Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2557
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
26 ตุลาคม 2557
 
All Blogs
 
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 4 นัดเจอและเข้าไปนอนบ้านคนไม่รู้จักฟรี ๆ คืนแรก

เพื่อความต่อเนื่อง
ไปอ่านตอนก่อน ๆ ได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้จ้ะ


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 1 การเลือกที่พัก



เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 2 เรื่องเล่าในสนามบินและบนเครื่องบิน


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 3 เย็นวันแรกที่สถานีโตเกียว


หลังจากเดินเล่น ณ สถานีโตเกียวตรง First Avenue Tokyo Station ตรง Tokyo character street ไปแล้ว
เราไปเดินดูร้านอาหารยามทุ่มนึงของเหล่าซาราริมังกันบ้าง
พร้อมกับส่องหนุ่มไปพร้อม ๆ กัน อิอิ แอบบอกว่าทุกตอนมีหนุ่มมาให้ส่องทุกตอนนะค้า
อย่าลืมเข้ามาอัพเดทกันนะคะ

Image Hosted by PicturePush


Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

มีมากมายหลากหลายร้าน เพราะเป็นสถานีใหญ่
แต่ที่ประทับใจมากก็คือ
เค้าเข้าคิวต่อแถวกันเป็นระเบียบมากกก



Garrett Popcorn ที่ญี่ปุ่นก็ได้รับความนิยมเหมือนกันนะจ๊ะ

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

ยิ่งต่อคิวรอกินตามร้านอาหารนี่ยิ่งเป็นระเบียบใหญ่
เป็นระเบียบยังไงน่ะเหรอ
คือต่อคิวนั่งรอเก้าอี้หน้าร้านแล้ว ก็ต่อคิวออกมานอกร้าน
เช่น ร้านนี้

Image Hosted by PicturePush

มีนั่งต่อคิวในร้านแล้ว

Image Hosted by PicturePush

ก็มีคิวออกมานอกร้านอีก

Image Hosted by PicturePush

แต่
ยังจ้ะ คิวยังยาวไม่พอ
เค้ากลัวว่าคิวจะไปบังร้านอื่นที่อยู่ติดกัน
เค้าทำยังไงรู้มั้ย
มีรออีกคัวฝั่งตรงข้ามที่เป็นกำแพงจ้า
แล้วทุกคนที่ยืนรอคิว ก็ดูยืนกันเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีหงุดหงิด เพราะรู้ตัวอยู่แล้วว่าต้องมายืนรอคิวนานประมาณนั้น
ซึ่งเราประทับใจมาก ในความเป็นระเบียบของชาวญี่ปุ่น
เลยแอบถ่ายคิว (และหนุ่มญี่ปุ่น) มาด้วยประการละฉะนี้
แล้วเป็นแบบนี้ทุกร้าน รักความมีวินัยของคนญี่ปุ่นจริง ๆ
โอ้ว ประทับใจจริง ๆ ชาวญี่ปุ่น ละเอียดจริงหนอ ใส่ใจส่วนรวมอย่างน่าประทับใจ
รักหนุ่มญี่ปุ่นด้วย (อันนี้ส่วนตัว ฮา)

Image Hosted by PicturePush

แล้วเดินดูบรรยากาศรอบ ๆ กันบ้าง
จะมีจุดยืนรอคิวอย่างชัดเจน น่ารักจุง

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


Image Hosted by PicturePush



แล้วเราก็เข้าไปดูร้านขายเครื่องสำอางบ้านเค้า
ที่เราเคยได้ดูที่คนอื่นถ่ายรูปมาก็ตื่นเต้นตกใจ อยากจะพุ่งตัวไปญี่ปุ่นซะทุกทีที่ได้เห็น
วันนี้ได้มาเห็นแล้ว โอ้ว มันเยอะอลังการมากจริง ๆ นี่เป็นร้านขนาดเล็ก ๆ ในสถานีนะเนี่ย
เลยฟาดดินสอเขียนคิ้วให้คุณหม่าม้ามาเบา ๆ ก่อน 4 แท่ง เพราะมันเป็นแท่งเล็ก ๆ
แล้วก็ถ่ายรูปถามพี่ ๆ ที่ออฟฟิศในสิ่งที่เหล่านางทั้งหลายฝากซื้อ
เอารูปร้านที่เราเจอร้านแรกในญี่ปุ่นมาอวด ให้ทุกคนอยากพุ่งตัวไปซื้อยั่วน้ำลายดีกว่า อิอิ

