Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
ทดสอบการสร้างบล็อคของช้าน
รับน้อง...ส่องทาง
เกาหลี กับการเที่ยวคนเดียวครั้งแรกในชีวิต
โตเกียว ครั้งแรก ตัวคนเดียว
กับหนังบางเรื่องที่ยังอิน
บ่น ๆ เพ้อเจ้อ เล่าโน่น เล่านี่ไปเรื่อย
สิงคโปร์คนเดียวครั้งแรก แถมนัดหนุ่มที่นั่นมาเที่ยวด้วย
เรื่องที่มันผ่านไปแล้ว อ่านไปตอนนี้มันไม่ดีอ่านะ
มิตรภาพฟูฟ่อง...ที่ฮ่องกงครั้งแรก ตัวคนเดียว
เที่ยวคนเดียวในมาเลย์...ไม่เก๋อย่างที่คิด
เที่ยวคนเดียวในเมืองฝรั่ง และการเจอหนุ่มตี๋หลาย ๆ คนจาก dating app
<<
ธันวาคม 2557
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
7 ธันวาคม 2557
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 7 ประทับใจกับจิตสำนึกของเด็กญี่ปุ่นที่เราไม่เคยถูกสอน
All Blogs
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 13 วันสุดท้ายในโตเกียว วัดเซ็นโซจิและสวนอุเอโนะ
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 12 ไต้ฝุ่นเข้า เลยต้องเข้าดองกี้แทนตลาดนัดแบกะดิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 11 ให้คนญี่ปุ่นพาเที่ยวเข้าไปในยิมที่เด็กม.ปลายกำลังแข่ง
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 10 พาไปเดินเล่นในสวนพร้อมพาช้อปย่าน KICHIJOJI
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 9 เจอหนุ่มในฝันบนรถใต้ดิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 8 เทศกาลน่ารักที่ประทับใจที่สุดในทริปนี้
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 7 ประทับใจกับจิตสำนึกของเด็กญี่ปุ่นที่เราไม่เคยถูกสอน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 6 ขึ้นรถไฟใต้ดินชั่วโมงเร่งด่วนเป็นครั้งแรก
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 5 วัฒนธรรมภายในบ้านคนญี่ปุ่นที่เราไปค้างด้วย
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 4 นัดเจอและเข้าไปนอนบ้านคนไม่รู้จักฟรี ๆ คืนแรก
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 3 เย็นวันแรกที่สถานีโตเกียว
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 2 เรื่องเล่าในสนามบินและบนเครื่องบิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 1 การเลือกที่พัก
ในที่สุด เราก็ทำแผนเที่ยวโตเกียวครั้งแรกคนเดียวเสร็จแล้ว สำหรับคนชอบเที่ยวสวนและตลาดนัดอย่างเรา
จะไปเที่ยวโตเกียวครั้งแรก แถมไปคนเดียว สนใจไม่กี่อย่างแต่สถานที่มันเยอะเหลือเกิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 7 ประทับใจกับจิตสำนึกของเด็กญี่ปุ่นที่เราไม่เคยถูกสอน
