พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก * วินทร์ เลียววาริณ
อาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก * วินทร์ เลียววาริณ
อาทิตย์นี้มาเปลี่ยนแนวรีวิวหนังสือเสริมกำลังใจจากนักเขียนดับเบิ้ลซีไรต์ พี่วินทร์ เลียววาริณกันนะครับ ... พิ่วินทร์เป็นคนจังหวัดสงขลา เกิดปี ๒๔๙๙ จบปริญญาตรีจากคณะสถาปัตย์ จุฬาลงกรณ์ฯ ปริญญาโทด้านการตลาด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำงานที่ประเทศสิงคโปร์และนิวยอร์กรวมห้าปี และทำงานวงการโฆษณาอีกสิบปห้าปี ก่อนจะออกมาผลิตงานเขียนเต็มตัว ก่อนจะมีผลงานอันโดดเด่นก็คือ รางวัลสมาคมภาษาและหนังสือฯ รางวัลช่อการะเกดยอดนิยมสามสมัย รางวัลคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติสี่สมัย รางวัลซีไรต์สองสมัย ปี ๒๕๔๐ และ ๒๕๔๒ รางวัลศิลปาธร สาขาวรรณศิลป์ ปี ๒๕๔๙ มีผลงานได้รับการแปลเป็นภาษาต่างประเทศหลายเรื่อง ผลงานเขียนของพี่วินทร์ที่ผมต้องกลับมาอ่านซ้ำๆ อยู่บ่อยๆก็จะมีประชาธิปไตยบนเส้นขนาน (๒๕๓๗) /สิ่งมีชีวิตที่ เรียกว่าคน (๒๕๔๒) ปลาที่ว่ายในสนามฟุตบอล (๒๕๔๘) นิยายข้างจอ(๒๕๔๘) หนังสือชุดกำลังใจทั้งหมด ๔ เล่ม และเล่มอื่น ๆ ก็น่าสนใจมากเช่นกัน ...
อาทิตย์ขึ้นทางตะวันตก เป็นหนังสือเสริมกำลังใจเล่มที่ ๔ ต่อจาก รอยเท้าเล็กๆของเราเอง (๒๕๔๘) /ความฝันโง่ๆ (๒๕๔๙)/ เบื้องบนยังมีแสงดาว (๒๕๕๐) ที่ออกมาก่อนหน้านี้แล้วตามลำดับ ... เนื้อหาในหนังสือเล่มเล็กไม่ใหญ่มากเล่มนี้ยังคงมีเจตนาเสริมสร้างความคิด มุมมองหลากหลายและนอกกรอบ ไม่กล้าคิดมาก่อนอยู่เช่นเดิม ... แต่ที่เพิ่มมาอีกหน่อยก็คือการมองโลกแบบมุมกลับ และคิดต่างจากที่เคยเป็น อาทิเช่นเรื่อง ...
* บุณคุณกับกตเวทิตา * เป็นเรื่องของปลาวาฬเพศเมียที่ติดอยู่กับเชือกไนลอนโยงข้องจับปู ชีวิตของมันก้ำกึ่งจะรอดไม่รอด จนกระทั่งมีชาวประมงเห็นความยากลำบากที่จะเอาชีวิตรอดของมันเข้าเลยช่วยเอาไว้ ... มันเลยรอดชีวิตมาได้อย่างมีปาฏิหาริย์ ... ก่อนที่มันจะหลุดมันจ้องมองมายังคนช่วย พอหลุดได้เท่านั้น .. มันว่ายวนใช้ปากแตะคนที่ช่วยทีละคน ๆ จนครบเหมือนจะมาขอบคุณที่ช่วยชีวิตเรา ... พี่วินทร์สรุปกรณีนี้ว่าสัตว์ต่างชนิดพันธุ์กับเรา กำลังแสดงความขอบคุณเรา ...
กตัญญู คือ รู้คุณ ... กตเวทิตา แปลว่า สนองคุณ ....
