keigolin
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ blog ของ keigo นะคะ ^^

blog นี้เป็น blog เก่าค่ะ ได้ย้ายบ้านไป thisiskeigo.wordpress.com แล้ว ไปติดตามกันได้ที่นั่นค่ะ ^^
หรือติดตามเพจกันได้ที่ http://www.facebook.com/thisiskeigo
ขอบคุณที่ติดตามกันค่ะ ^^
New Comments
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
1 มีนาคม 2558
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add keigolin's blog to your web]
Links
 

 
Taiwan, here I've come! #7 (จบแล้วจ้า) :: 台湾,我来了!

 สวัสดีค่าาาาา .. และแล้วเรื่องราวทริปไต้หวันที่เคโกะได้ไปสัมผัส ไปเผชิญมานั้นก็เล่าเรื่องดำเนินมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงตอนสุดท้ายแล้ววววว.... //กระโดดตีลังการาวน์ดรอฟหนึ่งรอบครึ่ง

ก่อนที่จะดำเนินเรื่องในตอนสุดท้ายต่อให้จบนั้น ขอแนะนำถึงความเดิม ความยาวซะหน่อยดังต่อไปนี้ค่ะ


ความเดิมตอนที่แล้ว ::
โรงแรมใน Sun Moon Lake : JianCheng Bed & Breakfast
โฮสเทสใน Taipei : FlipFlop Hostel Taipei Main
ep1 : ข้อมูลการขอวีซ่า, TransAsia, การเดินทางไป Taichung, Sun Moon Lake
ep2 : Sun Moon Lake, SIM card ใส่โทรศัพท์, THSR (รถไฟความเร็วสูง)
ep3 : Sushi Take-out, Taipei 101, Shilin Night Market, Taipei West Bus Station, ซื้อตั๋วไป Yehliu

ep4 : Yehliu, Jiufen, การเดินทางจาก Yehliu --> Jiufen --> Taipei

ep5 : Kitty Cafe, Ximending, Gugong, Sun Yat Sen Memorial Hall, Chiang Kai-Shek Memorial Hall
ep6 : Chiang Kai-Shek Memorial Hall, Longshan Temple (Longshan Shi), ห้องอาหาร Xiang Shi Tian Tang, Damsui (ตั้นสุ่ย), การเดินทางไป The Lin Family Mansion and Garden (สวนบ้านตระกูลหลิน)


อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าสวนบ้านตระกูลหลินนี้ไม่เก็บค่าเข้าชมแต่ประการใด (แล้วรายได้เพื่อมาทำนุบำรุงสวน และจ้างพนักงานมาจากไหนน้อ .. ?) ก็มาเดินสวย ๆ เข้าไปด้านในกันเลยค่ะ

ถัดจากป้อมประชาสัมพันธ์ (ออกแนว ๆ ป้อมยาม ฮาาา...) ก็จะมีแผนที่บอกอยู่ว่าที่นี่มีบ้าน (เรือน) ชื่อว่าอะไรบ้าง



ทางเดินเข้าด้านในบ้านนั้นเป็นทางเดินประมาณนี้ ดูเรียบง่าย แต่บอกเลยว่าเมื่อประกอบเข้ากับเรือนบ้านทรงโบราณแล้วสวยมาก ๆ ค่ะ



เคโกะเดินมาเรื่อย ๆ ตามทาง แวะถ่ายรูปบ้างอะไรบ้าง จนกระทั่งมาถึงบริเวณด้านในสุดของบ้านค่ะ ก็เจอกับกลุ่มนักเรียนกำลังมาทัศนศึกษากันกลุ่มใหญ่ ก็เลยเดินเล่นอยู่บริเวณนั้นด้วยความแอบอยากรู้ว่าเค้ามาทัศนศึกษาอะไรที่นี่กันนะ ?