เพื่อความต่อเนื่อง
ไปอ่านตอนก่อน ๆ ได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้จ้ะ
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 1 การเลือกที่พัก
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 2 เรื่องเล่าในสนามบินและบนเครื่องบิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 3 เย็นวันแรกที่สถานีโตเกียว
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 4 นัดเจอและเข้าไปนอนบ้านคนไม่รู้จักฟรี ๆ คืนแรก
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 5 วัฒนธรรมภายในบ้านคนญี่ปุ่นที่เราไปค้างด้วย
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 6 ขึ้นรถไฟใต้ดินชั่วโมงเร่งด่วนเป็นครั้งแรก
หลังจากช่วงเช้าเราไปชมสวนกันแล้ว
ตอนเที่ยง เราก็อยากจะไปชมสถานีรถไฟบ้าง
จริง ๆ เมื่อคืนก็นัดเจอโฮสที่สถานีนี้นะ แต่มันดึกแล้วเลยไม่เห็นสถาปัตยกรรมใด ๆ เลย
วันนี้เลยต้องมาจัดซะหน่อย กับสถานีโตเกียว
จุดเชื่อมต่อรถไฟและรถทัวร์หลายสาย จอกแจก จอแจดีนักแล
แต่ตอนนี้มันตอนเที่ยง คนก็ไม่พลุกพล่านเท่าไหร่
ได้ถ่ายรูปท่ามกลางอากาศร้อนสะบัดไม่ต่างจากเมืองไทย
แต่ก็ใหญ่โตสวยจริง อะไรจริง ทั้งภายนอกและภายใน ตะวันตกดีจริง ๆ
ภายในสถานีจะคล้าย ๆ ห้างหรือช้อปปิ้งพลาซ่าเลย มีร้านอาหารเล็กใหญ่มากมาย
รวมถึงร้านสะดวกซื้อทั้งหลาย
แล้วสถานีแห่งนี้นี่เองที่เราได้เก็บแต้มชาเขียวอีกอย่างนึงของเราแล้ว
นั่นก็คือ ชาเขียวนมร้าน Lawson แอบแพงเหมือนกันนะ แก้วละเกือบร้อย
แต่อร่อยหอมชาเขียวสุด ๆ ฟินกันไป
อ้อ ในสถานีมีร้านอาหารเล็ก ๆ อยู่หลายร้าน
1 ในนั้นมีร้านอาหารไทยด้วยนะ ที่เหล่าคนไทยขาย
เวลาเที่ยงร้านไหนก็แน่น ร้านอาหารไทยร้านนี้ก็แน่นเหมือนกัน
แต่แพงอ่ะ ไม่ซื้อหรอก 555
ในสถานีนี้ มีโถงนั่งเล่นให้คนมานั่งอ่านหนังสือ พักผ่อนหย่อนใจโดยไม่คิดค่าบริการด้วยนะ
แล้วเวลานั้น เค้ากำลังจัดกิจกรรมพอดี เกี่ยวกับลดโลกร้อน ความเขียวอะไรซักอย่างเนี่ยแหละ
เราก็เลยเข้าไปนั่ง ๆ สังเกตเก็บข้อมูลเนียน ๆ แต่เสียดาย ไม่มี wifi ไม่งั้นคนคงจะนั่งกันไม่ลุกทั้งวัน เอ๊ะ หรืออาจจะไม่ คนญี่ปุ่นนะ ไม่ใช่คนไทย เค้ารับผิดชอบต่อส่วนรวมจะตาย ฮา ๆ
เดินไปเดินมา ถ่ายรูปไป ถ่ายรูปมาเริ่มหิว
ก็มันเกือบบ่ายโมงแล้วแล้วนี่
แต่กินที่สถานีนี้คงไม่ไหว ดูทุกอย่างเป็นราคาพนักงานออฟฟิศหมดเลย
อย่ากระนั้นเลย
เราไปหาราคานักศึกษากินดีกว่า
เพราะที่เที่ยวต่อไปของเราคือ มหาลัยโตเกียว หรือ โทไดนั่นเอง
คือเราเป็นโรคจิตนะ
ไปประเทศไหนก็อยากไปเที่ยวมหาลัยและแหล่งช้อปปิ้งย่านมหาลัยของประเทศนั้น
แล้วก็คิดไม่ผิดซะด้วย
