keigolin
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ blog ของ keigo นะคะ ^^

blog นี้เป็น blog เก่าค่ะ ได้ย้ายบ้านไป thisiskeigo.wordpress.com แล้ว ไปติดตามกันได้ที่นั่นค่ะ ^^
หรือติดตามเพจกันได้ที่ http://www.facebook.com/thisiskeigo
ขอบคุณที่ติดตามกันค่ะ ^^
New Comments
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
28 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add keigolin's blog to your web]
Links
 

 

In love, In Japan #4

สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้ววุ่นวายเกือบทั้งสัปดาห์เชียวค่ะ เข้าไซต์ลูกค้าไกล ๆ ตลอดเลย กลับมาถึงบ้านก็เพลีย ไม่อยากทำอะไรอีกแล้ว ก็เลยดอง ๆ บล็อกไว้อีกตามเคย - -"

ต่อจากตอนที่แล้ว (คลิก ที่นี่ ค่ะ)

พอเราลงจากกระเช้ามาแล้วก็เดินกลับมายังที่สถานีรถไฟเพื่อจะนั่งรถไฟไปอีกที่หนึ่งนั้นก็แวะร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตระหว่างทางซะหน่อย ซื้อเสบียงไปทานในอีกหลายวันที่ยังเหลือค่ะ (เสบียงที่ตุนมาจากไทยเริ่มหมดละ - -")

ชั้นวางผลไม้ละลานตามากค่ะ เลือกไม่ถูกเลยว่าจะทานชนิดไหนดี น่าทานไปหมดเลย


จากนั้นก็นั่งรถไฟไปอีกสองสถานี คือ Shimoyoshida ของรถไฟสาย Fujikyu เช่นเดิมนะคะ

ระหว่างทางก็มีเด็กนักเรียนขึ้นรถไฟมาทัศนศึกษากันค่ะ มีกลุ่มคนไทยสามคนที่ขึ้นโบกี้เดียวกันแอบถ่ายรูปเด็ก ๆ ใหญ่เลย แล้วเด็ก ๆ ก็รู้ตัวเลยหันมาเล่นกล้องกันสนุกสนานมาก

พอเคโกะหยิบกล้องขึ้นมาบ้าง เด็ก ๆ ก็มาเล่นด้วยค่ะ น่ารักมาก ๆ เลย


พอออกจากสถานีแล้ว เคโกะก็เดาว่าคนไทยทั้งสามคนนั้นน่าจะไปที่เดียวกับเราค่ะ แต่ว่าเคโกะยังลังเลกับขากลับอยู่ว่ารถไฟเที่ยวที่เราจะกลับนั้นมีเที่ยวที่โมงบ้าง จะได้ไม่ต้องรอนานเหมือนขามา (- -") เลยทำให้พลัดกับคนไทยกลุ่มนั้นไปค่ะ

สุดท้ายก็เลยตัดสินใจวิ่งไปถามเซนเซของเด็ก ๆ ที่มาทัศนศึกษาว่าจะไปเจดีย์ ไปยังไง เซนเซก็น่ารักค่ะ พูดอังกฤษไม่ได้ แต่ก็ทำมือบอกทางให้ว่าเดินไปแบบนี้นะ ๆ

ทางเดินไป Chureito Pagoda นั้นค่อนข้างไกลจากสถานีซักหน่อยค่ะ อันดับแรกให้เดินออกจากสถานีก่อน (ใคร ๆ ก็รู้เฟ่ย ) เดินไปหาสะพานรถวิ่งที่อยู่บนหัวเราน่ะค่ะ ลอดใต้สะพานไป ก็จะเจอลำน้ำเล็ก ๆ อยู่ข้างทาง จะมีทางแยกเลี้ยวขวา ก็เลี้ยวไปได้เลย ก็จะเจอทางเข้าเจดีย์ที่ว่าแล้วล่ะค่ะ

หน้าตาทางเข้าก็จะประมาณนี้


เดินไปตามทาง เป็นทางเดินขึ้นบันไดสบาย ๆ ค่ะ เดินไปเรื่อย ๆ ประมาณ 5 ท้อใจก็ถึงค่ะ

ระหว่างทาง แวะพักที่ศาลานึง มีคู่สามีภรรยา (มั้ง) ชาวญี่ปุ่นนั่งชมฟุจิซังอยู่ก่อนแล้วหันมาทักทายค่ะ พอรู้ว่าเราเป็นคนไทยก็เลยถามเรื่องน้ำท่วมด้วย (ตอนที่ไปนั่นแถวปทุมฯ ยังท่วมอยู่เลยอ่ะนะคะ - -") แล้วพอรู้ว่าเราจะไปเกียวโตต่อก็ตกใจกันใหญ่ เพราะมันไกลมากกกก