เพราะคนต่างชาติที่ศึกษาภาษาจีน ความเชื่อ ขนบธรรมเนียมประเพณีจีนมาน้อยมากกกกกอย่างเคโกะ พอมาอยู่ในที่ที่แบบนี้แล้วรู้สึกว่ามันก็เป็นแค่ "สวนในบ้าน" สวนหนึ่งเท่านั้นค่ะ




พอเด็กนักเรียนขยับโยกย้ายไปจุดอื่น ๆ แล้ว ก็มาปีนป่ายบริเวณนั้น ถ่ายรูปลงมายังศาลากลางสวนค่ะ ได้อารมณ์หนังจีนกำลังภายในนะ ว่ามั้ย ..



เดินเล่นอยู่ชั่วครู่นึงก็ได้ยินเสียงประกาศว่าเดี๋ยวเวลา...โมง (จำเวลาไม่ได้แล้วค่ะ) จะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นบริเวณที่ไหนซักที่ (ฮาาาา ..)

เคโกะฟังไม่ออกหรอกค่ะ เลยเดาว่าอะไรบางอย่างที่จะเกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นที่บริเวณศาลานี้แหละ ก็เลยเดินเล่นฆ่าเวลาไปมา รอดูว่าอะไรที่จะเกิดขึ้นบ้าง 555

ระหว่างนั้น เดินไปเข้าห้องน้ำขำ ๆ ก่อน และป้ายห้องน้ำที่บอกว่าห้องน้ำผู้หญิงหรือผู้ชายนั้นทำได้เก๋ไก๋มากค่ะ ชอบมากเลย

ดูแล้วเดาไม่ยากเนอะว่าป้ายไหนหมายถึงห้องน้ำผู้หญิงหรือผู้ชายค่ะ



จนกระทั่งเลยเวลาที่เค้าแจ้งไปพักนึงก็เริ่มมีคนทะยอยมาบริเวณศาลาดังกล่าว แล้วพนง.ที่ยืนรออยู่นานแล้วก็ได้เชื้อเชิญเข้าไปนั่งในศาลานั้นแหละค่ะ คนที่มาทั้งหมดก็จะเป็นผู้สูงอายุหน่อย หรือไม่ก็คนหนุ่มสาวที่เคโกะเดาเอาว่าน่าจะมาจดข้อมูลทำรายงาน (เห็นมีโน้ตด้วยค่ะ 555) และด้วยความที่เคโกะเป็นคนต่างชาติคนเดียวในที่นั้น ถึงแม้หน้าตาจะให้ก็เหอะ ก็ไม่กล้าเข้าไปร่วมวง ยืนอยู่ห่าง ๆ จนคุณพนง.ได้เรียกเข้าไปร่วมวง ก็เลยแบบ นั่งก็ได้ฟะ ไรงี้

แล้วพนง.คนนี้ (ต่อไปขอเรียกว่า ไกด์ ค่ะ) ก็จะแนะนำตัวเอง รวมถึงซาวด์เสียงว่าจะขอพูดเป็นภาษาไต้หวัน ทุกคนโอเคมั้ย และด้วยที่เคโกะยังไม่ตื่นเต็มที่ (ข้ออ้าง Smiley) + ยังไม่ชินสำเนียงไกด์เท่าไหร่ เลยไม่ได้ค้านอะไร ปล่อยไปตามน้ำ แล้วนั่นเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความอยากเขกหัวตัวเองค่ะ - -"

จากนั้นไกด์ก็เริ่มแนะนำความเป็นมาของสวนบ้านตระกูลหลินแห่งนี้ว่ามีความเป็นมาอย่างไร (เอ่อ .. คือ เคโกะก็พอจะฟังได้บ้างเล็กน้อยค่ะ สำเนียงไต้หวันฟังยากมาก ๆ แต่ก็พอได้นิด ๆ หน่อย ๆ -- อิทธิพลจากดูซีรี่ย์ไต้หวันเยอะค่ะ 555 //ไม่เกี่ยว Smiley)

