keigolin
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ blog ของ keigo นะคะ ^^

blog นี้เป็น blog เก่าค่ะ ได้ย้ายบ้านไป thisiskeigo.wordpress.com แล้ว ไปติดตามกันได้ที่นั่นค่ะ ^^
หรือติดตามเพจกันได้ที่ http://www.facebook.com/thisiskeigo
ขอบคุณที่ติดตามกันค่ะ ^^
New Comments
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2558
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
27 พฤษภาคม 2558
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add keigolin's blog to your web]
Links
 

 
Still in love, in Japan #5

สวัสดียามดึกค่ะ ดูจะเป็นเรื่องปกติไปแล้วเนอะ มาเขียนอะไรดึกดื่นไม่หลับไม่นอนนิ ^^"

ช่วงนี้กทม.ร้อนมากกกกกกกกค่ะ อดคิดถึงช่วงที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นไม่ได้เนอะ หนาวจับใจอ่ะ 555


ความเดิมตอนที่แล้ว :-


หลังจากที่ไปตะลุยย่าน Numba-Shin Saibashi กันจนพอสมควรแก่เวลาแล้ว ก็นั่งรถไฟกลับไปยังที่พักค่ะ แล้วก็แวะ Family Mart ตรงหน้าสถานีอีกเช่นเคย ..

สิ่งที่เราได้มาก็คือ ข้าวปั้นโอนิงิริ กับชานม คู่นี้ของเคโกะเอง



ที่ขาดไม่ได้ ติดใจตั้งแต่ครั้งแรกที่มาแล้วนั่นก็คือ โกโก้แวนฮูสเทนค่ะ รอบนี้มาแพกเกจเปลี่ยนไปนะ เป็นขวด ๆ แบบนี้ค่ะ แต่รสชาติเหมือนเดิมอ่ะ



ตบท้ายด้วย .. โอเด้งเจ้าเก่า 555 เคโกะตักมาแบบไม่มีน้ำซุปเช่นเคยนะคะ



17-Jan-2015

เช้านี้ตื่นมาแต่งตัวแล้วก็เก็บข้าวของให้เรียบเกลี้ยงค่ะ เราจะเช็คเอาท์กันในตอนเช้าเลย ตั้งใจว่าจะฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม แล้วค่อยกลับมาเอา แต่พอถามกับพนง.ฟร้อนท์แล้ว พนง.แจ้งว่า โรงแรมไม่รับฝากค่ะ เป็นอันเงิบกันไป - -"

สำหรับพาสที่ใช้วันนี้ก็คือ JR Kansai Area Pass 1-Day ค่ะ

และแล้ว JR ที่เราคุ้นเคยกันดีจากทริปญี่ปุ่นครั้งก่อนก็กลับมาอีกครั้ง 555

จากโรงแรมที่เราพัก ซึ่งอยู่ตรงสถานี Tsuruhashi ตรงนั้นเนี่ยนอกจากจะเป็นสถานีรถไฟที่ไม่ใช่ JR แล้ว ก็มี JR วิ่งผ่านด้วยนะคะ (โลเคชั่นเลิศมาก บอกเลย) แต่เราต้องเดินไกลเข้าไปอีกนิดค่ะ ซึ่งสามารถเดินผ่านในตัวสถานี Tsuruhashi ได้เลย



ซึ่งตรงนี้จะวนไปที่สถานี JR Osaka ก่อนค่ะ แล้วค่อยเปลี่ยนสายไป Himeji อีกทีนึง ซึ่งในสถานีนี้แหละ เราก็เลยจำเป็นต้องเช่าล็อคเกอร์เพื่อเก็บกระเป๋าสัมภาระมากมายไว้ค่ะ ดีตรงที่ไม่จำเป็นต้องออกจากระบบรถไฟก่อน มีล็อคเกอร์ภายในสถานีให้เลย สะดวกมาก ๆ

นั่งรถไฟไปสถานี Himeji นั้นใช้เวลาราว ๆ ชั่วโมงเศษก็ถึงค่ะ เป็นสถานีที่มีคนลงเยอะมาก ๆ ไม่หลงแน่นอนค่ะ

เพียงแค่ออกจากสถานี เราก็จะเห็นปราสาทฮิเมจิอยู่ตรงหน้าเลย ไม่ต้องคิดอะไรมากค่ะ เดินดิ่งไปอย่างเดียว ..



