Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
ทดสอบการสร้างบล็อคของช้าน
รับน้อง...ส่องทาง
เกาหลี กับการเที่ยวคนเดียวครั้งแรกในชีวิต
โตเกียว ครั้งแรก ตัวคนเดียว
กับหนังบางเรื่องที่ยังอิน
บ่น ๆ เพ้อเจ้อ เล่าโน่น เล่านี่ไปเรื่อย
สิงคโปร์คนเดียวครั้งแรก แถมนัดหนุ่มที่นั่นมาเที่ยวด้วย
เรื่องที่มันผ่านไปแล้ว อ่านไปตอนนี้มันไม่ดีอ่านะ
มิตรภาพฟูฟ่อง...ที่ฮ่องกงครั้งแรก ตัวคนเดียว
เที่ยวคนเดียวในมาเลย์...ไม่เก๋อย่างที่คิด
เที่ยวคนเดียวในเมืองฝรั่ง และการเจอหนุ่มตี๋หลาย ๆ คนจาก dating app
<<
พฤศจิกายน 2557
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
10 พฤศจิกายน 2557
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 5 วัฒนธรรมภายในบ้านคนญี่ปุ่นที่เราไปค้างด้วย
All Blogs
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 13 วันสุดท้ายในโตเกียว วัดเซ็นโซจิและสวนอุเอโนะ
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 12 ไต้ฝุ่นเข้า เลยต้องเข้าดองกี้แทนตลาดนัดแบกะดิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 11 ให้คนญี่ปุ่นพาเที่ยวเข้าไปในยิมที่เด็กม.ปลายกำลังแข่ง
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 10 พาไปเดินเล่นในสวนพร้อมพาช้อปย่าน KICHIJOJI
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 9 เจอหนุ่มในฝันบนรถใต้ดิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 8 เทศกาลน่ารักที่ประทับใจที่สุดในทริปนี้
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 7 ประทับใจกับจิตสำนึกของเด็กญี่ปุ่นที่เราไม่เคยถูกสอน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 6 ขึ้นรถไฟใต้ดินชั่วโมงเร่งด่วนเป็นครั้งแรก
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 5 วัฒนธรรมภายในบ้านคนญี่ปุ่นที่เราไปค้างด้วย
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 4 นัดเจอและเข้าไปนอนบ้านคนไม่รู้จักฟรี ๆ คืนแรก
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 3 เย็นวันแรกที่สถานีโตเกียว
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 2 เรื่องเล่าในสนามบินและบนเครื่องบิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 1 การเลือกที่พัก
ในที่สุด เราก็ทำแผนเที่ยวโตเกียวครั้งแรกคนเดียวเสร็จแล้ว สำหรับคนชอบเที่ยวสวนและตลาดนัดอย่างเรา
จะไปเที่ยวโตเกียวครั้งแรก แถมไปคนเดียว สนใจไม่กี่อย่างแต่สถานที่มันเยอะเหลือเกิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 5 วัฒนธรรมภายในบ้านคนญี่ปุ่นที่เราไปค้างด้วย
เพื่อความต่อเนื่อง
ไปอ่านตอนก่อน ๆ ได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้จ้ะ
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 1 การเลือกที่พัก
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 2 เรื่องเล่าในสนามบินและบนเครื่องบิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 3 เย็นวันแรกที่สถานีโตเกียว
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 4 นัดเจอและเข้าไปนอนบ้านคนไม่รู้จักฟรี ๆ คืนแรก
เช้าวันแรกที่โตเกียวกับการนอนบ้านคนไม่รู้จัก ที่ใจดีให้เรานอนบ้านเค้าฟรี ๆ
บอกเลยว่าง่วงนอนมาก
เพราะเมื่อคืนกว่าจะคุยเม้ากันเสร็จ กว่าจะได้อาบน้ำนอนก็ล่อไปเที่ยงคืนกว่า
แถมนอนก็นอนหลับ ๆ ตื่น ๆ ด้วย เพราะกลัวผี เพราะต้องนอนคนเดียว โฮสไม่ยอมนอนด้วย ไปนอนกับน้องสาว แง้ว
ง้องอนตั้งนานให้ช่วยมานอนด้วยกันหน่อย เพราะชั้นกลัวผีก็ไม่สำเร็จ
จริง ๆ เราไม่ได้กลัวการนอนคนเดียวนะถ้าเป็นโรงแรมดี ๆ เช่น โรงแรมที่ออฟฟิศออกตังให้เงี้ย
แต่ถ้าเป็นบ้านคน หรือโรงแรมถูก ๆ ที่เราจองเอง เรากลัวง่ะ ไม่กล้านอนคนเดียว
แต่สุดท้ายก็ต้องนอนคนเดียว แบบหลับ ๆ ตื่น ๆ ตอนตื่นมากลางดึกก็ต้องข่มตา ข่มใจนอนต่อ ไม่กล้าลืมตาขึ้นมาดู กลัวเจออะไร ฮา ๆ
นอนคนเดียวในบ้านนี้ 3 คืนไม่ได้นอนหลับสนิทเลยซักคืน
ภาวนาทุกคืนว่าเมื่อไหร่จะเช้าซักที
อ้อ
เพิ่งรู้ว่า
คนญี่ปุ่นเค้านั่งอาบน้ำ!!!