หลังจากนั้นก็จะแนะนำถึงความเชื่อการตกแต่งบ้านโดยรอบบริเวณนั้นว่ามีอะไรแอบแฝงอยู่ตามจุดต่าง ๆ ซึ่งจะประมาณเป็นความเชื่อแบบใช้คำอักษรหรือคำมงคลน่ะค่ะ มาประดิษฐ์ซ่อนอยู่ตามที่ต่าง ๆ เชื่อว่า ให้คนในบ้านอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข มั่งมีร่ำรวย อะไรแนว ๆ นั้น

พออธิบายถึงสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ศาลาจบ ก็คิดว่าจะจบ แต่ไม่ใช่ค่ะ ไกด์จะพาเดินไปรอบ ๆ บ้านและอธิบายถึงสิ่งต่าง ๆ แต่ละจุดของบ้านเลย

หน้าตาไกด์แบบเบลอ ๆ ที่ถ่ายมาได้ ^^"



ไอ้เราก็อยากจะเรียนรู้ไปด้วย ก็พยายามตั้งใจฟังสุดฤทธิ์ (พยายามกว่าสมัยเรียนอีกอ่ะ บอกเลย) ก็เดิน ๆ ตามไกด์และคนอื่น ๆ ไปเรื่อย ๆ ค่ะ จะมีคนมาสมทบมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยล่ะค่ะ จนหลัง ๆ ไกด์เลยเปลี่ยนมาพูดภาษาจีนกลางแทน .. สบายเลย ^^


บริเวณสระน้ำด้านหลังบ้าน มันได้อารมณ์หนังจีนเก่า ๆ จริง ๆ นะ ^^



ไม่ใช่มีแต่ด้านหลัง บริเวณด้านหน้าของบ้านก็มีสระน้ำขนาดใหญ่ค่ะ พายเรือได้เลย (ไกด์บอกมา -- ไกด์เล่าว่า สมัยก่อนพวกผู้ชายก็จะพายเรือเล่นกัน แอบดูเหล่าคุณหนูทั้งหลายที่อยู่ในบ้าน ไม่ค่อยได้เห็นหน้าค่าตาไรงี้อ่ะค่ะ)



เคโกะเดินตามไกด์ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งจวนเจียนเวลานัดกับเพื่อนแล้วก็เลยต้องปลีกตัวออกกลางทาง ถ้าจำไม่ผิด น่าจะใช้เวลามากกว่า 2 ชม. ค่ะ


คำแนะนำสำหรับสวนบ้านตระกูลหลิน : ถ้าไม่รู้ภาษาจีนเลยแต่ชอบเดินสวนก็มาได้ค่ะ แต่ถ้าไม่รู้ภาษาจีนเลยและไม่ชอบเดินสวนในบ้าน (ให้คิดถึงสวนในบ้านแบบในหนังจีนยุคเก่า ๆ หรือกำลังภายในค่ะ) ก็ไม่ควรมาค่ะ และถ้าจะมาฟังไกด์อธิบายคำมงคลที่ซุกซ่อนอยู่ทั่วบ้านแล้วก็จะต้องรู้ภาษาจีนดีในระดับนึง รวมถึงต้องเผื่อเวลาไว้น่าจะประมาณครึ่งวันค่ะ

เอาจริง ๆ นะ เคโกะเรียนมา 5 ปีในโรงเรียนอ่ะ ยังฟังแล้วเข้าใจไม่หมดเลยค่ะ เข้าใจแค่ภาพกว้าง ๆ เท่านั้นค่ะ .. บอกไว้เผื่อพิจารณาว่าควรไปและฟังไกด์อธิบายมั้ยนะคะ


จบเรื่องสวนบ้านตระกูลหลินแล้ว ก็รีบจ้ำเดินกลับไปรถไฟฟ้าตามเดิม และขึ้นรถไฟฟ้ากลับไปยังโฮสเทลค่ะ ระหว่างนั้นยังไม่วายเดินดูของตามร้านในสถานี Taipei Main อีกอ่ะ โดนรองเท้าไป 1 คู่ (390NTD)