เพราะตอนไปเกาหลีคนเดียว ก็มหาลัยอีฮวา แหล่งช้อปปิ้งเสื้อผ้าแฟชั่นน่ารักเหมือนหน้ารามเลย ราคาก็เป็นมิตรสำหรับนักศึกษา
มามหาลัยโตเกียวก็เช่นกัน แต่มันไม่มีอะไรขายเลยนอกจากอาหาร (หรือเราไปไม่ถูกแหล่งก็ไม่รู้)
อันนี้บรรยากาศภายในรถไฟใต้ดิน
วัยรุ่นญี่ปุ่น หุหุ
วัยทำงานญี่ปุ่น รถไฟใต้ดิน แต่บางครั้งก็ขึ้นมาบนดิน มีมืด มีสว่าง
อันนี้สองข้างทางระหว่างทางไปถึงมหาลัย
หนุ่ม ๆ เพียบ ถูกใจเจ๊ม๊วก เจ๊ถ่ายไม่ยั้ง กดไปเป็นร้อยรูป ฮา ๆ
ก่อนไปถึงมหาลัย เราก็ไปเดินหาของกินราคานักศึกษากันก่อน
เดินไปหลายร้าน ราคาก็ไม่ได้นักศึกษามากนัก คิดเป็นเงินไทยก็ชามละ 200 กว่าบาทอัพทั้งนั้นเลย
เลยมาจบลงตรงที่ร้านอะไรก็ไม่รู้ คล้าย ๆ Akiyoshi ถูกไม่ค่อยแพง ชามละไม่ถึง 200 บาท
เข้าไปถึง ไม่ต้องสั่งจ้า มีตู้ให้กดหน้าร้านเลย แต่ต้องเปิดประตูเข้ามาในร้านก่อนนะ
สั่งกันไปคนละ 1 ชามให้พอมีแรงเดินต่อ แล้วเราก็ไปหาเด็ก ๆ มหาลัยกัน
ระหว่างทางก็มองถนน มองพื้นฟุตบาททางเดินอันเรียบที่บ้านฉันไม่เคยมีไปเรื่อย ๆ เพลินมาก
เราชอบญี่ปุ่นแม้กระทั่งฝาปิดท่อระบายน้ำของเค้านะ
ที่มันไม่เหมือนกันเลย (แอบโฆษณารองเท้า TOMS ใส่สบายมากจริง ๆ เราเดิน 8-9 ชั่วโมงต่อเนื่องที่ญี่ปุ่น ไม่เมื่อย ไม่ปวดหลังเลย เราเท้าแบน แต่มันใส่สบายมาก เสียอย่างเดียวมันอับ ถอดออกตอนเข้าบ้าน จะเป็นลม เท้าอบอยู่ในรองเท้าหน้าร้อน 8-9 ชั่วโมง มิอาจจะบรรยายกลิ่นได้เลย ฮา ๆ)
มองฟุตบาธไม่นาน ก็กลับมามองเด็กหนุ่มดีกว่า ฮี่ ๆ
วันนี้เราโชคดีมาก
เพราะเป็นวัน open house ของมหาลัยพอดี
เลยได้เห็นเด็กม.ปลายมาดูมหาลัยเยอะไปหมด
วันอื่นมหาลัยจะร้าง เพราะมันปิดเทอมอยู่ แต่วันนี้คึกคักมาก เจ๊ก็คึกคักเหมือนกัน กดไม่ยั้งหลายร้อยรูปจ้ะ ก๊าก ๆ
เด็ก ๆ ก็มาถ่ายกับประตูแดงกันทุกคน
บรรยากาศภายในมหาลัยโทได
ที่เราอยากไปโทไดเพราะภาพตึกนี้ในหน้าหนังสือท่องเที่ยวมันช่างน่าดึงดูดยิ่งนัก ดูขลังและดูยุโรปดี
เดินไปเรื่อย ๆ ท่าทางจะไม่ถึงตึก ถึงแต่หนุ่มแน่เลยชั้น
อย่ากระนั้นเลย เราไปถามรุ่นพี่มหาลัยนี้กันดีกว่าว่าตึกนั้นอยู่ที่ไหน
รุ่นพี่ก็แต่งตัวได้แนวมาก เลยขอแชะภาพมาจั๊กหน่อย
อยากไปเห็นกับตาว่าสถาปัตยกรรมของจริงจะยิ่งใหญ่อลังการขนาดไหน
แต่พอไปถึง
เรากลับไปเห็นภาพนี้
ซึ่งในความโชคดีได้เจอเด็กหนุ่มเยอะแยะ
เราก็โชคร้ายเพราะตึกนี้มันปิดซ่อมไปซะนี่
เราก็เลยเดินเล่นในมหาลัยต่อ
โอ้ว มหาลัยเค้ากว้างมากเลย เห็นใหญ่ ๆ นี่นึกว่าจะหมด
ไม่ใช่จ้ะ มีด้านข้าง ด้านหลังอีกจ้ะ เอาให้ครบ แต่ก็เดินไม่ครบหรอก
เพราะมันใหญ่มาก และอากาศร้อนมาก แต่ว่าภายในมหาลัยจะมีต้นไม้เยอะก็ตาม
เราไปดูรอบ ๆ มหาลัยกัน
หลังจากเดินรอบมหาลัยร่วม 2-3 ชั่วโมงได้