อยู่บ้านเรา ๆ ก็ยืนอาบน้ำฝักบัวตามปกติของเรา
แต่มาอยู่บ้านเค้า เราต้องนั่งอาบ!!
เพราะในห้องน้ำเค้า ทุกอย่างอยู่ในระดับนั่งอาบหมดเลย
ตั้งแต่ที่วางฝักบัว ที่วางสบู่ แชมพู ฯลฯ
เค้าต้องมาสอนเราวิธีอาบน้ำเลยทีเดียว
คือเค้าจะมีเก้าอี้เล็ก ๆ เหมือนเก้าอี้นั่งซักผ้าบ้านเราแต่ดูดีกว่า
เค้าบอกว่าให้นั่งเก้าอี้นี้แล้วอาบน้ำตามปกติ
อาบไป ไม่ค่อยชินไปยังไงไม่รู้
เช้านี้โฮสเราไม่ว่าง เพราะมีประชุมแต่เช้า เลยจะให้น้องสาวพาไปส่งที่สถานีรถไฟ แล้วให้เราพยายามจำทางให้ได้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนมากมาย
เค้าบอกว่าจะให้เราออกจากบ้านประมาณ 8 โมงครึ่ง
พอดีกับที่เรานัดสาวจีนที่มาอยู่ญี่ปุ่นได้ไม่นานเที่ยวโตเกียวด้วยกันตอน 9 โมง
เราก็รีบตื่นเช้ามาอาบน้ำ เพราะกลัวห้องอาบน้ำจะไม่ว่าง
อ้อ บ้านเค้ามีห้องน้ำกับห้องอาบน้ำแยกกันคนละห้อง
แต่ เพิ่งรู้ว่า คนญี่ปุ่นอาบน้ำรอบเดียวคือตอนเย็นเท่านั้น
ดังนั้น ห้องอาบน้ำจะว่างสำหรับเรา แฮ่ โชคดีจัง
คือคนไทยก็อาบน้ำ 2 รอบอ่ะเนอะ เช้า เย็น เพราะบ้านเรามันเมืองร้อน
แต่ตอนนี้เป็นหน้าร้อนบ้านเค้า ซึ่งอากาศร้อนพอ ๆ กับบ้านเราเลย
เค้าอยู่ได้ยังไงโดยไม่อาบน้ำตอนเช้า เพราะแค่ตื่นแล้วออกมาจากห้อง เหงื่อเราก็แตกพลั่ก ๆ แหล่ว
มิน่า 2 สาวเค้าเลยมีเวลานอนอีกอย่างน้อย 15-20 นาทีโดยไม่ต้องต่อคิวอาบน้ำกัน
แต่เราก็บอกเค้านะว่าเราขออาบน้ำตอนเช้าด้วยนะ ไม่ไหวน่ะ หน้าร้อนแล้วอาบน้ำรอบเดียว มันหงุดหงิด
2 สาวตื่นมาก็เอาเครื่องสำอางมาแต่งกันตรงโต๊ะกินข้าวเลย
แต่งไปดูทีวีไป แต่ แต่ เค้าไม่เปิดพัดลมง่า
หน้าร้อนมันร้อนเหมือนบ้านเราจริง ๆ นะ แต่เค้าก็นั่งแต่งหน้ากันเฉย
แต่เราเนี่ยสิ โคดร้อนเลย ขนาดอาบน้ำเสร็จ สดชื่นได้แป๊บเดียว เหงื่อแตกอีกแล้ว เพราะมันร้อน มันไม่มีลมเลยอ่า
ตอนนั่งทากันแดด ก็ขอเค้าว่า ขอฉันเปิดพัดลมหน่อยนะ เพราะทากันแดดเสร็จจะตบแป้งแต่หน้ามันยังแฉะอยู่เลย เดี๋ยวแป้งเป็นคราบง่า
ได้พัดลมเป่าหน้าค่อยชื่นใจหน่อย แต่ยังคง งง อยู่แล้วเค้าทำได้ไง ตื่นมาแปรงฟันแล้วแต่งหน้าเลย แต่หน้าใสกิ๊กทั้ง 2 สาวพี่น้องเลย ฮา ๆ
ระหว่างเรา 3 สาวแต่งหน้า แม่เค้าก็ทำอาหารอยู่ในครัว
ส่วนพ่อเค้าก็นั่งอ่านหนังสือพิมพ์แล้วก็ดูทีวีอยู่อีกห้องนึงที่เป็นห้องอาหารแบบสากล มีโต๊ะ มีเก้าอี้น่ะ
แต่พวกเราดูทีวีอยู่ห้องอาหารแบบญี่ปุ่น แบบโต๊ะมีรูตรงกลางไว้ห้อยขาลงไปแล้วนั่งบนฟูกอย่างที่บอกไว้ในบล็อคที่แล้ว แอบถ่ายขาตรงโต๊ะมาให้ดูว่าห้อยขาแบบนี้นะ
แต่งหน้าเสร็จ แม่เค้าก็มาเสิร์ฟอาหาร
