เกริ่น เจ้าพ่อเพลงบัลลาดแห่งเกาะอังกฤษ Ronan Keating อดีตเด็กหนุ่มวัยละอ่อนแห่งเมืองดับลิน ไอร์แลนด์ และเป็นหนึ่งในสมาชิกบอยแบนด์รุ่นดึก Boyzone ที่ปัจจุบันบ้านแตกสาแหรกขาดเรียบร้อยแล้ว เจ้าของน้ำเสียงทุ้มนุ่ม ไพเราะ หวานหยาดเยิ้ม ปานจะหาใครมาเหมือนหรือคล้ายคลึงได้ (ยกเว้นจอห์น แมร์ไว้คนนึงครับ เพราะโทนเสียงคล้ายกัน) และหน้าตายังกระชากใจสาวสุดๆ มาดสุขุมนุ่มลึก ดูอบอุ่น จนสาวๆ พร้อมกันตกเป็นทาสทันควัน (เออ คุณมันหล่อ) แต่สาวๆ กรุณาจ๋อยได้ เนื่องจากเขาแต่งงานแล้ว มีลูกถึง 3 คน เนื่องจากความอึด และยังรักภรรยาสุดชีวิต หึหึหึ เศร้าไหมล่ะ แรกเริ่มเดิมทีสมัยอยู่วงเขตเด็กหนุ่ม (Boyzone) เจ้าตัวเองก็ได้เป็นนักร้องนำของวงคู่กับหนุ่มมาดนุ่มนิ่ม Stephen Gately (ปัจจุบันเป็นนักแสดงและอยู่กับแฟนหนุ่มสุดที่รัก) มีเพลงดังมากมายนับไม่ถ้วนที่หลายๆ ท่านรู้จักกันดี เช่น Love Me for A Reason, Words, A Differrent Beat, Picture of You, No Matter What, Everyday I Love You และอื่นๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน โด่งดังเป็นขวัญใจสาวๆ มาเนิ่นนานตั้งแต่ปี 1996 - 2000 แล้วก็กระจายกันไปตามทาง ทำให้ช่วงนั้น Westlife มาแทนที่ทันควัน หนุ่ม Ronan ก็ได้ตามไปเป็นพี่เลี้ยงประคบประหงมวงรุ่นน้องต่อเนื่องพร้อมกับทำอัลบั้มเดี่ยวในชีวิตตนเองอัลบั้มแรกด้วยเช่นกัน
อัลบั้มแรกในชีวิตของหนุ่ม Ronan ก็คือ Ronan (2000)(ชื่อของตัวเอง) โดยร่วมงานกับ Gregg Alexander (New Redicals) แถมประสบความสำเร็จมหาศาลกว่าสมาชิก Boyzone คนอื่นๆ ที่ออกอัลบั้มเช่นเดียวกัน จนคนอื่นต้องค้อนขวับ มี Single ดังมากมาย เช่น When You Say Nothing at All (อับดับ 1 UK แถมดังสุดๆ กลายเป็นเพลงคลาสคิดไปแล้ว), Life is a Rollercoaster (อันดับ 1 UK เช่นกัน) และ The Way You Make Me Feel ทำให้ Ronan เกิดไปทั่วโลก สาวๆ แต่ละประเทศต่างพากันกรี๊ดกร๊าด ขอสมัครเป็นบอดี้การ์ดกันเป็นแถว ยอดขายมหาศาลสุดๆ ไปทั่วโลกยกเว้นแดนมะกัน หลังจากเสร็จสิ้นการทัวร์ Ronan ก็ได้ทำอัลบั้มที่ 2 ทันที และได้ออกว่างจำหน่ายในปี 2002 ชื่ออัลบั้มว่า Destination และ Single ต่างๆ ก็ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้นเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็น Lovin' Each Day (อันดับ 2 UK), If Tomorrow Never Comes (อันดับ 1 UK), I Love It When We Do (อันดับ 5 UK และเป็นเพลงที่ผมชอบมากที่สุดครับ) , We've Got Tonight (อันดับ 4 UK), The Long Goodebye (อันดับ 3 UK) และ MV แถมคือเพลง Love Don't Work (If We Don't Try) ทุกเพลงประสบความสำเร็จมหาศาล แต่เสียงวิจารณฺก็ยังมีการค่อนแคะอยู่เสมอว่า แนวเพลงเดิมๆ บัลลาดหวานเลี่ยน ย่ำอยู่กับที่ ทำให้ Ronan ต้องเปลี่ยนแนวทางของตัวเองในอัลบั้มที่ 3 คือ Turn It On (2003) ให้มีความเป็นร็อคเข้มข้นมากขึ้น แต่ก็ประสบความสำเร็จน้อยกว่า 2 อัลบั้มที่ผ่านมา มี Single ปล่อยมาอยู่ 3 เพลง คือ Lost for Words, She Believes (In Me) และ Last Thing on My Mind (Feat. LeAnn