พอถึงโฮสเทลแล้วก็พบว่าเพื่อนมารออยู่แล้วค่ะ (จริง ๆ เค้าไลน์ตามมาตั้งแต่เดินดูของในสถานีละ - -" ... เธอปล่อยให้เพื่อนคอยตลอดนะเนี่ย Smiley) แล้วก็เอากระเป๋าเดินทางที่ทิ้งไว้ชั้นใต้ดิน แล้วก็เดินตามเพื่อนไปอย่างไวค่ะ

จริง ๆ แล้วเดินไปขึ้นรถบัสเพื่อไปสนามบินเนี่ย จะอยู่ตรงที่เดียวกับที่เคโกะขึ้นรถบัสไปเย่หลิวเลยนะคะ คือ Taipei West Bus Station ค่ะ สามารถเดินทะลุ ๆ ภายในสถานีได้ แต่เนื่องจากเพื่อนบู๊มาก เค้าคงอยากให้เคโกะได้รับลมรับแดดบ้างอะเนอะ เลยพาเดินบนถนนเลยค่ะ ^^"

รถบัสไปสนามบินไม่มีรอบ คนเยอะก็ออกค่ะ ค่ารถคนละ 125NTD ถ้ามีกระเป๋าก็บอกพนง.ขับรถ เค้าจะแปะสติ๊กเกอร์ไว้ที่กระเป๋าและให้หางตั๋วสติ๊กเกอร์ที่แปะกระเป๋ามาให้เราถือไว้แบบนี้ค่ะ (ตั๋วเล็ก ๆ ทางขวามือ คือตั๋วรถบัสที่ถูกฉีกไปแล้วค่ะ)



นั่งรถบัสไปราว ๆ เกือบ ๆ ชั่วโมงก็มาถึงสนามบินค่ะ บอกเพื่อนว่ายังไม่ได้กินข้าวเลย ก็เลยแวะฟู้ดคอร์ทกินข้าวกันก่อน

หน้าตาชุดอาหารที่เคโกะจิ้มมั่ว ๆ เลือกมาค่ะ เยอะ อร่อยและอิ่มเลยทีเดียว



อิ่มแล้วก็เดินไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์ค่ะ พนง.รับพาสปอร์ตไทยไปเช็คอินให้ ก็ยังไม่วายจะถามกิ๊วก๊าวเป็นภาษาจีนอีกตามเคย (- -")

บริเวณก่อนที่จะผ่านตม.ไปเนี่ย จะมีร้านค้าขายของที่ระลึกอยู่ค่อนข้างเยอะค่ะ ถ้ายังไม่ได้ซื้ออะไรมา หรืออยากมาหาซื้อเอาที่สนามบิน ก็เลือกดูได้เลยค่ะ เคโกะว่าด้านในมีของฝากจำพวกขนมน้อยกว่านะคะ >.<~ (ตรงนี้ผิดเองที่ไม่ยอมซื้อก่อน เลยต้องไปเสาะหาด้านในเลยอะ)

จากนั้นเราก็ร่ำลากัน แทบอยากโผกอดแล้วเรียกเธอว่า 姐姐~ (Jie Jie = พี่สาว) มากเลยค่ะ เพราะดูแลเทคแคร์ดีมาก ๆ จริง ๆ แอบซาบซึ้ง ฮาาา ..

อ้อ บริเวณหลังเคาน์เตอร์เช็คอินจะมี VAT refund อยู่ตามป้ายเลยนะคะ



ส่วนตัวเคโกะไม่มีอะไรจะรีฟันด์อ่ะ แทบไม่ได้ช้อปอะไรเลย - -"

เช็คอินเรียบร้อย ตั๋วก็จะหน้าตาประมาณนี้



ผ่านตม.ไปด้านในก็เจอเพดานโค้ง ๆ แบบนี้อีกละ



และอย่างที่บอกว่า ด้านในมีร้านขายขนมของฝากน้อยมาก มีอยู่สองสามร้านอะค่ะ เท่าที่เห็นนะ และร้านแรกที่เจอเลยเนี่ย คนเยอะล้านแปด แถมราคาค่อนข้างแพงด้วย ก็เลยลองเดินไปอีกหน่อย เดินผ่านไป Terminal 2 หรือ 3 นี่แหละ ไม่แน่ใจ ได้เลยค่ะ ซึ่งจะมีร้านเหมือนกัน และไม่มีคนเลย เลือกของตามสบายเลยค่ะ ก็มาล้มละลายเอาตรงนี้ไปเยอะพอควรเลยล่ะค่ะ T.T