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


ที่ฝากกระเป๋าลายแพนด้า คิกขุ

Image Hosted by PicturePush


ออกมาด้านนอกสถานีกันดูบ้าง เปลี่ยนบรรยากาศ

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

ข้างในเต็มไปด้วยห้าง แต่ด้านนอกก็มีต้นไม้สีเขียวให้พักผ่อนหย่อยใจนะจ๊ะ
แล้ววันต่อ ๆ ไปก็จะเห็นได้ว่า ความเขียว มีอยู่ทุกที่ที่มีผู้คนเลยจริง ๆ
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ใส่ใจกับสุขภาพของคนในประเทศเค้าจริง ๆ
ที่ไหนมีเมือง ที่นั่นก็ต้องมีต้นไม้ รักญี่ปุ่นจริง ๆ รักหนุ่มญี่ปุ่นด้วย (อีกละ ฮา)

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

พูดถึงหนุ่มญี่ปุ่น จะไม่มีรูปหนุ่ม ๆ ก็คงไม่ใช่เรา เพราะกว่า 1 ใน 3 ของรูปในญี่ปุ่นทั้งหมด
เป็นรูปหนุ่มญี่ปุ่นที่เราแอบถ่ายตามที่ต่าง ๆ ที่เราเดินผ่านจ้า ฮา

คนซ้ายสุดนี่น่ารักนะ มัวแต่มอง พอเค้าเดินมาใกล้ ๆ เลยถ่ายไม่ทัน ฮา

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush




คนนี้น่ารักอ๊ะ

Image Hosted by PicturePush


คนนี้ก็น่าร้าก


Image Hosted by PicturePush



เดินเพลินกับวันแรกในญี่ปุ่น ใกล้เวลาที่เราจะได้เจอโฮสคนแรกของเราแล้ว
เรายังไม่ได้บอกที่นัดหมายกัน แค่บอกเวลาว่าเจอกันทุ่มครึ่งนะ
เราก็รีบหา free wifi ในสถานี
ซึ่งหายากมาก เพราะร้านรวงแถวนั้นไม่มี free wifi เลย
ต้องในสถานีจริง ๆ หรือไม่ก็ใกล้ประตูสอดตั๋วจริง ๆ ถึงจะมี
ถ้าหลุดจากที่สอดตั๋วไปตามร้านต่าง ๆ ที่อยู่นอกสถานีก็จะหาไม่เจอแล้ว
แล้วเราก็เพิ่งมารู้ว่ามันใช้ได้แค่ 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งเราใช้มันไปแล้วตั้งแต่ถึงสถานี
เพราะเราได้ไลน์บอกโฮสว่าเรามาถึงสถานีนี้แล้วเมื่อชั่วโมงที่แล้ว
เอาล่ะสิ ปฏิบัติการเดินหา free wifi ได้เกิดขึ้น ณ เวลานัดหมาย
เดินหาอยู่นานมากกว่าจะเจอ พอเจอก็รีบบอกว่าฉันจะรอหน้า Uniqlo นะยู
แล้ว wifi ก็หายไป ก็ต้องเดินออกมาหานอก Uniqlo อีกแต่ก็กลัวเค้าจะมาใกล้ถึงแล้ว
พอเห็น wifi เค้าตอบกลับมาว่า Uniqlo ไหน เพราะสถานีนี้มี Uniqlo ทั้งหมด 3 ร้าน
เวงล่ะสิ ตูจะรู้มั้ยว่ามันเป็นอันที่อยู่ฝั่งไหนยังไง ก็ถ่ายรูปไปให้เค้าดู