ก็ได้เวลาเคลื่อนย้ายตัวเองไปศาลเจ้าที่สุดท้ายของวันนี้กันดีกว่า
บ๊าย บาย โทได ขอแชะก่อนจากกัน
ระหว่างทางจากมหาลัยโตเกียวไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน
เราก็เดินตามฝูงเด็กม.ปลายที่เค้าจะเดินทางไปใต้ดินเหมือนกัน
พอไปถึงตรงประตูจะติ๊ดบัตรเข้าน่ะ
เราก็แปลกใจนะ ว่า
ทำไมฝูงเด็กนักเรียกถึงเข้าคิวเรียงหนึ่งที่ทางเข้าช่องเดียวขวาสุดจาก 3 ช่องทางเข้า
เราก็เลยแซงขึ้นไปเข้าอีก 2 ช่องที่เหลือได้อย่างไม่ต้องต่อคิว
(เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู เพราะเราไม่ต้องไปต่อคิวแบบเด็ก ๆ เลยฉลุยเลยไม่ทันได้ควักกล้องขึ้นมาถ่าย)
มาเข้าใจทีหลังว่า
เค้ามาด้วยกัน จิตสำนึกของเด็กญี่ปุ่นที่ถูกสอนกันมาก็คือ
อย่าบล็อคทางเข้าถ้ามาเป็นกลุ่ม
คือจริง ๆ แล้ว ถ้าเค้ามากัน 10-20 คน
เค้าสามารถกรูกันต่อคิวรอติ๊ดบัตรเข้าได้ทั้ง 3 ช่องอย่างที่เด็กไทยหรือคนไทยทำกัน
แล้วค่อยเข้าไปรอกันด้านใน
แต่นี่เค้าไม่ทำ
เค้าจะเข้าคิวเรียงช่องเดียว ทั้ง 10-20 คนเลย
แล้วปล่อยให้คนอื่นได้ใช้ช่องที่เหลือได้โดยเร็ว
เฮ้ย อเมซิ่ง ไม่เคยถูกสอนแบบนี้มาก่อน และไม่เคยเห็นแบบนี้ในประเทศไทย
ประทับใจมากกก ประทับใจสุด ๆ อยากให้คนไทยมีจิตสำนึกถึงส่วนรวมแบบคนญี่ปุ่นจังเลย
คนญี่ปุ่นเค้าคำนึงถึงส่วนรวมในทุกอณูตั้งแต่เด็กกันเลยจริง ๆ
เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่ประทับใจในความเป็นญี่ปุ่นอย่างที่สุดแล้วในการเดินทางครั้งนี้
ไม่ใช่ว่าวันอื่นไม่ดีนะ แต่แบบนี้เราไม่เคยเจอและไม่เคยถูกสอน
เราเลยรู้สึกว่ามัน touch มาก ๆ ในความรู้สึกของเรา
เรากลับมาเล่าให้โฮสญี่ปุ่นรุ่นเดียวกับเราฟัง
เค้าก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันแปลกประหลาดอะไร เหมือนมันเป็นเรื่องปกติธรรมดาสามัญมาก ๆ
เพราะเค้าถูกสอนกันมาแบบนี้ตั้งแต่เด็กแล้ว
แต่เราประทับใจมาก มากจนจดจำเหตุการณ์วันนั้นได้ทุกช็อตเลยทีเดียว
เลยขอลาไปด้วยเหตุการณ์ธรรมดา ๆ ของเด็กญี่ปุ่นอันนี้แล้วกัน
แล้วเดี๋ยวบล็อคหน้าจะมาเล่าเรื่องที่ไปศาลเจ้ากับเทศกาลที่ศาลเจ้าที่เจอโดยบังเอิญกลับกลายเป็นที่เที่ยวที่ประทับใจที่สุดในโตเกียวเลย
ปล.บล็อคเราจะเน้นรูปเยอะ โดยเฉพาะผู้คนเดินถนน หนุ่มสาวออฟฟิศญี่ปุ่นนะคะ
เพราะเป็นรูปที่เราอยากเห็นจากบล็อคอื่น แต่หาแทบไม่เจอ ส่วนใหญ่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซะมากกว่า แต่เราชอบดูหน้าตาคนในประเทศนั้น ๆ แล้วดูว่าเค้าแต่งตัวกันยังไง ถ้าใครชอบเหมือนเราก็ติดตามกันเรื่อย ๆ ได้นะคะ รับรองว่ามีรูปหนุ่มสาวออฟิศญี่ปุ่นมาให้ดูเพียบเลย โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ ซาลาริมังอายุไม่เกิน 35 สเป๊กเจ้าของบล็อค