โอ้ว อลังการมาก นี่พวกเธอกินแบบนี้ทุกวันเลยเหรอเนี่ย อิจฉาโคด ๆ
มาครบทุกหมู่เลย
แล้วก็มีมาเพิ่มอีก
ตอนแรกนึกว่ามีเท่านี้นะ
กินไปกินมาครึ่ง ๆ กลาง ๆ มีปลาแซลมอนมาเสิร์ฟให้ด้วยจ้า
จริง ๆ เราเป็นคนไม่ค่อยชอบถ่ายรูปอาหารเลยนะ
ยิ่งถ้าอยู่เมืองไทย ไม่เคยถ่ายรูปอาหารก่อนกินเหมือนสาวออฟฟิศคนอื่น ๆ เลย
แล้วก็ไม่เข้าไปดูด้วยพวกที่ชอบถ่ายรูปอาหารเนี่ย มันดูไร้สาระยังไงไม่รู้ (ในความรู้สึกส่วนตัวของเรา)
แล้วใครถ่ายรูปอาหารมาก็ไม่รู้สึกอะไร ไม่รู้สึกว่าอยากกินหรืออะไร รู้สึกแค่ว่าจะถ่ายทำไม
แต่ครั้งนี้มาญี่ปุ่นครั้งแรก แล้วรู้ตัวว่าจะเอามาเขียนบล็อค
เลยขอถ่ายรูปเก็บไว้ซักหน่อย
ด้วยความที่ทุกอย่างมาเต็ม สาวไทยกินเก่งแต่เลือกกินอย่างเราก็ต้องกินให้หมด ผักสดทุกทีไม่กินก็กินให้หมด เพื่อให้เจ้าบ้านรู้สึกดี แต่จริง ๆ ผักสดบ้านเค้ามันอร่อยกว่าบ้านเรานะเราว่า
แล้วอีกอย่างที่กินหมดก็คือ
แต่ละวันเราต้องใช้พลังงานอย่างล้นเหลือ
แล้วอย่างที่รู้กันว่าข้าว 1 มื้อที่ญี่ปุ่นแพงมาก 1 ร้อยบาทยังไม่ได้ราเมงหรือข้าว 1 จานเลย
ดังนั้น เราต้องฟาดให้เรียบ เอาให้หนักท้องที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะเดินตั้งแต่ 9 เก้าโมงยัน 1-2 ทุ่มทุกวันจ้า
เราเตรียมใจมาแล้ว เพราะด้วยแผนการเที่ยวของเราที่เที่ยวไม่ต่ำกว่า 3-4 ที่ต่อวันแล้วเดินดูอย่างเดียว มันค่อนข้างโหดมากเหมือนกัน
จริง ๆ เราไม่ใช่มาอยู่บ้านเค้าแล้วไม่ช่วยอะไรเค้านะ
เราพยายามจะช่วยหยิบจับหรือทำอะไร แม่เค้าก็รีบมาห้ามไปซะหมด
จะช่วยล้างจานชาม ข้าวของ แม่เค้าก็ห้าม ส่ายหัว โบกไม้โบกมือแล้วแย่งจากเราไปตลอด
เราก็เลยไม่ได้ช่วยอะไรเค้าเลยด้วยประการละฉะนี้
แล้วเราก็มารู้ทีหลังอีกเหมือนกันว่าวัฒนธรรมคนญี่ปุ่น เค้าจะดูแลแขกอย่างดี ไม่ให้แขกทำอะไรเลย
และแล้วก็ได้เวลาออกเริงร่า ท้าแดดโตเกียววันแรกซะที
ระยะทางจากบ้านโฮสไปรถไฟฟ้าใต้ดิน ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที
ซึ่งเราชอบ 2 ข้างทางระหว่างไปสถานีรถไฟมาก
เพราะมันเงียบสงบ ไม่มีเสียงมอร์ไซค์ให้ได้ยินเหมือนบ้านเราเลย
เสียงรถก็แทบจะไม่มี เดินผ่านซอยแคบ ๆ ดูบ้านสองข้างทางก็น่ารักไปหมด
ผู้คนก็เดินกันขวักไขว่นะ แต่ไม่มีเสียงดังจอแจเลย ไม่มีเสียงใครพูดกัน หรือเดินคุยโทรศัพท์อะไรใด ๆ เลย
มีทั้งขี่จักรยาน แล้วก็เดิน ผู้คนต่างเคารพสิทธิของกันและกัน
ผู้คนที่เดินกันคนละทิศก็เดินกันคนละฝั่งถนนเล็ก ๆ ไม่มีมาเดินเบียดกันชนกันในฝั่งเดียว
คือทุกคนมีวินัยอยู่ในสายเลือด ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ๆ