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush



แต่ แต่ wifi หายอีกแล้ว แล้วกว่ารูปจะส่งออกไป ใช้เวลานานมาก ส่ง ๆ หยุด ๆ รูปไม่ไปซะที
เลยต้องเขียนอธิบายจะดีกว่า
เราก็ไม่เคยเห็นหน้าเค้า เค้าก็ไม่เคยเห็นหน้าเรา เห็นกันใน facebook ที่เค้าขอ add friend ไปเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้วก่อนมาเท่านั้น
จนสุดท้าย เราก็ได้เจอกัน แต่กว่าจะเจอกัน ติดต่อกันไปมาร่วม 20-30 นาทีได้
เราก็แนะนำตัวกัน คุยกันไป เดินกันไป ทำความรู้จักกัน เพราะเราจะขอไปนอนบ้านเค้าฟรี ๆ ทั้ง ๆ ที่เราเพิ่งจะเคยเห็นหน้ากันจากเว็ป Couchsurfing ที่เราได้เล่าไปแล้วเมื่อตอนแรก

อย่างแรกเลยคือ เราต้องไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้
เพราะเค้ารับถึงแค่ 2 ทุ่มเท่านั้น
ระหว่างทางก็ขอแวะเข้าห้องน้ำในห้างไดมารุซะหน่อย
เข้าไปห้องน้ำ โอ้ว โหววว หรูหรา ฟู่ฟ่า อลังการ
ขอใช้ชักโครกไฮเทคของญี่ปุ่นหน่อยให้เป็นบุญตรูดหน่อยเถอะว้า
แต่ใช้ไป ใช้มา สู้สายฉีดชำระบ้านเราไม่ได้เลย เพราะชักโครกบ้านเค้าต้องคอยขยับก้นให้ตรงกับน้ำที่พุ่งมาด้วยอ่า ดูต้องใช้ความพยายาม
อ่ะถ่ายแม้กระทั่งชักโครกมาให้ดู คิดดูแล้วกันว่าเห่อกับการไปญี่ปุ่นครั้งแรกขนาดไหน


Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

พอเอากระเป๋าเสร็จ สิ่งแรกที่โฮสเราทำก็คือ ช่วยเราลากกระเป๋าใบใหญ่
ซึ่งเราพยายามจะแกะมือเธอออก บอกว่าไม่เป็นไร เราลากเองได้ เราเกรงใจ
แต่เธอไม่ยอม บอกว่าเราลากมาตั้งแต่กรุงเทพแล้ว เราเหนื่อยแล้ว ให้เค้าลากบ้าง
แล้วกระเป๋าเธอไม่หนักเลย กระเป๋าเดินทางชั้น หนักกว่านี้เท่าตัวได้
ซึ้งจริง ๆ
เธอเป็นใคร ญาติหรือเพื่อนเรารึเปล่าก็ไม่ใช่ แถมเป็นคนแปลกหน้าที่จะไปขอนอนบ้านเธอฟรี ๆ อีกต่างหาก ทำไมเธอต้องช่วยเราขนาดนี้ น้ำตาคลอเบา ๆ

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

แล้วเราก็เดินกันไปหาอะไรกิน
แต่อย่างแรกที่เราอยากทำเลยคือ กินชาเขียวนม!!
เป็นความใฝ่ฝันมาตั้งแต่กรุงเทพแล้วว่า จะกินทุกอย่างเกี่ยวกับชาเขียวให้ได้มากที่สุด
โดยเฉพาะน้ำชาเขียวชมจากพวกซุปเปอร์
เพราะอยู่เมืองไทย มีแต่ชาเขียวปลอม ชาเขียวจริงก็แพ๊ง แพง ซื้อกินไม่ลง
ไหน ๆ ก็มาถึงประเทศเจ้าบ้านแล้ว ขอลองมันทุกแบบ
อย่างแรกในลิสเราก็คือ ชาเขียวนม family mart ซึ่งเราจดมาจากเพจ facebook ไม่ใช่กรูรู แต่กรูรู้ ของถูกในโตเกียว
ซึ่งเราลิสของเกี่ยวกับชาเขียวในเพจนี้มาหลายอย่างเหมือนกัน







Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


แต่ไอ้ชาเขียวนมนี้มันหาแถวนี้ได้ง่ายสุด
พอหาเจอจ่ายตังปุ๊บ แกะกิน
แต่ ๆ แกะยังไง แกะไม่เป็น ต้องให้เจ้าบ้านแกะกล่องให้กิน
ดูดไปปุ๊บ โอ้ว ฟิน อร่อยกลิ่นชาเขียวเน้น ๆ แค่ร้อยกว่าเยน หรือไม่ถึงร้อยก็ไม่รู้จำไม่ได้
โฮสสาวชาวญี่ปุ่น อายุน้อยกว่าเราปีนึงหัวเราะใหญ่
ว่าอะไรจะตื่นเต้น ฟินกระจายกับชาเขียวที่หาได้ทั่วไปบ้านเค้าขนาดนี้
คงเหมือนกับคนต่างชาติมาบ้านเราแล้วหากระทิงแดงกินละมั้ง 555