Limes) หลังจากนั้น Ronan ก็หยุดงานเพลงของตัวเองไปเพื่อพักผ่อน แต่ว่ายังไม่วายส่งอัลบั้มรวมฮิตออกมาอีก คือ 10 Years of Hits (2004) หลอกหลอนแฟนๆ ว่าห้ามลืมผมเด็ดขาด โดยมี Single ออกมา 2 เพลง คือ I Hope You Dance (เป็นเพลงที่อยู่ในอัลบั้มเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยซึนามิด้วย) และ Father & Son (ร้องกับพ่อตัวเอง) หลังจากนั้นก็เงียบไปถึง 2 ปี และในปีนี้ Ronan ก็ได้ออกอัลบั้มเพลงไพเราะ หวานหยาดเยิ่ม หยดย้อย ห้อยต่องแต่งมาอีกแล้วครับ คือ Bring You Home โดยมี Single นำร่องคือ All Over Again โดย Duet คู่กับ สาวโฟล์ค Kate Rusby ครับ
Review All Over Again เป็นเพลงบัลลาดแนว Pop Rock Folk ไม่หนีจากอัลบั้มเดิมๆ เท่าไหร่ (บัลลาดเสมอต้นเสมอปลาย) เปิดตัวด้วยเสียงกีตาร์โฟล์ค กล่อมเกลาตลอดเพลง กะดึงดูดเต็มที่ ผลที่ออกมาคือ ติดหูทันควัน มีกลิ่นอายของคันทรี่ กระจายไปทั่วเพลง จังหวะจะโคนลงตัวติดหู เสียงร้องก็แบ่งกันได้อย่างลงตัว ตา Ronan ก็ใช้เสียงทุ้มนุ่มเช่นเคย ร้องขับกล่อม ฟังแล้วสบายหู ส่วนเจ๊ Kate ก็หวาน แหลมเล็ก (คล้าย Jewel) เข้ากันได้ดีครับเสียงขอตา Ronan มากๆ ทำให้เพลงนี้ไพเราะ และหวานขึ้นไปอีกขั้น พอมาดูที่เนื้อเพลง โห อะไรจะซึ้ง โรแมนติค หวานปานน้ำผึ้งเดือน 5 อย่างนี้ เนื้อเพลงโดยรวมเป็นอย่างนี้ครับ "รู้ไหมเวลาแบบนี้สามารถเป็นเหมือนครั้งแรกที่เรามีความสุขร่วมกันได้ เวลาที่เราอยู่เคียงข้างกัน ตระกรองกอดกัน เป็นสิ่งที่เป็นสุขที่สุดแล้ว ไม่มีใครที่จะรู้สึกแบบนี้ได้เท่าที่พวกเรารู้สึก ทำตามสิ่งที่เราต้องการ ให้มันดำเนินไปตามครรลองของความรัก (เข้าสู่กิจกรรมของคนทั้ง 2) รู้ไหมเหมือนกับเป็นครั้งแรกที่เราต่างสัมผัสผิวเนียนนุ่มสุดล้ำลึกของกันและกันต่างลิ้มรสชาดของสวรรค์ชั้น 7 ที่เห็นอยู่ตรงหน้า ไม่ต้องสนใจเสียงรอบข้าง ยิ้มของคุณ การสัมผัสของคุณ รสชาดของตัวคุณ (Oh My God) ทำให้ต่างกระสันอยาก เอ๊ย! รู้สึกตื่นเต้นหาอะไรมาเปรียบเหมือนเราต่างตกหลุมรักของกันและกันอีกครั้ง เริ่มกันอีกยก เอ๊ย! อีกครั้งนะที่รัก" อิอิอิอิ (หัวเราะอย่างมีเลศนัย) แหม พูดไม่ออก หวานพระเดชพระคุณท่านจริง จริ๊ง เล่นทำกันผ่านเพลงเลยนะนั่น ฟังไปอมยิ้มไป มิน่าฟังเสียงตา Ronan แรกๆ แล้ว ทำไมเสียงออกหื่นๆ ทุ้มนุ่มผิดปกติ ที่แท้ก็ยังงี้นี่เอง เพลงนี้องค์ประกอบทุกอย่างลงตัว ดนตรี เสียงร้องตีคู่ขนานกันอย่างดี ทำให้เพลงจากที่น้ำเน่าๆ กลายเป็นเพลงที่ไพเราะเพลงนึง แต่อาจจะยังสู้เพลงเก่าๆ ไม่ได้เท่าไหร่เนื่องจากความน่าสนใจของเพลงตกไปอยู่ที่ความเป็นบัลลาดแบบเดิมๆ ที่หลายๆ คนเริ่มที่จะเบื่อความหวานเลี่ยนเสมอต้นเสมอปลายของนักร้องแล้ว จะพาลไม่ฟังกลับไปฟัง When You Say Nothing at All มากกว่า ดังนั้นเพลงนี้เป็นได้แค่เพลงไพเราะเพลงนึงซึ่งยังไม่โดดเด่นเท่าไหร่ มีเพียงแต่เนื้อหาที่โดนเด้งติดเรทแบบโรแมนติคเท่านั้นเองครับ ที่ฟังแล้วอยากให้คู่รักทุกคู่บนโลกใบนี้ต่างตกหลุมรักกันและกันเสมอ ยิ่งรักกันมากขึ้นไปอีก ไม่มีคำว่าเลิกกัน โลกนี้คงสวยงามน่าดูนะครับ ว่าไหม?
ไปดูMV มาละ ดีมากๆ