Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
ทดสอบการสร้างบล็อคของช้าน
รับน้อง...ส่องทาง
เกาหลี กับการเที่ยวคนเดียวครั้งแรกในชีวิต
โตเกียว ครั้งแรก ตัวคนเดียว
กับหนังบางเรื่องที่ยังอิน
บ่น ๆ เพ้อเจ้อ เล่าโน่น เล่านี่ไปเรื่อย
สิงคโปร์คนเดียวครั้งแรก แถมนัดหนุ่มที่นั่นมาเที่ยวด้วย
เรื่องที่มันผ่านไปแล้ว อ่านไปตอนนี้มันไม่ดีอ่านะ
มิตรภาพฟูฟ่อง...ที่ฮ่องกงครั้งแรก ตัวคนเดียว
เที่ยวคนเดียวในมาเลย์...ไม่เก๋อย่างที่คิด
เที่ยวคนเดียวในเมืองฝรั่ง และการเจอหนุ่มตี๋หลาย ๆ คนจาก dating app
<<
กันยายน 2557
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
10 กันยายน 2557
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 1 การเลือกที่พัก
All Blogs
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 13 วันสุดท้ายในโตเกียว วัดเซ็นโซจิและสวนอุเอโนะ
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 12 ไต้ฝุ่นเข้า เลยต้องเข้าดองกี้แทนตลาดนัดแบกะดิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 11 ให้คนญี่ปุ่นพาเที่ยวเข้าไปในยิมที่เด็กม.ปลายกำลังแข่ง
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 10 พาไปเดินเล่นในสวนพร้อมพาช้อปย่าน KICHIJOJI
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 9 เจอหนุ่มในฝันบนรถใต้ดิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 8 เทศกาลน่ารักที่ประทับใจที่สุดในทริปนี้
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 7 ประทับใจกับจิตสำนึกของเด็กญี่ปุ่นที่เราไม่เคยถูกสอน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 6 ขึ้นรถไฟใต้ดินชั่วโมงเร่งด่วนเป็นครั้งแรก
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 5 วัฒนธรรมภายในบ้านคนญี่ปุ่นที่เราไปค้างด้วย
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 4 นัดเจอและเข้าไปนอนบ้านคนไม่รู้จักฟรี ๆ คืนแรก
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 3 เย็นวันแรกที่สถานีโตเกียว
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 2 เรื่องเล่าในสนามบินและบนเครื่องบิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 1 การเลือกที่พัก
ในที่สุด เราก็ทำแผนเที่ยวโตเกียวครั้งแรกคนเดียวเสร็จแล้ว สำหรับคนชอบเที่ยวสวนและตลาดนัดอย่างเรา
จะไปเที่ยวโตเกียวครั้งแรก แถมไปคนเดียว สนใจไม่กี่อย่างแต่สถานที่มันเยอะเหลือเกิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 1 การเลือกที่พัก
กลับจากญี่ปุ่นมาได้ร่วมเดือนแล้ว
แต่ไม่มีเวลาได้เขียนเลย
เพราะรู้สึกหดหู่เกินกว่าจะมานั่งเล่าว่าไปทำอะไรมาบ้าง