จากนั้นเราก็ไปหาอะไรกินกัน เดินดูอยู่ทั่วสถานี คิดไม่ได้ซะที
เค้าก็ให้เราตัดสินใจ เราก็ให้เค้าตัดสินใจ สุดท้าย เราก็เลยขอไปกินราเมงเจ้าที่ไม่ต้องมีคิวแล้วกัน
เพราะรอไม่ไหวจริง ๆ แล้วคิดว่ามาถึงประเทศแห่งราเมงแล้ว ร้านไหนก็อร่อยทั้งนั้นแหละ

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

นี่คือหน้าตาของราเมงที่เราสั่ง จริง ๆ เป็นคนไม่ชอบถ่ายรูปอาหารเลยนะ
แต่ขอซะหน่อย มื้อแรกในญี่ปุ่น ใครมาดูบล็อคเราแล้วอยากดูอาหาร ขอบอกเลยว่า ผิดหวังค่ะ
เพราะเราถ่ายหนุ่มญี่ปุ่นเป็นอาหาร แค่นั้นก็อิ่มละ รูปอาหารจึงแทบไม่มี ฮา ๆ

Image Hosted by PicturePush

แล้วก็จริง อร่อยนะ สำหรับเรา ผู้ไม่กินผัก และไม่กินเผ็ด แต่ชามใหญ่มาก
แต่ก็กินจนหมด เพราะเหนื่อยมาก ลงจากเครื่องไม่ได้กินอะไรเลย แถมอยู่บนเครื่องก็ป่วยกินไม่ได้อีก
เลยฟาดซะเรียบทั้ง ๆ ที่มันชามใหญ่มาก
แล้วเราก็เล่าเรื่องการต่อคิวของคนญี่ปุ่นให้โฮสเราฟัง
เค้าก็แปลกใจว่าเราจะตื่นเต้น ประทับใจอะไรมากมาย เพราะมันเป็นปกติของคนญี่ปุ่น
ซึ่งเราเล่าได้ตื่นเต้นมากเลยมั้ง โฮสเค้าก็ขำใหญ่เลย
แต่เธอเป็นญี่ปุ่นที่เที่ยวมาหลายประเทศน่ะนะ เคยมาประเทศไทยด้วย แถมไปเรียนเมกากับนิวซีแลนด์มา
ก็เลยได้เห็นความแตกต่างของวัฒนธรรม เธอเลยค่อนข้างจะเข้าใจความตื่นเต้นกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของครั้งแรกในญี่ปุ่นของเรา

กินเสร็จ ก็ถ่ายหนุ่มต่อเป็นของหวาน ฮา ๆ

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

เราก็เดินตามเธอต้อย ๆ กลับบ้าน
เราก็ถามว่าบ้านเค้าอยู่สถานีอะไรเหรอ
เค้าก็บอกมาทั้ง ๆ ที่ก็ยังลากกระเป๋าให้เราพร้อมบอกว่า
แต่วันนี้พ่อเธอมารับ โอ้ว ม่ายน้าาาา ทำไมให้ความสำคัญกับเราถึงขนาดนี้ ซึ้งจริง ๆ
เราก็เดินกันไปตามถนน แล้วเราก็เห็นว่ารถพ่อของเธอจอดรออยู่ก่อนแล้ว
มากันทั้งบ้านเลย ทั้งพ่อ แม่ มารับเรากับโฮส
แล้วพ่อเค้าก็ช่วยยกกระเป๋าเราขึ้นหลังรถ น้ำตาจะไหล ใจดีจังเลยค่า
แล้วก็พาขับรถทัวสถานีรอบ ๆ ยามค่ำคืน ดีนะที่รถไม่ติด


