... Simplicity is Happiness ♥ ...
Group Blog
 
<<
มกราคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
3 มกราคม 2556
 
All Blogs
 

>> จะแต่งงานแล้วหรือยังไม่ได้แต่ง ก็ควรจะอ่านนี่ <<

"เมื่อผมกลับถึงบ้านในคืนนั้น ภรรยาของผมกำลังเสิร์ฟอาหารมื้อค่ำ
ผมถือมือของเธอและพูดว่า ผมมีบางสิ่งบางอย่างที่จะบอกคุณ
เธอนั่งลงและกินอย่างเงียบๆ
เป็นอีกครั้งที่ผมสังเกตเห็นความ เจ็บปวดในสายตาของเธอ
ทันใดนั้นผมก็ไม่รู้ว่าจะพูดต่อไปยังไง
ผมแค่รู้ว่าผมจะต้องบอกเธอในสิ่งที่ผมคิดให้ได้
"ผมต้องการหย่า" ผมเริ่มบทสนทนาอย่างเรียบๆ
เธอดูไม่ได้สะทกสะท้านกับคำพูดของผม
แต่กลับถามผมอย่างสงบ "ทำไม?"

ผมหลีกเลี่ยงคำถามของเธอ และนั่นทำให้เธอโกรธ
เธอโยนตะเกียบทิ้งและตะโกนมาที่ผม "หน้าตัวเมีย!"
คืนนั้นเราไม่ได้พูดคุยกัน เธอร้องไห้
ผมรู้ว่าเธอต้องการที่จะรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตแต่งงานของเรา
แต่ผมคงไม่สามารถจะให้คำตอบที่น่าพอใจกับเธอได้
เธอได้สูญเสียความรักของผมให้กับเจน
ผมไม่ได้รักเธออีกต่อไป ผมแค่สงสารเธอ!

ผมร่างข้อตกลงการหย่าด้วยความรู้สึกผิดอย่างใหญ่หลวง
สัญญาระบุว่าเธอจะเป็นเจ้าของบ้านของเรา รถของเรา
และสัดส่วนการถือหุ้น 30% บริษัทของผม
เธออ่านมันเผินๆแล้วฉีกมันเป็นชิ้น

ผู้หญิงที่ได้ใช้เวลาสิบปีที่ผ่านมาในชีวิตของเธอให้กับผม
ได้กลายเป็นคนแปลกหน้า ผมรู้สึกเสียใจสำหรับเวลาที่เสียไปของเธอ
แต่ผมก็ไม่สามารถกลับคำพูดที่ผมได้ขอหย่ากับเธอ
เพราะผมเองก็รักเจนมาก ในที่สุดเธอก็ปล่อยโฮออกมาต่อหน้าผม
อย่างที่ผมนึกคาดไว้ก่อนหน้านี้ สำหรับผม
การร้องไห้ของเธอเป็นเหมือนการปลดปล่อย
ความคิดของการหย่าร้างซึ่งทำให้ผมสับสนมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์
ตอนนี้ดูเหมือนจะแน่ชัดและชัดเจนขึ้น

วันรุ่งขึ้น ผมกลับมาถึงบ้านดึกมากและพบว่าเธอกำลังเขียนบางอย่างอยู่ที่โต๊ะ
ผมไม่ได้ทานอาหารมื้อเย็น แต่ตรงไปยังที่นอนและหลับลงอย่างรวดเร็ว
เพราะผมเหนื่อยหลังจากวันที่แสนยุ่ง กับเจน
เมื่อผมตื่นขึ้นมาเธอยังคงนั่งเขียนอยู่ที่โต๊ะ ผมไม่อยากจะสนใจเธอ
ผมจึงพลิกตัวหนี เพื่อจะนอนต่อ

ในตอนเช้า เธอยื่นเงื่อนไขการหย่าร้างของเธอ
เธอไม่ได้ต้องการอะไรจากผม แค่ผมจะต้องบอกให้เธอรู้หนึ่งเดือน
ก่อนที่ผมจะหย่ากับเธอ เธอขอร้องว่าในช่วงเวลาหนึ่งเดือนนั้น
เราทั้งคู่จะพยายามดำเนินชีวิตคู่อย่างปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้
เธอให้เหตุผลง่ายๆว่า เพราะลูกชายของเรากำลังจะสอบ
และเธอไม่อยากให้การหย่าของเรากระทบกระเทือนการสอบของเขา

นี่คือข้อตกลงของเธอกับผม เธอขอให้ผมระลึกถึงวันแต่งงานของ
เราทั้งคู่และขอให้ผมระลึก ถึงช่วงเวลาที่ผมอุ้มเธอเข้าเรือนหอ ในวันที่เราแต่งงานกัน
โดยการให้ผมอุ้มเธอออก จากห้องนอนของเราไปยังประตูหน้าบ้านทุกวัน
ในช่วงเวลาหนึ่งเดือนสุดท้ายของชีวิตแต่งงานของเรา
ผมคิดว่าเธอบ้าไปแล้วแต่ก็ตกล งยอมรับคำขอของเธอ

