20(+5) เพลงที่เป็นที่สุดในรอบปี 2013 ของเข็มขัดสั้น

เดิมทีในทุกๆ ครึ่งปีของบล็อกนี้จะมีการรวบรวม 10 (+5) เพลงที่โปรดปรานมาอยู่เสมอ แต่พอมาในรอบ 2013 ที่ผ่านมา กับชีวิตที่พลิกผันต่างๆ นานาจนทำให้เกิดอาการบางอย่างเกิดขึ้น คือ เขียนวิจารณ์เพลงไม่ออก ทั้งอาการที่เขียนไม่ได้เลยตั้งแต่ต้น จนถึงขั้นเขียนยังไงก็ไม่สามารถเขียนแล้วทำให้บทความนั้นจบลงได้ หาจุดจบไม่เจอว่างั้น เลยปิดบล็อกแบบไม่มีกำหนดเปิด และตอนนี้ได้เวลากลับมาเขียนต่อแบบชั่วคราว เพราะใช้เวลาเยอะเหลือเกินในการเขียนแก้แล้วแก้อีก แถมแก้ผ้าตามไปด้วยหลายครั้งกว่าจะออกมาได้ เช่นนั้นหลังจากอั้นมากนานเลยขอรวม 20 +5 เพลงที่เป็นที่สุดของเข็มขัดสั้นในปี 2013 มาแนะนำ ชวนฟังและอ่านการอวยเพลงนั้นๆ หลังจากที่ไม่ได้เขียนมานานกันครับ

เช่นนั้น จึงขอเข้าสู่การ Review เพื่อแนะนำ 20 (+5) เพลงที่เข็มขัดสั้นคนนี้ปลาบปลื้มและอยากบอกต่อให้ได้ฟังกัน โดยเริ่มจาก

 photo plus5of2013_zpsd3ff5b92.jpg


Fall out Boy – My Songs Know What You Did in the Dark (Light Em Up)
Alter Rock ที่หนักหน่วง ซับซ้อน จัดหนักจัดเต็ม เล่นเอาหัวโยกหัวคลอน เปลี่ยนแนวทาง ยกระดับ และเปิดตัวศักราชใหม่ของวงได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมไปกับการบอกถึงว่านี่แหละพัฒนาการของ Fall out Boy ที่ทุกคนต้องยอมรับ

Sara Bareilles – Brave
ความน่ารัก เรียบง่าย เสริมกำลังใจ + น้ำเสียงอันแสนไพเราะของสาวคนนี้ ทุกอย่างลงตัวชวนยิ้มและแหกปากร้องตาม ทำเอาลืมไปเลยว่ามีเพลงที่ทำนองคล้ายๆ กันอย่าง Roar ของ แขศรีอยู่บนโลกใบนี้ไปในทันทีภายใน 3 นาทีกว่าๆ ทันที

John Newman – Love Me Again
ตัวอย่างที่ดีที่ให้มองข้ามภาพลักษณ์ไปเลย เพราะเพลงและอารมณ์ที่สื่อออกมาบอกกันตรงๆ ว่า “โคตรหล่อ” เพราะหนุ่มอวบคนนี้ปล่อยของได้ชัดเจน จัดจ้าน กับความเป็น Northern Soul กลั้ว Breakbeat เล่นเอาฟินกันได้ไม่ยากในการฟัง

Jessie J – Thunder
แม้ว่าอัลบั้มล่าสุดเพลงส่วนใหญ่จะดูธรรมดาจนคิดไปว่า เฮ้ย นี่แม่เจ็ดสีเหรอนี่ แต่หนึ่งในนั้นเพลงนี้โดดเด่นขึ้นมาอย่างมากกับการเป็น Synthpop ที่โชว์ความเป็นเจ็ดสีได้ครบถ้วน ไม่ต้องมากมาย แต่ก็เอาใจไปได้ไม่ยากจริงๆ

Chris Brown ft. Aaliyah – Don’t Think They Know
คนเราหลายๆ คนมักตัดสินกันเพียงสิ่งที่เห็น โดยไม่ได้คิดถึงเนื้อแท้ของคนๆ นึงว่าเป็นเช่นไร ถ้าเพียงมีคนที่เข้าใจแม้แค่คนเดียวก็ทำให้ชีวิตนี้เดินหน้าต่อได้ แถมยิ่งฟังยิ่งคิดถึงสาว Aaliyah ที่จากไป แค่นี้ก็ขึ้นแท่นโดนใจสุดๆ เป็นที่เรียบร้อย

จบไปแล้วกับ 5 เพลง ที่ขอพ่วงเพิ่มเติม เพราะไม่สามารถตัดออกไปได้จริงๆ และก็ได้เวลาของ 20 เพลงที่เป็นที่สุดในรอบปี 2013 ที่ผ่านมา โดยทั้ง 20 เพลงนี้ไม่ได้เรียงตามลำดับความชอบแต่ประการใด เพราะทุกเพลงมีความดีงามสมที่ควรจะเป็นและทำให้ชอบเท่าเทียมกันในทุกเพลง พร้อมกับ Clip MV ของเพลงนั้นๆ เพื่อได้ฟังกันทันทีครับ