เพราะหลงรักญี่ปุ่นมากกก อยากเอาตัวเองไปอยู่โตเกียวซะเหลือเกิน
รักทุกอย่างในบ้านเค้า ทั้งความวุ่นวาย ความเงียบ ความมีวินัย ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความใส่ใจคนรอบตัว รวมไปถึงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ รวมไปถึง หนุ่มซาลาริมังญี่ปุ่นที่อายุไม่เกิน 35 ทำไมมันหน้าตาดี หุ่นดีซะเกินครึ่งล่ะเนี่ย อันนี้สำคัญ ฮา
5 คืน 6 วันในโตเกียวครั้งแรกในชีวิต แถมยังต้องมาเที่ยวคนเดียว จะสุข เศร้า เหงา ซึ้งขนาดไหน จะเล่าให้ฟัง (แต่อาจจะได้แค่ครึ่งเดียวเองมั้ง เพราะครั้งนี้ มันเพลินจนไม่ได้จดอะไรใส่ไดอารี่ที่พกไปเลยแม้แต่น้อย จดแค่บนเครื่องบินขาไปเท่านั้นจริง ๆ นอกนั้นกลั่นออกมาจากความทรงจำ ที่ค่อนข้างจะลางเลือนไปกับกาลเวลา โดยเฉพาะบทสนทนากับเหล่าผู้คนที่ใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น เริ่มลืมไปเยอะ เพราะขี้เกียจเองแหละ เที่ยวมันตั้งแต่เช้ายันค่ำ ถึงที่พัก ก็อาบน้ำนอนตลอด ไม่มีความขยันแม้จะทั่งจะมาจดหัวข้อที่อยากจะเล่าเลยด้วยซ้ำ)
ขอเล่าจากรูปที่ถ่ายยับมาแล้วกัน (ไอ้ที่ถ่ายยับเนี่ย ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายที่เดินผ่านทั้งน้าน ถ่ายแบบไม่มองมือถือเราอ่ะ ถ่ายมั่ว ๆ มา ชัดมั่ง ไม่ชัดมั่ง อาศัยกดรัว ๆ รูปเสียเยอะกว่ารูปดี มันเลยปาเข้าไป 3 พันกว่ารูปไงล่ะ เมมมือถือแทบจะระเบิด ไม่ค่อยหื่นเลยตรู)
ห๊ะ อยากดูตัวอย่างเหรอ แหม ได้สิ เอามายั่วก่อนก็ได้ ไม่ต้องห่วงนะ เล่าแต่ละวัน มาให้ชมทุกวันแน่นอน เพราะถ่ายมาเยอะ ถ่ายมาทั้งผู้หญิง ผู้ชาย ถ่ายมาให้ดูการแต่งตัว วิถีการเดิน step โตเกียว ซึ่งเดินกันเร็วค่อด ๆ ถ่ายมาแต่ละรูปเลยไม่ชัดซะเยอะ เพราะกล้องมือถือมันโฟกัสไม่ทัน ฮา ๆ อ่ะ ๆ รูปเรียกน้ำย่อย
วันที่ 1 สุวรรณภูมิ - นาริตะ
วันนี้แล้วสินะ หลังจากการเตรียมตัวไปญี่ปุ่นมาร่วม 4 เดือน
อ่านหนังสือเที่ยวญี่ปุ่นร่วม 20 เล่มใน TK Park คุ้นมันทุกสถานที่
ตื่นเต้น กังวล กลัว ดีใจ หลายอารมณ์มาก เพราะไปคนเดียว ไม่รู้จะเจออะไรข้างหน้า
ไหนจะหลง ไหนจะภาษาญี่ปุ่นไม่กระดิก ไหนจะเส้นรถไฟใต้ดินที่ทุกคนขู่นัก ขู่หนาว่าเตรียมหลงได้เลย และอีกมากมายหลายอย่าง จนเครียด นอนไม่หลับอยู่ร่วม 1 อาทิตย์
วันนี้แล้วสินะที่จะได้ไปเจอของจริง
เอาเรื่องที่พักก่อน
ตอนแรก 4 เดือนก่อนไป
เรากะจะจองโฮสเทล 8 เตียง ซึ่งถูกสุดสำหรับคนเดียวก็ตกคืนละพัน
แล้วโฮสเทลหลายคนมันก็ไม่ดีหลายอย่าง
ด้วยความที่เราจ่ายถูก ความเป็นส่วนตัวก็ไม่มี แต่เราก็จะได้เพื่อนใหม่
แต่ความเป็นส่วนตัวในที่นี้ เราหมายถึง เสียง
ซึ่งเราคิดว่าเราคงหลีกเลี่ยงคนนอนกรนไม่ได้ แม้ว่าเราจะเลือกนอนห้องหญิงล้วน