ช้อปเสร็จก็มากดน้ำดื่มซะหน่อยกับตู้กดน้ำอัตโนมัติ กระป๋องนี้ 20NTD ค่ะ



แล้วก็มายืนรออยู่หน้าเกท มาไม่ผิดเกทแน่นอน



ขากลับ กลับไม่ดีเลย์ค่ะ ออกค่อนข้างตรงเวลานะ และผู้คนบนเครื่องค่อนข้างบางตาค่ะ เคโกะนั่งอยู่คนเดียวเลยอะ ผูกขาด 3 เบาะ 555



Flight information :
GE 867 TransAsia Airways
Departure date & time : 9 Dec 2014 16:30
Arrival date & time : 9 Dec 2014 19:20

พอเครื่องเทคออฟซักพัก ลูกเรือก็ทะยอยเอาอาหารมาเสิร์ฟค่ะ เป็นข้าวหน้าไก่เหมือนเดิมเป๊ะ แต่คราวนี้เค้กสตรอเบอรี่ไม่อร่อยอะ



แล้วก็มีเรื่องประทับใจลูกเรืออีกละ คือ ตอนเสิร์ฟน้ำหลังกล่องข้าวค่ะ โดยดีฟอลด์แล้วจะเป็นน้ำอุ่น แต่ทีนี้ เคโกะดื่มน้ำอุ่นมาตลอด 5 วันละ อยากได้น้ำเย็นบ้าง เลยขอน้ำเย็นไป ลูกเรือก็บอกว่า ไม่ได้เตรียมมาค่ะ ให้รอสักครู่ แล้วจะนำมาให้

ทีนี้หายไปนานเลย แล้วก็เอาแก้วน้ำมาให้ เป็นน้ำอุ่นนั่นแหละ แล้วเติมน้ำแข็งเอา ^^"  .. ก็โอเคนะ ไม่ซีเรียสค่ะ น้ำเย็นเป็นพอ ฮ่าาา ..

บินไปซักพัก ลูกเรือก็จะเดินเสิร์ฟน้ำอีก ทีนี้พอเคโกะจะเอาน้ำเพิ่มด้วย ลูกเรือก็จำได้อีกแน่ะว่าผู้โดยสารคนนี้ขอน้ำเย็นไปเมื่อก่อนหน้านี้ เลยรีบบอกเลยค่ะว่า ต้องการน้ำเย็นใช่มั้ยคะ เดี๋ยวจะเอามาให้นะ แล้วก็ไปเอามาให้ทีหลังหลังจากเสิร์ฟน้ำครบแล้วค่ะ

เอร้ยยยย .. แบบว่าดูเป็นเรื่องเล็กน้อยนะ แต่เคโกะประทับใจอ้ะ ^^"


จากนั้นก็ถึงสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพค่ะ เดินผ่านออโต้เกทแบบสวย ๆ นำผู้โดยสารที่มาลำเดียวกันทั้งหมดไปยืนรอกระเป๋าต่อไป ... นาน ๆ -*-
(ในรูปนี้คือถ่ายมาตอนที่มายืนรอกระเป๋าพักใหญ่แล้วค่ะ -- ตอนที่เดินมาถึงสายพานนี้ยังเป็น Doha - First bag อยู่เลยค่ะ -*- )




เอาล่ะ ก็ถือว่าเป็นการจบทริปไต้หวัน ฉบับเคโกะที่พยายามถ่ายทอดให้ละเอียดทุกฝีก้าวแล้วนะคะ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะพอเป็นไกด์ให้คนที่กำลังจะไปหรือมีแผนจะไปไต้หวันบ้างไม่มากก็น้อยค่ะ ^^

ขอสรุปโดยรวมอีกทีเนอะ : โดยรวม ๆ แล้วเคโกะประทับใจมากถึงมากที่สุดนะ ผู้คนอัธยาศัยดี อาหารอร่อย การเดินทางโอเค ไม่ผิดหวังจริง ๆ ค่ะที่ฝันว่าอยากจะมาซักครั้งให้ได้มาตลอด 6 ปีครึ่ง ...

