Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
31 ธันวาคม 2557
 
All Blogs
 

เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 9 เจอหนุ่มในฝันบนรถใต้ดิน

เพื่อความต่อเนื่อง
ไปอ่านตอนก่อน ๆ ได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้จ้ะ


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 1 การเลือกที่พัก



เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 2 เรื่องเล่าในสนามบินและบนเครื่องบิน


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 3 เย็นวันแรกที่สถานีโตเกียว


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 4 นัดเจอและเข้าไปนอนบ้านคนไม่รู้จักฟรี ๆ คืนแรก



เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 5 วัฒนธรรมภายในบ้านคนญี่ปุ่นที่เราไปค้างด้วย


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 6 ขึ้นรถไฟใต้ดินชั่วโมงเร่งด่วนเป็นครั้งแรก


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 7 ประทับใจกับจิตสำนึกของเด็กญี่ปุ่นที่เราไม่เคยถูกสอน


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 8 เทศกาลน่ารักที่ประทับใจที่สุดในทริปนี้


วันนี้เราต้องเปลี่ยนโฮส
หลังจากนอนบ้านโฮสคนแรกมา 2 คืนแล้ว
ตอนแรกแพลนไว้คือนอน 2 คืน
แล้วนอนบ้านโฮสอีกคนนึง 3 คืน
แต่คืนสุดท้าย เราต้องออกจากห้องเค้าเร็ว
เพราะเป็นเช้าวันจันทร์ โฮสเราก็ต้องออกไปทำงานแต่เช้า
ก็ต้องออกแต่เช้าพร้อมเค้า
แต่เราบินตอนเย็น
จะเอาข้าวของไปฝากตู้ตอนเช้าแล้วไปเที่ยว
ตอนเย็นต้องแบกข้าวของขึ้นรถใต้ดินในชั่วโมงเร่งด่วนไปเจอโฮสตอนทุ่มนึง
มันดูจะไม่ไหว
เลยเปลี่ยนแผน
คืนสุดท้าย คืนวันอาทิตย์ เราขอกลับมานอนกับโฮสคนแรกดีกว่า
แล้วเอาของที่จำเป็นไปก็พอ แล้วเราจะได้ฝากกระเป๋าใหญ่ไว้บ้านนี้เลย
เพราะจริง ๆ โฮสคนแรกตอบเรากลับมาช้ามาก แค่ไม่กี่วันก่อนบินว่าเราสามารถพักบ้านเค้าได้ทั้ง 5 คืนเลย
เราก็ตอบรับว่าจะนอนกับโฮสคนที่ 2 คืนวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ไว้แล้ว
เลยเปลี่ยนแพลนแค่คืนสุดท้าย กลับมานอนกับโฮสคนแรก
เอาแค่ของจำเป็นไป

แต่ขนาดแค่เอาของจำเป็นไปนะ ยัง 2 ถุงผ้าใหญ่ ๆ แน่ะ
เพราะถุงผ้าใบนึงคือของฝากโฮสจากเมืองไทย หนักประมาณ 5 กิโลได้มั้ง
อีกถุงผ้านึงคือพวกเสื้อผ้า ของอาบน้ำที่จะเอาไปนอนกับเค้า 2 คืน
ไหนจะเป้เล็ก ๆ บนหลังอีก 1 ใบที่ติดตัวเที่ยวทุกที่ตลอดเวลา
กลายเป็นบ้าหอบฟางมาก มีตั้ง 3 กระเป๋า
แพ็คเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่กลางคืน เพิ่มเติมนิดหน่อยตอนเช้า
แล้วก็มานั่งกินข้าวเช้ากับโฮสบ้านนี้ก่อนจากเค้าไป 2 คืน
หน้าตาข้าวเช้าจ้ะ

Image Hosted by PicturePush

ก่อนออกจากบ้านก็ร่ำลาคนในบ้าน ทั้งพ่อ แม่ แต่โฮส และน้องสาวออกไปทำงานก่อนแล้ว
แม่เค้านะ
มาส่งเราหน้าบ้านแล้วก็นั่งพับขาแบบคนญี่ปุ่น แล้วก็โค้งเราพร้อมคำพูดญี่ปุ่นด้วยอ่ะ
ประมาณนี้