แล้วเวลาแต่ละคนตื่นและเข้านอนก็ไม่พร้อมกัน
อย่างเรานอนเร็ว แต่คนส่วนใหญ่นอนดึก เวลาเค้าเข้าห้องนอนไปอาบน้ำ มันก็มีเสียง
แล้วเราเป็นพวก sensitive กับเสียงมาก คือถ้าเรานอนไปซัก 1-2 ชั่วโมงแล้วได้ยินเสียงแล้วเราตื่นเนี่ย เรานอนไม่หลับอีกท้ั้งคืนเลยนะ หรืออย่างน้อยก็นอนลืมตาโพลงไป 2-3 ชั่วโมงนั่นแหละกว่าจะหลับได้ แล้วถ้าจะหลับได้ก็ต้องเงียบเท่านั้น
ขนาดตอนไปเกาหลี นอนโฮสเทลที่แชร์ห้องแค่ 2 คนนะ
เราก็ไม่วายแชร์กับสาวญี่ปุ่นร่างใหญ่ที่นอนกรน ฮ่วย ยิ่งเกลียด ยิ่งเจอ
แล้วตอนเรานอนแล้ว เธอก็ยังไม่กลับ พอเธอกลับมา ก็มาคุ้ยของไปอาบน้ำ เราก็ตื่นตั้งแต่บัดนั้นล่ะจ้า เช้าอีกวัน หมดแรงเที่ยวเลยเพราะนอนไม่พอ
เฮ้อ เป็นผู้หญิงเยอะ แต่อยากเสียตังน้อย เหมือนจะไม่มีตัวเลือกเลยเนอะ
แต่จริง ๆ มันมี อิอิ
เพราะเราได้ไปอ่านเจอคนที่เค้าไปเที่ยวสแกนดิเนเวียแล้วค่าที่พักเป็น 0 เลยเข้าไปอ่าน
เลยได้ทำความรู้จักกับเว็ป couchsurfing ซึ่งเป็นเว็ปที่เปิดโอกาสให้คนงบน้อยหรือต้องการเรียนรู้วัฒนธรรมได้ไปนอนบ้านคนในประเทศนั้น ๆ ได้ฟรี
ด้วยความงก และ ช่างเจ๊าะแจ๊ะของเรา
เราไม่มีปัญหากับการไปทำความรู้จักเพื่อนใหม่ที่เป็นผู้หญิง
เราเลยขอไปนอนกับคนที่เค้าเปิดบ้าน เปิดห้องในนอนในเว็ป couchsurfing
2 เดือนก่อนไป เราเลยส่งคำขอไปนอนบ้านคนญี่ปุ่นจากเว็ปนี้
เขียนไปยาวมาก เพื่อให้เค้ารู้จักเรา เพราะคิดว่าใจเขาใจเรา
ถ้าเขียนแค่ว่าขอไปนอนด้วยแค่ 3-5 ประโยคมันดูไม่จริงใจเลย
เราก็อ่านหน้า profile ของทุกคนที่เราจะขอนะว่าเค้าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ต้องการคนที่ไปพักเป็นแบบไหน มีโค้ดอะไรรึเปล่าสำหรับการส่งคำขอ
เพราะก็มีบางพวกที่ไม่อ่าน profile เค้าเลย
เอะอะส่งคำขอไปนอนที่ห้องแบบห้วน ๆ แล้วส่งแบบนั้นเป็นร้อยคน มันก็ง่ายที่จะถูกปฏิเสธ
แค่เคสเราใช่ว่าจะไม่ถูกปฏิเสธนะ
ก็มีปฏิเสธเหมือนกัน แต่น้อย
ที่เหลือก็เงียบไปเลย ไม่ตอบรับ
เราก็เพิ่งมารู้ทีหลังว่า ด้วยวัฒนธรรมคนญี่ปุ่น เป็นพวก indirect
เค้าก็จะไม่กล้าที่จะตอบปฏิเสธ แทนจะที่จะเขียนหรือกดปุ่มปฏิเสธ เค้าก็เลือกที่จะไม่ทำอะไรทั้งนั้น ไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธ เงียบไปซะอย่างนั้น
ซึ่งเค้าก็มาเข้าใจตอนหลังนี่เอง
แล้วอีกส่วนนึงคือ ได้รับคำขอเยอะมากในแต่ละวัน เลยอ่านได้ไม่หมด ไม่ครบ
เลือกตอบเฉพาะบางคนที่อยากจะตอบ
เพราะถ้าห้องหรือบ้านใครอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว
คน ๆ นั้นจะได้รับคำขอหลายสิบ หรือ เป็นร้อยคำขอต่อวันเลยทีเดียว
จึงไม่แปลกที่เค้าจะไม่สามารถตอบได้ทุกคน
แรก ๆ เราก็ไม่กล้าส่งเยอะ กลัวว่าถ้าส่งหลายคนแล้วทุกคนตอบรับ เราจะมีปัญหา
