keigolin
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ blog ของ keigo นะคะ ^^

blog นี้เป็น blog เก่าค่ะ ได้ย้ายบ้านไป thisiskeigo.wordpress.com แล้ว ไปติดตามกันได้ที่นั่นค่ะ ^^
หรือติดตามเพจกันได้ที่ http://www.facebook.com/thisiskeigo
ขอบคุณที่ติดตามกันค่ะ ^^
New Comments
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
11 กุมภาพันธ์ 2558
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add keigolin's blog to your web]
Links
 

 
Taiwan, here I've come! #4 :: 台湾,我来了!

สวัสดีค่ะ มาเดินทางไปด้วยกันกันต่อเลยนะคะ ^^

ความเดิมตอนที่แล้ว ::
โรงแรมใน Sun Moon Lake : JianCheng Bed & Breakfast
โฮสเทสใน Taipei : FlipFlop Hostel Taipei Main
ep1 : ข้อมูลการขอวีซ่า, TransAsia, การเดินทางไป Taichung, Sun Moon Lake
ep2 : Sun Moon Lake, SIM card ใส่โทรศัพท์, THSR (รถไฟความเร็วสูง)
ep3 : Sushi Take-out, Taipei 101, Shilin Night Market, Taipei West Bus Station, ซื้อตั๋วไป Yehliu

หลังจากที่ซื้อตั๋วเข้า Yehliu แล้วก็รีบเดินพุ่งเข้าไปข้างในเลยค่ะ ก่อนที่ฝูงมหาชนจะมาถล่มมากไปกว่านี้ เพราะเท่าที่ดูจากด้านหน้าแล้วมีทัวร์หลายกรุ๊ปมาก ๆ ที่รอเข้าชมสถานที่เช่นกัน

บริเวณด้านหน้า ๆ ก็จะเป็นทางเดินชิลล์ๆ เดินชมนกชมไม้ไปเรื่อย ๆ แดดร้อน แต่กลับไม่รู้สึกร้อนเลยค่ะ แถมต้นไม้ยังให้ความรู้สึกที่ร่มรื่นอีกต่างหาก

เดินไปตามทางเรื่อย ๆ (ระหว่างนั้นก็จะมีหินให้ถ่ายรูปเล่นประปราย แต่ยังไม่ใช่ของจริงค่ะ ของจริงที่เค้าถ่ายรูปกันนั่น อยู่ด้านในสุดเลยยย) พอเริ่มเข้าเขตบริเวณสวนหินแล้วก็จะเจอกับฝูงมหาชนล้นหลามมุ่งหน้าไปในทิศเดียวกันค่ะ



แต่ก่อนจะเดินไปบริเวณที่คนมุ่งหน้าไปนั้นก็จะมีสวนหินให้เดินชมเล่นเรียกน้ำย่อยกันก่อน



ส่วนนี่เป็นหินรูปเห็ด เหมือนมั้ยล่ะเนี่ย ^^"



เดิน ๆ ไหล ๆ ไปตามฝูงคนไปเรื่อย ๆ ก็เจอกับหินก้อนนี้เข้า ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าเรียกว่าหินรูปอะไร แต่ขอตั้งให้เองว่า "หินรูปหัวใจ" ค่ะ Smiley

เหมือนมั้ยเอ่ย ...



แล้วก็เดินมุ่งหน้าต่อไป จะผ่านอนุสาวรีย์ของเด็กหนุ่มผู้กล้าหาญที่ช่วยเหลือเด็กน้อยจนตัวเองตกน้ำเสียชีวิตค่ะ



ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บริเวณรอบ ๆ นี้ก็จะมีเส้นแดงเส้นหนา ๆ เห็นได้ชัดแต่ไกลทาไว้ แสดงให้เห็นถึงบริเวณที่ห้ามล่วงล้ำเข้าไป รวมถึงมีห่วงยางชูชีพแบบนี้ติดตั้งไว้ตามจุดต่าง ๆ ด้วย



