Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
10 พฤศจิกายน 2557
 
All Blogs
 
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 5 วัฒนธรรมภายในบ้านคนญี่ปุ่นที่เราไปค้างด้วย

เพื่อความต่อเนื่อง
ไปอ่านตอนก่อน ๆ ได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้จ้ะ


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 1 การเลือกที่พัก



เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 2 เรื่องเล่าในสนามบินและบนเครื่องบิน


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 3 เย็นวันแรกที่สถานีโตเกียว


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 4 นัดเจอและเข้าไปนอนบ้านคนไม่รู้จักฟรี ๆ คืนแรก



เช้าวันแรกที่โตเกียวกับการนอนบ้านคนไม่รู้จัก ที่ใจดีให้เรานอนบ้านเค้าฟรี ๆ
บอกเลยว่าง่วงนอนมาก
เพราะเมื่อคืนกว่าจะคุยเม้ากันเสร็จ กว่าจะได้อาบน้ำนอนก็ล่อไปเที่ยงคืนกว่า
แถมนอนก็นอนหลับ ๆ ตื่น ๆ ด้วย เพราะกลัวผี เพราะต้องนอนคนเดียว โฮสไม่ยอมนอนด้วย ไปนอนกับน้องสาว แง้ว
ง้องอนตั้งนานให้ช่วยมานอนด้วยกันหน่อย เพราะชั้นกลัวผีก็ไม่สำเร็จ
จริง ๆ เราไม่ได้กลัวการนอนคนเดียวนะถ้าเป็นโรงแรมดี ๆ เช่น โรงแรมที่ออฟฟิศออกตังให้เงี้ย
แต่ถ้าเป็นบ้านคน หรือโรงแรมถูก ๆ ที่เราจองเอง เรากลัวง่ะ ไม่กล้านอนคนเดียว
แต่สุดท้ายก็ต้องนอนคนเดียว แบบหลับ ๆ ตื่น ๆ ตอนตื่นมากลางดึกก็ต้องข่มตา ข่มใจนอนต่อ ไม่กล้าลืมตาขึ้นมาดู กลัวเจออะไร ฮา ๆ
นอนคนเดียวในบ้านนี้ 3 คืนไม่ได้นอนหลับสนิทเลยซักคืน
ภาวนาทุกคืนว่าเมื่อไหร่จะเช้าซักที

อ้อ
เพิ่งรู้ว่า
คนญี่ปุ่นเค้านั่งอาบน้ำ!!!
อยู่บ้านเรา ๆ ก็ยืนอาบน้ำฝักบัวตามปกติของเรา
แต่มาอยู่บ้านเค้า เราต้องนั่งอาบ!!
เพราะในห้องน้ำเค้า ทุกอย่างอยู่ในระดับนั่งอาบหมดเลย
ตั้งแต่ที่วางฝักบัว ที่วางสบู่ แชมพู ฯลฯ





เค้าต้องมาสอนเราวิธีอาบน้ำเลยทีเดียว
คือเค้าจะมีเก้าอี้เล็ก ๆ เหมือนเก้าอี้นั่งซักผ้าบ้านเราแต่ดูดีกว่า
เค้าบอกว่าให้นั่งเก้าอี้นี้แล้วอาบน้ำตามปกติ
อาบไป ไม่ค่อยชินไปยังไงไม่รู้

เช้านี้โฮสเราไม่ว่าง เพราะมีประชุมแต่เช้า เลยจะให้น้องสาวพาไปส่งที่สถานีรถไฟ แล้วให้เราพยายามจำทางให้ได้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนมากมาย
เค้าบอกว่าจะให้เราออกจากบ้านประมาณ 8 โมงครึ่ง
พอดีกับที่เรานัดสาวจีนที่มาอยู่ญี่ปุ่นได้ไม่นานเที่ยวโตเกียวด้วยกันตอน 9 โมง
เราก็รีบตื่นเช้ามาอาบน้ำ เพราะกลัวห้องอาบน้ำจะไม่ว่าง
อ้อ บ้านเค้ามีห้องน้ำกับห้องอาบน้ำแยกกันคนละห้อง
แต่ เพิ่งรู้ว่า คนญี่ปุ่นอาบน้ำรอบเดียวคือตอนเย็นเท่านั้น
ดังนั้น ห้องอาบน้ำจะว่างสำหรับเรา แฮ่ โชคดีจัง

