Jim Thompson House Museum :: บ้านและของสะสมโบราณ

สวัสดีค่ะ ห่างหายไปนานหลายวัน น่าจะประมาณครึ่งเดือนได้ เป็นครั้งแรกที่ห่างหายไปนานขนาดนี้หลังจากที่ตั้งปณิธานไว้ในใจ (เงียบ ๆ) ว่าจะอัพ blog ทุกสัปดาห์แท้ ๆ (เอาทุกสัปดาห์ก่อน ยังไม่ถึงขั้นระบุวันว่าอัพวันไหนแน่ ๆ หุหุ) มีหลายสาเหตุผสม ๆ กันเลยทำให้ลืมอัพไปเลยซะงั้น - -"

ว่าแล้วก็แอบโปรโมทเว็บก่อนดีกว่า .. นี่คือสาเหตุที่ทำให้เคโกะค่อนข้างห่างเหินกับ bloggang ไปนะคะ คือ เมื่อช่วงปลายปีที่แล้วอยากฝึกฝนภาษาอังกฤษของตัวเองมาก ไม่รู้ทำไงดี ดูหนังฟังเพลงก็แล้ว ก็ยังรู้สึกว่าไม่เพียงพอ ก็เลยลองมาเป็น volunteer ในเว็บ //www.viki.com/  ดูค่ะ มาเป็น Subber คอยแปลซับดูบ้าง โดยที่เคโกะเลือกไทยเป็นอังกฤษนะคะ ไม่น่าเชื่อว่ามีคนต่างชาติกลุ่มนึงที่เค้าเป็นแฟนละครไทยอย่างเหนียวแน่น คอยติดตามดูละครตลอด ซึ่งเว็บนี้ก็จัดให้ได้ค่ะ มีอาสาสมัครมาช่วยกันแปลบทสนทนาจากไทยให้เป็นอังกฤษให้คนต่างชาติกลุ่มนั้นได้รับชมกัน

เรื่องอื่นเราไม่โปรโมท ขอโปรโมทเฉพาะเรื่องนี้ค่ะ .. "คุณสามีกำมะลอที่รัก" ที่เคโกะถือว่าตัวเองมีส่วนร่วมในโปรเจ็กต์นี้เยอะมาก ๆ เป็น Top subber ของ channel นี้เลยค่ะ และเพิ่งทำซับอังกฤษจบกันไปหมาด ๆ นี้เอง (แปลไปแปลมาแล้วเริ่มสนุกกับเนื้อเรื่องค่ะ เลยลืม bloggang ไปชั่วขณะ ฮาๆ) ใครว่างก็ลองไปติดตามกันได้ค่ะ แปลผิดแปลถูกประการใดก็ชี้แจงกันได้นะคะ ^^

ทางไปรับชมค่ะ :: //www.viki.com/tv/12409c-khun-samee-karmalor-tee-rak-complete


เอาล่ะ หมดพื้นที่โฆษณาแล้ว (555) กลับมาที่เรื่องเนื้อหาของเรื่องราวที่จะพูดถึงใน blog นี้ค่ะ

อย่างที่เห็น ๆ กันอ่ะนะคะ เคโกะไม่ค่อยได้ออกไปถ่ายรูปที่ไหนเลยมานานหลายเดือนแล้ว ก็เลยลากเพื่อนไปถ่ายรูปเล่นด้วยกันจนเป็นผลสำเร็จค่ะ โดยที่เราเลือกกันเอาสถานที่ใกล้ ๆ เดินทางสะดวกอย่างที่นี่ค่ะ "Jim Thompson House Museum"

การเดินทางนั้นก็แสนสะดวกสบายอย่างที่เราตั้งใจ นั่นก็คือเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ออกจากสถานีมาแล้ว (จำ exit ไม่ได้อ่ะค่ะ แหะๆ แต่มีป้ายบอกทางนะ) ก็เดินตรงไปเรื่อย ๆ เลี้ยวเข้าซอยเกษมสันต์ 2 (มีป้ายบอกที่ปากซอยค่ะ) แล้วเดินเข้าไปเรื่อย ๆ จะเห็นมิวเซียมอยู่ทางซ้ายมือ