แต่แล้วคุณผู้หญิงก็หันไปโต้ตอบภาษาญี่ปุ่นกับคุณผู้ชายว่าไปต่อรถตรงนั้นตรงนี้ จะไม่ต้องอ้อมกลับเข้าโตเกียวค่ะ เลยงง ๆ ไปนิดนึงว่าคนญี่ปุ่นเองก็ใช่ว่าจะรู้เส้นทางดีทุกคนเหรอเนี่ย ... แต่ก็นะ คนไทยเองยังรู้เส้นทางในไทยไม่หมดทุกคนเลยค่ะ 555 (เดี๋ยวจะบอกต่อไปว่าไปกันยังไง)

สุดท้ายเราก็มาถึงเจดีย์ที่ว่าจนได้ ... แอบเม้าท์ ... เดินตามมาทีหลัง แต่มาถึงเจดีย์ก่อนกลุ่มคนไทยสามคนที่เจอบนรถไฟค่ะ


แล้วเคโกะก็เดินวนหาวิวที่เค้าถ่ายกันจะเป็นรูปเจดีย์กับฟุจิซังน่ะค่ะ หาอยู่นานมากกกกก ... จนกระทั่งตามพี่ผู้ชายคนไทยหนึ่งในสามคนนั้นแหละไปยังจุดที่เค้ายืนถ่ายอยู่นานแล้ว

ใช้ความพยายามอย่างมาก แต่ก็ได้มาแค่นี้


ถ่ายรูปจนพอใจ ... คือ ก็ยังไม่ถูกใจหรอกค่ะ แต่พยายามได้แค่นั้น ก็เลยถอยทัพกลับดีกว่า เดี๋ยวพลาดรถไฟไปแล้วจะรอนาน - -"

ขากลับไปสถานี ก็จ๊ะเอ๋กับคนไทยสามคนนั้นอีก ซึ่งมาตามหาร้านอุด้งเหมือนกันอีกแล้วค่ะ ... คือในแถบนี้เนี่ย อุด้งดังมาก ๆ มาแล้วก็น่าจะลองชิมล่ะค่ะ (คนญี่ปุ่นที่เจอตอนเดินขึ้นเจดีย์ก็บอกเหมือนกันว่ามีชื่อเสียงและอร่อยมากนะ)

เลยร่วมปฏิบัติการตามล่าอุด้งอร่อย ๆ (?) ทานกัน ... จนกระทั่งเจอในที่สุด ซึ่งจริง ๆ แล้วอยู่ใกล้มาก แต่ว่าเราเดินผ่านหลังร้านเลยไม่เห็นหน้าร้านว่าเป็นอุด้งค่ะ - -"

แล้วก็กลับเข้า Kawaguchi-ko ซะทีอ่ะนะ มาถึงตอนบ่าย ๆ อุณหภูมิก็สูงขึ้นเล็กน้อย ... แต่ก็ยังหนาววววอยู่ค่ะ


สิ่งแรกที่เราทำเมื่อกลับมาถึงสถานี Kawaguchi-ko แล้วก็คือจองรถบัสไป Gotemba ค่ะ ค่าเดินทางอยู่ที่ 1470Y ต่อคน (ค่าเงิน ณ วันที่แลกไปอยู่ที่ 40.50 บาทต่อ 100 Y) พนักงานก็จะบอกป้ายรถบัสให้เราค่ะว่าให้ไปรอที่ป้ายรถเบอร์อะไร

แล้วเราค่อยกลับไปเอากระเป๋าสัมภาระที่ฝากคุณลุงที่โรงแรมไว้ น่ารักมากจริง ๆ ค่ะ นึกแล้วยังประทับใจไม่หายเลย :)

พอรถบัสมา เคโกะก็ double check ด้วยการวิ่งขึ้นรถบัสไปถามคนขับรถว่าไป Gotemba ใช่หรือเปล่า ถ้าใช่ก็ค่อยขนของขึ้นรถบัสค่ะ


ด้านหน้าคนขับจะมีหน้าจอบอกป้ายรถบัสและราคาค่ะ สบาย ๆ ไม่ต้องกังวลเลย

ตอนแรกเคโกะก็นั่งกังวลแทบแย่ กลัวจะลงผิด แต่ที่ไหนได้ Gotemba ที่เราต้องการไปนั้นอยู่สุดสายปลายทางพอดี ^^"