ติดตามอ่านแต่ละตอนได้ตามลิงค์ด้านล่างนะคะ
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 1 การเลือกที่พัก
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 2 เรื่องเล่าในสนามบินและบนเครื่องบิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 3 เย็นวันแรกที่สถานีโตเกียว
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 4 นัดเจอและเข้าไปนอนบ้านคนไม่รู้จักฟรี ๆ คืนแรก
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 5 วัฒนธรรมภายในบ้านคนญี่ปุ่นที่เราไปค้างด้วย
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 6 ขึ้นรถไฟใต้ดินชั่วโมงเร่งด่วนเป็นครั้งแรก
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 7 ประทับใจกับจิตสำนึกของเด็กญี่ปุ่นที่เราไม่เคยถูกสอน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 8 เทศกาลน่ารักที่ประทับใจที่สุดในทริปนี้
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 9 เจอหนุ่มในฝันบนรถใต้ดิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 10 พาไปเดินเล่นในสวนพร้อมพาช้อปย่าน KICHIJOJI
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 11 ให้คนญี่ปุ่นพาเที่ยวเข้าไปในยิมที่เด็กม.ปลายกำลังแข่ง
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 12 ไต้ฝุ่นเข้า เลยต้องเข้าดองกี้แทนตลาดนัดแบกะดิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 13 วันสุดท้ายในโตเกียว วัดเซ็นโซจิและสวนอุเอโนะ
Create Date : 07 ธันวาคม 2557
Last Update : 25 พฤษภาคม 2558 19:14:43 น.
2 comments
Counter : 1967 Pageviews.
Share
Tweet
สุขสันต์วันเกิดค่ะ
ขอให้มีความสุขมากๆ คิดสิ่งใดขอให้สมปรารถนา
มีความก้าวหน้าทั้งในชีวิตและหน้าที่การงาน
สุขภาพแข็งแรงตลอดปี และตลอดไปค่ะ
โดย:
pantawan
วันที่: 8 ธันวาคม 2557 เวลา:22:38:23 น.
สวัสดีค่ะลีลี เข้ามาเยี่ยม blog อีกที ลีลีรีวิวเป็นอันที่ 7 แล้ว (โนบุดูรูปไม่ได้เลยอ่ะจ้ะ เราลิงค์ไปที่ภาพแล้ว ลองกับคอมทั้งที่บ้านและที่ทำงานแล้วค่ะ รูปไม่ยอมขึ้นเลย)
เรื่องการปลูกฝังจิตสำนึกสาธารณะให้กับเด็กๆญี่ปุ่นตั้งแต่เล็กๆนี่เราเห็นด้วยกับลีลีมากเลยค่ะ ชื่นชมระเบียบวินัยเค้ามากเลย
โดย:
nobuta wo produce
วันที่: 16 ธันวาคม 2557 เวลา:4:55:37 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [
?
]
ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ขอให้มีความสุขมากๆ คิดสิ่งใดขอให้สมปรารถนา
มีความก้าวหน้าทั้งในชีวิตและหน้าที่การงาน
สุขภาพแข็งแรงตลอดปี และตลอดไปค่ะ