 photo Sammy_Adams_LA_Story_zpsf2feffdd.jpeg

Sammy Adams ft. Mike Posner – LA Story

Summer ชัดๆ เพราะทุกอย่างในเพลงสื่อถึงเมืองที่อย่างกับทุกๆ วันเป็นฤดูร้อน แม้ว่าจะไม่เคยไปก็ตาม แต่เนื้อหาที่บอกเล่าถึงเมือง 1 เมือง ตามด้วยไลฟ์สไตล์ต่างๆ ความรักที่เกิดขึ้น ยิ่งท่วงทำนองแนวๆ Hip Hop ที่ฟังง่าย ยังกับขับรถเปิดประทุนเที่ยวรอบเมืองไปขย่มรถไป รับลมร้อนที่เข้ามาปะทะใบหน้า (ก็พอสมมติได้อยู่ เพราะเมืองไทยนานๆ ทีจะหนาว) พลางสนุกสนานกับ Party ที่เกิดขึ้น ยิ่งพอได้ยินเสียงของ Mike Posner หน้าแป้นแล้น เออ มันเข้ากั๊น เข้ากัน ท่วงทำนองเรียบเรียงอย่างลงตัว ถือว่าเป็นเพลงที่ทำให้ยิ้มกว้างๆ ได้ยินทีไรอยากจะโยกตามแบบไม่แคร์สื่อไม่ว่าจะบนรถเมล์ รถตู้ หรือกลางสี่แยกแย่งซีนจ่าเฉยกันเลยทีเดียว


 photo Zedd_-_-Clarity-_Single_zpsd27d0b4c.png
Zedd ft. Foxes – Clarity

Electro-Dance ที่มีกลิ่นอายของ House ที่เป็นเพลงครบเครื่องมากไม่ว่าจะเน้นฟัง เน้นเพลิน หรือเน้นเต้น ทำได้หมดเลยในเพลงเดียว กับการเรียบเรียงที่ค่อยๆ ปล่อยของออกมาทีละนิด เน้นขับเสียงร้องของ Foxes ที่น่าฟัง น่าร้องตาม กับเนื้อหาที่บอกเล่าเรื่องราวความผูกพันและความรัก ช่วงของดนตรีโซโล่ที่ชวนขยับตัวสุดๆ แต่ก็แฝงไปด้วยโปรแกรมมิ่ง ที่ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นอย่างประหลาดและติดหูจนไม่อยากแกะออกไปไหนเลย หลอนซ้ำไปซ้ำมาจนต้องเปิดซ้ำอยู่เป็นประจำ จะเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งในเพลงแห่งปีที่ยากที่จะลืมเลือน ก็คงไม่เยอะเกินไปนักที่จะอวยเช่นนี้


 photo robinthicke-blurredlines_zps89bfe7b8.jpg
Robin Thicke feat. T.I. & Pharrell - Blurred Lines

หลังจากเอาใจช่วยเฮีย Robin มานาน เพราะตั้งแต่เฮียแกออกอัลบั้มมา ยังไม่เห็นอัลบั้มไหนหรือเพลงไหนพุ่งทะลุและดังปรอทแตกเลย นี่ถือว่าเป็นการแจ้งเกิดเฮียแกอย่างชัดเจนที่สุด กับการนำเสนอแนวทางเฉพาะตัว แน่นอนไม่ต้องมาเปรียบเทียบกับบักหยอย Justin อีกแล้ว เพราะนี่คือแนวทางของเฮียและทำได้ดีมากกับการเบลนด์ท่วงทำนองแบบ RnB ผสานกับ Disco เบาๆ ทำให้กลายเป็นเพลงเจ้าเสน่ห์ เจ้าชู้ ขี้เล่น เซ็กซี่ สนุกสนาน ยังกับดวดเหล้าร้องเพลงเคาะขวดก็จริง แต่ดวดแล้วร้องเพลงเคาะขวดในชุดสูทมันก็ต้องมีคลาสกว่าสิ ไม่ได้นั่งเกากีตาร์เคาะขวด ม่ายมาวว ริมกองไฟชายหาดซักหน่อย ซึ่งแน่นอนว่าโจ๊ะพรึมๆ เช่นนี้ จะเหลือเหรอนั่น มาขึ้นแท่น 1 ใน 20 เพลงเลยง่ายกว่า


 photo Ellie_Goulding_-_Burn_zps8677511b.png
Ellie Goulding – Burn

สาวคนนี้ช่างมีเสียงร้องแบบ Light Lyric Soprano ที่น่ารักมากจริงๆ แม้เพลงนี้จะค่อนข้างดูใหญ่ เพราะเนื้อหาเป็นการให้กำลังใจ สร้างความฮึกเหิม ที่สำคัญท่วงทำนองที่แตกต่างอย่างโดดเด่น แถมไม่ได้ลงตัวตามห้องเสียงให้ร้องได้ง่ายๆ นั้นเธอเอาอยู่ ไม่ต้องหนีนกหวีดกระเซอะกระเซิง เสียงร้องที่บางก็จริง แต่กลับกลายเป็นถ่ายทอดออกมาได้อย่างเจิดจ้าอย่างกับ Burn ให้ตัวเองเป็นหนึ่งในเปลวไฟที่ทำให้โลกสว่างไสวกันเลยทีเดียว เข้าถึงง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ พร้อมกับโปรแกรมมิ่ง Electro ที่เรียบเรียงได้อย่างสวยงามยิ่งทำให้เพลงนี้ครบเครื่องอย่างยิ่งในการเป็นเพลงที่ทั้งติดหู สร้างแรงบันดาลใจ และเป็นเพลงที่น่าจดจำของ Ellie ที่ลงลายเซ็นในการถ่ายทอดได้อย่างสวยงาม


 photo onerepublic-release-single-if-i-lose-myself_zpsbede91b7.jpg
OneRepublic - If I Lose Myself