นี่เป็น 6 ปีครึ่งที่รอคอยค่ะ ^^ นับจากซีรี่ย์ไต้หวันเรื่อง Wish to see you again ที่ Vic F4 (ไจ่ไจ๋) แสดงนำ ในเรื่องเนี่ย ถ่ายทำตามสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ทั้งนั้นเลย ดูเรื่องนั้นแล้วเป็นแรงบันดาลใจอย่างมากที่ทำให้เกิดทริปนี้ขึ้นค่ะ (ไม่ใช่ตามรอยละครนะคะ เอาตามที่เวลาเอื้ออำนวย และอยากไปที่สุดค่ะ)

สุดท้าย ถ้าหากถามว่า พูดภาษาจีนไม่ได้ ไม่รู้ภาษาจีน จะไปเที่ยวไต้หวันได้มั้ย .. ตอบเลยว่าได้ แต่ต้องเตรียมข้อมูลการเดินทางไปให้มากหน่อยค่ะ ซึ่งถ้าเรารู้ภาษาจีนไว้ก็จะได้เปรียบกว่า ก็มีหลายต่อหลายครั้งแล้วเนอะที่เคโกะเคยพูดถึงล่ะค่ะ .. สิ่งที่สำคัญมาก ๆ คือ การเตรียมชื่อสถานที่ต่าง ๆ ไว้ในชื่อภาษาจีนด้วยค่ะ เผื่อหลงทางเนอะ จะได้จิ้ม ๆ ถามเอาค่ะ เพราะคนต่างชาติอย่างเรา ๆ ออกเสียงภาษาจีนไม่ค่อยจะถูกนักหรอกค่ะ ฮาาาา ..

อีกอย่างนึง ถ้าสมมติว่าเป็นหนุ่มหน้าตี๋-สาวหน้าหมวยแล้วล่ะก็ เวลาไปสื่อสารกับคนจีน ขอให้ท่องคำนี้ให้ขึ้นใจค่ะ .. คำว่า "อิง-เหวิน" (英文) แปลว่า "ภาษาอังกฤษ" ค่ะ เค้าจะได้เปลี่ยนภาษาเป็นอังกฤษให้เนอะ ^^" (เคโกะก็ใช้มุกนี้บ่อย ๆ ค่ะ อย่างตอนไปฮ่องกง-มาเก๊าก็ใช้ตลอดเลย ฮาาา ..)


ก็หวังว่าจะสนุกสนานร่วมไปกับการเดินทางครั้งนี้ของเคโกะนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามและแวะเยี่ยมชมค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ^^



Create Date : 01 มีนาคม 2558
Last Update : 1 มีนาคม 2558 1:13:09 น. 4 comments
Counter : 2171 Pageviews.

 
เกาะปีกเที่ยวด้วย แล้วเกาะปีกกลับด้วยค่า


โดย: mariabamboo วันที่: 1 มีนาคม 2558 เวลา:18:04:50 น.  

 
ดูเป็นทริปที่แฮปปี้มากๆ .... เย้ๆๆๆ สมหวังแล้นนะ น้องสาวช้านนนน ^^


โดย: Tigger IP: 125.26.2.14 วันที่: 1 มีนาคม 2558 เวลา:19:45:17 น.  

 
มาอ่านตอนจบ

เรื่องเล็กน้อยนี่แหละจ้ะที่แสดงถึงความเอาใจใส่ในการบริการนะ จริงๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 2 มีนาคม 2558 เวลา:10:35:04 น.  

 
พี่สาววว นั่นจิค้าาา เย้เย่


โดย: keigolin วันที่: 4 มีนาคม 2558 เวลา:23:32:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.