ผมบอกเจนเกี่ยวกับเงื่อนไขการหย่าร้างของภรรยาของผม
เจนหัวเราะเสียงดัง และคิดว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล
ไม่ว่าภรรยาของผมจะใช้มารยาอะไรที่เธอมี
มันก็ไม่ทำให้เธอหลีกเลี่ยงการหย่าร้างได้ เจนกล่าวอย่างเหยียดหยาม

ผมและภรรยาไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวกันมาตั้งแต่ผมแสดงความตั้งใจเรื่องการหย่า
ดังนั้นเมื่อผมอุ้มเธอออกไปที่ประตูบ้านเป็นวันแรก เราทั้งคู่จึงดูงุ่มง่าม
ลูกชายของเราปรบมืออยู่ด้านหลัง "กำลังอุ้มแม่อยู่เหรอครับ"
คำกล่าวของเขาทำให้ผมรู้สึกปวดใ
ระยะทางตั้งแต่ห้องนอนไปที่ห้องนั่งเล่นจนเลยไปที่ประตู
ผมเดินกว่าสิบเมตรพร้อมกับเธอในอ้อมแขนของผม
เธอปิดตาของเธอและพูดเบาๆ "อย่าบอกลูกของเราเกี่ยวกับเรื่องหย่า"
ผมพยักหน้ารู้สึกอารมณ์เสียบ้าง ผมปล่อยเธอลงที่ด้านนอกประตู
เธอไปรอรถประจำทางเพื่อไปทำงาน ผมขับรถคนเดียวไปยังสำนักงาน

ในวันที่สอง เราทั้งคู่ต่างเกร็งน้อยลง เธอโน้มตัวบนหน้าอกของผม
ผมได้กลิ่นหอมจากเสื้อของเธอ ผมตระหนักว่า
ผมไม่เคยจ้องมองที่ผู้หญิงคนนี้อย่างละเอียด เป็นเวลานานแล้ว
ผมรู้สึกตัวขึ้นมาว่า เธอไม่ได้อ่อนเยาว์อีกต่อไป
มีริ้วรอยจางๆบนใบหน้าของเธอ ผมของเธอกำลังเปลี่ยนเป็นสีเทา
การแต่งงานของเราได้ทำให้เธออ่อนแรงลงไป
นาทีนั้นผมถามตัวเองว่า ผมทำให้เธอเป็นแบบนี้ได้อย่างไร


ในวันที่สี่ เมื่อผมได้อุ้มเธอขึ้น ผมรู้สึกว่าความผูกพันของเรากำลังย้อนกลับมา
นี่คือผู้หญิงที่ได้มอบชีวิตตลอดสิบปีที่ผ่านมาของเธอ ให้ผม

ในวันที่ห้าและหก ผมตระหนักว่าความผูกพันของเรายิ่งมากขึ้นไปอีก
ผมไม่ได้บอกเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้
ยิ่งนานวันผ่านไป การอุ้มเธอไปที่หน้าประตูก็ยิ่งรู้สึกง่ายดายขึ้น
บางทีการออกกำลังกายกับเธอในอ้อม แขนทุกเช้าอาจทำให้ผมแข็งแรงขึ้น

เธอเลือกชุดที่เธอจะใส่ในเช้าวันหนึ่ง เธอลองใส่ตัวนั้นตัวนี้อยู่พักใหญ่
แต่ก็หาที่ถูกใจไม่ได้ จากนั้นเธอก็ถอนหายใจ "ชุดของฉันหลวมไปหมด"
ในตอนนั้นเองที่ผมได้รู้ว่าร่างกายของเธอนั่นเองที่ได้ผ่ายผอมลง
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงสามารถอุ้มเธอได้ง่ายขึ้น

ทันใดนั้นผมก็เข้าใจทุกอย่าง ในหัวใจของเธอซ่อนความเจ็บและขมขื่นไว้มากมาย
มือของผมยื่นไปแตะศรีษะของเธอโดยที่ผมไม่ได้ตั้งใจ

ลูกชายของเราได้เข้ามาขัดจังหวะ เขาพูดว่าถึงเวลาที่ผมต้องอุ้ม เธอออกไปแล้ว
การที่ลูกชายของผมได้เห็นผมอุ้มแม่ของเขาออกไปกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขาไปเสียแล้ว
ภรรยาของผมกวักเรียกเขาเข้ามาแล้วกอดเขาไว้แน่น
ผมหันหน้าหนีเพราะกลัวว่าผมจะเปลี่ยนใจเรื่องการหย่าในนาทีสุดท้าย
ผมเข้าไปโอบเธอขึ้นมา อุ้มเธอออกไปจากห้องนอน ผ่านห้องนั่งเล่นจนถึงประตู
มือของเธอคล้องคอของผมอย่างแผ่วเบาและเป็นธรรมชาติ
ผมกอดเธอไว้แน่น ทุกอย่างเกิดขึ้นราวกับวันแต่งงานของเรา