เรานี่ตกใจใหญ่เลย รีบเข้าไปบอกเค้าว่าไม่ต้องทำแบบนี้
แต่มันคงเป็นวัฒนธรรมบ้านเค้าน่ะนะ พูดญี่ปุ่นแล้วก็โค้งเราหลายรอบมาก
เราก็ไม่รู้จะทำยังไงก็ยืนโค้งตอบเค้าแบบหัวจะติดหัวเข่าไปหลาย ๆ รอบ
แล้วก็บ๊าย บายเค้า มุ่งหน้าสู่รถไฟใต้ดิน

แล้วก็ได้เวลาออกเดินทางไปสถานี Shinjuku เพื่อไปฝากสัมภาระ 2 ถุงใหญ่
แล้ววกกลับมาที่สถานี Shinjuku gyoemmae Station
เพื่อไปเที่ยวเล่นในสวน Shinjuku Gyoen National Garden
แล้วต่อด้วยการไปเดินเล่นที่ KICHIJOJI แล้วไปเดินเล่นในสวน INOKASHIA KOEN แถวนั้น
ถ้ามีเวลาเหลือก็จะไปเดินเล่นย่าน KOENJI เพื่อดูเสื้อผ้ามือสอง

พอขึ้นรถไฟใต้ดินได้ที่นั่งปั๊บ
ปฏิบัติการถ่ายรูปชาวญี่ปุ่นก็เริ่มขึ้นทันที
แล้วก็มาสะดุดรัก ปิ๊งปั๊งกับหนุ่มที่นั่งเยื้อง ๆ ตรงหน้า
โอ๊ย หนุ่มคนนี้เดินออกมาจากฝันเราหรือยังไง
สเป๊คเลยให้ตายสิ
แต่ก็ทำได้เพียงแอบถ่ายรูปเค้ามา

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


เปลี่ยนคนนั่งจากคุณลุง เป็นคุณป้า ก็ยังไม่เลิกถ่าย

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


จนเค้ารู้ตัว

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

จนคุณป้าที่นั่งข้าง ๆ เค้ารู้ตัวก็ไม่ยอมหยุดถ่าย

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

คือถ่ายทุกสถานีน่ะ ตั้งแต่มันอยู่ใต้ดิน ลัดขึ้นมาบนดินก็ถ่าย บ้ามากเลย (ตอนนี้ก็ยังบ้าหนุ่มคนนี้อยู่ อิอิ)
อยากจะหยุดเวลาไว้ตรงนี้ เกือบ ๆ 9 โมงเช้า
แล้วหนุ่มคนนั้นก็ลงไปที่สถานี Shinjuku gyoemmae Station ที่เราจะไปพอดี
แต่เราต้องเลยไปอีก 1 สถานีเพื่อไปฝากข้าวของก่อน
ที่ต้องฝากสถานีนั้นก็เพื่อตอนเย็นไปบ้านอีกโฮสนึงเราก็เปลี่ยนสถานีที่นั่นด้วย
จะได้ย้อนไปย้อนมาแค่ครั้งเดียวตอนเช้า
เราก็ได้แต่มองหนุ่มคนนั้นลงไปอย่างเพ้อ ๆ ว้า
ถ้ามีโอกาส เราคงได้เจอกันอีก
มาเล่าให้โฮสทั้งที่แรกและที่ ๆ สองและคนญี่ปุ่นที่ไปเที่ยวด้วยกันวันเสาร์
ทุกคนบอกตรงกันว่า ทำไมไม่เข้าไปทักทาย
เพราะอย่างน้อยก็จะได้รู้ไงว่าเค้ามีแฟนรึยัง ไม่ต้องเสียดายโอกาสและอยู่กับความเสียดาย
โดยธรรมชาติ ผู้ชายญี่ปุ่นจะขี้เก๊กและขี้อาย
แอบถ่ายเค้าก็คงไม่กล้าทำอะไรหรอก
เดินเข้าไปคุยก็ดูน่ารักดี เพราะถ้ารอเค้าเข้ามาคุยคงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
โอ๊ย ไซโคซะจนเสียดาย เสียดายแล้ว เสียดายอีก
จนนั่งพิมพ์ตอนนี้ก็ได้แต่เสียดาย เสียดายว่าจริง ๆ เราน่าจะทำอะไรเนอะ
อยู่เมืองนอก ไม่มีใครรู้จักเรา แล้วเราก็ไม่มีอะไรจะเสียด้วย เฮ้อ
ได้แต่เก็บความประทับใจในตัวหนุ่มคนนี้ด้วยรูปถ่ายแล้วกัน
ขอเชื่อตามภาษิตจีนที่ว่า