เดินเข้าไปจนถึงหน้าเขตปราสาทก็จะเห็นเหมือน ๆ กับปราสาทอื่น ๆ นะคะ คือจะมีคลองน้ำล้อมรอบ แล้วก็มีกำแพงหินสูงชันอีกชั้นหนึ่ง



ก็เดินตามทางเข้าไปด้านในกันเลยค่ะ



เดินมาจนถึงหน้าทางเข้าค่ะ ก็จะเป็นจุดจำหน่ายตั๋ว ที่นี่จะเป็นระบบตู้อัตโนมัติ แต่ก็จะมีพนง.คอยแนะนำค่ะ ซึ่งช่วงที่เคโกะไปนั้น ตัวปราสาทยังปิดซ่อมแซมอยู่ ค่าตั๋วเข้าชมก็เลยจะลดราคาลงเหลือ 400Y นะคะ



จากนั้นก็เดินตาม route ที่ทางปราสาทได้จัดทำไว้เลยค่ะ จะมีทั้งชมสวน และเดินดูพิพิธภัณฑ์ภายในทางเดินของปราสาท ซึ่งตรงนี้เราจะต้องถอดรองเท้า ถือเข้าไปค่ะ ด้านในไม่ได้เก็บภาพมา แต่ก็บอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาของปราสาทแห่งนี้ รวมถึงมีเกมละเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ดูน่าสนใจมากขึ้นด้วยค่ะ

พอออกมาเดินสวนรอบ ๆ ปราสาทแล้ว เราก็จะได้เห็นปราสาท (ที่กำลังจะใกล้เสร็จ) ได้หลากหลายมุมทีเดียวค่ะ



อีกซักมุมนะคะ มุมนี้เป็นมุมแถว ๆ บ่อน้ำ (ไม่มีผีฮิโตชิ -- จากกลกิโมโน นะคะ ^^")



เดินชมปราสาทกันจนอิ่มอกอิ่มใจแล้วก็เดินกลับออกมาค่ะ เห็นมีตู้กดไอศกรีมอยู่หน้าร้านขายของที่ระลึก ก็เลยวิ่งไปกดมาหม่ำ ๆ ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นค่ะ



ใกล้ ๆ กันมีแมวนอนหมอบอยู่ ตัวอ้วนน่ารัก ขนปุยมาก ๆ ในสวนรอบ ๆ ปราสาทนี้มีคนจูงหมาแมวมาเดินเล่นกันเยอะเลยค่ะ แต่ละคนก็จะดูแลสัตว์เลี้ยงตัวเองได้ดีเยี่ยมมาก ๆ ไม่สกปรกเลยค่ะ พอสัตว์เลี้ยงขับถ่ายปุ๊บ เจ้าของก็จะไปตักเก็บใส่ถุงปั๊บ และมีถังขยะทิ้งสิ่งปฏิกูลพวกนี้โดยเฉพาะด้วยนะคะ



แล้วเราก็เดินกลับไปขึ้นรถไฟกลับเข้าโอซาก้าเช่นเดิม แต่ว่า ไหน ๆ ก็พอจะมีเวลาเหลืออยู่ก่อนที่จะไปฟุกุโอกะต่อ ก็เลยแวะโกเบอีกรอบ เดินตามหาร้าน Steak Land อันเลื่องชื่อค่ะ เดินหา ถามทางจนเจออ่ะ



ส่วนรูปนี้คือมองย้อนออกจากหน้าร้านไปยังถนนใหญ่นะคะ เพราะร้านนี้อยู่ในถนนเล็ก ๆ อีกทีนึง ไม่ได้ติดถนนใหญ่หน้าสถานีค่ะ



