วันนี้จะกล่าวถึงความเสื่อมของพระเสขะบุคคล พระเสขะบุคคลหมายความว่า ผู้ที่ยังต้องศึกษาต่อไป เพื่อความพ้นทุกข์ อเสขะบุคคลหมายถึง ผู้ถึงฝั่งแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว พรหมจรรย์จบแล้ว ความเสื่อม ของพระเสขะบุคคล คือ ความเสื่อมของนักปฏิบัติมีอยู่บุคคลที่มีความเพลิดเพลินในการงาน นักปฏิบัติที่เพลิดเพลินในการงาน ไม่ปฏิบัติคือทำงานเพลินไปกับงาน ไม่ยอมกำหนดร่วมไปกับการทำงานบุคคลที่ทำงานมีความเฮฮา มีความวุ่นวายไม่สงบบุคคลที่นอนมาก และนอนไม่เป็นเวลาบุคคลที่คลุกคลีกับหมู่คณะ และชอบคุยกันมากบุคคลที่ ยะถาปัจจะตัง จิตตัง นะปัจจะเวกขะติ ยะถาวิมุตตัง นะปัจจะเวกขะติ คือไม่มีสติมากำหนดอารมณ์ที่เกิดขึ้น และไม่มีสติกำหนดอารมณ์ดับไป เช่นเมื่อโทสะเกิดขึ้น ก็ไม่กำหนดโทสะที่เกิดขึ้นมา และเมื่อโทสะดับไปก็ไม่ได้กำหนด ก็ไม่รู้อารมณ์เท่าทันอารมณ์นั้นทั้ง ๕อย่างนี้เป็นความเสื่อมของนักปฏิบัติธรรม นักปฏิบัติทั้งหลายพยายามอย่าให้ความเสื่อมทั้ง ๕ นี้ เกิดขึ้นบ่อยมากนัก หรือพยายามอย่าให้เกิดขึ้นเลย อุปมาเหมือนเราเขียนหนังสือลงสมุด ถ้าเขียนผิดบ่อยๆ แล้วเราลบ สมุดที่เราเขียนนั้นก็จะดูสกปรก ถึงแม้ลบที่เขียนผิดออกไปแต่มันก็ยังดูสกปรก แต่ถ้าเรามีสติเขียนโดยไม่ให้มันผิดเลย สมุดที่เราเขียนนั้นก็จะดูสะอาดไม่มีรอยลบรอยเขียนผิด. หลวงปู่(พระอาจารย์ทอง สิริมงฺคโล)