อันนี้ถ่ายจุดสำคัญระหว่างทางจากบ้านไปรถไฟฟ้าใต้ดิน และผู้คนที่สัญจรระหว่างทาง
เราชอบฟิลลิ่งนี้จัง เช้า ๆ เงียบ ๆ สะอาด ปลอดภัย และเขียว ๆ
เครื่องแบบนักเรียนญี่ปุ่น เหมือนในหนังหรือจินตนาการกันรึเปล่าจ๊ะ
สาว ๆ ที่นี่เวลาหน้าร้อนก็กางร่มกันแดดเหมือนสาวไทยนะจ๊ะ
สถานีบ้านเราก็มีสวนสาธารณะอยู่ด้วย ติดสถานีเลย
เราว่า เราสามารถหาสวนสาธารณะได้ทุกสถานีเลยมั้ง ญี่ปุ่นเค้าใส่ใจกับความเขียวจริง ๆ
สงสัยสปีดการเดินของคนในโตเกียวก็อยู่ในยีนเหมือนกัน เพราะเดินกันเร็วจริง
สปีดกรุงเทพอย่างเรา โดนทิ้งห่างไปเลย แล้วยิ่งเป็นสปีดนักท่องเที่ยวที่มาญี่ปุ่นครั้งแรกอย่างเราด้วยแล้ว สปีดแบบเราเรียกว่าคลานเลยดีกว่าเมื่อเทียบกับคนโตเกียว
ก็ทำไงได้ล่ะ อยากละเลียดความเป็นโตเกียว แล้วก็อยากมองหนุ่มซาลาริมังในโตเกียวนี่นา
แล้วก็แอบถ่ายมาให้สาวไทยชมก็ต้องเดินช้า ๆ หน่อยนั่นแหละ
เดี๋ยวกล้องมือถือโฟกัสไม่ทัน
จริง ๆ เราถ่ายรูปหนุ่มซาลาริมังโตเกียวเป็นพันรูปเลยนะ จากสามพันกว่ารูปในโตเกียว
แต่เบลอไปครึ่งนึง เพราะสปีดการเดินของหนุ่ม ๆ ทำให้กล้องมันโฟกัสไม่ทัน
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีนะจ๊ะ มายลกันเลย
หนุ่มโตเกียววัยรุ่นไม่เกิน 35 แต่งตัวสมาทกันทุกคนเลย
คือเนี้ยบตั้งแต่เสื้อผ้า หน้า ผมเลยล่ะ
เสื้อกับกางเกงเข้ารูป ผมเซ็ทมาอย่างดี ถือกระเป๋าเอกสาร
แต่สีของเสื้อเชิ้ตไม่ค่อยหลากหลายนะ ส่วนใหญ่เสื้อขาว กางเกงดำซะส่วนใหญ่
แต่ชอบที่หุ่นดีอ่ะ ไม่ใช่ล่ำนะ แต่ไม่ค่อยมีใครอ้วน สเปคเลย ฮา ๆ
ระยะทางแค่จากบ้านโฮสถึงสถานีรถไฟ
ทำเอาเราน้ำตาไหลแบบเงียบ ๆ
อยู่ดี ๆ ก็ sensitive ขึ้นมาซะงั้น
คือที่ร้องเพราะมีความรู้สึกว่าอยากอยู่โตเกียวจังเลย (ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเห็นแค่วันแรก)
มันสงบจังเลย ผู้คนมีระเบียบ เงียบ เคารพต่อส่วนรวม บ้านเมืองสะอาด ปลอดภัย ผู้ชายหน้าตาดี โอ๊ย อยากอยู่โตเกียว
ไม่อยากกลับมันละกรุงเทพ ที่ออกจากบ้านก็ได้ยินแต่เสียงมอร์ไซค์ในซอย สารพัดเสียง สารพัดขยะ และสารพัดของขายข้างถนน ทำให้ถนนสกปรก ผู้คนไร้ระเบียบ ไม่เคารพส่วนรวม ทำอะไรตามใจตัวเอง ฯลฯ
คือเราไม่มีปัญหากับการไม่มีของข้างถนนขายนะ ที่โตเกียว เค้าไม่มีอาหารข้างถนนขาย เค้าก็อยู่ได้ ก็ไปซื้อเอาตาม 7-11 หรือตามร้านอาหาร หรือทำกินเอง
บ้านเมืองเค้าก็เลยสะอาด แล้วบ้านเค้ามีจิตสำนึกที่ดี สอนกันตั้งแต่เล็ก ๆ
เดี๋ยวตอนหน้ามีเรื่องประทับใจเกี่ยวกับจิตสำนึกของเด็ก ๆ มาเล่าให้ฟังนะ