เอาล่ะค่ะ แล้วเคโกะก็เดินมาจนถึงไฮไลท์ของที่นี่จนได้ .. นั่นก็คือ "หินรูปเศียรราชินี" นั่นเอง คนต่อคิวยาวมากกกกกก เคโกะก็ต่อกะเค้าด้วยนะ แต่พอใกล้ ๆ คิว ก็เดินเลี่ยงออกมาถ่ายรูปหิน แล้วก็ปลีกตัวไปค่ะ



ในการเข้าชมอุทยานหินที่นี่ นอกจากจะห้ามล่วงล้ำเส้นแดงไปแล้ว ก็ยังห้ามปีนป่ายหินต่าง ๆ ด้วยค่ะ รวมถึงห้ามจับ ลูบ สัมผัสด้วย เพราะเขาว่าจะทำให้หินเหล่านี้สึกกร่อน และเสียหายได้ ซึ่งระหว่างที่เดินชมหินอยู่นั้นก็ไม่วายจะมีนักท่องเที่ยวหลายคนที่อยากได้รูปสุดชิค ปีนป่ายถ่ายรูปกัน ก็จะโดนเจ้าหน้าที่เป่านกหวีดดังลั่น พร้อมทั้งตะโกนส่งเสียงห้ามแต่ไกลเลยค่ะ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่อยู่หลายท่านเลยค่ะ


สรุปกับที่นี่สักหน่อยเนอะ .. ก็เอาเป็นว่าถ้าไม่เคยมา ก็มาดูสักครั้งก็ไม่เลวค่ะ ก็จะได้เห็นอะไรที่แปลก ๆ ใหม่ ๆ ดีเนอะ

Official Website : //www.ylgeopark.org.tw/ENG/info/YlIntroduction_en.aspx


จากนั้นก็เดินออกจาก Yehliu ค่ะ เคโกะจะนั่งรถบัสต่อไปยัง Jiufen กัน ซึ่งเป็นถนนคนเดิน (มั้ย ?) อืมมมม ... เป็นหมู่บ้านดีกว่าละกัน เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีของกินเพียบ และวิวสวยมาก >.<

การเดินทาง : จาก Yehliu ให้ข้ามถนน แล้วไปรอตรงหน้ามินิมาร์ทเล็ก ๆ ไม่มีชื่อร้าน (ดูภายนอกแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคือมินิมาร์ท - -") แล้วนั่งรถบัสสาย 790 หรือ 862 ที่ป้ายบอกว่าไป Keelung ค่ะ (基隆 -- เสียงจีนออกเสียงว่า จี-หลง นะคะ) แล้วต่อรถสาย 788 ไป Jiufen

ตอนที่เคโกะไปรอรถบัสนั้น มีคนจำนวนมากที่รอรถบัสอยู่แล้ว ซึ่งสังเกตได้ว่า ทุกคนไปรถบัสสายเดียวกันหมดเลย - -" ที่รู้ก็เพราะยืนสังเกตดูอ่ะค่ะ คนที่มาใหม่ก็จะเดินไปดูป้ายรถเมล์ แล้วพูดถึง Keelung หรือ Jiufen ทุกคน - -"

เอาล่ะ ทีนี้รถบัสมา ทั้งหมดก็กรูกันขึ้นรถบัสคันเดียวกันหมด เคโกะยืนตัวลีบอยู่หน้าประตู เพราะขึ้นไม่ทันเค้า เลยต้องเกาะอยู่บริเวณประตูรถ T.T

ทีนี้ รถบัสคันนี้ไม่ได้ไป Jiufen แต่ไป Keelung ซึ่งจะต้องไปต่อรถที่นี่ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าถึงจุดที่ต้องลงรถแล้ว ...

