Group Blog
 
<<
มกราคม 2558
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
27 มกราคม 2558
 
All Blogs
 
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 10 พาไปเดินเล่นในสวนพร้อมพาช้อปย่าน KICHIJOJI

เพื่อความต่อเนื่อง
ไปอ่านตอนก่อน ๆ ได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้จ้ะ


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 1 การเลือกที่พัก



เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 2 เรื่องเล่าในสนามบินและบนเครื่องบิน


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 3 เย็นวันแรกที่สถานีโตเกียว


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 4 นัดเจอและเข้าไปนอนบ้านคนไม่รู้จักฟรี ๆ คืนแรก



เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 5 วัฒนธรรมภายในบ้านคนญี่ปุ่นที่เราไปค้างด้วย


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 6 ขึ้นรถไฟใต้ดินชั่วโมงเร่งด่วนเป็นครั้งแรก


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 7 ประทับใจกับจิตสำนึกของเด็กญี่ปุ่นที่เราไม่เคยถูกสอน


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 8 เทศกาลน่ารักที่ประทับใจที่สุดในทริปนี้


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 9 เจอหนุ่มในฝันบนรถใต้ดิน



หลังจากเมื่อเช้าพาไปเจอหนุ่มในฝัน พร้อมสวนในฝันไปแล้ว
ช่วงบ่ายนี้เราจะพาไปเดินเล่นย่าน KICHIJOJI กัน
ลงรถไฟมาก็เจอห้างและผู้คนเลย
ซึ่งห้างเนี่ย เราเมินอยู่แล้ว เพราะเราอยากเที่ยวแต่สวน
ดังนั้น สถานที่หลักของเราบ่ายวันนี้คือ สวน Inokashira Park ที่อยู่ใน KICHIJOJI

แต่ก่อนจะไปถึงสวน
เรามาหาหนุ่ม เอ้ย อาหารกินกันก่อน
แต่ก่อนจะเจออาหาร เราก็เจอหนุ่ม ๆ รายทางเป็นออเดิฟก่อนนะแจ๊ะ

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


อ๊ากกกกกกกกกกกกกก
หนุ่มน้อยคนนี้หน้าตาน่ารักถูกใจอิป้าขนาดดดด
กล้องก็ดีเหลือเกิ๊น ได้ตอนน้องเค้าเดินมาใกล้พอดี
ถ้าโฟกัสช้ากว่านี้แค่เสี้ยววินาทีจะไม่ได้ภาพนี้มานะแจ๊ะ

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

ถึงกับตามน้องน่ารักคนนั้นมาเลยทีเดียว
อยากรู้ว่าน้องเค้ากินร้านไหน (ม่ายช่าย)
จริง ๆ แล้วคือ เราเดินกลับมาหาร้านกินข้าวน่ะ
เจอกลุ่มน้องคนมะกี๊เค้าเลือกร้านอยู่พอดีเลยแชะอีกรอบ

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


เราเดินกันไปเดินกันมา
แล้วมาจบลงที่ร้านซูชิสายพานราคาถูก (บอกแล้วว่าทริปนี้มาคนเดียว เน้นถูกเป็นหลัก นอนก็ฟรี แถมยังจะกินถูกอีก ฮา ๆ)
เข้าไปเหมือนทุกคนรู้หน้าที่ว่าต้องทำยังไง
ผิดกับเรา เงอะ ๆ งะ ๆ อยู่เมืองไทย กินที่ไหนร้านอาหารญี่ปุ่นสายพานแบบนี้
กินแต่ก๋วยเตี๋ยว ข้าวหมูแดงข้างทาง ฮา ๆ
ทำอะไรไม่เป็นเลยนอกจากหยิบจานออกมาจากสายพาน
แต่ต้องไม่ลืมดูสีจานด้วย เพราะราคามันไม่เท่ากัน
แทนที่จะหยิบจานละ 90 เยน ดันหยิบจานละ 600 เยนนี่มีฮาไม่ออกล่ะนะ



Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


ไหนจะต้องน้ำอีก เค้าทำกันยังไงนะ ไม่เห็นมีใครเสิร์ฟน้ำเลย
มาถึงบางอ้อ ตอนน้องจีนที่เป็นเพื่อนเที่ยวบอกว่า ให้เอาแก้วที่คว่ำไว้มากดน้ำร้อนจากก๊อก แล้วก็เติมผงชาเขียวลงไป เติมได้ไม่จำกัด เสร็จฉานนน แฮ่
แต่ใส่เยอะก็ไม่ไหวนะ มันขม แต่ก็รู้สึกดีที่น้ำกับผงชาฟรี ชอบเลย


Image Hosted by PicturePush


ในร้านไม่กล้าถ่ายเยอะ มัวแต่เงอะงะอยู่
กินกันจานเป็นตั้ง หมดกันไปพันกว่าเยน อิ่มมั้ย ก็โอเคอ่ะ กินวิวเป็นอาหารอยู่แล้ว ฮา ๆ
แล้วเราก็ออกไปดูผู้ชายเป็นอาหารหวานตบท้ายระหว่างเดินทางไปสวนกันเถอะ

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

ฉันได้เรียนรู้ (ตั้งแต่เมื่อวาน) ว่า เด็กญี่ปุ่นทุกคนรักหมากันมาก
คือถ้าเด็กญี่ปุ่นเห็นหมาเมื่อไหร่ จะเข้าไปเล่นด้วยทันที
ซึ่งที่ผ่านมาเห็นหมาโดยเฉลี่ยแค่วันละตัว ไม่รู้ว่าคนเลี้ยงหมาน้อยหรืออย่างไร เด็ก ๆ ถึงได้ตื่นเต้นอยากเล่นกับหมาทุกครั้งที่เห็นซะอย่างนั้น

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

แล้วเราก็มาถึงสวน Inokashira Park กันซะที เดินไม่ไกลเลย
อย่างกับป่าอีกแล้ว มืด ๆ อึมครึม ๆ ในวันฝนพรำ เลยไม่ค่อยมีคนพายเรือเท่าไหร่
ถ้าช่วงซากุระคงสวยน่าดู

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

แต่หน้าร้อนแบบนี้
บอกได้เลยว่าเดินได้ไม่นานจริง ๆ
เพราะอะไรน่ะเหรอ
ไม่ใช่เพราะว่าร้อนนะ เพราะร้อนน่ะทนได้อยู่
แต่ที่ทนไม่ได้อย่างแรงก็คือแมลงงงงง
เสียงแมลงแซ่ซ้องทุกสวนที่ไปเยือนเลย
พวกมันไม่ได้ร้องอย่างเดียวน่ะสิ มันกัดด้วย
คันคะเยอกันทั้งคู่
จากขาอาหมวยขาว ๆ 2 คน กลายเป็นจุด ๆ และ จุด จุด จุด เต็มขา แล้วยังคันมากกกก
จะยืนถ่ายรูปแต่ละที ต้องรีบสุด ๆ เพราะเหมือนเราเข้าไปในดงยุงน่ะ
อยู่นิ่งไม่ได้ มันจะกัดเรา

แล้ว 1 ในไฮไลท์ของสวนแห่งนี้คือ
มีศาลเจ้าสีแดงอยู่ในดงสวนนี้ด้วยชื่อว่า Benzaiten shrine
ว่าแต่ว่ามันอยู่ไหนเนี่ย เดินวนรอบสวนอันใหญ่โตมา 3 รอบ แมลงดูดเลือดไป 3 ลิตรแล้วก็ยังหาไม่เจอ
อ่อ เพราะเราเดินกันแค่ฝั่งเดียวนี่นา
กว่าจะเจอ เล่นเอาซูชิในท้องหายไปหมดเลย
เข้าไปดูกันดีกว่า

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


แล้วเราก็ออกจากสวน เดินเล่น 2 ข้างทางที่เราเดินกันมาเพื่อไป sun road แหล่งช้อปปิ้งเล็ก ๆ ในย่านนั้น
อันนี้เป็น 2 ร้านข้างทางแถว ๆ สวน จัดได้น่ารักกุ๊กกิ๊กสุด ๆ ช้อบชอบ