ซึ่งกลับมาเล่าให้โฮสฟังแล้วเค้ารู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เค้าถูกสอนมาตั้งแต่เด็ก แต่ประทับใจหญิงไทยอย่างเราเหลือเกิน เพราะบ้านเราไม่มีสอนแบบนี้
ตอนนี้เหมือนจะยังไม่ได้เที่ยวเลยเนอะ เดี๋ยวตอนหน้าพาเที่ยวละ
ใครอยากดูหนุ่มออฟฟิศญี่ปุ่น มีให้ดูทุกตอนนะจ๊ะ ถ่ายมาหลายร้อยรูป ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง (แต่ส่วนใหญ่จะไม่ชัด เดินกันไวเกิ๊น ซับน้ำลายกันด้วย อิอิ
ติดตามอ่านแต่ละตอนได้ตามลิงค์ด้านล่างนะคะ
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 1 การเลือกที่พัก
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 2 เรื่องเล่าในสนามบินและบนเครื่องบิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 3 เย็นวันแรกที่สถานีโตเกียว
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 4 นัดเจอและเข้าไปนอนบ้านคนไม่รู้จักฟรี ๆ คืนแรก
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 5 วัฒนธรรมภายในบ้านคนญี่ปุ่นที่เราไปค้างด้วย
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 6 ขึ้นรถไฟใต้ดินชั่วโมงเร่งด่วนเป็นครั้งแรก
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 7 ประทับใจกับจิตสำนึกของเด็กญี่ปุ่นที่เราไม่เคยถูกสอน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 8 เทศกาลน่ารักที่ประทับใจที่สุดในทริปนี้
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 9 เจอหนุ่มในฝันบนรถใต้ดิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 10 พาไปเดินเล่นในสวนพร้อมพาช้อปย่าน KICHIJOJI
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 11 ให้คนญี่ปุ่นพาเที่ยวเข้าไปในยิมที่เด็กม.ปลายกำลังแข่ง
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 12 ไต้ฝุ่นเข้า เลยต้องเข้าดองกี้แทนตลาดนัดแบกะดิน
เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 13 วันสุดท้ายในโตเกียว วัดเซ็นโซจิและสวนอุเอโนะ
Create Date : 10 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 25 พฤษภาคม 2558 19:15:02 น.
2 comments
Counter : 2452 Pageviews.
Share
Tweet
ของกินบ้านโฮสครบเครื่องมากคร่า
โดย:
แฟนlinKinPark
วันที่: 14 พฤศจิกายน 2557 เวลา:8:14:59 น.
เล่าเรื่องได้น่าติดตามมากค่ะ..เหมือนไปด้วยเลย สนุกมากๆ
โดย: mm IP: 118.174.133.230 วันที่: 10 ธันวาคม 2557 เวลา:2:51:22 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [
?
]
ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.