้อมเส้นแบบใหญ่ก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ ชอบน้ำซุปนะ



และ ร้านที่ 6 - UOMASA (อาหารญี่ปุ่น) เป็นแนว Izakaya ค่ะ ร้านนี้ยังไม่ได้ลองทานเลยค่ะ ไว้ต้องไปลองครั้งหน้า



ร้านที่ 6 - UOMASA (อาหารญี่ปุ่น) แต่ละเมนูก็น่าลองทานนะคะ



ขั้นตอนร้านนี้เค้าทันสมัยดีนะคะ
ก่อนเข้ามาในร้านเราจะได้บัตรมา 1 ใบ มีตัวเลขกำกับของแหม่มได้เลข 135 (ไม่เกี่ยวกับคิวนะคะ) เพื่อนำไปสั่งอาหารค่ะ แล้วทางร้านจะเอาไปสแกนแล้วก็จะให้อุปกรณ์เพื่อรับคิวราเมงค่ะ



บัตร No. 135 ค่ะ ที่เราไปซื้อร้านไหนก็จะมีราคา จำนวน เก็บอยู่ในบัตรทั้งหมด



อุปกรณ์รับคิวอาหาร และ การใช้งาน
อุปกรณ์นี้เริ่มมีเยอะขึ้นแล้วนะคะสำหรับร้านญี่ปุ่น เมื่อเราไปสั่งราเมงก็จะได้เจ้าตัวนี้มาค่ะ มันจะกระพริบเพื่อสตาร์ทคิวหลังจากที่เราสั่ง
เราสามารถหยิบเจ้าตัวนี้ไปไหนก็ได้ภายในร้าน เมื่อถึงคิวของเรา ก็จะมีไฟแดงวิ่งๆ รอบตัวเครื่อง แถมสั่นด้วย ๕๕๕ จากนั้นเราก็เอาเจ้าตัวนี้ไปรับราเมงที่สั่งไว้มาทานค่ะ อ้อ อย่าไปผิดร้านนะคะ อิอิ

** หากยังไม่เข้าใจ ด้านหลังเป็นวิธีใช้นะคะ แต่แหม่มไม่ได้ถ่ายมา (ลืม) **



อุปกรณ์คิว จะวางไว้ที่ร้านแบบนี้ค่ะ



อุปกรณ์แบบชัดๆ เมื่อคิว ก็จะมีไฟแดงวิ่งๆ รอบตัวเครื่อง แถมสั่นด้วยค่ะ



เมื่อทานเสร็จก็นำบัตรเพื่อไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์นี้ค่ะ



ก่อนออกจากร้าน ก็ขอถ่ายรูปบรรยากาศร้านให้ชมกันสักหน่อยค่ะ



มีภาพวัวที่บอกตำแหน่งว่าเนื้อส่วนใดมาจากไหนด้วยค่ะ



ราเมง 60 ปี จำไม่ได้แล้วค่ะว่ามาจากร้านไหน ลองชิมแล้วอร่อยดีนะคะ



Ramen King ตั้งอยู่ที่ A Square อยู่ซอยสุขุมวิท 26 นะคะ

- ถ้ามาทางสุขุมวิท ก็สามารถนั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีพร้อมพงษ์ แล้วก็นั่งมอเตอร์ไซด์ ไปอีก 20 บาทค่ะ
- ถ้ามาทางพระราม 4 ร้านจะอยู่ข้างๆ บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า พระราม 4 เลยค่ะ เดินเข้าซอยไปนิดเดียวค่ะ


หากท่านใดแวะเวียนไปแถว A Square ซอยสุขุมวิท 26 ก็ไปลองทานกันได้นะคะ แล้วมาบอกด้วยว่าชอบของร้านไหนมากที่สุด ^__^

Create Date : 23 มกราคม 2557 Last Update : 23 มกราคม 2557 14:43:42 น. Counter : 8701 Pageviews.		17 comments
Share Tweet