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


แล้วก็ผู้คนญี่ปุ่นวันฝนพรำ

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


และแล้วเราก็มาถึง sun road ซะที

Image Hosted by PicturePush

คุณพ่อน่ารักอ๊ะ

Image Hosted by PicturePush

ที่แรกที่พุ่งตัวเข้าไปเลยก็คือร้านเครื่องสำอาง
แหม่ กรี๊ดมานาน เวลาคนไปญี่ปุ่นแล้วถ่ายรูปเครื่องสำอางญี่ปุ่นมาเยอะ ๆ น่ะ
อยากไปญี่ปุ่นซะทันทีทันใด
และแล้วก็ถึงทีเราบ้าง ถ่ายรูปมายั่วคนที่กำลังดูอยู่บ้าง
มันเยอะมั้ยล่ะ ตาลายเลยทีเดียว ถ่ายเยอะมากจนน้องคนจีนที่มาเที่ยวด้วยถามว่า
นี่ยูจะไม่ซื้ออะไรเลยนอกจากถ่ายรูปใช่มั้ย
แหม เดี๋ยวก่อนสิ ให้ฉันถ่ายให้หายตื่นเต้นก่อนสิ เธออยู่ที่นี่ เธอก็ชินน่ะสิ
ฉันอยู่เมืองไทย ฉันไม่เคยเห็นแบบนี้นี่นา อิอิ

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

ถ่ายไป เกรงใจคนรอไปเลยถ่ายมานิดหน่อย
แล้วนี่ เด็ดสุด แปรงชิ ซื้อได้ตอนลด 35% กรี๊ดเลยทีเดียว ฮา ๆ
ตัวแดงคือก่อน tax ตัวน้ำเงินคือรวม tax ซึ่งเราก็ต้องซื้อแบบรวม tax นั่นแหละ

Image Hosted by PicturePush

แล้วก็เดินต่อไปร้านต่อปาย

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

แล้วเราก็เดินไปให้สุดทางของ sun road มีศาลเจ้าอยู่ตรงนี้ด้วย แต่ตอนที่ไปเค้าปิดแล้ว

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


เดินไปเดินมา เจอร้าน mode off อย่ากระนั้นเลย
ขอเข้าไปดูชุดมือสองซะหน่อย อยู่เมืองไทยก็ซื้อเดรสมือสองจากญี่ปุ่นอยู่แล้ว
มาถึงญี่ปุ่นก็ต้องมาช้อปซะหน่อย ช้อปก่อนไปงานเปิดท้ายในสวนวันเสาร์ อาทิตย์ซะเลย
แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมานะ เพราะเกรงใจน้องคนจีนที่ไปด้วย เพราะเค้านั่งรอเรา

และแล้วก็ถึงเวลาเย็น ถึงเวลาต้องจากกันกับน้องคนจีนที่เราต่างไม่รู้จักกัน แต่ก็ได้มาเที่ยวด้วยกัน 2 วันเต็ม ก็มีให้ข้าวของจากเมืองไทยเป็นที่ระลึก ซื้อโปสการ์ดแล้วฝากน้องเค้าไปส่ง ปณ ให้หน่อยอีกต่างหาก แฮ่

กาจาปองนี่ก็อยากหยอดนะ แต่ไม่รู้จะเอาของไปทำอะไร เปลืองตังเปล่า ๆ ได้แต่บอกตัวเองให้รีบเดินจากไป

Image Hosted by PicturePush

สาวสวยน่ารักระหว่างนั่งรถไฟกลับไปเอากระเป๋า

Image Hosted by PicturePush

แล้วก็ได้เวลากลับไปที่ตู้ฝากของแล้วตรงไปหาโฮสสิงคโปร์คนที่ 2 ที่เราจะไปนอนกับเค้า 2 คืน ที่ได้ติดต่อจากเว็ป couchsurfing
เราเลทไปเกือบครึ่งชั่วโมงแน่ะ เพราะเสียเวลาต่อรถไฟใต้ดิน
ซึ่งบ้านเค้า เป็นรถไฟสายใหม่ล่าสุด มันอยู่ลึกมาก ลึกสุดใจเลยทีเดียว
wifi free ก็ไม่มี เลยได้แต่หวังว่าเค้าจะรออยู่ที่ทางออกสถานีบ้านเค้าที่เรานัดกันตอนทุ่มนึง
ระหว่างทาง เราก็มองหนุ่มไปเรื่อย แก้อาการกังวลของเรา
ซึ่งก็ช่วยได้บ้าง อะไรบ้างนะจ๊ะ