เคยคิดว่าวงนี้ถ้ายังทำเพลงดนตรีแบบเดิมๆ สูตรสำเร็จที่ตัวเองเคยทำได้ ก็เตรียมตัวบอกลาไปได้เลย แม้ว่าจะชอบเสียงร้องของนักร้องนำอย่าง Ryan Tedder ก็ตาม แต่พอที่เพลงนี้ กลายเป็นต้องเอายางลบมาลบความคิดเดิมออกไปทันที เพราะการเข้าสู่ Electro Pop Rock แบบนี้มันเก๋ไก๋มาก ฉีกจากที่เคยทำมาอย่างสิ้นเชิง เรื่องเสียงร้องเชื่อขนมกินได้ว่ายังไงก็ร้องไพเราะอยู่แล้วและเสริมภาคดนตรีแน่นอนสำหรับรายนี้ แต่ที่ทึ่งไปเลยคือภาคดนตรีที่ช่วงโซโล่หลังท่อนฮุคมันสดใสสว่างไสวมาก แม้ว่าเนื้อหาจะบอกถึงการสมมติสถานการณ์แล้วแปรเปลี่ยนความกลัวเป็นเรื่องในแง่ดีแทนก็ตาม เออ มันต้องได้อย่างนี้สิ มันต้องได้อย่างเน้~


 photo La_La_La_cover_zpsf8472f76.png
Naughty Boy Feat. Sam Smith - La La La

หลังจากโหยหาแนวดนตรี 2-Step Garage มานานมาก มาเจอเพลงนี้ สตั๊นไปเลย 10 วินาที แล้วร้องเฮ้ยออกมาทันที มันใช่เลย ไม่จำเป็นต้องแร๊พระรัวน้ำลายพุ่งใส่หน้าคนฟัง ไม่จำเป็นต้องออกแนว Garage กลั้ว Hip Hop ดำมืดจนฟังยาก เข้าถึงได้แค่เฉพาะส่วน แต่กลายเป็นความเรียบหรู ไหลรื่น เพลิดเพลินเจริญใจอย่างมาก ยิ่งการได้ยินเสียงเด็กมากร้อง La La La แค่นี้ก็มีความสุขในการฟังได้ทันที โดยบางทียังไม่ต้องมารับรู้เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันตัวเองแบบ Retro ไปสมัยเด็กน้อยและเตรียมโบกมือลายัยบ้าขาดสติบางคนที่ทำให้ชีวิตจะไม่มีความสุขเอาได้ ที่สำคัญเสียงของ Sam Smith บ่งบอกถึงอารมณ์ที่เป็นผู้ใหญ่แต่เบื่อหน่ายเต็มที่ได้ใจมาก เช่นนั้นคงไม่ต้องอวยอะไรให้มากไปกว่านี้แล้ว ง่ายๆ เลยว่า “ชอบอ่ะ”


 photo genew8_zps3b8b4ec9.jpg
Gene Kasidit - ร (W8)

เข้าใจว่าเฮียจีนแกเปลี่ยนไปเป็นเจ๊จีนเรียบร้อยแล้ว แม้จะยังคิดถึงยามเมื่อเฮียแกอย่างเท่ห์ใน Futon ไปบ้างก็ตาม และถ้าคนฟังเพลงจะมองแค่ภายนอกเพียงเพราะว่าเจ๊เป็นกระเทยไปแล้ว ไม่อยากฟัง ก็ปล่อยพวกนั้นไปเถอะ คงไม่มีประโยชน์ที่จะไปลากกลับมาให้เสียเวลา ทั้งๆ ที่ความสามารถที่มีไม่ได้หายไป กลับยิ่งทำให้เห็นมุมมองใหม่ๆ ที่เจ๊เขาจะสื่อมาได้อย่างมากขึ้น เช่นในเพลงนี้ที่เป็นการถ่ายทอดในแนว Pop แบบปี 80 ที่ให้อารมณ์คลาสสิคและ Chill Out อย่างมากมาย แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ เนื้อหาเพลงช่างบอกถึงความโหยหา การรอคอยที่ไม่รู้จะจบสิ้นตรงไหน กระแทกเข้าไปกลางใจได้ไม่ยากกับทุกเพศทุกวัยที่กำลังรอคอยและคาดหวังกับความรักอย่างตรงไปตรงมา แค่นี้ก็เพียงพอแล้วไม่ต้องการความล้ำอะไรไปมากกว่านี้


 photo artworks-000050225029-2dvmsj-original_zps29a64841.jpg
Lana Del Rey - Young and Beautiful

สาวปากเบินสุดสวยช้ำรักคนนี้ไม่เคยทิ้งเอกลักษณ์อันเป็นลายเซ็นของตัวเองในการร้องเพลงต่างๆ เลยจริง เพราะน้ำเสียงยานคาง เนิบๆ เนือยๆ ชวนหลับยังคงมีมาไม่มีผิดเพี้ยน แต่นี่แหละคือความเก๋ลากมากๆ ในการสื่ออารมณ์กับเนื้อหาที่ชอกช้ำระกำใจหรือร้องขอความเห็นใจได้อย่างมาก ซึ่งเพลงนี้เธอยังเอาอยู่เช่นเคยกับท่วงทำนอง Pop Rock ที่เนิบๆ แต่ดูยิ่งใหญ่ ในการบอกเล่าเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่อง The Great Gatsby ซึ่งจะมีไหมที่จะมีใครซักคนมารักเรายามเมื่อเราหมดสิ้นแล้วกับความหนุ่มสาวและความหล่อหรือสวยงามที่เคยมี ทุกอย่างชัดเจนมากจริงๆ ในการส่งต่อความโหยหาและความคาดหวังมาสู่กลางใจคนฟังได้ไม่ยากและบาดใจยิ่ง


 photo Ariana_Grande_-_Yours_Truly_Album_Cover_zps76147a4f.jpg
Ariana Grande & Nathan Sykes – Almost Is Never Enough