วิธีสังเกตค่ะ .. รถบัสจะไปตามทางเค้าเรื่อย ๆๆๆๆ (ไม่ได้จับเวลาอีกว่ากี่นาที) จนกระทั่งข้ามสะพานสีฟ้าที่เป็นสะพานข้ามคลอง ตรงนี้ไม่ต้องตื่นเต้นค่ะ ยังไม่ใช่ (ลายแทงที่เคโกะได้มา เค้าบอกแค่ว่าสะพานสีฟ้า .. สังเกตว่าคนอื่นก็คงได้ข้อมูลคล้าย ๆ กัน เพราะทั้งรถที่จะไป Jiufen ต่างก็ตื่นตัวกันหมดเมื่อผ่านสะพานสีฟ้านี้) รถบัสจะขับต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงตลาด Keelung ซึ่งมีคนลงเยอะมาก ๆ ก็ไม่ต้องตกใจค่ะ ยังไม่ถึง >.<"

ทีนี้ ป้ายถัดไปจากตลาด รถบัสจะเลี้ยวซ้าย มองออกไปนอกรถจะเห็นป้ายสถานีรถไฟ Keelung ตรงนี้เลยค่ะ ให้ลงรถตรงนี้ได้เลย

.. มาละเอียดขนาดนี้ หวังว่าใครที่อ่าน blog เคโกะ คงจะไปไม่ลงผิดป้ายนะคะ ^^

อย่างที่บอกว่า ป้ายตลาด Keelung นั้นมีคนลงเยอะมาก ๆ เลยทำให้นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งไขว้เขว รีบกรูกันลงจากรถกันเยอะเลย (บอกแล้วว่าแอบฟัง ถึงรู้ว่าจะไป Jiufen เหมือนกัน) ทีนี้ เคโกะก็ลังเลอยู่ สุดท้ายก็เลยพุ่งออกไปเป็นคนสุดท้าย แทรกคนที่กำลังขึ้นพอดี พร้อมกับยื่นมือออกไปจะแตะบัตร Easy card (รถสายนี้แตะขึ้นและลงค่ะ)

เคโกะ : ขอโทษนะค้าาาา..
พนง.ขับรถ : ไป Jiufen ใช่มั้ย ยังไม่ถึง ต้องป้ายหน้านะ
เคโกะ : (อึ้งไปสองวินาที) อ้อ เหรอคะ ขอบคุณค่ะ

พอรู้ว่าลงรถเมล์ไม่ผิดป้าย ก็แอบดีใจ ปลื้มกับความรู้ทางภาษาที่มีอยู่อย่างน้อยนิด สามารถเอาตัวรอดได้อีกครั้ง .. Smiley

จุดที่ลงรถเลยค่ะ หันมาก็จะเจอแบบนี้เลย



ใกล้ ๆ กันนี้จะมีสะพานลอยคนข้ามสีฟ้าอยู่ ก็ข้ามสะพานลอยเลยค่ะ แล้วไปรอตรงป้ายรถเมล์หน้า Family Mart ที่มีคนรอเยอะ ๆ แล้วนั่งรถสาย 788 ต่อค่ะ

สะพานสีฟ้าแบบนี้เลยนะคะ



ตรงป้ายรถเมล์ก็จะมีป้ายบอกว่า สายไหนไปไหนบ้าง ถ้าอ่านภาษาจีนออกก็จะดีค่ะ .. เพราะภาษาอังกฤษไม่มี Jiufen อ่ะ - -"



ขึ้นรถแล้ว (ไม่ทราบราคาค่ารถนะคะ เพราะใช้ Easy Card แตะเอา) ก็นั่งรถไปเรื่อย ๆ เลยค่ะ พอใกล้ ๆ ถึงจุดที่จะลงจากรถ คนก็จะเริ่มทะยอย ๆ ลงกันบ้างแล้ว ก็ไม่ต้องตกใจไปนะคะ พอถึงแล้ว พนง.ขับรถจะบอกเองค่ะว่าถึงจิ่วเฟิ่น (Jiufen / 九份) แล้ว ลงรถมาก็จะเจอภาพประมาณนี้


(ในรูป ถ่ายติดผู้ชายคนนึงมาค่ะ เลยขอเซนเซอร์หน้าหน่อยเนอะ)

ก็เดินเข้าไปในตรอก 7-11 นั่นล่ะค่ะ แล้วก็ไหลไปตามผู้คนเลยนะคะ เพราะคนเยอะมาก ๆๆๆๆ เลยค่ะ ..