คือคนไทยก็อาบน้ำ 2 รอบอ่ะเนอะ เช้า เย็น เพราะบ้านเรามันเมืองร้อน
แต่ตอนนี้เป็นหน้าร้อนบ้านเค้า ซึ่งอากาศร้อนพอ ๆ กับบ้านเราเลย
เค้าอยู่ได้ยังไงโดยไม่อาบน้ำตอนเช้า เพราะแค่ตื่นแล้วออกมาจากห้อง เหงื่อเราก็แตกพลั่ก ๆ แหล่ว
มิน่า 2 สาวเค้าเลยมีเวลานอนอีกอย่างน้อย 15-20 นาทีโดยไม่ต้องต่อคิวอาบน้ำกัน
แต่เราก็บอกเค้านะว่าเราขออาบน้ำตอนเช้าด้วยนะ ไม่ไหวน่ะ หน้าร้อนแล้วอาบน้ำรอบเดียว มันหงุดหงิด
2 สาวตื่นมาก็เอาเครื่องสำอางมาแต่งกันตรงโต๊ะกินข้าวเลย
แต่งไปดูทีวีไป แต่ แต่ เค้าไม่เปิดพัดลมง่า



หน้าร้อนมันร้อนเหมือนบ้านเราจริง ๆ นะ แต่เค้าก็นั่งแต่งหน้ากันเฉย
แต่เราเนี่ยสิ โคดร้อนเลย ขนาดอาบน้ำเสร็จ สดชื่นได้แป๊บเดียว เหงื่อแตกอีกแล้ว เพราะมันร้อน มันไม่มีลมเลยอ่า
ตอนนั่งทากันแดด ก็ขอเค้าว่า ขอฉันเปิดพัดลมหน่อยนะ เพราะทากันแดดเสร็จจะตบแป้งแต่หน้ามันยังแฉะอยู่เลย เดี๋ยวแป้งเป็นคราบง่า
ได้พัดลมเป่าหน้าค่อยชื่นใจหน่อย แต่ยังคง งง อยู่แล้วเค้าทำได้ไง ตื่นมาแปรงฟันแล้วแต่งหน้าเลย แต่หน้าใสกิ๊กทั้ง 2 สาวพี่น้องเลย ฮา ๆ
ระหว่างเรา 3 สาวแต่งหน้า แม่เค้าก็ทำอาหารอยู่ในครัว
ส่วนพ่อเค้าก็นั่งอ่านหนังสือพิมพ์แล้วก็ดูทีวีอยู่อีกห้องนึงที่เป็นห้องอาหารแบบสากล มีโต๊ะ มีเก้าอี้น่ะ
แต่พวกเราดูทีวีอยู่ห้องอาหารแบบญี่ปุ่น แบบโต๊ะมีรูตรงกลางไว้ห้อยขาลงไปแล้วนั่งบนฟูกอย่างที่บอกไว้ในบล็อคที่แล้ว แอบถ่ายขาตรงโต๊ะมาให้ดูว่าห้อยขาแบบนี้นะ



แต่งหน้าเสร็จ แม่เค้าก็มาเสิร์ฟอาหาร
โอ้ว อลังการมาก นี่พวกเธอกินแบบนี้ทุกวันเลยเหรอเนี่ย อิจฉาโคด ๆ
มาครบทุกหมู่เลย