เลยส่งให้แค่คนเดียวก่อนที่ถูกใจจริง ๆ แล้วก็รอมันไปเป็นอาทิตย์ รอแล้วรอเล่าเค้าก็ไม่ตอบมาซักที
คราวนี้เลยหว่านเลยจ้า แต่หว่านอย่างมีศิลปะ
คือหว่านเฉพาะคนที่เขียนรายละเอียดใน profile แล้วเค้าพอจะเข้ากับเราได้ อายุใกล้ ๆ กัน
บ้านหรือห้องอยู่ไม่ไกลจะสถานีรถใต้ดินนัก แล้วก็มีเครื่องนอนให้โดยที่เราไม่ต้องหอบไปเอง
เพราะจะมีครึ่งนึงเลย ที่ตั้ง status เอาไว้ว่ามาค้างได้ หรือ maybe แต่ใน profile ว่างเปล่า ไม่ได้เขียนรายละเอียดอะไรเลย แม้แต่รูปก็ไม่มี หรือ reply rate เป็น 0% แบบนี้ก็ขอผ่าน
หรือบางคนมีพื้นที่ให้ แต่คุณต้องเอาเครื่องนอนมาเองนะ อันนี้ก็ไม่ไหว แค่กระเป๋าเราอย่างเดียวจะแบกจะแย่แล้ว เพราะกระเป๋าเดินทางเราแค่ 2 ล้อ ไม่ใช่ 4 ล้อแบบรุ่นใหม่สมัยนี้
วันนึง เราก็ส่งซะ 10 ราย แต่ทุกรายที่เราส่ง คือเราอ่าน profile อย่างละเอียดแล้วนะว่าเค้าต้องการคนแบบไหน ไม่เอาคนแบบไหน ซึ่งบางคนจะระบุเลย ว่าไม่เอาคนสูบบุหรี่ คนที่นอนดึก ฯลฯ เราก็เอาที่พอจะเข้ากับเราได้ ซึ่งเราเป็นคนนอนเร็ว เราก็เขียนลงไปด้วย ซึ่งบางคนก็ปฏิเสธด้วยเหตุผลนี้ก็มี เพราะเค้าก็บอกเลยว่าเค้านอนเร็วสุดคือตี 1 แต่เรานอนได้ดึกสุดก็ 4-5 ทุ่มก็ต่างคนต่างไป ประมาณนั้น
เราว่าเราส่งเป็นร้อยคนเลยแต่ แต่ได้รับการตอบกลับไม่ถึง 20 คนได้
อ้อ เราเลือกไปพักกับผู้หญิงเท่านั้นอ่านะ เลยไม่ได้รับการตอบรับ
ถ้าเลือกพักกับผู้ชาย อาจจะไม่ต้องหว่านแบบนี้ก็ได้ แบบว่าส่งแค่คนแรกก็ตอบรับไรเงี้ย ตรูได้สามีญี่ปุ่นแน่ ๆ งานนี้ แต่ยังก่อน มาครั้งแรก ขอแบบ soft ๆ นอนกับผู้หญิงก่อนนะ ฮา ๆ
ส่วนใหญ่ที่ตอบจะปฏิเสธ เพราะเงื่อนไขเวลา เพราะเวลาที่เราไป บางคนก็มีแขกมาพัก บางคนก็ไปเที่ยวต่างเมืองหรือต่างประเทศ บางคนกลับถึงบ้านก็ 5 ทุ่มเที่ยงคืน ออกจากบ้าน 6-7 โมง มันก็ดึกและเช้าเกิ๊นสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะเราก็คิดนะตอนเช้าอย่างเร็วก็ 9 โมงเช้าเริ่มเที่ยว เที่ยวเสร็จอย่างดึกก็ 2 ทุ่มเราก็คงเหนื่อยมากแล้ว เพราะเดินเป็น 10 ชั่วโมง แต่เรายังเข้าที่พักไม่ได้ มันโหดเกิ๊น ยอมจ่ายเงินนอนโฮสเทลดีกว่า บางคนก็ในพักคืนเดียว ซึ่งเราว่าคืนเดียวมันน้อยไปนะที่จะทำความรู้จักกัน ซัก 2 คืนน่าจะกำลังดี ได้คุยกันอย่างน้อย 2 ดินเนอร์ น่าจะได้เรียนรู้อะไรได้มากกว่า ซึ่งในเว็ปเองก็บอกว่า ถ้าคุณต้องการทำความรู้จักใคร ก็อย่าอยู่กับใครนาน ให้เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แต่คืนเดียว เรายังไม่รู้จักกันเลย แล้วมันเหนื่อยเราด้วย ที่ต้องรื้อของเข้า รื้อของออก เราเป็นคนที่เสียเวลาแพ็คของเป็นชั่วโมงเลย
