ถือว่าเป็นหนุ่มผิวสีที่น่าจับตาและเอารูหูฟังเลยทีเดียวในช่วงเวลานี้ เพราะแต่ละเพลงที่ปล่อยออกมาโดนใจผู้ฟังมากมายทั้งใน US และ UK แถมลามไปทั่วโลกด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Watcha Say ที่แจ้งเกิด, Ridin Solo ที่เปิดบ่อยมากในคลื่นวิทยุเมืองสารขัณฑ์ และล่าสุดเพิ่งส่งอัลบั้มที่ 2 มาตีตลาดอยู่ หนุ่มคนนี้ คือ Jason DeRulo นั่นเอง
ก่อนจะมาเป็นนักร้องได้อย่างปัจจุบัน พัฒนาการไต่เต้านั้นไม่ต่างอะไรกับ Ne-Yo, Keri Hilson และ Lady Gaga เลยทีเดียว เพราะเริ่มต้นมาจากการเขียนเพลงให้ศิลปินดังๆ ในแวดวง RnB Hip Hop ทั้งหลายแหล่ก่อน เช่น Diddy, Danity Kane (วงแตกแหกกันหมดแล้ว), Cassie (คงไม่น่าโผล่มาร้องเพลงอีกแล้วล่ะ), Sean Kingston, และไอ้เวน Lil Wayne เมื่อพอได้เจอกับ J.R. Rotem โปรดิวเซอร์ชื่อดังของค่าย Warner Bro., จึงได้เซ็นสัญญาการเป็นนักร้องเดี่ยว พร้อมลุยตลาดเมนสตรีมทันที
อัลบั้มแรกเมื่อปี 2009 กับการใช้ชื่อของตัวเองเป็นชื่ออัลบั้มได้เปิดตัวอย่างงดงาม ฮิตติดตลาดในแทบทุก Single และเป็นที่ยอมรับในแวดวงคนฟังเพลงกันไปเรียบร้อย คราวนี้ได้เวลาที่จะมานำเสนอดนตรี RnB Pop กลั้วดนตรีสมัยนิยมอย่าง Electro Dance เข้าไปเพื่อทันกับกลไกตลาดกันแล้วในอัลบั้มที่ 2 Future History ก็ฮิตติดตลาดไปแล้วกับ Single แรก คือ Dont Wanna Go Home ที่ชวนแดนซ์กันข้างนึงเลยทีเดียวกับโปรแกรมมิ่งที่แอบคุ้นหูพิลึก และตอนนี้ได้เวลาของ Single ที่ 2 ที่พร้อมเสิร์ฟให้อ่านและฟังกันแล้ว นั่นคือ เพลงนี้เลย It Girl
กระทู้ The X Factor UK 2011 - 2nd Audition
แต่ไม่กล้าคอมเมนต์ คือ อ่อนมากด้านเพลง
ฟังแบบไม่ค่อยเก่ง ปกติร้องเพลงไม่เป็นด้วย
ก็เลยไม่กล้าคอมเมนต์อะไร
ที่จริงชอบ วง The Keys เหมือนกัน
ถาม สั้น คำถามแรกก่อนว่า
รายการนี้ ออกวัน เวลา อะไร และช่องอะไรครับ
บอกทางหลังไมค์ หรือทางอีเมล์ก็ได้นะครับ
แบบว่า จะได้ลองเปิดรอ
บางที พี่นั่งหน้าคอมเพลิน ก็มักจะลืมเวลา
ต้องใช้วิธี เปิดรอค้างไว้เลย
Jason DeRulo สไตล์การร้อง แม้พี่จะหลับตาฟังแต่เสียง
ก็เดาว่าเป็นนักร้องผิวสี จังหวะและการเอื้อน บ่งบอก
ชอบ มั๊ย? ก็ฟังได้
ไม่ปิด และ ฟัง ซ้ำได้
อาจจะคล้ายกับคนที่ไม่เก่งทำอาหาร
และมาทานอาหาร ก็บอกว่าอร่อยน่ะ
เพราะไม่รู้ว่า ระดับไหนคืออร่อย
อ่อนด้อยในเรื่องแนวนี้ครับ