แต่น้ำหนักที่เบาโหวงของเธอทำให้ผมเศร้าใจ
ในวันสุดท้ายเมื่อผมอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน
ผมแทบจะไม่เดินไม่ออกแม้แต่ก้าวเดียว
ลูกชายของเราไปโรงเรียนแล้ว ผมกอดเธอไว้แน่น
และกล่าวว่า ผมไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าชีวิตของเราขาดความใกล้ชิด
จากนั้นผมรีบขับรถไปที่สำนักงาน กระโดดออกมาจากรถอย่างรวดเร็ว
โดยยังไม่ทันจะได้ล็อคประตู ผมกลัวหากผมมัวชักช้า ผมจะเปลี่ยนใจอีก
...ผมเดินขึ้นไปที่ชั้นบน เจนเป็นคนเปิดประตูและผมบอกกับเธอ
"ผมขอโทษเจน แต่ผมเปลี่ยนใจเรื่องหย่าแล้ว"

เธอมองผมด้วยความงุนงง จากนั้นจึงเอื้อมมือแตะที่หน้าผากของผม
คุณไม่สบายรึเปล่า? เธอถาม ผมดึงมือของเธอออก
"ขอโทษนะ เจน แต่ผมจะไม่หย่ากับภรรยาของผม
ชีวิตแต่งงานของผมมันอาจจะเปลี่ยนเป็นน่าเบื่อ
เพราะหล่อนและผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับรายละเอียดชีวิตของเรา
แต่ผมไม่ได้เบื่อชีวิตคู่เพราะ เราทั้งสองไม่ได้รักกันแล้ว
ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่า ในเมื่อผมโอบกอดเธอไว้ในวันแต่งงานของเรา
ผมก็ควรที่จะโอบกอดเธอจนความตายจะพรากเราจากกัน
"
เจนดูเหมือนจะเข้าใจทุกอย่างในทันที เธอตบผมฉาดใหญ่
แล้วกระแทกประตูปิด เจนทรุดลงทั้งน้ำตา
ผมเดินลงมาชั้นล่างและขับรถออกไป มาถึงที่ร้านดอกไม้
ผมซื้อดอกไม้ช่อหนึ่งเพื่อภรรยาของผม
พนักงานสาวที่ร้านถามผมว่าจะให้ เธอเขียนข้อความบนบัตรว่าอะไร
ผมยิ้มและเขียนว่า "ผมจะอุ้มคุณออกไปที่ประตูทุกเช้า จนกว่าเราจะตายจากกัน"

เย็นวันนั้น ผมกลับบ้าน ผมถือดอกไม้ไว้ในมือ ผมมีรอยยิ้มบนใบหน้า
ผมวิ่งขึ้นบันได...เพียงเพื่อจะ พบภรรยาของผมนอนอยู่บนเตียง
เธอไม่หายใจ ภรรยาของผมได้ต่อสู้กับโรคมะเร็งเป็นเวลาหลายเดือน
ในขณะที่มัวผมยุ่งอยู่กับเจนเกิน กว่าที่จะรับรู้อาการผิดปกติของเธอ
เธอรู้ว่าเธอกำลังจะตาย และเธอก็อยากจะช่วยให้ผมหลุดจาก
ความรู้สึกแย่ๆที่ลูกชายจะมีต่อผม หากว่าเราหย่าจากกัน
เพราะว่าอย่างน้อย...ในสายตาของลูกชายผม
ผมก็จะยังเป็นสามีที่รักใคร่ดูแลเธอ

จริงๆแล้ว รายละเอียดเล็กๆน้อยๆในชีวิตของคุณ
คือสิ่งที่มีความสำคัญต่อชีวิต ไม่ใช่คฤหาสถ์หลังใหญ่ ไม่ใช่รถ
ไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทองในธนาคาร
สิ่งเหล่านี้สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีความสุข
แต่ไม่สามารถให้ความสุขในตัวของมันเอง

ดังนั้น หาเวลาที่จะอยู่เป็นเพื่อนคนข้างๆคุณ
และทำสิ่งเล็กๆเหล่านั้นให้แก่กัน ขอให้มีชีวิตคู่ที่มีความสุข





CREDIT : facebook




 

Create Date : 03 มกราคม 2556
1 comments
Last Update : 4 มกราคม 2556 0:48:08 น.
Counter : 1721 Pageviews.

 

Beautiful

 

โดย: MoMo IP: 203.157.31.10 15 มกราคม 2556 14:57:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดอกไม้บานริมรั้ว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]






▼ ห้อง SHOP 1 ▼

เสื้อ
แขนกุด สายเดี่ยว
แขนสั้น
แขน 3-5 ส่วน
แขนยาว กันหนาว
-------------------------
กางเกง
กระโปรง
เดรส
รองเท้า
ชุดผ้าไหม ชุดไทยๆ
ผ้าคลุมไหล่ / ผ้าพันคอ / หมวก
ตุ๊กตา

[ วิธีสั่งซื้อ ]
[ อัตราค่าส่ง & ข้อชี้แจง ]

▼ ห้อง SHOP 2 ▼

!! Clearance SALE !!
ล็อต : (A) - (O)


ล็อต : (P)
ล็อต : (Q)
ล็อต : (R)

Friends' blogs
[Add ดอกไม้บานริมรั้ว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.