ลงรถบัสมาแล้วก็จะเป็นสถานีรถไฟ Gotemba เลยนะคะ จากนั้นก็หยิบบัตร JR Pass ขึ้นมาเตรียมไว้ค่ะ นั่งรถไฟสาย Gotemba ไปลงที่สถานี Numazu แล้วต่อรถไฟ JR Tokaido line ไปยังสถานี Mishima อันเป็นจุดเริ่มต้นของรถไฟชินกังเซ็นแล้วล่ะค่ะ

พวกเราก็ reserved Shinkansen ไว้เลยค่ะ สำหรับรถไฟไปเกียวโตในขบวนถัดไปที่กำลังจะมาถึง

ในที่สุด พวกเราก็มาถึงเกียวโตจนได้ ก่อนที่จะหาทางออกจากสถานี ก็หันไปเก็บภาพ Shinkansen ก่อน


สถานีเกียวโตเป็นสถานที่ใหญ่มาก ๆ จริง ๆ ค่ะ เดินกันแทบหลงเลยทีเดียวว่าจะออกทางไหนละฟะ -"-

สุดท้ายก็หาทางออกเจอจนได้ ออกมาปุ๊บก็เจอเกียวโตทาวเวอร์อันเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ล่ะค่ะ


กำลังงง ๆ กับเส้นทางอยู่ว่าจะไปทางไหนดี ก็เห็นระบำน้ำพุประกอบเพลงที่ข้าง ๆ สถานีเข้าซะก่อน เลยหยุดแวะชมอยู่อีกครู่ใหญ่ค่ะ


จากนั้นก็เดินไปโรงแรมกัน อาศัยถามทางเค้าไปตลอดทางล่ะค่ะ แผนที่ที่ได้มาจากโรงแรมนั้นก็โอเคอยู่ ดูเหมือนใกล้ แต่เอาเข้าจริง ณ ตอนนั้น รู้สึกว่าไกลมากค่ะ

เข้าที่พักมาได้ก็พักผ่อนกันเต็มที่ ก่อนที่จะไปตะลุยเกียวโตในวันรุ่งขึ้น (รีวิวที่พักไปแล้ว ที่บล็อกนี้ นะคะ)

วันรุ่งขึ้นในตอนที่กำลังจะออกจากโรงแรมนั้นเอง เราก็แวะซื้อตั๋วรถเมล์ 1 day pass ราคา 500Y กับโรงแรมซะเลย แล้วคุณป้าก็ทักพวกเราให้เอาร่มไปด้วย เพราะฝนตกอยู่

แล้วก็เดินกลับไปที่สถานีเกียวโต (มีบัตรไว้เพื่อ ???? ) เพื่อนั่งรถเมล์ไปวัด Kinkakuji ค่ะ

ระหว่างทางเดินเข้าวัด มีเด็กนักเรียนมาทัศนศึกษาหลายโรงเรียนเลย (สังเกตจากยูนิฟอร์มเอานะคะ)


แล้วก็จ่ายค่าเข้าชมวัดไป ได้กระดาษมาสองแผ่นแบบนี้ (ดูคลาสสิคมากอ่ะ )


วัด Kinkakuji หรือวัดทองที่คนไทยคุ้นหูกันดีนะคะ สวยมากกกกก .... ถ้าไม่มีฝนและฟ้าเปิดซักหน่อยล่ะก็นะ


มุมสูงกับใบไม้แดงเล็ก ๆ บ้างนิ


นอกจากชมวัดแล้วก็มีความรู้สึกเหมือนเดินชมสวนไปในตัวด้วยล่ะค่ะ จัดสวนไว้น่ามาถ่ายรูปเล่นเหมือนกัน ... ถ้าฝนไม่ตก

ตลอดเวลาที่อยู่ในวัด ฝนก็ตกปรอย ๆ อยู่ตลอดเวลาค่ะ แอบมีใบไม้แดงมาเกาะร่มด้วยใบหนึ่ง


พอเดินชมวัด+สวนเสร็จ ก็เดินทางต่อไปยังวัด Ginkakuji ค่ะ ระหว่างทางเดินไปวัดนั้นก็จะมีร้านค้าขายของต่าง ๆ นานามากมาย ... และเช่นเคย น้องฝนก็ยังคงอยู่กับเราต่อไปค่ะ


เดินผ่านร้านรวงต่าง ๆ แบบไม่สนใจเท่าไหร่ แต่ก็ยอมสยบคาชูครีมร้านนี้ เลือกชูครีมรสชาเขียวมาชิมหนึ่งก้อนค่ะ ... อร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกก

ชูครีมใด ๆ ที่ข้าพเจ้าเคยกินได้ลืมหมดสิ้นเมื่อเจอชูครีมร้านนี้เข้าไป (เวอร์ไปไหน )


(คิดถึงชูครีมแล้วอยากกินอีกอ่ะค่ะ ฮาๆๆ )

จากนั้นก็หยุดทานชูครีมอันใหญ่ให้หมดซะก่อนที่จะเข้าวัด ... และเช่นเคย จ่ายค่าเข้าชมวัด (+สวน) ก่อนนะจ๊ะ และได้เป็นแผ่นกระดาษแบบนี้มาค่ะ


แล้วบล็อกหน้าซึ่งจะเป็นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ จะพาไปเดินชมวัด Ginkakuji หรือวัดเงินที่คนไทยเรียกอ่ะนะคะกัน และวัดอื่น ๆ ในเกียวโตอีก 2 วัด ก่อนที่จะกลับโตเกียวและกลับบ้าน

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมบล็อคนะคะ ^^




ปล. ก่อนการเดินทางครั้งนี้ เคโกะเตรียมตัวหาข้อมูลการเดินทาง สถานที่ไว้เยอะมาก ๆ แต่ก็หาข้อมูลสำหรับการเดินทางจาก Kawaguchi-ko ไป Kyoto ไม่เจอเลยค่ะ หาอยู่เป็นวัน ๆ ก็ไม่เจอ จนรู้สึกท้อมาก ๆ

แต่สุดท้ายก็ไปเสิร์ชเจอข้อมูลดี ๆ ในเว็บ TK มาจนได้ ขอบคุณคุณจขกท.ที่ตั้งกระทู้ถาม และขอบคุณคุณ Tmac ที่มาให้คำตอบเจ๋ง ๆ ทำให้ทริปการเดินทางครั้งนี้ผ่านไปด้วยดีค่ะ ... ขอบคุณมาไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

(ข้อมูลในเว็บตั้งแต่ปี 2550 แล้วล่ะค่ะ แต่ก็ยังใช้ได้อยู่ ราคายังไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนค่ะ)

ขอแปะลิ้งค์ประกอบกันเลยนะคะ
//board.trekkingthai.com/board/show.php?forum_id=2&topic_no=105277&topic_id=106402




 

Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2555
6 comments
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2555 13:30:29 น.
Counter : 4328 Pageviews.

 

ตามมาเที่ยวต่อค่า.....สวยงามจริงๆเลย

ภาพสวยมากเชียวค่าน้องหนู ^^

คิดถึงญี่ปุ่นขึ้นอีกเป็นกองเล้ยยยย...

ป.ล. ยิ่งวันนี้มีโทรศัพท์ทางไกลมาจากญี่ปุ่น ยิ่งอยากไปญี่ปุ่นใหญ่เลย อิอิอิอิอิ ;P

 

โดย: Tigger IP: 125.26.13.146 28 กุมภาพันธ์ 2555 21:09:17 น.  

 

สวัสดียามสายๆค่ะ

ขอตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ

บรรยากาศดีจัง

ขอบคุณที่แวะไปทักทายกันค่ะ

ขอให้มีความสุขนะคะ

 

โดย: iamorange 29 กุมภาพันธ์ 2555 10:37:24 น.  

 

ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ คิดถึงญี่ปุ่นมาก

 

โดย: mariabamboo 29 กุมภาพันธ์ 2555 11:50:23 น.  

 

วัดทองสวยมากเลยอ้ะ

แล้วตกลงอุด้งไม่อร่อยเหรอ? อร่อยปะ?

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 1 มีนาคม 2555 8:21:40 น.  

 

เจ้ยยย รูปถ่ายเจดีย์ด้านบน กับรูปใบไม้สวยมาก เด็กบ้ากล้องนี้่หว่า ฮ่าๆๆๆ

อยากไปญี่ปุ่น แต่ค่าครองชีพแพงเหลือเกิน
เราคิดไว้ว่า เราจะพยายามทำสถิติ
ไปอาทิตย์หนึ่งใช้ หมื่นเดียว กร๊ากกกกกกกกกก
ค่าที่พักคงปากไปหมื่นแล้วมั้งนี่

 

โดย: gutswallow 4 มีนาคม 2555 18:41:33 น.  

 

พี่ทิกเกอร์คะ ... ขอบคุณค่าที่ชมภาพสวย ^^

น้านน โทรศัพท์สายนั้นเป็นแรงใจอย่างมหาศาลล่ะสินะคะ ฮี่ๆๆๆ

 

โดย: :D keigo :D 7 มีนาคม 2555 20:16:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.