"หากมีวาสนาแม้ห่างกันพันลี้ยังได้พบหน้า หากไร้วาสนาแม้อยู่ตรงข้ามก็ไม่พบเจอ 有缘千里来相会,无缘对面不相逢

แต่จริง ๆ แล้วคนญี่ปุ่นจะมีคำพูดนึงว่า อิจิโกะ อิจิเอะ... (一期一会) ซึ่งหมายถึง การเจอเพียงครั้งเดียว ครั้งเดียวในชีวิต แล้วไม่เจอกันอีก

เวง ฉันจะเชื่ออะไรดีเนี่ย (ยังเพ้อไม่เลิก ขนาดผ่านมาตั้ง 4 เดือนแล้ว ฮา ๆ)

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


แล้วเราก็ได้ไปฝากสัมภาระสมใจ
ต้องถ่ายรูปสถานที่รอบตัวเอาไว้
เพราะมีหลายคนขู่ว่าระวังจะหาตู้ฝากไม่เจอ
เพราะที่สถานีนี้มันมีเยอะมาก แล้วหน้าตาเหมือนกันหมด
ถ้าไม่ถ่ายรูปเอาไว้ สุดท้ายอาจจะต้องเสียเวลาหลายชั่วโมงตามหาเลยทีเดียว
ไอ้เราก็เลยถ่ายหมด กันไว้ดีกว่าแก้

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

แล้วก็รีบตรงดิ่งกลับไปหาน้องหมวยจีนที่เที่ยวด้วยกันเมื่อวาน
ที่เค้ายอมเที่ยวกับเราอีกครึ่งวัน
เพราะเค้าบอกว่าอีกวันเค้าต้องไปเสิร์ฟอาหาร
เค้าขอเวลาพักขาซักครึ่งวัน
เพราะเที่ยวกับเราเมื่อวานมันโหดมาก
ไปหลายที่แล้วเดินทั้งวันเป็น 10 ชั่วโมงเลย
ถ้าวันนี้ทำแบบนั้นอีก เค้ากลัวไปทำงานไม่ไหว

แล้วน้องเค้าก็เล่าให้ฟังว่า
คนญี่ปุ่นใช้เค้าคุ้มสุด ๆ ไปเลย
เพราะเค้าไม่มีเวลายืนหรือนั่งว่างเลยแม้แต่วินาทีเดียว
ถ้าลูกค้ายังไม่เข้าก็ต้องปัด กวาด เช็ด ถู จัดโน่น นี่ นั่น
ทำเสร็จแล้ว เจ้าของก็จะมีงานอื่น ๆ อีกมากมายเพื่อไม่ให้เรามีเวลาว่างตั้งแต่เริ่มงานยันเสร็จงานเลย
แล้วก็เป็นแบบนี้ทุกร้าน ทุกที่ ตามมาตรฐานคนญี่ปุ่น
ซึ่งเข้ามาแรก ๆ น้องเค้าก็ไม่ชิน แต่ตอนนี้ชินละ
มาตรฐานคนญี่ปุ่นเลยจะสูงมากในทุก ๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการบริการ
ทุกอย่างต้องเยอะ ต้องเนี้ยบ ต้องเป๊ะ แค่โค้งคำนับ เสื้อผ้าการแต่งกาย หรือน้ำเสียงต้อนรับยังต้องเนี้ยบเลยคิดดู
เราจึงไม่เคยเห็นพนักงานขายญี่ปุ่นยืนว่าง สุมหัวเม้าอะไรเวลาไม่มีลูกค้าเหมือนคนไทยเลย
มีแต่บริการที่ประทับใจ เฮ้อ คิดถึงญี่ปุ่นจุง