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush



ไปถึงสถานีปลายสุดของโตเกียว
โชคดีที่ว่ามันมีทางออกเดียว
ซึ่งโฮสก็รอรับเราอยู่ตรงนั้นจริง ๆ
แล้วเราก็เดินคุยกันไป แลกเปลี่ยนข้อมูลกันไป
ปรากฎว่า เรา 2 คนอายุเท่ากัน
ซึ่งที่เราไม่รู้เพราะโฮสเราไม่ได้ระบุอายุเอาไว้ในเว็ป
ดูจากหน้า เราคาดว่าเค้าน่าจะอายุน้อยกว่าเราหลายปีอยู่
แต่แป่ว เค้าหน้าเด็กนะจ๊ะ
เราโชคดีมาก ที่โฮสชาวสิงคโปร์เราคนนี้เป็นคนชอบทำอาหาร
เค้าอยู่อพาตเม้นท์ห้องเดี่ยว อยู่คนเดียว
มีครัวเล็ก ๆ อยู่ด้านหน้าสุดขวามือตอนเปิดประตูเข้ามา
ด้านซ้ายเป็นห้องน้ำ แล้วด้านหน้าเป็นทีวี โต๊ะญี่ปุ่น แล้วก็เตียงนอน

Image Hosted by PicturePush

อุปกรณ์ทำครัวเธอแน่นมาก ทั้ง ๆ ที่อยู่คนเดียว เชื่อแล้วล่ะว่าชอบทำอาหาร

Image Hosted by PicturePush

คืนแรกที่เราเจอกัน เค้าก็ทำข้าวแกงกระหรี่ญี่ปุ่นต้อนรับเราเลย
ซึ่งจานใหญ่มาก เรากินไม่หมดเลยทีเดียว พร้อมขนมญี่ปุ่น ซึ่งไม่ได้ถ่ายรูปมา
อย่างที่บอก อยู่ไทยก็ไม่ใช่พวกที่จะถ่ายรูปอาหารลง social media อยู่แล้ว
แล้วจะ hide พวกที่ถ่ายรูปอาหารลง facebook ด้วย รู้สึกไร้สาระ (สำหรับเราส่วนตัว)
แต่มาญี่ปุ่น มันก็ควรมั้ย แต่ลืม ไม่ได้เป็นนิสัยก็เงี้ย
แล้วเราก็จะเก็บจานแล้วไปล้างให้เค้า
เค้ารีบบอกว่าไม่ต้อง ๆ เราเป็นแขกคนแรกของเค้าที่มานอนในห้องเค้า อย่าทำให้เค้า panic ให้อยู่เฉย ๆ เป็น guest ที่ดี โอเค๊

เรากินปริมาณอาหารเยอะมากนะ แต่เราไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเค้าไม่อ้วน
เพราะคนญี่ปุ่นหรือคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในโตเกียว ต้องเดินเยอะมาก
เราว่าเรากินเยอะมาก แต่ก็เดินเยอะมาก รู้สึกว่าขาเฟิร์มเลยทีเดียว
แล้วบ้านเค้าก็ไม่มีมอร์ไซค์รับจ้างเหมือนบ้านเราด้วย จะไปไหนก็เดิน ๆๆๆๆ ไปมุดเข้าใต้ดินอย่างเดียว

แล้วเราก็ให้ของที่หอบมาให้เค้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพวกเครื่องแกงผงต่าง ๆ 20-30 ซองได้ (โครตหนัก) เพราะรู้ว่าเค้าชอบทำอาหาร
แล้วก็กระเป๋า naraya ซึ่งซื้อมาหลายใบมาก ไว้สำหรับให้คนญี่ปุ่นล้วน ๆ
แล้วก็พวกเครื่องประดับ เครื่องสางสมุนไพรไทย ๆ แล้วก็อะไรอีกหลายอย่างก็ไม่รู้จำไม่ได้แล้ว แต่รู้ว่าของฝากที่มาญี่ปุ่นให้หลาย ๆ คนที่เจอในครั้งแรกนี้เกือบ 10 กิโลเท่านั้นเอ๊ง
ที่เด็ดสุดเลยคือ ทุเรียนกวน ที่เราแอบ ตม.ญี่ปุ่นเอามาฝากโฮสคนนี้ได้
เพราะเธอชอบกินทุเรียนมาก เล่นเอาเหงื่อตกถ้าไม่ผ่าน