ป้ายบอกสถานที่เป็นตัวอักษรสีทองบนฟ้าแจ่มเด่นชัดขนาดนี้ ไม่ผิดที่แน่นอนค่ะ :D



บริเวณทางเข้าด้านหน้าเพื่อนเคโกะก็หันไปเห็นมีลิฟท์แอบซ่อนอยู่ด้วย แปลกใจเหมือนกันเพราะรู้ข้อมูลเบื้องต้นว่าเป็นบ้านไทยโบราณ ไม่น่าจะมีลิฟท์นะคะ



แต่เราก็เดินผ่านบริเวณนั้นไปก่อน เพราะต้องชำระเงินค่าเยี่ยมชม 100 บาทถ้วน สามารถเลือกได้ว่าจะเอาไกด์นำชมสถานที่ภาษาอะไร มีให้เลือก 4 ภาษาค่ะ คือ ไทย, อังกฤษ, ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส .. เคโกะกับเพื่อนเลือกภาษาไทยค่ะ ^^"

พอชำระเงินเรียบร้อยแล้ว พนักงานก็จะแจ้งให้เราไปรีจิสเตอร์ด้านใน เพื่อเช็ครอบเวลาที่ถูกต้องอีกครั้ง

เดินถัดเข้าไปข้างในอีกนิดก่อนถึงเคาน์เตอร์รีจิสเตอร์ที่ว่า ก็มองเห็น Art Center ซึ่งจัดอยู่บริเวณชั้นสอง และชั้นล่างเป็นห้องจำหน่ายสินค้าจากผ้าไหมจิม ทอมป์สันค่ะ



บริเวณด้านหน้านั้นเองก็มีมุมสาธิตเล็ก ๆ แสดงรังไหมและการสาวไหม (เรียกถูกไหมล่ะเนี่ย - -") กองในภาพนี้เป็นกองรังไหมค่ะ ลองจับ ๆ ดูแล้ว เบา ๆ ผิวสัมผัสออกหยาบ ๆ ล่ะค่ะ ส่วนกองเส้นไหมที่เบลอ ๆ นั้นก็คือไหมดิบค่ะ



นี่ค่ะ คุณพนักงานคนนี้สาธิตการสาวไหมอย่างที่บอก เวลาเห็นคนถ่ายรูปเค้าก็จะยิ้มกับกล้องเสมอ



ถัดไปใกล้ ๆ ก็มีนักดนตรีแสดงการสีซอค่ะ (หวังว่าคงเรียกถูกนะ - -") ส่วนเด็กน้อยที่นั่งใกล้ ๆ นั้นก็ยิ้มตลอดเวลาที่เธอคิดว่าเราถ่ายรูปเธอค่ะ (แม้ว่าบางครั้งเราก็ไม่ได้ตั้งใจจะถ่ายเธอก็ตาม - -")



เดินผ่านบริเวณนี้ไป (อ้อ ลืมบอกไปว่าฝั่งตรงข้ามกับห้องจำหน่ายสินค้า เป็นห้องอาหารนะคะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ) ก็เข้าไปยังบริเวณจัดแสดงนิทรรศการแล้ว ซึ่งจะมีพนักงานคอยต้อนรับเราและแนะนำให้ไปลงทะเบียนเพื่อตรวจสอบเวลาที่แน่นอนอีกครั้ง และระหว่างที่รอรอบไกด์นำชมสถานที่ เราก็สามารถเดินเล่นบริเวณสวนรอบ ๆ บ้านก่อนเองได้ค่ะ

ซึ่งบริเวณสวนที่ว่านี้เนี่ย จะมีบ้านหลังเล็กอยู่สามหลัง (ถ้าจำไม่ผิดอ่ะนะ) ในอดีตนั้นก็ใช้เป็นยุ้งข้าวเอาไว้เก็บข้าว, บ้านของคนรับใช้ แต่ปัจจุบันก็เอามาดัดแปลง เพื่อจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่คุณจิมสะสมไว้ตั้งแต่อดีตค่ะ

ในรูปนี้ก็น่าจะเป็นสาส์นอะไรซักอย่าง (- -") เห็นแสงสวยก็เลยถ่ายมา ... ซะงั้น - -"



พอถึงรอบเวลาของเราแล้วก็เดินตามไกด์อย่างเดียวค่ะ บริเวณภายในตัวบ้านนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพใด ๆ ทั้งสิ้นนะคะ รวมถึงต้องถอดรองเท้า (มีชั้นวางรองเท้าให้) และต้องเก็บสัมภาระไว้ในล็อคเกอร์ด้วยค่ะ (มีกล้องวงจรปิด และพนักงานดูแลอยู่) เลยไม่มีภาพมาฝากกันนะคะ