Image Hosted by PicturePush


Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


Image Hosted by PicturePush


แล้วก็เลยไปรับน้องสาวของเค้า ที่เรียนยิงธนูอยู่ใกล้ ๆ บ้าน
ทั้งบ้าน เธอพูดภาษาอังกฤษได้แค่คนเดียว น้องสาวพูดได้น้อยมาก เธอก็เลยรับหน้าที่เป็นล่าม
พอทุกคนรู้ว่าเราอยากลองทุกอย่างที่เป็นชาเขียว
ก่อนถึงบ้าน เราแวะกันที่ mini stop แล้วแวะซื้อไอติมชาเขียวแท่ง ๆ แล้วไอติมรสอื่น ๆ กลับมากินกันที่บ้านตอนเกือบ 4-5 ทุ่มได้
ซึ้งใจจริง ๆ

บ้านโฮสของเราเป็นบ้านเก่า เกือบร้อยปีได้ มีที่จอดรถเป็นของตัวเอง
ซึ่งเป็นที่ของที่บ้านมั้ง เป็นเว้ง จอดได้ 10 คันได้
ภายในบ้าน ทุกอย่างด้านในก็มี character นะ
อย่างตรงพื้นทางเดินในบ้านก็จะเป็นระดับ ไม่เท่ากัน
โต๊ะกินข้าวที่ทุกคนมานั่งดูทีวี คุยกันที่ติดกับห้องครัว
จะเป็นแบบห้อยขาลง แล้วนั่งกับฟูก ดู traditional ดีจริง ๆ
ใครคิดไม่ออก มารูปมาให้ดู เครดิตในรูปเลยนะจ๊ะ จากเว็ป marumura



แต่บ้านเค้าก็มีห้องอาหารที่เป็นโต๊ะ เก้าอี้นั่งกินข้าวดูทีวีอีกห้องนึงนะ
แต่ห้องนั้น ส่วนใหญ่ให้คนเป็นพ่อนั่งดูทีวี อ่านหนังสือพิมพ์ตอนเช้า แต่สาว ๆ ก็จะนั่งกันติดครัวมากกว่า

มาถึงก็ไปวางกระเป๋า หอบของที่ซื้อมาจากเมืองไทยมาฝากทุกคนในบ้าน
เช่น ผ้าผันคอ กระเป๋านารายา เครื่องประดับไทย ๆ ขนม อาหาร และเครื่องปรุงไทย ๆ ตัวหนักอีกหลายสิบอย่าง กะว่าให้คุ้มกับการมาขอนอนบ้านเค้าฟรี ๆ 555
แล้วก็มีการแนะนำตัวกัน พูดคุยกันจนเที่ยงคืนได้
ทุกคนรอให้เราอาบน้ำก่อน แต่เรายังไม่อยากอาบ เพราะเราอาบน้ำเสร็จแล้วเรานอนเลย
เลยบอกเค้าไปว่าขอยังไม่อาบนะ ขอคุยเสร็จก่อนแล้วทุกคนแยกย้ายเราค่อยอาบนะ
แต่หารู้ไม่ว่า มันเป็นวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นที่จะต้องให้แขกอาบน้ำก่อนเป็นคนแรก แป่ว
ตายล่ะ ใครอยากอาบน้ำก่อนก็ต้องรอเราเหรอเนี่ย เวงกำ แล้วก็ไม่บอก

เรามารู้เพราะว่า แม่เค้าเข้าไปอาบน้ำก่อน แล้วออกมาพูดอะไรกับเราก็ไม่รู้
เราก็นึกว่าเค้าจะเข้านอนก็เลยบอกว่า Good night ไป
แต่โฮสเราบอกว่าเปล่า ยังไม่นอน มานั่งคุยต่อ แต่แม่เค้ามาขอบคุณที่เราให้เค้าอาบน้ำก่อน โอ้ว ชาวญี่ปุ่นช่างเป็นคนมีวัฒนธรรมละเอียดจริง ๆ
ถามว่าเวลานี้มันดึกสำหรับพวกเขาหรือเปล่า
เปล่าเลย เพราะโฮสเรากลับบ้าน 5 ทุ่ม เที่ยวคืนเป็นประจำ
โอย จะบ้าตาย คนญี่ปุ่นทำงานกันหนักจริง ๆ
คืนแรกนี้ เราร่ำลากันด้วย แผนที่ ๆ บ้าน ที่คุณพ่อเค้าวาดให้เราเวลากลับบ้าน
ซึ่งเราอยู่บ้านเค้าทั้งหมด 3 คืนด้วยกัน