หลังจากเจอน้องเค้าแล้ว
เราก็ไปเดินเล่นในสวน Shinjuku Gyoen National Garden กันทันที
แต่ฟ้าฝนดันไม่เป็นใจ ฝนตกแต่ 9 โมงเช้าเลย
แล้วมันก็ตก ๆ หยุด ๆ ปรอย ๆ ท้างงวัน เพราะไต้ฝุ่นเข้าวันแรก

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

ไปซื้อตั๋วก่อน ค่าเข้า 200 เยน
เป็น 200 เยนที่คุ้มมากกก
เพราะสวนมันใหญ่มากกกก
จะเรียกว่าป่าก็ได้นะ
เดินทั้งวันก็ไม่หมด
เราเดินครึ่งวันก็ต้องจรลีละ เพราะมันเมื่อยมาก และเอียนกับความเขียวไปเลย
ตรงที่โล่งจะใหญ่เหมือน ๆ สนามกอล์ฟเลย
ตรงที่มีต้นไม้เยอะ ๆ เหมือนป่าเลย แล้วเสียงแมลงเยอะมาก หึ่งไปหมดทั้งสวน
เราว่าไม่น่าเรียกสวนเลยนะ เพราะมันใหญ่เกินกว่าคำว่าสวนเลย
สวนลุม สวนรถไฟบ้านเรา เด็ก ๆ ไปเลย
แล้วต้นไม้ที่นี่ใหญ่โต อายุหลายร้อยปี
มีแยกย่อยหลายสวนเล็ก ๆ ด้วยนะ
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการจัดสวนทั้งแบบญี่ปุ่น, แบบอังกฤษ และ แบบฝรั่งเศส

แต่รู้สึกว่าเราไปแต่สวนญี่ปุ่นมั้ง
แค่เดินไปสวนญี่ปุ่น ถ่ายรูป 2 ข้างทางก็หมดไป 2-3 ชั่วโมงแล้ว
เพราะแต่ละสวนจะอยู่ลึกเข้าไปด้านใน
แล้วมันมีทางเข้า ออก ทางเดียว
ถ้าเราเดินเข้าไปไกลมาก เราก็เดินออกมาไกลมากเช่นกัน
แถมฝนก็ตกเป็นระยะให้ต้องวิ่งหลบฝนกันอีก มันเลยยิ่งเสียเวลา
รูปก็ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่เพราะไม่มีแดด
แต่ก็ถ่ายมาเยอะเหมือนกัน
ในรูปอาจจะมองไม่รู้ว่ามันใหญ่ แต่จริง ๆ มันใหญ่มากกกก เดินเหนื่อยอ่ะ ขนาดเป็นคนชอบเดิน และชอบสวนนะเนี่ย
อยากเดินในครบ แต่ถอดใจเลย

เข้ามาปุ๊บก็เจอต้นไม้โดนห่อเลย
เค้าห่อทำไม มิมีใครรู้ได้ แต่ผ้าที่ห่อมีสีเดียว มิใช่ 3 สี
ดังนั้น คนญี่ปุ่นคงไม่ได้มาขอหวยกับต้นนี้หรอกเนอะ

Image Hosted by PicturePush

เดินลึกเข้าไป

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

2 ข้างทางเป็นที่โล่งกว้าง ซึ่งกว้างมาก กว้างกว่าสนามกอล์ฟอีกก

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

ผ่านที่โล่งก็มาเจอที่ทึบ เต็มไปด้วยต้นไม้ ชื้น ๆ แฉะ ๆ หน่อยในวันฝนโปรย
แมลงร้องเสียงดังมากก และแมลงก็เริ่มกัดขาพวกเรา 2 คนแล้วววว