ช่วงทำนองเปียโนคลาสสิคในแบบ Pop Soul Ballad เบาๆ เรื่อยๆ ที่เน้นขับการปล่อยอารมณ์ของเสียงร้องให้โดดเด้งเด่นสุดช่วงตัว ถ้านักร้องไม่สามารถปล่อยของได้ ก็จะตายคาที่ไปได้เลยโดยไม่ต้องฟังต่อให้เสียเวลา แต่กลับน้องเลียหน้าป๋าคนนี้ ป๋าปลื้มที่สุดๆ หนูนี่แหละนักร้องเสียงทองที่จะกลายเป็นดิว่าที่ได้ใจคนฟังทั่วโลกได้ไม่ยากเพราะเพลงนี้หนูไม่ต้องหวีดเลย หนูก็ถ่ายทอดออกมาได้ยอดเยี่ยมเรื่อยๆ แต่เข้าถึงเนื้อหาของเพลงได้ชัดเจน แถมด้วยอดีตแฟนหนุ่มของหนูอย่าง Nathan ณ The Wanted ที่ได้ปล่อยของได้เกินความคาดหมายและทำได้ดีมากจนลืมไปเลยว่าว่าไอ้หนุ่มคนนี้มันอยู่ในวงนั้นจริงๆ เหรอนั่นเพราะมันมีของดีมากกว่าที่เคยได้ยินมาจริงๆ เช่นนั้น ป๋าอวยหนู ป๋ายอมเป็นของหนู แถมเพลงหนูทำให้ป๋าอิ่มใจสุดๆ เรื่องอะไรป๋าจะปล่อยให้หนูออกจากอ้อมใจไปได้ ฮี่ฮี่


 photo Agreatbigworldsaysomething_zps78c98d19.png
A Great Big World ft. Christina Aguilera - Say Something

อีกหนึ่ง Pop Ballad ที่ตัวเอกคือเสียงร้องที่จะปล่อยของกันได้อย่างหนำใจ และวัดกึ๋นกันชัดๆ ไปเลยว่า มีดีที่จะทำถ่ายทอดอารมณ์เพลงได้อย่างไม่มีที่ติหรือไม่ และท่วงทำนองที่มีเปียโนเป็นนาองเอกหลัง ตามด้วยนางรองอย่างเครื่องสายต่างๆ ทำให้เพลงนี้จากที่สเกลดูเล็กๆ กลายเป็นค่อยๆ ใหญ่ขึ้นจนทำให้อารมณ์เพลงแห่งความรู้สึกเสียใจ รู้สึกผิด สูญเสีย แย่ไปซะทุกอย่าง แม้ความรักมันยังคงอยู่ก็ตาม “ได้โปรดอย่างเงียบต่อไปอีกเลย พูดออกมาเถอะ จะยอมทุกอย่างจริงๆ” กลายเป็นเพลงที่เรียกน้ำตาได้ไม่ยาก เพราะอารมณ์จากน้ำเสียง แม้ไม่ต้องจัดเต็มฮี้ฮ้าโฮ้เฮ้ฮู้ววว หวีดอะไรให้มาก ก็เอาตายได้ทั้งฝั่งชายและฝั่งหญิง รวมถึงเป็นสิ่งที่ตรึงใจอย่างมากกับการได้ยินเสียงของ Xtina ในแบบที่อินเนอร์แรงโดยไม่เป็นคนหอนคืนโหดอย่างที่ผ่านมา


 photo Same-Love-Macklemore-Ryan-Lewis_zpsbd4fea74.jpeg
Macklemore & Ryan Lewis ft. Mary Lambert - Same Love

หนึ่งในเพลง Hip Hop ที่เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมอย่างมากของปี 2013 ที่ผ่านมา เพราะเนื้อหาที่บอกเล่าถึงความอัดอั้นตันใจ การแบ่งแยกและเหยียดเพศที่ 3 ได้อย่างเจ็บปวด ทั้งๆ ที่ความรักมันไม่ได้ปิดกั้นว่าจะต้องเป็นเพศไหนอย่างไร และชีวิตของคนเราต่างก็ไม่สามารถเลือกที่จะเกิดมาเป็นในแบบที่คนอื่นคาดหวังให้เป็นกันได้ง่ายๆ ส่วนแร๊พบอกเล่าเรื่องราวที่เจ็บปวดก็จริงแต่ก็บอกถึงทางออกที่ชัดเจนว่าควรจะเปิดใจให้กว้างมากขึ้นในการยอมรับสิ่งที่คนๆ นึงเป็น ส่วนร้องที่กินใจอย่างที่สุด กับการต่อสู้ในสิ่งที่ต้องผ่านไปให้ได้จากความแปลกแยกที่โดนยัดเยียดจากผู้อื่น ไม่ใช่ว่าคนที่เป็นเพศที่เท่าไหร่ก็ตามจะไม่ได้ต้องการความอบอุ่นหรือความรักที่ควรจะได้รับ เพราะคนเราแม้มีความแตกต่างแต่ไม่ได้หมายว่าทุกคนจะต้องโดนรังเกียจจากสิ่งที่เขาเป็น นี่มันคือเสน่ห์ของความเป็นมนุษย์ต่างหาก ตรงๆ ว่าฟังเพลงนี้ครั้งแรก น้ำตาร่วงลงมาแบบห้ามไม่ได้จริงๆ และฟังแต่ละครั้ง ก็ยังรู้สึกอินจัดๆ ทุกครั้งไป