แค่แพ็คของจากบ้านมา เราใช้เวลาเกือบครึ่งวัน ให้ได้ของครบหรือเกินกว่าที่จำเป็น แต่ก็ไม่ได้หนักอะไร เช่น ของจุกจิกไว้ฝากคนญี่ปุ่นที่ให้เราพักด้วย แล้วก็ที่จะเจอระหว่างทาง ซึ่งเราก็เอาไปหลายสิบชิ้นเลย สุดท้ายก็แจกไม่หมด ฮา ๆ
สุดท้าย เราก็ได้มา 2 คน คนนึง 3 คืน อีกคนนึง 2 คืน
คนนึงผู้หญิงญี่ปุ่นอยู่บ้านกับครอบครัว อายุน้อยกว่าเรา 1 ปี ซึ่งที่นี่ เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นหลายอย่างเลย แต่ก็จำไม่ค่อยได้ละ ไว้เล่าไปจะกลับมาแก้ไขเรื่อย ๆ ถ้าจำอะไรเพิ่มได้นะ
อีกคนเป็นสาวสิงคโปร์อายุเท่ากันที่จับพลัด จับผลูมาทำงานที่ญี่ปุ่นมาได้ 5 ปีแล้ว ทั้ง ๆ ที่ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้มาอยู่ญี่ปุ่นนานขนาดนี้ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง
พอได้ที่พักแล้วก็โล่งใจ ได้ในอาทิตย์สุดท้ายก่อนบินเลยคิดดู ก็เล่าให้ที่บ้านฟังแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไม่กล้าบอกหมด กลัวเค้าไม่ให้ไป เพราะไปพักกับใครก็ไม่รู้ แล้วเราไปคนเดียวด้วย
แต่พอเล่าให้เพื่อนสนิทฟัง เพื่อนด่าใหญ่เลยว่า ไปครั้งแรกแถมไปคนเดียวก็ซ่าเลยนะ
ระวังจะเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายล่ะ
เราก็บอกว่า ญี่ปุ่นนะ ปลอดภัยจะตาย
แล้วเพื่อนถามว่า แล้วไอ้คำว่า "ยากูซ่า" มันไม่ได้มาจากญี่ปุ่นหรือยังไง
หนังโป๊ มันไม่ได้เป็นอุตสาหกรรมส่งออกอันดับต้น ๆ หรือยังไง
แล้วไม่เคยได้ยินข่าวคนไทยโดนหลอกไปทำงาน สุดท้ายไปจบที่ซ่องญี่ปุ่นหรือยังไง
แล้วถ้าไปถึงเค้าไม่ได้เป็นผู้หญิงอยู่คนเดียว แต่เป็นผู้ชายอยู่กันเป็นกลุ่ม แกจะหนียังไง
หรือถ้าไปถึงเป็นผู้หญิงอยู่คนเดียว พอตกดึกนอนไปนอนมา เกิดไรขึ้น แกจะหนีออกมายังไง (ดูหนังมากไปป่าวเพื่อน คนจะไปยังมองโลกในแง่ดีสุด ๆ อยู่เลย คนไม่ได้ไปมโนซะอย่างกับหนังฆาตรกรรม)
แกเตรียมท่าไปเยอะ ๆ นะ เผื่อจับพลัดจับผลูได้ไปอยู่ในอุตสาหกรรมนี้ เค้าจะได้ไม่ต้องเทรนนาน เริ่มงานได้ทันที ว่าไปนั่น
ได้ฟังดังนั้น เลยเบนเข็มไปที่เว็ป airbnb ซึ่งไปพักกับโฮสเหมือนกัน แต่จ่ายตัง ค่อนข้างปลอดภัย เพราะมีเว็ปตรวจสอบ
แต่ดูไปดูมา แม่งก็แพงกว่าโฮสเทลอีก แถมที่ถูก ๆ ก็ไกลจากใต้ดินซะเหลือเกิน
ที่ดูดีและใกล้ใต้ดินก็เต็มยันปีหน้า ไม่มีอะไรได้ดั่งใจเล้ย
สุดท้าย ท้ายสุด เราก็ตกลงเชื่อใจ 2 สาวนี้ดีกว่า
คิดดี ๆ ไม่ใช่ว่าเราจะไปกลัวเค้า
เค้าสิอาจจะต้องกลัวเรามากกว่า
เพราะเราไปนอนบ้าน/ห้องเค้า จะเอาโจรเข้าบ้านรึเปล่าก็ไม่รู้
ตกลงนัดหมายกันเรียบร้อย เราก็ไปซื้อสารพัดเครื่องแกง เครื่องต้มยำไปฝาก 2 สาวเบา ๆ แค่เกือบ 50 ซอง สารพัดยี่ห้อ ทำแกงได้ทุกประเภท ไม่แปลกใจใช่มั้ยว่าทำไมกระเป๋าเดินทางเราถึงได้หนักเหลือเกิน
ขอจบตอนแรกตรงนี้แล้วกัน ดูสิ แค่ตอนแรกก็ยังไม่เหยียบสนามบินเลย ฮา ๆ
