จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
29 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

สางสีทอง * จินตวีร์ วิวัธน์

สางสีทอง * จินตวีร์ วิวัธน์






“.... แสงเดือนละออสาดส่องกระทบภาพเขียนสีน้ำมันเก่าแก่แขวนบนผนังปลายตีนเตียง ข้าพเจ้ามองเห็นถนัดถึงละอองหมอกบางๆลอยอ้อยอิ่งอยู่ที่นั่น และอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวเนิบช้าแทบจะสังเกตไม่เห็นอยู่เบื้องหลังม่านหมอกนั้นด้วย ... ข้าพเจ้านอนตัวแข็ง เบิกตาเพ่งมองสิ่งนั้นจนรู้สึกปวด ... สายตาที่ชินกับความมืดแล้ว พอแยกออกว่าอะไรเป็นอะไร พอเห็นและรับรู้ ข้าพเจ้าก็เริ่มรู้สึกกระตุกแรงๆที่หัวใจ และชาดิกไปทั้งกายเหมือนเป็นอัมพาตด้วยความตกใจกลัว ... แพรผืนใหญ่สองทองระยับไหวพลิ้วน้อยๆ อยู่หลังม่าน หมอกบางเบาเหมือนเจ้าของร่างกำลังเคลื่อนไหวการอย่างแช่มช้า .... หมอกแผ่ตัวขยายกว้างขึ้นลอยมาทางเตียงข้าพเจ้าพรน้อมแพรผืนนั้นขยับไหวมากขึ้น และมากขึ้น ... จนในที่สุด ข้าพเจ้าก้เห็นร่างที่คลุมด้วยแพรสีทองผืนนั้นถนัด เพราะดูเหมือนว่ามันขยับเข้ามายืนอยู่ตรงปลายตีน เตียง ห่างจากตัวข้าพเจ้าไม่กี่ฟุตเท่านั้นเอง ... ละอองหมอกบางเบาที่แผ่กั้นเราทั้งสองไว้ ทำให้ภาพพร่าเลือนไปบ้าง .... กระนั้นข้าพเจ้าก็เห็นถนัดถึงร่างโปร่งคลุมด้วยพัตราภรณ์ผืนใหญ่สีทองอร่าม ต้องประกายแสงเดือนเป็นมันระยับ ....”
(สางสีทอง หน้าที่ ๘๘ - ๘๙)

บล็อกนี้จะถือเป็นบล็อกรีวิวต่อเนื่องจากเรื่อง ..ขวัญหนี คราวที่แล้วก็ว่าได้นะครับ ... เพราะว่าหลังจากกระทู้ที่ผมโอดครวญไปคราวนั้นว่าอยากได้สางสีทองของคุณจินตวีร์ ฯ มาไว้ครอบครองเป็นสมบัติส่วนตัว โดยฝากของความอนุเคราะห์จากพี่ทอมมี่ พี่ที่น่ารักจากเวปพี่หมอโอ๊ตพงศกร ... จนมาในวันหนึ่งซึ่งผ่านมาเร็วๆนี้ ... พี่ทอมมี่สุดหล่อก็โฟนฮัลโหลมาหาบอกว่าได้ส่งสางสีทองกับนวนิยายที่ผมอยากได้อีกสองเรื่องมาให้แล้ว ... ผมร้องเย้ เย้ เย้ ไปครึ่งวัน (ไม่ทำงานทำการรึไง) จนได้รับพัสดุมาในไม่กี่วันหลังจากนั้น ... ก็รีบแกะออกมาตะลุยอ่านสองรวดจบ .... สรุปได้ในเบื้องต้นว่า ... ของเขาดีจริงๆ ด้วยล่ะ ...

นวนิยายเรื่องสางสีทอง ... เรื่องนี้พี่ทอมมี่ของเราบอกว่าเป็นนวนิยายของคุณจินตวีร์ฯ อีกเรื่องที่ชอบมาก ๆ ผมอ่านจบไปรอบแรกก็รู้สึกเหมือนกับพี่ทอมมี่ คือ เป็นนิยายที่สร้างบรรยากาศได้สยองขวัญตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งๆที่มีขนาดของเล่มเล็กบางมากมาย ... ความยาวของหน้า 200 หน้า( 13 บท) แต่ความสนุกกลับไม่เล็กน้อยเหมือนขนาดหนังสือเลย ...