 photo Let-her-go-by-passenger_zps091b0c91.jpg
Passenger - Let Her Go

Folk Pop Acoustic ที่มาแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ เครื่องดนตรีแต่ละชิ้นต่างมีจุดเด่นที่ทำให้เพลงเกิดมิติอย่างมากมาย ทั้งๆ ที่เหมือนไม่ได้มีอะไรมากก็ตาม เสริมเข้ากับความกินใจจากความนิ่งต่ออารมณ์เพลงที่รู้ตัวเมื่อสาย มันค่อยซึมเข้าสู่หูตามด้วยจิตใจเรื่อยๆ จนจบเพลง ทำให้เกิดอาหารซึมกระทือ ราวกับเป็นหนึ่งในคนที่พึ่งรู้ตัวว่าตัวเองได้เสียของรักไปอย่างไม่มีวันกลับเสียแล้ว ซึ่งเสียงร้องแบบชายหนุ่มที่เจ็บนะ แต่ไม่ฟูมฟายมันชัดเจนจริงๆ ไม่ต้องเค้นอะไรให้มากมาย แต่ก็เก็บตกอารมณ์เพลงได้แบบที่ยังไงก็ไพเราะ กระแทกใจ น่าจดจำ สมแล้วที่ตอนนี้ดังไปทั่วโลกแบบไม่ต้องพยายามดันให้เสียเวลาเพราะของเขาดีจริงๆ


 photo sam-smith-lay-me-down-acoustic-version-live_zps8245fbf7.jpg
Sam Smith – Lay Me down

น้ำเสียงที่กินขาดในแบบ Blue-eyed Soul ในเรื่องของอารมณ์เพลงที่จับต้องได้ ถ่ายทอดเพลงนี้ออกมาได้แบบที่ขนลุกในความไพเราะอย่างมากกับอารมณ์ที่โหยหา อ้อนวอน และร้องขอ ครบถ้วนความเป็นอารมณ์เพลงทันทีในแค่ช่วงฮุคแรก ที่เหลือคือความฟินล้วนๆ เลยในน้ำเสียงที่เอาคนฟังต้องยอมกันได้เลยทีเดียว แน่นอนสิ่งที่ต้องกี๊ซซซซแทบสลบคือภาคดนตรีในแบบ Soul กลั้วความเป็น Jazz แนว Sultry เรื่อยๆ ก็จริง แต่ทะลุเข้ารูหูจนไหลไปทั่วทั้งความคิดและจิตใจ ให้เกิดความรู้สึกที่ยากจะลืมมาก อาจจะไม่ได้กระตุ้นให้เกิดความหื่นหรือเซ็กซี่มากขนาดนั้น แต่มันโรแมนติคอย่างแรง ถ้ามีโอกาสขอร้องเพลงนี้ให้ใครซักคนฟังทันที จบข่าว


 photo justintimberlake-suitandtie_zps3fbdc350.jpg
Justin Timberlake Feat. Jay-Z - Suit & Tie

ภาคดนตรีที่โตขึ้น ไม่ได้เป็นในแบบ RnB แนวๆ Timbaland แบบในอัลบั้มก่อนๆ ที่ถ้าเอาเพลงแบบนั้นมาทำอีกมันจะกลายเป็นเผือและน่าเบื่อไม่มีพัฒนาการ แต่ Single เปิดตัวเพลงนี้บักหยอย Justin โชว์ความเหนือด้วยการเอาแนวทางของตัวเองที่ถนัดมาพัฒนาใหม่ จนกลายเป็น RnB ที่ลื่นไหล มีกลิ่นอายของ Soul Jazz บางๆ ที่คลาสสิคเหนือกาลเวลา ออกแนวเซ็กซี่ โรแมนติคในแบบไม่ต้องถอดเสื้อผ้าก็ทำให้สาวๆ อยากเสียตัวกันได้ถ้ามีหน้าตาแบบนี้มาร้องข้างๆ หู แน่นอนว่าเพลงค่อนข้างยาว มีช่วงเบรกอารมณ์ด้วยการแร๊พของ Jay-Z แต่ก็ไม่ได้ทำให้เพลงนี้มันน่าเบื่อเลย กลับฟังเพลินชวนโยกเบาๆ หรือยิ้มน้อยๆ พอจบเพลงก็ได้แต่บ่นในใจว่า “ทำไมจบเร็วจังฟ่ะ”


 photo Lady_Gaga_-_Do_What_U_Want_zps09893696.png
Lady Gaga feat. R. Kelly - Do What U Want