หลังจากนั้น
เราก็เล่าเรื่องเราให้เค้าฟัง เค้าก็เล่าเรื่องเค้าให้เราฟัง
แต่ด้วยความที่อัพบล็อคช้าไปแค่ 5 เดือน เรื่องที่ฟังจากเค้าเลยหายไปเหลือแค่ 10% แฮ่
คร่าว ๆ ที่จำได้ก็คือ
ทำไมเค้าเป็นคนสิงคโปร์ถึงได้มาทำงานที่โตเกียว
แรกเริ่มเดิมที สาวคนนี้ก็ไม่ได้นึกได้ฝันมาทำงานที่นี่เหมือนกัน
แต่เธอชอบไอดอลญี่ปุ่นคนนึง เมื่อสมัยม.ปลายหรือมหาลัยเนี่ยแหละ
แล้วเธอก็ตั้งใจเรียนภาษาญี่ปุ่น แล้วก็มาเที่ยวญี่ปุ่นบ่อย ๆ
แล้วก็เลยลองสมัครงานที่ญี่ปุ่นดู แล้วก็ได้งาน เลยได้มาทำอยู่ที่นี่มา 5 ปีแล้ว

ถามว่า ทำไมเธอถึงเลือกมาพักซะปลายสุดติ่งสถานีรถไฟซะขนาดนี้
เธอตอบว่า ไอดอลของเธอพักย่านนี้
เธอเลยอยากมาอยู่แถวนี้จะได้มีโอกาสได้เห็นไอดอลของเธอ
แล้วเธอเคยเห็นไอดอลของเธอแล้วด้วย 1 ครั้ง เธอตื่นเต้นมาก
แล้วหลังจากนั้นก็ไม่เคยเห็นอีกเลยเป็นเวลาหลายปี แต่เธอเฉย ๆ กับไอดอลคนนั้นไปแล้ว

ถามว่าไอดอลคนั้นเป็นใคร
ตอบว่า เอิ่ม เค้าก็มีบอกนะ แต่เราลืมไปแล้ว ช่างมันเถอะเนอะ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ฮา ๆ

แล้วเราก็ดูทีวีด้วยกัน แชร์เรื่องต่าง ๆ ด้วยกัน
และ 1 ในนั้นที่เราต้องการแชร์ก็คือ
เรารู้สึกว่าผู้ชายญี่ปุ่นหน้าตาดีจังเลย พวกซาลาริมังที่ยูทำงานด้วยหน้าตาดีรึเปล่า
เธอตอบว่า ก็เฉย ๆ นะ แต่เธอไม่ชอบทัศนคติผู้ชายญี่ปุ่น ที่กดขี่เพศหญิง
แล้วทะนงตนว่ารู้ไปซะทุกเรื่อง หรือไม่ก็ไม่ได้อยากไปเที่ยวประเทศอื่น เพราะที่ญี่ปุ่นก็มีสถานเที่ยวที่สวยงามอยู่แล้ว

แล้วเราก็อวดหนุ่มในฝันของเรา อิอิ
เธอก็บอกว่าจริง ๆ น่าจะเข้าไปคุยเลย เพราะผู้ชายญี่ปุ่นขี้เก๊กและขี้อาย
จะให้เค้าเดินมาคุยด้วยคงเป็นไปไม่ได้
ถ้าเราเดินเข้าไปคุยกับเค้ายังมีโอกาสมากกว่า แล้วเค้าก็รู้สึกดีด้วย
ผู้ชายญี่ปุ่นขี้เก๊กและกลัวเสียหน้าจะตาย แต่มันสายไปละ เก็บไว้เป็นความทรงจำละกัน ฮา ๆ