แล้วก็มีมาเพิ่มอีก



ตอนแรกนึกว่ามีเท่านี้นะ
กินไปกินมาครึ่ง ๆ กลาง ๆ มีปลาแซลมอนมาเสิร์ฟให้ด้วยจ้า



จริง ๆ เราเป็นคนไม่ค่อยชอบถ่ายรูปอาหารเลยนะ
ยิ่งถ้าอยู่เมืองไทย ไม่เคยถ่ายรูปอาหารก่อนกินเหมือนสาวออฟฟิศคนอื่น ๆ เลย
แล้วก็ไม่เข้าไปดูด้วยพวกที่ชอบถ่ายรูปอาหารเนี่ย มันดูไร้สาระยังไงไม่รู้ (ในความรู้สึกส่วนตัวของเรา)
แล้วใครถ่ายรูปอาหารมาก็ไม่รู้สึกอะไร ไม่รู้สึกว่าอยากกินหรืออะไร รู้สึกแค่ว่าจะถ่ายทำไม
แต่ครั้งนี้มาญี่ปุ่นครั้งแรก แล้วรู้ตัวว่าจะเอามาเขียนบล็อค
เลยขอถ่ายรูปเก็บไว้ซักหน่อย
ด้วยความที่ทุกอย่างมาเต็ม สาวไทยกินเก่งแต่เลือกกินอย่างเราก็ต้องกินให้หมด ผักสดทุกทีไม่กินก็กินให้หมด เพื่อให้เจ้าบ้านรู้สึกดี แต่จริง ๆ ผักสดบ้านเค้ามันอร่อยกว่าบ้านเรานะเราว่า




แล้วอีกอย่างที่กินหมดก็คือ
แต่ละวันเราต้องใช้พลังงานอย่างล้นเหลือ
แล้วอย่างที่รู้กันว่าข้าว 1 มื้อที่ญี่ปุ่นแพงมาก 1 ร้อยบาทยังไม่ได้ราเมงหรือข้าว 1 จานเลย
ดังนั้น เราต้องฟาดให้เรียบ เอาให้หนักท้องที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะเดินตั้งแต่ 9 เก้าโมงยัน 1-2 ทุ่มทุกวันจ้า
เราเตรียมใจมาแล้ว เพราะด้วยแผนการเที่ยวของเราที่เที่ยวไม่ต่ำกว่า 3-4 ที่ต่อวันแล้วเดินดูอย่างเดียว มันค่อนข้างโหดมากเหมือนกัน

จริง ๆ เราไม่ใช่มาอยู่บ้านเค้าแล้วไม่ช่วยอะไรเค้านะ
เราพยายามจะช่วยหยิบจับหรือทำอะไร แม่เค้าก็รีบมาห้ามไปซะหมด
จะช่วยล้างจานชาม ข้าวของ แม่เค้าก็ห้าม ส่ายหัว โบกไม้โบกมือแล้วแย่งจากเราไปตลอด
เราก็เลยไม่ได้ช่วยอะไรเค้าเลยด้วยประการละฉะนี้
แล้วเราก็มารู้ทีหลังอีกเหมือนกันว่าวัฒนธรรมคนญี่ปุ่น เค้าจะดูแลแขกอย่างดี ไม่ให้แขกทำอะไรเลย

และแล้วก็ได้เวลาออกเริงร่า ท้าแดดโตเกียววันแรกซะที
ระยะทางจากบ้านโฮสไปรถไฟฟ้าใต้ดิน ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที
ซึ่งเราชอบ 2 ข้างทางระหว่างไปสถานีรถไฟมาก
เพราะมันเงียบสงบ ไม่มีเสียงมอร์ไซค์ให้ได้ยินเหมือนบ้านเราเลย
เสียงรถก็แทบจะไม่มี เดินผ่านซอยแคบ ๆ ดูบ้านสองข้างทางก็น่ารักไปหมด
ผู้คนก็เดินกันขวักไขว่นะ แต่ไม่มีเสียงดังจอแจเลย ไม่มีเสียงใครพูดกัน หรือเดินคุยโทรศัพท์อะไรใด ๆ เลย
มีทั้งขี่จักรยาน แล้วก็เดิน ผู้คนต่างเคารพสิทธิของกันและกัน
ผู้คนที่เดินกันคนละทิศก็เดินกันคนละฝั่งถนนเล็ก ๆ ไม่มีมาเดินเบียดกันชนกันในฝั่งเดียว
คือทุกคนมีวินัยอยู่ในสายเลือด ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ๆ