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

มีหนุ่มพนักงานเดินผ่านมา รีบแอบถ่าย หน้าตาดีนะเนี่ย

Image Hosted by PicturePush

อยู่ในนี้แทบไม่เดินเจอคน
เพราะมันใหญ่มากกก อย่างที่บอก คนก็เลยกระจัดกระจาย
แล้วมันเป็นสายวันทำงานด้วยมั้ง นาน ๆ จะเจอคนซักที
อยู่ในสวนหลายชั่วโมง เจอคนยังไม่ถึง 10 คนเลย

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

เจอน้อง ๆ หนุ่ม ๆ นี่ก็เสร็จเจ้สิ ถ่ายมาไว้ทำ collection ฮา ๆ

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

สวนนี้อยู่ในเมืองเลยนะ
ที่คงแพงมาก แต่คนญี่ปุ่นก็ไม่ทำลายต้นไม้
ทำให้เรารู้ว่า ในบ้านเมืองเค้า คนกับป่า อยู่ด้วยกันได้อย่างกลมกลืน
เช่น ภาพนี้

Image Hosted by PicturePush

แล้วเราก็เสพย์ความเขียวกันให้ชุ่มปอด

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

ชอบภาพนี้นะ อย่างกะโปสการ์ดเลย

Image Hosted by PicturePush


อันนี้น่าจะเป็นการจัดสวนแบบญี่ปุ่น มีศาลาด้านบนด้วย


Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


เจอหนุ่มต้องรีบถ่าย แหะ ๆ


Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush


ชอบภาพนี้นะ อย่างกะโปสการ์ดเลย


Image Hosted by PicturePush



มุมนี้มีสะพานมาเป็นพร็อพ

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

ต้นไม้เป็นพุ่ม ๆ เหมือนก้อนหินหลาย ๆ ก้อน น่ารักดี

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

ทางออก ด้านหน้า เป็นร้านขายของที่ระลึก หรือร้านขนมเนี่ยแหละ ไม่ได้เดินเข้าไปดู

Image Hosted by PicturePush

แล้วเราก็ออกจากสวนตอนเที่ยง ๆ
เข้าร้านสะดวกซื้อ
มีจุดให้ยืนต่อคิวด้วย

Image Hosted by PicturePush

เอิ่ม
แล้วนี่อะไร
โจ๋งครึ่มเลยทีเดียว

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

แฟชั่นหนุ่มสาวญี่ปุ่นวัยทำงานตอนเที่ยง ๆ

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

Image Hosted by PicturePush

ที่กางนี่ เพราะกันแดดนะจ๊ะ เพราะฝนหยุดตกแล้ว

Image Hosted by PicturePush

แล้วต่อรถไฟบนดิน ได้เห็นวิวกันมั่ง

Image Hosted by PicturePush

บรรยากาศระหว่างรอรถ

Image Hosted by PicturePush

ลาไปด้วยภาพโฆษณาอันนี้แล้วกัน

Image Hosted by PicturePush

อยู่โตเกียวมานี่ ไม่ค่อยเห็นหนุ่มสาวอ้วน ๆ เลยนะ
โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ ซาลาริมัง มีแต่ผอม ๆ เนี้ยบ ๆ ให้น้ำลายหกได้ทุกวี่วัน ๆ ละหลายรอบ แหะ ๆ
เดี๋ยวตอนหน้าจะพาไปเที่ยว KICHIJOJI กับสวนที่อยู่ตรงนั้น พร้อมหนุ่ม ๆ ญี่ปุ่น (ที่ขาดไม่ได้ซักตอน ประมาณว่ามันเยอะกว่าสถานที่เที่ยวอีก ทำไงได้ เจ้าของบล็อคบ้าหนุ่มญี่ปุ่น) หุหุ