แต่พอหลังจากเดินชมบ้านเสร็จแล้ว เราจึงถ่ายภาพบริเวณรอบ ๆ ภายนอกตัวบ้านได้ค่ะ หรือแม้แต่ถ่ายเข้ามาภายในบ้านอย่างนี้ก็ได้



จากภาพด้านบน เคโกะและเพื่อนก็ยืนอยู่บริเวณชานเรือนของบ้านล่ะค่ะ และในภาพก็คือบริเวณรับแขกนั่นเอง ซึ่งก็ตามธรรมเนียมบ้านไทยในสมัยก่อนนะคะที่จะหันตัวบ้านเข้าหาแม่น้ำหรือลำคลอง ซึ่งบ้านของคุณจิมก็ติดคลองเช่นกันค่ะ แต่ว่าปัจจุบันนี้ไม่มีท่าเรือแล้วนะคะ คงเหลือเพียงหลักฐานว่าเคยมีท่าเรือหน้าบ้านมาก่อนน่ะค่ะ

พวกเรานั่งพักบริเวณชานเรือนบ้านนี้อยู่นานมาก บรรยากาศดูร่มรื่นจริง ๆ ค่ะ

ไอ้ภาพอะไรแบบเนี้ยะ ล่ะชอบถ่ายนัก ไม่สวยก็ยังจะถ่าย - -"



บริเวณใต้ถุนเรือนเองก็ยังมีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ที่คุณจิมสรรหามาสะสมด้วยอ่ะนะคะ อย่างในรูปนี้ ไม่ทราบว่าใครนึกสนุกเอาดอกลั่นทม ... เอ่อ คนสมัยนี้เรียกว่าดอกลีลาวดีสินะ ฮ่าๆ มาประดับไว้ตรงหูหมูค่ะ น่ารักน่าเอ็นดูเชียว ^^



พักสายตากับดอกกล้วยไม้งาม ๆ ค่ะ



เดินชมบริเวณใต้ถุนเรือนแล้วก็เดินกลับไปชมบ้านหลังเล็ก ๆ ในสวนต่อ เพราะตอนแรกยังเดินชมไม่ทั่วค่ะ

ในบ้านเล็กหลังหนึ่งมีถ้วยโถโอชามวางแสดง แต่ตรงนี้ไม่ทราบจริง ๆ ว่าเจตนาวางแบบนี้ให้ดูก้นถ้วยหรือยังไงนะคะ แล้วก้นถ้วยนี้มีความหมายอะไร ไม่ทราบเลยค่ะ



บริเวณสวนค่ะ ต้นไม้เยอะมาก ๆ เลย ชอบมากเลยค่ะ



จากนั้นเราก็เดินออกมาจากบริเวณเรือนบ้าน แล้วลองเดินขึ้นไปชมผลงานศิลปะที่จัดแสดงอยู่บริเวณชั้นสองของห้องจำหน่ายสินค้าผ้าไหมจิม ทอมป์สันค่ะ



ภายในห้องจัดแสดงก็แสดงผลงานทางศิลปะ ทั้งภาพวาดและประติมากรรมเลยนะคะ เลยแอบเข้าใจเล็กน้อยว่าที่ทำลิฟต์ขึ้นมา คงเพราะต้องการขนผลงานเหล่านี้ขึ้นมาจัดแสดงได้อย่างสะดวกสบายน่ะค่ะ




จากเท่าที่เห็น คนที่มาเยี่ยมชมส่วนใหญ่ก็จะเป็นชาวต่างชาติอ่ะนะคะ คนไทยมากันน้อยมากจริง ๆ แต่ถ้าหากเป็นคนที่สนใจศิลปะโบราณแล้ว เคโกะว่าน่าจะมาเยี่ยมชมดูสักครั้งค่ะ น่าจะชอบที่นี่นะคะ ^^

ข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ :: //www.jimthompsonhouse.com/

แล้วกลับมาพบกันใหม่ใน blog หน้านะคะ ขอบคุณที่ยังติดตามกันเสมอค่ะ ^^

Create Date : 22 พฤษภาคม 2556		2 comments
Last Update : 22 พฤษภาคม 2556 22:56:47 น.
Counter : 2381 Pageviews.
Share Tweet