“ในเมื่อชั้นมายืนตรงจุดนี้แล้ว อยากทำอะไรกับชั้นก็เอาเลย เพราะถึงแม้พวกคุณจะด่าจะว่า จะเกลียดชั้น จะสาปส่งสาปแช่ง วิพากษ์ วิจารณ์ชั้นอย่างไง ก็เอาเซ่ เอาเลย ตามสบาย อย่าหยุดนะ เพราะถ้าหยุดเมื่อไหร่ชั้นคงแย่น่าดู เช่นนั้นทำต่อไป เกลียดชั้นต่อไป อยากทำอะไรกับชั้นก็เชิญเลย พร้อมอยู่แล้วว้อย” นี่แหละครับ Lady Gaga เธอบอกถึงความคิดและลายเซ็นของเธออย่างชัดเจนจริงๆ ว่าเธอก็เป็นมนุษย์คนนึงที่ต้องแบกอะไรไว้มากมายจากคำพูดคำจาของมนุษย์ด้วยกันจนปลงตกและสื่อสารออกมาได้อย่างโดนใจ ที่สำคัญการได้ R.Kelly มาเบรกความเสียดสีของเพลงลงไปเป็นแนวปลอบประโลม ยิ่งทำให้เพลงจากที่เสียดสีสะใจลดระดับมากลมกล่อมมากขึ้น Synthpop RnB เพลงนี้เลยติดหูจนแกะไม่ออก เช่นกระทืบไลค์อย่างเดียวคงไม่พอ เพราะเพลงนี้ยิ่งทำให้รู้สึกรัก Gaga มากขึ้นไปอีกเสียด้วยซ้ำ


 photo Imagine_Dragons_-_-Radioactive-_Single_zps62f0e408.jpg
Imagine Dragons – Radioactive

Electronic Rock เพลงนี้บอกอะไรหลายๆ อย่างมากมายทั้งท่วงทำนองที่เริ่มต้นเบาบางกลั้วเสียงคลอที่เหมือนกำลังหลับฝัน แต่พอตื่นขึ้นมากลายเป็นความหนักหน่วงกระแทกกระทั้นในทุกๆ ช่วงตัวของห้องดนตรี ราวกับเผชิญกับความหนักหนาสาหัสในทุกๆ ช่วงตัว หายใจได้ยากลำบากตลอด จนได้มาผ่อนอยู่ช่วงสั้นๆ เหมือนให้ตั้งสติแล้วลุยอย่างหนักหน่วงต่อไป ยิ่งเนื้อหาที่สามารถตีความได้ทั้งในการใช้ชีวิต เพราะมนุษย์ต่างก็เป็นสีเทาๆ ที่ทั้งมีความดีงามและพิษร้ายส่งต่อให้ผู้อื่นได้ หรือจะตีความเสียดสีถึงอนาคตที่สามารถเกิดขึ้นได้จากเงื้อมือของมนุษย์ก็เป็นได้ นี่แหละความล้ำ เท่ห์ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่จะหาวงไหนมาเหมือนได้ง่ายๆ จริงๆ


 photo IWantCrazy_zpsbd2de813.jpg
Hunter Hayes – I Want Crazy

หนุ่มหล่อคนนี้ไม่ได้ทำให้ใจสั่นอะไรขนาดนั้น (แต่หล่อจริง อะไรจริง) สิ่งที่ได้เต็มๆ คือ เสน่ห์ที่ชัดเจน ฉายแวว Star Quality และยอดเยี่ยมในการใช้ทั้งน้ำเสียงที่เป็นลูกผสมของ Pop และ Country ได้ลงตัวและปล่อยรังสีความน่ารักแบบหนุ่มวัยรุ่นจัดใส่กับเพลงนี้จนทำให้ฟังไปเคลิ้มไป เอ๊ย! ไม่ใช่ ยิ้มไป ท่วงทำนองชวนให้โยกหัวตาม พลางคิดไปว่าถ้าเป็นผู้หญิงคงกี๊ซตลาดแตกพลางเสนอตัวเป็นภรรยาให้หนุ่มคนนี้เป็นแน่แท้ เพราะช่างมีเสน่ห์จริงๆ ยิ่งเนื้อหาที่บอกถึงความเป็นหัวแข็ง กบฏเล็กๆ (แบบที่ไม่โดยอายัดบัญชีธนาคาร) เพราะชีวิตมันต้องมีความตื่นเต้น ต้องบ้ากันบ้างนี่แหละวัยรุ่น สุดท้ายเพลงนี้ไม่ได้มาอยู่ใน List เพราะความหล่อของนักร้องแต่ประการใดแต่มาเพราะความเร้าใจนี่แล


 photo iwantyouback_zpsaec9d446.jpg
Straight No Chaser feat. Sara Bareilles - I Want You Back

ฟังเพลง Cover ของ Jackson 5 เพลงนี้มาก็นักต่อนัก แต่พอมาเจอเวอร์ชั่นนี้มันช่างสนุกสนานมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เพราะท่วงทำนองแบบ A Cappella ช่างทำให้เพลงนี้ดูสว่างไสวมากมายในการร้องขอความเห็นใจให้กลับมาเถิดจะเกิดผลแบบน่ารักๆ ต้องยกนิ้วให้หนุ่มๆ วง Straight No Chaser ที่ไล่เรียงเสียงประสานได้น่ารัก มีจุดพีค จุดผ่อน และมีมิติสุดๆ โดยไม่โดนเสียงนุ่มๆ ของสาว Sara ที่ทำหน้าที่หลักในการถ่ายทอดเพลงนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมมาแย่งซีนแต่ประการใด กลับกลายเป็นร่วมด้วยช่วยกันทำให้เพลงนี้เป็นเพลงที่น่าฟังขึ้นอย่างมากมาย ได้ความสุขไปเลยภายในเวลา 3 นาที และต่อเนื่องจดจำไปเรื่อยๆ ไม่จบสิ้นเหมือนมาม่าที่ต้มจบ 3 นาที อิ่มแล้วจบกันแต่ประการใด