คืนนั้นเราก็ยังเจ็บคออยู่ตั้งแต่เช้า ยันเย็นก็ยังเจ็บอยู่ น้ำมูกเริ่มไหล เพราะวันนี้เดินตากฝนพรำเที่ยวทั้งวันเลย
ก็อาศัยน้ำอุ่นบ้านโฮสจิบเอาบ่อย ๆ แล้วโฮสก็มีชวนป๋วยขวดใหญ่ที่แม่เค้าหอบหิ้วมาจากสิงคโปร์ให้ แล้วก็น้ำผึ้ง อัด ๆ กันเข้าไป
เพิ่งรู้ว่าชวนป๋วยนี่ทำจากสิงคโปร์นะเนี่ย

แล้วเราก็นั่งดูทีวีด้วยกัน ซึ่งเป็นรายการโปรดของโฮสเรา
จะมีพิธีกรญี่ปุ่น ทั้งชาย หญิง หน้าตาไม่ได้ดีมาก พาเราไปดูเรื่องแปลก ๆ ทั่วโลก
ดูไปก็ตลกดี แล้วเราก็อาบน้ำ นอน
โฮสเสียสละให้เรานอนเตียงเค้า แล้วเค้านอนฟูก ซึ่งเราก็โน ๆ ลูกเดียว
ให้เค้านอนสบายบนเตียงเค้าเนี่ยแหละ แล้วเรานอนฟูก
เถียงกันไม่จบ เค้าก็เลยบอกว่า เวลาเพื่อนเค้ามาค้าง เค้าก็นอนฟูกแบบนี้แหละ
เค้าชอบนอนฟูกมากว่า โอเค ๆ ดีลลลล


Image Hosted by PicturePush


คืนนี้ลาไปก่อนนะจ๊ะ ไว้กลับมาเล่าใหม่เช้าวันเสาร์ ถ้าไม่ขี้เกียจ ช่วงนี้ขี้เกียจอัพบล็อคเหลือเกิน จากอาทิตย์ละครั้ง กลายเป็นเดือนละครั้งไปซะแล้ว

การอัพบล็อคมันใช้เวลามากจริง ๆ ทั้งเขียน เลือกรูป ย่อรูป โหลดรูป แล้วต้องลิงค์แต่ละรูปมาใส่ให้ตรงกับเนื้อหาในแต่ละช่วง แล้วอิชั้นเป็นพวกรูปเยอะ แต่ละบล็อคโหลดกันสนานเป็นร้อย ๆ รูป ทำใจหน่อยนะถ้าอัพช้า แต่รับรองเรื่องแน่น อิอิ



ติดตามอ่านแต่ละตอนได้ตามลิงค์ด้านล่างนะคะ


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 1 การเลือกที่พัก



เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 2 เรื่องเล่าในสนามบินและบนเครื่องบิน


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 3 เย็นวันแรกที่สถานีโตเกียว


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 4 นัดเจอและเข้าไปนอนบ้านคนไม่รู้จักฟรี ๆ คืนแรก



เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 5 วัฒนธรรมภายในบ้านคนญี่ปุ่นที่เราไปค้างด้วย


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 6 ขึ้นรถไฟใต้ดินชั่วโมงเร่งด่วนเป็นครั้งแรก


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 7 ประทับใจกับจิตสำนึกของเด็กญี่ปุ่นที่เราไม่เคยถูกสอน


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 8 เทศกาลน่ารักที่ประทับใจที่สุดในทริปนี้


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 9 เจอหนุ่มในฝันบนรถใต้ดิน



เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 10 พาไปเดินเล่นในสวนพร้อมพาช้อปย่าน KICHIJOJI


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 11 ให้คนญี่ปุ่นพาเที่ยวเข้าไปในยิมที่เด็กม.ปลายกำลังแข่ง



เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 12 ไต้ฝุ่นเข้า เลยต้องเข้าดองกี้แทนตลาดนัดแบกะดิน


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 13 วันสุดท้ายในโตเกียว วัดเซ็นโซจิและสวนอุเอโนะ



Create Date : 27 มกราคม 2558
Last Update : 25 พฤษภาคม 2558 19:14:12 น. 1 comments
Counter : 3814 Pageviews.

 
มาตามเก็บหนุ่มๆจ้ะ
(เย้ ในที่สุดคอมเราก็โหลดดูรูปได้ล่ะค่ะ)

ลีลีถ่ายรูปเก็บไว้เยอะมาก ดูเพลินเลยค่ะ


โดย: nobuta wo produce วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:23:03:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]




ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.