อันนี้ถ่ายจุดสำคัญระหว่างทางจากบ้านไปรถไฟฟ้าใต้ดิน และผู้คนที่สัญจรระหว่างทาง
เราชอบฟิลลิ่งนี้จัง เช้า ๆ เงียบ ๆ สะอาด ปลอดภัย และเขียว ๆ

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


เครื่องแบบนักเรียนญี่ปุ่น เหมือนในหนังหรือจินตนาการกันรึเปล่าจ๊ะ


Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


สาว ๆ ที่นี่เวลาหน้าร้อนก็กางร่มกันแดดเหมือนสาวไทยนะจ๊ะ


Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


สถานีบ้านเราก็มีสวนสาธารณะอยู่ด้วย ติดสถานีเลย

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


เราว่า เราสามารถหาสวนสาธารณะได้ทุกสถานีเลยมั้ง ญี่ปุ่นเค้าใส่ใจกับความเขียวจริง ๆ
สงสัยสปีดการเดินของคนในโตเกียวก็อยู่ในยีนเหมือนกัน เพราะเดินกันเร็วจริง
สปีดกรุงเทพอย่างเรา โดนทิ้งห่างไปเลย แล้วยิ่งเป็นสปีดนักท่องเที่ยวที่มาญี่ปุ่นครั้งแรกอย่างเราด้วยแล้ว สปีดแบบเราเรียกว่าคลานเลยดีกว่าเมื่อเทียบกับคนโตเกียว
ก็ทำไงได้ล่ะ อยากละเลียดความเป็นโตเกียว แล้วก็อยากมองหนุ่มซาลาริมังในโตเกียวนี่นา
แล้วก็แอบถ่ายมาให้สาวไทยชมก็ต้องเดินช้า ๆ หน่อยนั่นแหละ
เดี๋ยวกล้องมือถือโฟกัสไม่ทัน

จริง ๆ เราถ่ายรูปหนุ่มซาลาริมังโตเกียวเป็นพันรูปเลยนะ จากสามพันกว่ารูปในโตเกียว
แต่เบลอไปครึ่งนึง เพราะสปีดการเดินของหนุ่ม ๆ ทำให้กล้องมันโฟกัสไม่ทัน
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีนะจ๊ะ มายลกันเลย
หนุ่มโตเกียววัยรุ่นไม่เกิน 35 แต่งตัวสมาทกันทุกคนเลย
คือเนี้ยบตั้งแต่เสื้อผ้า หน้า ผมเลยล่ะ
เสื้อกับกางเกงเข้ารูป ผมเซ็ทมาอย่างดี ถือกระเป๋าเอกสาร
แต่สีของเสื้อเชิ้ตไม่ค่อยหลากหลายนะ ส่วนใหญ่เสื้อขาว กางเกงดำซะส่วนใหญ่
แต่ชอบที่หุ่นดีอ่ะ ไม่ใช่ล่ำนะ แต่ไม่ค่อยมีใครอ้วน สเปคเลย ฮา ๆ


Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

ระยะทางแค่จากบ้านโฮสถึงสถานีรถไฟ
ทำเอาเราน้ำตาไหลแบบเงียบ ๆ
อยู่ดี ๆ ก็ sensitive ขึ้นมาซะงั้น
คือที่ร้องเพราะมีความรู้สึกว่าอยากอยู่โตเกียวจังเลย (ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเห็นแค่วันแรก)
มันสงบจังเลย ผู้คนมีระเบียบ เงียบ เคารพต่อส่วนรวม บ้านเมืองสะอาด ปลอดภัย ผู้ชายหน้าตาดี โอ๊ย อยากอยู่โตเกียว