ติดตามอ่านแต่ละตอนได้ตามลิงค์ด้านล่างนะคะ


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 1 การเลือกที่พัก



เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 2 เรื่องเล่าในสนามบินและบนเครื่องบิน


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 3 เย็นวันแรกที่สถานีโตเกียว


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 4 นัดเจอและเข้าไปนอนบ้านคนไม่รู้จักฟรี ๆ คืนแรก



เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 5 วัฒนธรรมภายในบ้านคนญี่ปุ่นที่เราไปค้างด้วย


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 6 ขึ้นรถไฟใต้ดินชั่วโมงเร่งด่วนเป็นครั้งแรก


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 7 ประทับใจกับจิตสำนึกของเด็กญี่ปุ่นที่เราไม่เคยถูกสอน


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 8 เทศกาลน่ารักที่ประทับใจที่สุดในทริปนี้


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 9 เจอหนุ่มในฝันบนรถใต้ดิน



เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 10 พาไปเดินเล่นในสวนพร้อมพาช้อปย่าน KICHIJOJI


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 11 ให้คนญี่ปุ่นพาเที่ยวเข้าไปในยิมที่เด็กม.ปลายกำลังแข่ง



เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 12 ไต้ฝุ่นเข้า เลยต้องเข้าดองกี้แทนตลาดนัดแบกะดิน


เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แถมไปคนเดียว ตอนที่ 13 วันสุดท้ายในโตเกียว วัดเซ็นโซจิและสวนอุเอโนะ




 

Create Date : 31 ธันวาคม 2557
6 comments
Last Update : 25 พฤษภาคม 2558 19:14:22 น.
Counter : 4282 Pageviews.

 

แอบฟิน อิอิ

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 1157200 31 ธันวาคม 2557 23:14:41 น.  

 

รอติดตามจ้า

 

โดย: คนช่างฝัน IP: 14.207.247.52 1 มกราคม 2558 10:09:41 น.  

 

หนุ่มหน้าตาดีจังค่ะ เป๊กเลย 555
แม่โมก็เจอเป๊กคนนึงคะ แถวชินจูกุ แต่มันเป็นไปไม่ได้ เลยได้แต่เพ้อน่ะคะ เจออีกคนที่ พาร์มเมอร์สตันนอร์ท หนุ่มญี่ปุ่นเหมือนกัน ได้แต่เพ้อเช่นเคย

ว่าแต่ดูเหมือนเขาจะรู้ตัวนะคะ อะแฮ่ม

 

โดย: mariabamboo 4 มกราคม 2558 12:44:50 น.  

 

แหมๆ ถ่ายรูปเค้าจนเค้ารู้ตัวเลยนะลีลี
ตอนเราไป ก็เจอหนุ่มๆ น่ารัก น่าถ่ายรูปเหมือนกัน
ติดอย่างเดียว .... ไปกะซะมี

 

โดย: copo de nieve 15 มกราคม 2558 22:30:36 น.  

 

แวะมาบอกว่า อย่าลืมเตรียมคอนซีลเลอร์นะจ๊ะ แพนด้าบุกแน่เมื่อลีลีจะคืนสังเวียนซีรีย์เกาหลี อิอิ

 

โดย: copo de nieve 18 มกราคม 2558 12:32:26 น.  

 

"หากมีวาสนาแม้ห่างกันพันลี้ยังได้พบหน้า หากไร้วาสนาแม้อยู่ตรงข้ามก็ไม่พบเจอ"

อ้ากกก มันช่างบาดใจ สะเทือนใจข้ายิ่งนักเพื่อนรัก (อิอิ)

ปล.1 หนุ่มตี๋ น่ารักมากๆค่ะ (ชอบสไตล์หนุ่มตี๋ เอเชียเหมือนกันเลยจ้ะ)
ปล.2 ต้นไม้ใหญ่ดูร่มรื่นมาก น่าไปเดินเล่นให้ลมปะทะหน้าชิลๆจังค่ะ

 

โดย: nobuta wo produce 2 กุมภาพันธ์ 2558 23:08:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]




ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.