เรื่องย่อของสางสีทอง ... มีอยู่ว่าอากร กับอัญชลี กัมลารัต ได้รับการติดต่อจากทนายประจำตระกูลว่าให้ไปรับมรดกเป็นที่ดินผืนหนึ่งพร้อมกับบ้านบังกะโลทาสีขาวหลังเล็กๆ .. แรกๆชายหนุ่มก็ไม่มีทีท่าสนใจอะไร กระทั่งทนายความแจ้งมาว่ามีคนมาติดต่อจะซื้อหลายรายแล้ว ... ถ้าจะขายก็ขายซะ ... อากรกลับมามองตัวเอง ภาระครอบครัวก็มาก การเงินก็ยอบแยบ เมียหนึ่ง ลูกอีกสาม …

ทั้งสามคนคืออากร อัญชลีและทนายความจึงไปยังบ้านหลังนั้น ...ชายหนุ่มก็รับรู้ว่าอาคนเล็กของเขาคือ กอบเกียรติเป็นเจ้าของบ้าน พร้อมภรรยาที่เป็นศิลปินด้วยกันก็คือ ดุรียา ... อัญชลีเปิดลิ้นชักเจอสมุดบันทึกปกหนังสีดำขนาดเขื่อง สภาพเก่าซีดเล่มหนึ่ง นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของสางสีทองที่จะเล่าย้อนไปครั้งกอบเกียรติกับดุรียา ได้มาอยู่บ้านหลังน้อยหลังนี้ ...

สางสีทอง เริ่มเข้มข้นเมื่อทั้งสองสามีภรรยาได้มาปลูกบ้านน่ารักหลังนี้ในยุคเมืองพัทยา ปี พ.ศ. 2508 ชีวิตประจำวันของคนทั้งสองอาจจะธรรมดาไป ถ้าไม่ไปอยากรู้จักตึกใหญ่เก่าแก่ปรักพังเหลือแต่ซากหลังหนึ่ง ... ตึกหลังนี้แหละคือเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบของสางสีทอง ... เพราะความเป็นนักศิลปะตัวยง ทำให้ดุรียาทำเรื่องที่ไม่น่าจะทำ ...นั่นก็คือไปหยิบฉวยภาพวาดต้นเรื่องทั้งหมดคือภาพหลวงอภิรักษ์พิธภัณฑ์กับคุณหญิงมาไว้ครอง ... แถมยังเอาแขวนไว้ปลายเตียงอีกต่างหาก ...

บรื๋อ ๆ ๆ ๆ ๆ น่ากลัวมากกกกก ....

วิญญาณร้ายก่อเรื่องราวมากมาย นับตั้งแต่ฆ่าหมา ลามมาฆ่าคน และจะปิดท้ายด้วยฆ่าพระเอกและนางเอก ... จนสุดท้ายนึกว่าเรื่องราวจะจบแล้วเพราะผีร้ายถูกทำลายไปอย่างสิ้นซาก ... แต่ ... ที่ไหนได้ ... ยังหลอนก๊อกสองได้อีกครับ โอ้ว .. มายก็อด ... น่ากลัวจริง ๆ เลยนังผีตนนี้ ... นิยายเรื่องนี้อ่านแล้วสนุกมากตั้งแต่ต้นจนจบ ... ผมไม่สปอยเนื้อเรื่อง เพราะอยากให้ไปอ่านกัน ... เนื้อหาในเรื่องนี้ไม่ใช่ดุแต่ผีคนนะ ผีหมาในเรื่องก็ดุโคตร ๆ ด้วยเช่นกัน ... พออ่านไปก็จะอินกับบรรยากาศอึมครึมไปตลอดทั้งเรื่อง อาจมีเหลียวดูรอบตัวเป็นพัก ๆ เพราะอาการเสียวสันหลังวาบเหมือนถ้อยความเกริ่นนำในวรรคแรกไงล่ะครับ ...

ในผลงานของคุณจินตวีร์ วิวัธน์มีมากมายหลากหลายเรื่องให้ได้ติดตาม และเก็บสะสม ..หายากบ้างง่ายบ้าง ก็แล้วแต่โชคชะตาบันดาลให้ได้เป็นเจ้าของ ... สำหรับสางสีทองเรื่องนี้ผมก็ขอขอบพระคุณพี่ทอมมี่ผู้ใจดี ที่เผื่อแผ่คิดถึงน้องนุ่งเวลาเดินร้านหนังสือเก่าแถวสวนจัตุจักร ... ถ้าวันดีคืนดีเจอมฤตยูเขียววววววว ก็บอกกล่าวน้องนุ่งบ้างเด้อพี่เน้อ อิ อิ อิ ...