ที่นี่ก็จะเด่นเรื่องการประดับตกแต่งด้วยโคมสีแดง ขั้นบันไดสูงชัน ของกินที่หลากหลาย และจิบชาเคล้าวิวงาม ๆ อ่ะนะคะ



บันไดค่อนข้างสูงชันอยู่เหมือนกันค่ะ



แล้วก็ถึงเวลาหม่ำ ๆ ของเคโกะล่ะนะ .. อันดับแรก สตาร์ทที่โรตีไอศกรีมก่อนเลย อ่านมาจากแฟนเพจนึง เค้าบอกว่า อร่อยม้ากกกกกกกกก .. เจอแล้วก็จัดไปอย่าให้เสียค่ะ .. อ้อ สังเกตว่ามีภาษาไทยบอกชื่อเมนูด้วยนะคะ .. ราคา 40NTD ค่ะ



แล้วก็ชิมบัวลอยแบบเย็นดูค่ะ ถ้วยนี้ก็ 40NTD เช่นกัน แต่ถ้วยนี้ รสชาติไม่ผ่านอะ เคโกะไม่ชอบค่ะ



แล้วก็มีขนมไรอีกซักสิ่งที่ลืมถ่ายรูป 555 .. น่าจะเป็นกุนเชียงไต้หวันอ่ะค่ะ ราคา 40NTD เหมือนกัน


แล้วก็มาดื่มด่ำกับวิวสวย ๆ บน Jiufen แห่งนี้กันค่ะ วิวสวยมากกกก น่าเสียดายที่ไม่ได้ค้างคืนที่นี่ แล้วก็ไม่ได้อยู่ให้เย็นกว่านี้ด้วย เพราะคิดว่าเวลาเปิดโคมไฟแล้วน่าจะสวยค่ะ



เดินเล่น ชิมขนม ชมวิวอิ่มแล้วก็ได้เวลากลับไทเปกันแล้วค่ะ

สำหรับที่ Jiufen : เคโกะว่าโอเคค่ะ ถ้ามีผู้สูงอายุ เข่าข้อไม่ค่อยจะดี ก็ไม่ค่อยอยากแนะนำให้ไป แต่ถ้าจะไปก็แนะนำให้หาร้านชาวิวสวย ๆ นั่งสักร้านไรงี้อ่ะค่ะ ส่วนของกินเล่น เคโกะว่า โรตีไอศรีมถั่วนั่น โอเคเลยนะคะ อร่อยค่ะ ^^

วิธีเดินทางกลับไทเป : เดินออกมาทางเดิม ที่หน้า 7-11 ก็ข้ามถนนค่ะ เดินเลยไปอีกนิดนึงก็จะเจอป้ายรถเมล์อยู่ตรงนั้น นั่งรถบัสสาย 1062 ได้เลยค่ะ (แตะบัตรตอนขึ้นรถ -- เคโกะใช้ Easy Card เหมือนเคยนะคะ)

พอขึ้นรถได้ ตะวันก็ลับขอบฟ้าพอดี เลยได้เห็นวิวของที่นี่จากในรถนิดหน่อยค่ะ สวยอย่างที่คิดไว้จริง ๆ ^^

นั่งรถไปเพลิน ๆ จำได้ว่าดูคลิป The Voice ย้อนหลังในยูทูปได้จบพอดี รถบัสก็เข้าเขตไทเปมาแล้วค่ะ เคโกะลงรถตรงจุดที่ใกล้ ๆ กับตึก SOGO สีเขียวเลยค่ะ



แล้วเคโกะก็ลองเดินเข้าไปในห้าง SOGO ค่ะ เผื่อจะได้รองเท้า Onitsuka Tiger มาซักคู่สองคู่ 555 แล้วก็ไปเตร่ดูคิวร้าน Ding Tai Fung ด้วยว่าคิวยาวมั้ย .. ซึ่งก็ยาวเหมือนเคย แล้วเคโกะก็ไม่รออีกเหมือนเคย แถมรองเท้าก็ไม่ได้ 555

แผนเปลี่ยนกระทันหันค่ะ ส่วนจะไปที่ไหนต่อนั้น ขอยกยอดตัดไปเป็น blog หน้านะคะ ^^"

ขอบคุณทุกท่านที่แวะเยี่ยมชม blog ค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ^^



Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2558 23:51:56 น. 0 comments
Counter : 1503 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.