 photo Avicii-Wake-Me-Up-2013-1200x1200_zpsa9dd3d9e.png
Avicii - Wake Me Up

Electro Dance กลั้วความเป็น Country ที่ Mix ออกมาได้อย่างสวยงาม ท่วงทำนองจัดเต็มชวนแดนซ์กระโดดโลดเต้น แต่แฝงไปด้วยเนื้อหาที่เสียดสีการดำรงและเป็นอยู่ของชีวิต ที่อาจจะผ่านอะไรต่างๆ ทั้งความไม่รู้ ความมืด และความสว่าง จากเด็กจนแก่ เราคงไม่รู้ว่าเราได้หลงลืมตัวตนของเราเอาไว้ที่ไหนบ้างและทำอะไรหายไปจากชีวิต ทุกอย่างในเพลงนี้ไล่เรียงจุดเบาสู่จุดพีคได้ไพเราะ สามารถเป็นได้ทั้งเพลงตลาดฟังเอามันส์ หรือเพลงเตือนสติเตือนใจได้อย่างไม่ยากเย็น และที่ยกนิ้วให้ก็การเอาเพลง Country มาประยุกต์ให้เห็นอะไรใหม่ๆ นี่แหละ ที่นานๆ ทีจะได้เห็นและได้ฟัง มันปลื้มเต็มๆ ก็ตรงนี้


 photo Zedd_Stay_the_Night_zpsfd2110b3.jpg
Zedd ft. Hayley Williams - Stay the Night

ฟังครั้งแรกบทสรุปคือ “เฉยๆ” คงไม่มีเพลงไหนที่จะมาโดดเด่นเท่า Clarity แต่พอยิ่งฟังมากครั้งขึ้นไป ทำไมยิ่งรักเพลงนี้มากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้นในทุกๆ ครั้ง ไม่มีจะเป็นท่วงทำนองในแบบ Electro House ที่เป็นได้ทั้งเพลงฟังที่รื่นหูและเพลงแดนซ์ที่ชวนสะบัดกรุยกราย เพราะมีทั้งช่วงผ่อนให้ฟังและช่วงแดนซ์ให้จัดเต็ม ตามด้วยน้ำเสียงของสาว Hayley ณ Paramore ที่ฉีกจากความเป็น Rock มา Dance ได้สวยงามสุดๆ เนื้อหาที่ร้องขออ้อนวอนอยู่ด้วยกันเถอะนะ ก็ชีวิตคนโสดมันก็ต้องการใครซักคนให้พูดแบบนี้ด้วยนี่นา เช่นนั้นตอนนี้เพลงนี้กลายเป็นเพลงที่ต้องฟังคู่กับ Clarity และต้องฟังทุกวันให้ชีวิตมันได้ปลดปล่อยความรู้สึกบางอย่างข้างในออกมาบ้างจะได้หลับสบาย


ก็เรียบร้อยแล้วครับ สำหรับ 20 (+5) เพลง ถือว่าเป็น The Best ในรอบปี 2013 ที่ผ่านมานี้ ถือว่าเป็นความโชคดีอย่างที่ยิ่งที่ไม่เจอเพลงที่ฟังแล้วปวดตับจนอยากจะด่าไฟแล่บ และไม่เจอ MV ที่ทำให้ปวดอัณฑะต่อเนื่อง เลยไม่มีมานำเสนอให้ได้รับทราบกันเลยงดดราม่า 55555 และที่สำคัญที่สุดเลย คือ

"เพลงที่ผมประทับใจชื่นชอบนั้น ไม่จำเป็นเสมอไปที่คนอื่นจะต้องปลื้มหรือชอบตามนะครับ เพราะนี่คือความเห็นของผมเท่านั้นเอง ถ้าเพลงไหนคุณฟังแล้วเกิดความรู้สึกว่ามันไพเราะและคุณชอบ ก็ถือว่าเพลงนั้นทำหน้าที่ของมันได้ลุล่วงแล้ว แต่ถ้าไม่ชอบหรือเฉยๆ ก็ตามแต่พิจารณาครับ เพราะคนเราชอบไม่เหมือนกันอยู่แล้ว และผมยินดีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเสมอครับ"

ถ้าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ หรือใครก็ตามที่เข้ามาอ่านมีเพลงอะไรที่ชื่นชอบประจำปี 2013 ที่ผ่านมานี้ เอามา Share กันได้เลยนะครับ ยินดีอย่างยิ่งเลยครับ

ขอบคุณมากๆ เลยครับที่เข้ามาเยี่ยมเยียน อ่าน และฟังเพลงใน Blog นี้ ที่สำคัญมากเลย คือ Comment ของคนเข้ามาครับ เพราะมีค่ามากเลยสำหรับผม ขอบคุณมากๆ อีกครั้งครับ


Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 26 ตุลาคม 2557 21:27:47 น. 6 comments
Counter : 1842 Pageviews.