* รูบนกำแพงน้ำ * ในเช้าวันหนึ่งที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เด็กชายวัยแปดขวบไปเยี่ยมคนตาบอดที่รู้จักคุ้นเคย ระกหว่างทางกลับได้ยินเสียงน้ำไหล พลันมองเห็นรูเล็กๆที่กำแพงกั้นน้ำ ... ซึ่งทุกคนในเมืองรู้ดีว่ามันหมายถึงอันตราย แรงดันของน้ำมหาศาลสามารถขยายรูเล็กๆ นั้นในเวลาอันสั้น น้ำทะเลจะทะลักเข้าท่วมเมือง ผู้คนนับร้อยนับพันจะสูญสิ้น ...เด้กชายจึงตัดสินปีนขึ้นกำแพงยัดนิ้วมือไปอุดรูรั่ว กระทั่งเวลาผ่านไปเนิ่นนานเด็กชายหนาวสั่น ... เป็นตายยังไงก็จะไม่ขอดึงนิ้วออกจากรูนั้น ภาพเมืองทั้งเมืองจมอยู่ในน้ำทำให้เขายืนหยัดสู้ต่อไป ... กระทั่งบาหลวงมาพบเจอเด้กชายอาการปางตาย แต่ก็รอดมาได้ และเมืองก็รอดมาด้วยเช่นกัน ...เรื่องนี้พิ่วินทร์พูดถึงการอุดรูรั่วให้กับประเทศชาติ อยากทราบไหมครับว่ายังไง ... ต้องตามไปอ่านกันนะครับ ....
* คนที่ไม่มีวันแก่ * ตอนนี้พี่วินทร์พูดถึงปู่คลินท์ อีสต์วูด ที่เริ่มเป็นนักแสดงด้วยหนังเกรดบี ก่อนจะมาประสบความสำเร็จมากมาย ด้วยผลงานสุดท้ายในตอนนี้ก็คือเป็นผู้กำกับภาพยนตร์มือรางวัลออสการ์หลายปี ... ด้วยอายุอานามที่ถึงปูนนี้น่าจะเลี้ยงหลานอยู่กับบ้าน หรือไม่ก็เข้าวัดเข้าวาดีกว่า ... แต่คลินท์หาได้เป็นเหมือนคนอื่นไม่ ... เขากลับสู้งาน และคิดทำสิ่งใหม่ๆให้กับวงการภาพยนตร์หลายแบบหลายแนว ... คลินต์มักจะมีคำพูดในเรื่องนี้ว่า ผมไม่ชอบความจำเจ และคิดอยู่อย่างนี้เสมอว่า ..... เพราะคนเราไม่มีความสมบูรณ์ และกล้าเปลี่ยนแปลงกล้าทดลองทำในสิ่งใหม่ ๆ โดยไม่แยแสตัวเลขอายุของตนเอง เราก็สามารถมีชีวิตที่สนุกได้ตลอดไป และไม่มีวันแก่ ...
สามเรื่องที่ผมยกตัวอย่างมีเป้นแค่น้ำจิ้มในอีก ๔๘ เรื่อง ...เช่น หัวใจที่ชายแดน / คนวิ่งชีวิต / ไม่มีวันยอมแพ้ / ถึงจะเดินถอยหลังก็ยังออกแรง /หัวใจ Y /นางสาวมารยาท / สิ่งที่เรามีเหลืออยู่ / แมวที่ริมฝั่ง / ปากที่สกศิลป์ / ยิ่งน้อยยิ่งมาก /คนอารมณ์ดี /ผลไม้วิเศษ /ฮาร์ทกับเฮด / อาชีพ:แม่บ้าน / เหนือข้อจำกัดทมางกายภาพ / ท้องฟ้าเป้นผู้ชาย ดวงดาวเป็นผู้หญิง / หมาเยี่ยวรดภูเขาทอง จากความว่างเปล่าสู่ความว่างเปล่า / ลมปราณแห่งปัญญา /เคียงไหล่ลูกน้อง/ ถุงยา / ข้าวผัด / ตุ๊กตาล้มลุก / รักตัวเอง / ปาร์ตี้ชีวิต / ผงชักฟอก /คุณจะหาแฟนได้ไหมในชาตินี้ และอีกมากมาย ... เยอะเจง ๆ ...