Image Hosted by PicturePush

มาถึงห้องนอน ซึ่งเป็นคล้าย ๆ ห้องเก็บเสื้อผ้าครึ่งนึง ที่ว่างอีกครึ่งนึง
ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าจริง ๆ แล้ว โฮสเราหรือน้องสาวเค้านอนห้องนี้รึเปล่า
เพราะตลอดเวลาที่อยู่ที่บ้านเรา โฮสเค้านอนกับน้องสาว ซึ่งเราก็ไม่ได้อยากจะละลาบละล้วงเรื่องนี้นัก
ที่นอนของเราเป็นฟูกแบบญี่ปุ่น ที่เห็นในโดเรม่อน ประมาณนั้นแหละ
แล้วเค้าก็เปิดแอร์ให้ แต่ด้วยห้องมันใหญ่ มีที่กั้น แต่ก็กั้นไม่หมด แอร์เลยไม่ค่อยเย็นเท่าไหร่
แล้วที่น่ารักก็คือ แอร์บ้านเค้ายังเป็นแอร์โบราณอยู่เลย ประมาณนี้
เครดิตจากเว็ปนี้ //www.oknation.net/blog/print.php?id=830591

Image Hosted by PicturePush

ที่เป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าอันเล็ก ๆ น่ะ
แต่ยังทำงานได้ ทึ่งดีเหมือนกัน


ตอนแรกเรานึกว่าจะได้นอนกับโฮส แต่เค้าบอกว่า เค้าจะนอนกับน้องสาว
ไอ้เราก็เป็นคนกลัวผีอยู่ เกิดเจอผีญี่ปุ่นในบ้านหลังเก่ากว่าร้อยปีนี้ขึ้นมาทำยังไงนะ
นอนคิดไป ก็สะดุ้งตื่นเป็นระยะ ๆ ตลอดคืน คงเพราะแปลกที่แล้วมีความกลัวด้วยล่ะมั้ง
แม่เค้าก็เตรียมน้ำดื่มไว้ให้ 1 แก้ว เพราะเกิดหิวน้ำขึ้นมากลางดึก หรือตื่นมาจะได้กินเลย
น่ารักจริง ๆ เลยขอจบคืนแรกในญี่ปุ่นตรงนี้เลยแล้วกัน


ติดตามอ่านแต่ละตอนได้ตามลิงค์ด้านล่างนะคะ


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 1 การเลือกที่พัก



เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 2 เรื่องเล่าในสนามบินและบนเครื่องบิน


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 3 เย็นวันแรกที่สถานีโตเกียว


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 4 นัดเจอและเข้าไปนอนบ้านคนไม่รู้จักฟรี ๆ คืนแรก



เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 5 วัฒนธรรมภายในบ้านคนญี่ปุ่นที่เราไปค้างด้วย


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 6 ขึ้นรถไฟใต้ดินชั่วโมงเร่งด่วนเป็นครั้งแรก


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 7 ประทับใจกับจิตสำนึกของเด็กญี่ปุ่นที่เราไม่เคยถูกสอน


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 8 เทศกาลน่ารักที่ประทับใจที่สุดในทริปนี้


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 9 เจอหนุ่มในฝันบนรถใต้ดิน



เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 10 พาไปเดินเล่นในสวนพร้อมพาช้อปย่าน KICHIJOJI


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 11 ให้คนญี่ปุ่นพาเที่ยวเข้าไปในยิมที่เด็กม.ปลายกำลังแข่ง


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 12 ไต้ฝุ่นเข้า เลยต้องเข้าดองกี้แทนตลาดนัดแบกะดิน


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 13 วันสุดท้ายในโตเกียว วัดเซ็นโซจิและสวนอุเอโนะ



Create Date : 26 ตุลาคม 2557
Last Update : 25 พฤษภาคม 2558 19:15:14 น. 2 comments
Counter : 4148 Pageviews.

 


โดย: naray14 วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:9:13:23 น.  

 
สนุกดีค่ะ อยากตามไปกินของที่มีส่วนผสมของชาเขียวด้วยคน


โดย: แฟนlinKinPark วันที่: 14 พฤศจิกายน 2557 เวลา:8:13:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]




ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.