ไม่อยากกลับมันละกรุงเทพ ที่ออกจากบ้านก็ได้ยินแต่เสียงมอร์ไซค์ในซอย สารพัดเสียง สารพัดขยะ และสารพัดของขายข้างถนน ทำให้ถนนสกปรก ผู้คนไร้ระเบียบ ไม่เคารพส่วนรวม ทำอะไรตามใจตัวเอง ฯลฯ
คือเราไม่มีปัญหากับการไม่มีของข้างถนนขายนะ ที่โตเกียว เค้าไม่มีอาหารข้างถนนขาย เค้าก็อยู่ได้ ก็ไปซื้อเอาตาม 7-11 หรือตามร้านอาหาร หรือทำกินเอง
บ้านเมืองเค้าก็เลยสะอาด แล้วบ้านเค้ามีจิตสำนึกที่ดี สอนกันตั้งแต่เล็ก ๆ

เดี๋ยวตอนหน้ามีเรื่องประทับใจเกี่ยวกับจิตสำนึกของเด็ก ๆ มาเล่าให้ฟังนะ
ซึ่งกลับมาเล่าให้โฮสฟังแล้วเค้ารู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เค้าถูกสอนมาตั้งแต่เด็ก แต่ประทับใจหญิงไทยอย่างเราเหลือเกิน เพราะบ้านเราไม่มีสอนแบบนี้
ตอนนี้เหมือนจะยังไม่ได้เที่ยวเลยเนอะ เดี๋ยวตอนหน้าพาเที่ยวละ
ใครอยากดูหนุ่มออฟฟิศญี่ปุ่น มีให้ดูทุกตอนนะจ๊ะ ถ่ายมาหลายร้อยรูป ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง (แต่ส่วนใหญ่จะไม่ชัด เดินกันไวเกิ๊น ซับน้ำลายกันด้วย อิอิ


ติดตามอ่านแต่ละตอนได้ตามลิงค์ด้านล่างนะคะ


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 1 การเลือกที่พัก



เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 2 เรื่องเล่าในสนามบินและบนเครื่องบิน


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 3 เย็นวันแรกที่สถานีโตเกียว


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 4 นัดเจอและเข้าไปนอนบ้านคนไม่รู้จักฟรี ๆ คืนแรก



เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 5 วัฒนธรรมภายในบ้านคนญี่ปุ่นที่เราไปค้างด้วย


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 6 ขึ้นรถไฟใต้ดินชั่วโมงเร่งด่วนเป็นครั้งแรก


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 7 ประทับใจกับจิตสำนึกของเด็กญี่ปุ่นที่เราไม่เคยถูกสอน


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 8 เทศกาลน่ารักที่ประทับใจที่สุดในทริปนี้


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 9 เจอหนุ่มในฝันบนรถใต้ดิน



เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 10 พาไปเดินเล่นในสวนพร้อมพาช้อปย่าน KICHIJOJI


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 11 ให้คนญี่ปุ่นพาเที่ยวเข้าไปในยิมที่เด็กม.ปลายกำลังแข่ง



เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 12 ไต้ฝุ่นเข้า เลยต้องเข้าดองกี้แทนตลาดนัดแบกะดิน


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 13 วันสุดท้ายในโตเกียว วัดเซ็นโซจิและสวนอุเอโนะ



Create Date : 10 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 25 พฤษภาคม 2558 19:15:02 น. 2 comments
Counter : 2452 Pageviews.

 
ของกินบ้านโฮสครบเครื่องมากคร่า


โดย: แฟนlinKinPark วันที่: 14 พฤศจิกายน 2557 เวลา:8:14:59 น.  

 
เล่าเรื่องได้น่าติดตามมากค่ะ..เหมือนไปด้วยเลย สนุกมากๆ


โดย: mm IP: 118.174.133.230 วันที่: 10 ธันวาคม 2557 เวลา:2:51:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]




ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.