เมื่อผลการประกาศ BBC Sound of 2011 ออกมาจากศิลปินหน้าใหม่ที่ มีผลงานเด้งเข้าตา และสามารถเป็นตัวพ่อ/ตัวแม่ในการกำหนดทิศทางของดนตรีประจำปีออกมา ไม่แปลกใจเลยที่สาวเท่ห์ หน้าเก๋ เปรี้ยวเยี่ยวเล็ดอย่าง Jessie J คนนี้ จะได้อันดับหนึ่งไปครอง แถมพ่วงมาด้วยรางวัลขวัญใจนักวิจารณ์ของ Brit Award มารอจ่อให้ทันควันรอรับรางวัลได้เลยไม่มีบิดพลิ้ว เพราะการนำเสนอดนตรีแนว UK RnB Hip Hop ที่มีดนตรี Electro เป็นเครื่องเคียงชั้นเอก (เรียกกันง่ายๆ ว่า Grime) กลั้วรสนิยมที่เก๋ไก๋ แต่ก็ไม่มองข้ามความเป็นเมนสตรีมที่เข้าถึงได้ง่าย มันช่างเป๊ะ! จริงๆ ที่จะทำให้สาวคนนี้แจ้งเกิดในระดับโลก และบอกว่าลอนดอนน่ะ เก๋อย่าบอกใครนะ ขอบอก!
พอหันกลับไปดูที่มาของสาวคนนี้ ถือว่าสมควรอย่างยิ่ง เพราะพื้นฐานความเก๋และรสนิยมทางดนตรีที่ไม่เป็นสองรองใครนั้น มาจากการศึกษาจนจบจาก BRIT School (โรงเรียนสอนศิลปะและการแสดงที่ถือว่าดีที่สุดในอังกฤษ) ที่เดียวกับ คุณภาพเน้นๆ Adele, ดิว่าระดับโลก Leona Lewis, เฮโรอีนเจ๊ขอ Amy Winehouse และเก๋แบบอังกริ๊ด อังกฤษ Kate Nash เป็นต้น แรกเริ่มก็รวมกับเพื่อนสาวตั้ง Girl Group กันก่อน แต่ก็นะ ไปได้ไม่รอด เพราะมีปัญหาโรคภัยไข้เจ็บส่วนตัว เลยมาเอาดีทางด้านการเขียนเพลงซะเลย แน่นอนว่าเขียนเพลงให้กับศิลปินดังๆ มาแล้วเยอะแยะ เช่น เจ๊หอนคืนโหด Christina Aguilera, ห่านหัวแดง Rihanna, กุญแจท้องแล้ว Alicia Keys และเพลงที่ดังเป็นพลุแตกไปเลยก็คือ Party in the U.S.A. ของอีหนูลูกสาวกำนันเหมยลี่ ไส้รัด (Miley Cyrus) เสียงเป็ดนั่นเอง
เมื่อได้เวลาและโอกาสอันสมควร สุขภาพดีขึ้น เธอเลยได้ทำเพลงของตัวเองซะที กับการแจ้งเกิดแบบไม่แคร์สื่อ ในเพลง Do It Like A Dude ที่คนฟังต่างชื่นชอบมากๆ ทั้งๆ ที่เป็นเพลงที่ไม่น่าจะแตกต่างจาก Grime ทั่วไปเท่าไหร่ แต่พอฟังไปแล้ว มีความเก๋ในเนื้อหาและท่วงทำนองเลยจัดเต็มไปที่อันดับ 2 UK Chart ให้ทันที และยังเป็นที่นิยมฟังมาเรื่อยๆ จนล่าสุด ตอนนี้ได้เวลาต่อเนื่องกับความสำเร็จกับ Single ที่ 2 ก่อนที่อัลบั้มเดี่ยวจะได้ฤกษ์วางแผงซะที กับเพลงความหมายดีๆ เพลงนี้ Price Tag
แต่สงสัยว่าทำไมต้องเรียกหนูไมลี่ว่าลูกสาวกำนันด้วยอ่า