หลังจากที่ต่อคิวยาวนานมาก ๆ ก็ได้เวลาลุยกันซะทีค่ะ พอนั่งปุ๊บ พนง.ก็จะยกมาเซ็ทอัพตรงหน้าให้แบบนี้เลย ห้ามขยับด้วยนะ 555



แล้วพ่อครัวก็จะมาปรุงเนื้อย่างให้ทานกันร้อน ๆ หน้าเตาเลยค่ะ



พอปรุงสุกเรียบร้อย เค้าก็จะตักมาเสิร์ฟให้เราตรงหน้า ประมาณนี้



พวกเราสั่งชุดถูก ๆ ไป (อีกละ) แต่รสชาติก็ยังยอดเยี่ยมมาก ๆ เลยค่ะ ไม่อยากจะคิดนะว่าถ้าสั่งเนื้อแพง ๆ หน่อย รสชาติจะเลิศเลอขนาดไหน 555

อิ่มเรียบร้อยแล้ว เราก็รีบบึ่งกลับโอซาก้า เอากระเป๋าที่ใส่ล็อคเกอร์ไว้ แล้วก็นั่งรถไฟ JR Airport Rapid เข้าสนามบินคันไซเลยค่ะ

*** ข้อแนะนำ สำหรับรถไฟขบวนนี้ กรุณาเลือกนั่งให้ถูกโบกี้นะคะ เพราะพอถึงสถานี Hinano แล้ว รถไฟขบวนนี้จะมีการหั่นตัดตอนออกค่ะ โบกี้ที่ 1-4 จะไปสนามบิน ส่วนโบกี้ที่ 5-8 จะไป Wakayama ค่ะ แต่ถ้าขึ้นผิดโบกี้ก็ไม่เป็นไรค่ะ พอถึง Hinano แล้วก็ค่อยเดินมาเปลี่ยนโบกี้ได้ค่ะ เค้าจอดนานอยู่นะ

ซึ่งตรงนี้เนี่ย จะมีประกาศให้ทราบล่วงหน้าค่ะ ถ้าไม่ทราบมาก่อน คอยฟังเสียงประกาศบนรถไฟก็ยังได้อยู่นะคะ แต่สำหรับเราสองคนแล้ว เล่นเอาผู้คนป่วนไปหมดทั้งโบกี้เลยค่ะ >.<" เนื่องจากเคโกะสะลึมสะลือนั่งกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ ส่วนอีกคนก็ไม่ได้สนใจฟัง พอเคโกะทักขึ้นมา คุณสามีก็เลยหันไปถามคนข้าง ๆ แต่คนข้าง ๆ ก็พูดอังกฤษไม่ได้ แล้วก็มีคนพยายามมาช่วยอธิบายด้วยภาษาอังกฤษสามคำ ต่อด้วยญี่ปุ่นยาวเป็นพรืดดดดด .. ณ วินาทีนั้น เครียดมากค่ะ 555 กลัวตกเครื่องอะ

ทีนี้ พอเราเข้าใจดีประมาณหนึ่งละ ก็มีสองสาวน่ารักเข้ามาอธิบายเป็นอังกฤษให้ว่าที่พวกเราเข้าใจนั้นถูกต้องแล้ว .. โล่งอกไปค่ะ 555 (ดันนั่งผิดโบกี้ด้วยเหอะ)



พอถึงสนามบินคันไซแล้วก็เหมือนกับขามาอ่ะค่ะ เดินไปที่ป้ายรถ Shuttle bus เพื่อไป Terminal 2 ของ Peach Air เค้า

เริ่มหายเครียดละ ถ่ายรูปได้ 555 ที่เห็นไกล ๆ นั่นคือตู้ Kiosk เช็คอินค่ะ เป็นจอกด ๆ จิ้ม ๆ เอาตั๋วไปสแกน Barcode แล้วก็จะพิมพ์ออกมาเป็น boarding pass ให้เลย ส่วนทางขวามือ (ตัวเคโกะอยู่หน้าร้านขายของฝากค่ะ) จะเป็นทางไปเกทค่ะ ซึ่งจะมีเครื่องชั่งนน.กระเป๋าทุกใบค่ะ