วันนี้วันจันทร์แสนสดใสอีกวันแล้ว ... ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ ... นายเมฆฉาย

********************************



คำคมจากนักเขียน : กิ่งฉัตร

สิ่งแรกสำหรับการเริ่มต้นคืออะไร?

กิ่งฉัตร : คือการสำรวจตัวเองก่อนว่ามีความรักในการอ่านการเขียนมากน้อยแค่ไหน การเป็นนักเขียนไม่ใช่ทำได้ในชั่วข้ามคืน อย่างน้อยต้องใช้เวลานับปี ต้องทำงานมานานพอสมควรจึงจะอยู่รอด และพอมีผู้อ่านรู้จักบ้าง ฉะนั้นคนที่คิดจะมายึดอาชีพนี้ต้องมีใจรักมากพอที่จะอดทนทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ....

แล้วเคล็ดการเขียนของ “ กิ่งฉัตร” คืออะไร?

กิ่งฉัตร : เคล็ดอย่างหนึ่งที่ดิฉันถือมาตลอดในการเขียนหนังสือคือ เขียนเรื่องที่ตัวเองชอบอ่าน ไม่ฝืนเขียนอะไรที่ตัวเองไม่ชอบหรือไม่รู้ เพราะดิฉันถือเสมอว่าตัวเองเป็นผู้อ่านคนแรก ถ้าเขียนออกมาแล้วผู้อ่านคนแรกไม่ชอบ จะมีคนอ่านที่ไหนชอบงานของเราอีก ...


( หนังสือชงคำ ... เรียบเรียงโดยสัจภูมิ ละออ .. หน้าที่19 และ 25 )










 

Create Date : 29 มิถุนายน 2552
5 comments
Last Update : 29 มิถุนายน 2552 10:25:29 น.
Counter : 2973 Pageviews.

 

ไม่เคยเห็นเรื่องนี้เลย
ปล. รูปประกอบหลอนได้อีก

 

โดย: Boyne Byron 29 มิถุนายน 2552 13:27:59 น.  

 

เอ ใช่เรื่องที่รวมสาส์นทำปกเป็นรูปหน้าผู้หญิงมีผ้าคลุมรึป่าวหว่า? พอนึกถึงชื่อสางสีทอง จะแว่บรูปนี้ขึ้นมา เดี๋ยวไปสำรวจดู

เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีคนแต่งพล็อตบ้านผีหลอกวิญญาณหลอนแบบนี้แล้วเนอะ

 

โดย: ยาคูลท์ 29 มิถุนายน 2552 18:07:04 น.  

 

เรื่องนี้ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ หายากสุด ๆ อะ ร้านเช่าก็ไม่ค่อยมีนิยายเก่า ๆ ของคุณจินตวีร์ (แอบเซ็ง)

ป.ล. พี่หมอทอมมี่ไม่เคยทำให้คนหานิยายคุณจินตวีร์ กับคุณป้าวลัยผิดหวังจริง ๆ ค่ะ หาเป็นเจอแทบทุกเล่มเลย อิอิ

 

โดย: Kitsunegari 12 กรกฎาคม 2552 13:36:02 น.  

 

รูปประกอบน่ากลัวมากๆ อิอิ
ชอบมากๆเลยสางสีทอง บรรยากาศเหมือนอ่านเรื่อง dracula
น่าเสียดายคุณจินตวีร์ไม่ค่อยเขียนเรื่องแบบนี้เท่าไร
ที่คล้ายสุดก็น่าจะเป็น ศตวรรษสวาท แต่ผมกลับชอบเรื่องสางสีทองมากกว่าเพราะกระชับและน่ากลัวมากๆ อ่านจบแล้วยังขนลุกไปหลายคืน
หนังสือปกอ่อนคุณจินตวีร์ตอนนี้หายากกว่าปกแข็งที่ว่าหายากแล้วซะอีกนะ
สำหรับ มฤตยูเขียว รออีกซักนิดนะอิศ ^_^

 

โดย: ทอมมี่ IP: 125.213.232.34 14 กรกฎาคม 2552 21:40:29 น.  

 

เธŠเธ‡เธ„เธณ เน€เธ›เน‡เธ™เธซเธ™เธฑเธ‡เธชเธทเธญเธ™เนˆเธฒเธชเธ™เนƒเธˆเธ™เธฐ
เธซเธฒเธ‹เธทเน‰เธญเน„เธ”เน‰เธ—เธตเนˆเน„เธซเธ™เน€เธญเนˆเธข

 

โดย: เธญเธดเธจเธ“เธฒ เธญเธธเธ”เธกเธžเธฃ IP: 192.168.15.78, 203.154.73.2 23 ธันวาคม 2553 14:08:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.