ติดตามอ่านแต่ละตอนได้ตามลิงค์ด้านล่างนะคะ
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 1 การเลือกที่พัก
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 2 เรื่องเล่าในสนามบินและบนเครื่องบิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 3 เย็นวันแรกที่สถานีโตเกียว
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 4 นัดเจอและเข้าไปนอนบ้านคนไม่รู้จักฟรี ๆ คืนแรก
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 5 วัฒนธรรมภายในบ้านคนญี่ปุ่นที่เราไปค้างด้วย
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 6 ขึ้นรถไฟใต้ดินชั่วโมงเร่งด่วนเป็นครั้งแรก
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 7 ประทับใจกับจิตสำนึกของเด็กญี่ปุ่นที่เราไม่เคยถูกสอน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 8 เทศกาลน่ารักที่ประทับใจที่สุดในทริปนี้
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 9 เจอหนุ่มในฝันบนรถใต้ดิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 10 พาไปเดินเล่นในสวนพร้อมพาช้อปย่าน KICHIJOJI
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 11 ให้คนญี่ปุ่นพาเที่ยวเข้าไปในยิมที่เด็กม.ปลายกำลังแข่ง
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 12 ไต้ฝุ่นเข้า เลยต้องเข้าดองกี้แทนตลาดนัดแบกะดิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 13 วันสุดท้ายในโตเกียว วัดเซ็นโซจิและสวนอุเอโนะ
Create Date : 10 กันยายน 2557
Last Update : 18 ธันวาคม 2559 18:12:07 น.
4 comments
Counter : 8148 Pageviews.
Share
Tweet
แวะมาเยี่ยมชมครับ
เคยคิดจะไปต่างประเทศคนเดียวแต่กลัวเหงาต้องหาเพื่อนไปเพราะไกลบ้านต่างบ้านต่างเมือง
แต่ถ้าเป็นเมืองไทยเที่ยวคนเดียวบ่อยเลยครับ
ญี่ปุ่นสวยมากอยากไปแต่ยังไม่มีโอกาส ขอดูรูปไปพลางๆก่อน
โดย:
3KKK
วันที่: 11 กันยายน 2557 เวลา:9:43:59 น.
โดย:
naray14
วันที่: 11 กันยายน 2557 เวลา:9:52:46 น.
เที่ยวคนเดี่ยวก็คงได้อารมณ์ไปอีกเเบบนะคะ :))
โดย:
pichsiny
วันที่: 11 พฤศจิกายน 2557 เวลา:8:11:47 น.
ขอบคุณนะคะ สิ้นปีจะไปญี่ปุ่นคนเดียวเหมือนกัน กลับมาอยากเขียนแชร์แบบนี้บ้างค่ะ
โดย: Intahwa IP: 1.47.163.69 วันที่: 17 ธันวาคม 2559 เวลา:14:59:58 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [
?
]
ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
เคยคิดจะไปต่างประเทศคนเดียวแต่กลัวเหงาต้องหาเพื่อนไปเพราะไกลบ้านต่างบ้านต่างเมือง
แต่ถ้าเป็นเมืองไทยเที่ยวคนเดียวบ่อยเลยครับ
ญี่ปุ่นสวยมากอยากไปแต่ยังไม่มีโอกาส ขอดูรูปไปพลางๆก่อน