ด้านในจะเป็นเกทรวมค่ะ ผู้คนจะเยอะมาก ๆ พอไฟลท์ไหนเรียกบอร์ดดิ้งแล้วถึงค่อยเดินออกไปตามเกทค่ะ

หน้าตาน้องพีชแอร์ค่ะ ม่วงน่ารักเนอะ



ใช้เวลาบินแป๊บเดียว ราว ๆ ชั่วโมงนึงค่ะ ก็ถึงฟุกุโอกะเป็นที่เรียบร้อย



พอออกมาแล้ว เราก็มุ่งดิ่งมาหา Tourist Information เลยค่ะ สอบถามข้อข้องใจอะไรตรงนี้ตอบได้หมดเลย ^^ จากนั้นก็เดินไปรถไฟฟ้ากันค่ะ ซึ่งตัวสถานีจะอยู่ด้านนอกอาคารผู้โดยสารนะคะ

คนส่วนใหญ่จะลงที่สถานี Hakata ซึ่งเป็นสถานีใหญ่เลยล่ะ แต่พวกเราไปลงสถานี Gion ค่ะ อยู่ห่างออกไปอีกสถานีเดียว เพื่อที่จะเข้าพักโรงแรม เช็คอินและเก็บสัมภาระกันก่อน ค่อยออกมาตะลุยในช่วงค่ำกันค่ะ


ซึ่งเคโกะจะไปไหนบ้างในช่วงมืด ๆ แบบนี้ ก็ต้องติดตามตอนต่อไปกันด้วยนะคะ ^^ ขอบคุณทุกท่านที่แวะเยี่ยมชมค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ^^


ปล. จะมีกี่ตอนกันเนี้ยะ ? 555



Create Date : 27 พฤษภาคม 2558
Last Update : 18 มิถุนายน 2558 15:27:22 น. 5 comments
Counter : 1769 Pageviews.

 
เค้าจากินเนื้อออออออออออออ....น้ำลายไหลเบยยยยย

ตอนที่ไปโอซาก้า พักแถว Tennoji โอเคเลย เดินทางสะดวกมากก ของกินเยอะมากกกกก ที่ช้อปปิ้งเยอะมากกกกก


เก็บตังคืไปอีกดีก่าาาาาา คริคริ ^^


โดย: Tigger IP: 157.7.205.214 วันที่: 28 พฤษภาคม 2558 เวลา:12:53:30 น.  

 
ข้าวห่อสาหร่ายใส้มางุโร่ะน่าทานมากนะคะ อันอื่นก็เล่นเอาหิวเลยค่ะ
ปล.พีชแอร์บินระหว่างประเทศใหมคะ น่ารักเชียว


โดย: mariabamboo วันที่: 28 พฤษภาคม 2558 เวลา:17:57:31 น.  

 
โหวตท่องเที่ยวให้เป็ฯกำลังใจนะจ๊ะ รีวิวละเอียดดี

พี่เพิ่งกลับมาเลยเพิ่งได้มาเม้นท์นะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 2 มิถุนายน 2558 เวลา:17:28:36 น.  

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 3 มิถุนายน 2558 เวลา:3:56:11 น.  

 
พี่สาว .. อยากไปอีกรอบเหมือนกัน ฮ่าาาาา เรื่องที่พัก จริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจเอาตรงนั้นอะ เน้น Toyoko inn เพราะดูเหมือนถูกและตรงตาม requirement ดีอ่ะค่ะ แล้วเผอิญสาขานั้นก็ตอบโจทย์ได้หมด เลยเลือกมาพัก อยากได้ที่มีของกินเยอะๆๆๆๆเหมือนกันอ่าาา


โดย: keigolin วันที่: 4 มิถุนายน 2558 เวลา:0:34:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.