๑๑๑๑ วันนี้เป็นวันอังคารชมพูสีหวานสำหรับคนกำลังมีความรัก ... ผมจึงขอเชิญเพื่อหนอนเปลี่ยนแนวจากนวนิยายที่เรารักมาลองอ่านหนังสือที่เสริมสร้างกำลังใจชั้นยอดเล่มที่ชื่อ ..พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตก ของนักเขียนขวัญใจของผมอีกท่านหนึ่ง คือ พี่วินทร์ เลียววาริณ .... ผมรับรองเลยเอ้าว่าถ้าเพื่อนอ่านหนังสือเล่มนี้จนจบแล้วไม่ได้อะไรกลับไป จะยอมถูกเตะหนึ่งทีเอ้า ... ลงทุนจริงๆ เนอะคนเรา @@@@@@
******************************** คำคมนักเขียน : วราภา การเป็นนักเขียนเรายอมรับได้อยู่แล้ว ไม่ว่าสิ่งที่ผู้อ่านหยิบยื่นให้จะเป็นก้อนอิฐ หรือดอกไม้ ...
สกุลไทย : วางแนวทางการเขียนภายใต้นามปากกา วราภา ไว้อย่างไรบ้าง ? วราภา : เขียนในสิ่งที่ตัวเองอยากเขียน และเขียนแล้วเกิดความสบายใจ หลีกเลี่ยงเรื่องที่เขียนแล้วเครียดและเป็นวิชาการมากเกินไป ... ไม่เขียนเรื่องที่หนักจนเกิดความอึดอัด และที่สำคัญไม่ลอกเลียนงานของใคร เพราะนักเขียนแต่ละคนมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ...ลอกเลียนใครก้ไม่มีวันเหมือน ที่สำคัญคนอ่านต้องจับได้ เป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง สกุลไทย : การวางฉากในแต่ละเรื่องเกิดจากความคิดอย่างไร ? วราภา : ชอบที่จะเขียนเรื่องเกียวกับฮ่องกงและคนจีน เช่น วันนี้ที่รอคอย เหมราช เพราะประทับใจบรรยากาศที่นั่นตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ไป มันเป็นการผสมผสานระหว่างตะวันตกกับตะวันออกได้อย่างชัดเจนและลงตัว จนสามารถมองเห็นภาพพระเอกที่สามรถเป็นเจ้าพ่อ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นชายหนุ่มธรรมดาที่มีความรักเต็มหัวใจ ฮ่องกงจึงเหมาะสำหรับจ้าวซัน จะลี้ภัยการเมืองและพบนางเอกที่นั่น ... ส่วนฉากภายในประเทศเป็นการสร้างฉากเพราะครึ่งชีวิตอยู่ต่างประเทศ ไม่กล้าอ้างอิงสถานที่หลักเพราะกลัวผิดพลาด เลยตั้งเมืองสมมุติของตัวเองขึ้นมา
สกุลไทย : แล้วการวางพล็อตล่ะ ... วราภา : ไม่ต้องใช้เวลามากนัก และก็เชื่อว่านักเขียนทุกคนจะมีพล็อตสะสมอยู่แล้วในสมอง มันเกิดขึ้นเอง รออยู่ที่นั่น ...รอกระบวนการกลายเป็นอักษรและขัดเกลาให้เหมาะสมกลมกลืน ... บางครั้งเขียนเพราะชอบชื่อเรื่อง ชอบชื่อพระเอก ชื่อนางเอก มันสะดุดตาดี ถึงพล็อตไม่สมบูรณ์ก็ไม่เป็นไร ... พยายามเขียนมาให้เข้าไปจุดนั้น จนจบได้ในที่สุด ซึ่งก็เพิ่มความสนุกในการเขียนและท้าทายดีเหมือนกัน .... (บทสัมภาษณ์วราภาจากนิตยสารสกุลไทย)
Create Date : 21 กรกฎาคม 2552 |
|
3 comments |
Last Update : 21 กรกฎาคม 2552 10:45:34 น. |
Counter : 2356 Pageviews. |
|
|
|
คุณวินทร์เขียนหนังสือได้คม และมีสาระดีจริงๆ