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
เข็มขัดสั้น Music Blog ดู Blog


Like ให้เป็นคนที่ 4
แวะมาเม้นท์บล็อกนี้เป็นเม้นท์แรกแห่งปี 2014
เพลงที่อุ้มชอบในปี 2013 มักจะเป็นเพลงไทยค่ะเริ่มด้วยเพลงแรก "วันวานไม่มีเขา วันนี้ไม่มีเรา"
ของน้าแอ๊ด คาราบาว ยืนยง โอภากุล
เพลงนี้ได้รางวัลเขียนเพลงด้วยค่ะ
อีกทั้งเพราะแม่เสียชีวิตพอดีในช่วงที่เพลงนี้ออกจำหน่าย
ก็เลยโดนใจมากๆ



เพลงขอใจแลกเบอร์โทร ของหญิงลี
เพลงนี้ปัจจุบันอุ้มก็ใช้เป็นเพลงรอสายจนเข้าปี 2014
ก็ยังไม่เปลี่ยนเพลงค่ะ
ทำนองสนุกๆ ฟังง่าย เนื้อเพงน่ารักดี ชอบ
ไม่น่าเชื่อว่าเพลงนี้กลายเป็นเพลงแจ้งเกิด
ทำให้ทุกๆ ที่ทุกหนแห่งต้องมีเพลงนี้


เพลง กรุณาฟังให้จบ ของแช่ม แช่มรัมย์
เพลงนี้ทำให้อยากรู้ว่าใครเป็นคนเขียนเนื้อเพลง
คำร้อง/ทำนอง : พยัต ภูวิชัย
และเรียบเรียง : ขจัดภัย กาญจนาภา
เพราะเป็นเพลงรักที่เขียนได้น่ารัก
และร้องอยากมากจะขาดใจตายแต่ก็โดน


เพลง อยากได้อะไรทำไมไม่บอก - น้าแอ๊ด คาราบาว
เนื้อเพลงโดนมากๆ เลยค่ะ


เพลง ตามรอยพ่อ เป็นเพลงที่อุ้มร้อง
และใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต
เพลงอาจจะไม่ได้ออกในปี 2013
แต่เป็นเพลงที่อุ้มเปิดฟังมากที่สุดในปี 2013 ค่ะ



โดย: อุ้มสี วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:23:18:19 น.  

 
อยากบอกว่า
ตอนพี่จีนเป็นเฮียจีน เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นะ

แต่พอเป็นเจ๊จีนนี่เราชอบมากกกกกกกก
ชอบสไตล์การแต่งตัวของนางทุกชุด


โดย: rommunee วันที่: 1 มีนาคม 2557 เวลา:21:29:51 น.  

 
มีหลายเพลงที่ชอบ และมีบ้างที่ไม่ได้ฟัง
ปีที่แล้วเราปลื้ม Zedd กับ Arctic Monkeys มากค่ะ โดยเฉพาะ Zedd เรียกว่าหลงรักไปแล้ว เพลงเค้าให้ความรู้สึกว่าเค้าเป็นดีเจที่ขี้เหงา ขี้อ้อน และอ่อนหวานมาก น่ากอด


โดย: S-mild วันที่: 23 มิถุนายน 2557 เวลา:20:26:41 น.  

 
พึ่งเคยเห็นบล้อคนี้ ชอบมากครับบางเพลงผมไม่เคยฟังมาก่อน รีวิวออกมาได้ถูกใจมาก ติดตามฮับ


โดย: Snote IP: 124.122.42.186 วันที่: 13 กรกฎาคม 2557 เวลา:23:18:28 น.  

 
Hey,how have you been?


โดย: กำมงเซ่ (Commencer ) วันที่: 4 ตุลาคม 2557 เวลา:3:13:02 น.  

 
Great weblog right here! Also your site quite a bit up very fast! What web host are you the usage of? Can I get your associate hyperlink in your host? I desire my website loaded up as quickly as yours lol
ugg australia australian store //www.velletrano.it/cache/stivali-ugg/vr97doYHaT/


โดย: ugg australia australian store IP: 192.99.14.34 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2557 เวลา:16:06:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เข็มขัดสั้น
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกของเข็มขัดสั้นนะครับ ^^

แต่ละ Group Blog ที่ผมเขียน มี Concept ตายตัวชัดเจน และผมเองก็จะยังคง Concept แบบนี้ต่อไป ใครเข้ามาด่ากี๊ซก๊าซ คนนั้นมันบ้าของมันไปเองแหละครับ ผมไม่บ้าด้วยหรอก นั่งดูพวกเต้นเป็นเจ้าเข้าแทนศิลปินเหล่านั้น เพื่อเฮฮา ขำก๊าก อิเคะๆ อิไตๆ ดีกว่า 5555

และที่สำคัญยินดีมากเลยครับ ที่ไม่ว่าใครก็ตามที่เข้ามาอ่านแล้วมี Comment ให้ผม คนที่มาดีๆ ผมดีใจมากเลยครับ และขอบคุณอย่างยิ่งที่เข้ามาอ่านและฟังเพลงจากบล็อกน้อยๆ แห่งนี้ ส่วนคนที่มาถ่อย กะมาด่าโดยตรง ก็ตามสบายครับ ที่นี่เปิด Public นี่นา ผมก็ถือว่าเขาเหล่านี้ได้มาเสพงานที่ผมสรรค์สร้างขึ้นตาม Concept แล้ว แค่นี้ก็ดีแล้วครับ ที่ทำให้คนอ่านอินได้ขนาดนี้ ^^

สุดท้าย ขอขอบคุณ Pop Magazine มากๆ ครับ ที่ทำให้ผมมีแรงบันดาลใจในการเขียน Blog นี้ขึ้นมา ^^
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
232425262728 
 
2 กุมภาพันธ์ 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เข็มขัดสั้น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.