Bloggang.com : ใจรัก Jairuk Channel : พระช่วยเด็กทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง เขานางนอน

พระช่วยเด็กทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง เขานางนอน

หลวงพ่อพระอาจารย์อารยวังโส ได้กรุณาอนุญาตให้สถาบันฯนำเรื่องราวเบื้องหลัง พิธีสงฆ์ สายพระป่า
ที่เกิดขึ้นในคืนวันที่ 2 กรกฎาคม 61 ณ ภายในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน

ในส่วนที่เป็นการสื่อสิริมงคลเข้าสู่สถานที่เกิดเหตุ อันมีพลังหลากหลายพัวพันข้ามภพ .. ข้ามมิติ .. เรื่องจริงที่เกิดขึ้นก่อนกระแสทั้งปวงคือ เมื่อเกิดเหตุเด็กกลุ่มหมูป่าอเคดามีกับโค้ช หายไปในถ้ำหลวง วันที่ 23 มิถุนายน 61 วันรุ่งขึ้น ( 24 มิถุนายน)
พระเถราจารย์รูปหนึง (ขอสงวนพระนาม) ได้รับข้อมูลเป็นภาพวาด จุดที่เด็กๆติดอยู่ เป็นภาพและตำแหน่งของ’เนินนมสาว
(ซึ่งปรากฏภายหลังว่าถูกต้อง ตรงกับตำแหนงจริงที่เด็กๆติดอยู่ )
ซึ่งเป็นการได้รับกระแสจิตจากบุคคลติดอยู่ในถ้ำ 29 มิถุนายน 61
มีการนำภาพของกลุ่มหมูป่าและโค้ช มาเทียบ และสามารถระบุตัวโค้ชเอกได้ว่าเป็นผู้ส่งกระแสนี้ คณะสงฆ์
ภายใต้การกำกับดูแลของบุคคลสำคัญ จึงเคลื่อนไหว นิมนต์หลวงพ่อและพระป่าชุดหนึ่ง( คือหลวงพ่อพระอาจารย์อารยวังโส ) ให้เข้าดำเนินพิธีสงฆ์ กระทำสวดมนต์ สร้างกระแสพุทธบารมี ครอบคลุมพื้นที่และมิติทุกภพภูมิ ที่มีอยู่ซ้อนทับในถ้ำหลวง
ระหว่างวันที่ 2-3 กรกฎาคม ที่ต้องทำเช่นนี้เพราะมีสัญญาณบางอย่างชัดเจนขึ้นในเรื่องมรณกาล ( ในที่สุดก็ปรากฎเป็นเคสของ จ่าแซม ) จึงเป็นกรณีพิเศษที่ต้องมีคณะสงฆ์เข้าพื้นที่โดยการอำนวยความสะดวกของผู้บัญชาการหน่วยซีล
เพื่อนำกระแสเมตตาธรรมเข้าไปสู่พื้นที่ให้ทันกาล

โดยปกติกระทำกันในทางที่ไม่จำเป็นต้องเปิดเผย คณะสงฆ์พระป่า จึงเข้าไปเงียบๆ และรีบออกจากพื้นที่เมื่อเสร็จภารกิจ
พระอาจารย์อารยวังโสมีอารามของท่านที่แม่สาย จึงออกจากพื้นที่ได้สะดวก รวดเร็ว เมื่อจบภารกิจ ท่านออกมารับบาตรตอนเช้า ทั้งหมดนี้ ท่านนำมาเล่าภายหลังเพื่อให้สาธุชนได้ทราบถึงกลไกที่อยู่เบื้องหลัง นั่นคือ ‘อำนาจแห่ง ธรรมานุภาพ’ อำนาจที่วิเศษสุดที่ทำให้เด็กๆ พ้นมรณกาลมาได้ คือ การหลอมรวมกุศลจิตของทุกท่าน (ทั้งพระภิกษุและศาสนิกชน) ภายใต้ร่มพระบารมีของพระมหากษัตริย์ไทยและสมเด็จพระสังฆราช องค์ประมุขแห่งคณะสงฆ์ไทย
จนเกิดเป็น ธรรมานุภาพ ที่สามารถนำเด็กๆ ทั้ง 13 ชีวิตผ่านพ้นวิกฤติออกมาได้จริง ด้วยความดีของเด็กๆ ทั้ง 13 คน ภายใต้การนำของโค้ชเอกที่ชักนำกันเคารพธรรม ปฏิบัติธรรม เจริญภาวนา เพื่อบำรุงสติปัญญาให้พร้อมขจัดปัญหาอุปสรรคในยามพานพบกับวิกฤติของชีวิต และหลวงพ่อได้ให้สติว่า
เรื่องนี้ขอให้เป็นกรณีศึกษาธรรม..ไม่ใช่ตามหาตัวบุคคล...ไม่มีคนวิเศษ ไม่มีภิกษุวิเศษ มีแต่ ธรรมานุภาพ ที่ยิ่งใหญ่ วิเศษเหนือโลกธาตุ แท้จริง

11 ก.ค.61 พระอาจารย์อารยวังโส ท่านมาเทศน์ที่ศาลอุทธรณ์ชำนัญพิเศษ
ท่านกล่าวถึงเด็กๆและโค้ชทีมหมูป่าว่าการที่พวกเขาเข้าไปติดในถ้ำไม่ใช่เหตุบังเอิญแต่เป็นเรื่องของกรรมจำเพาะมาเกิดขึ้นกับพวกเขา
ขณะเด็กๆติดอยูในถ้ำโค้ชและเด็กๆทำสมาธิส่งกระแสจิตติดต่อกันได้กับพระจารย์ท่านหนึ่ง ซึ่งพระอาจารย์อารยวังโสท่านไม่เปิดเผยนาม พระอาจารย์ท่านนั้นเข้าสมาธิและเห็นว่าทีมหมูป่าติดอยู่บนเนินนมสาว
พระรูปดังกล่าวท่านได้เขียนลงในกระดาษมอบให้ผู้ค้นหาระดับบนตั้งแต่เริ่มแรกที่ติดตามหาเด็กๆ ระหว่างค้นหาเด็กตั้งแต่แรกเริ่มก็มีการทำพิธี มีพระไปนั่งสมาธิในถ้ำ ท่านอาจารย์อารยวังโสท่านก็ทำสมาธิด้วย
ท่านเล่าว่าในถ้ำมีภพซ้อนกันหลายภพหลายมิติเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ที่อยู่ต่างภพ หน่วยซีลทีมค้นหาจะรับศีลก่อนปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง

ด้วยอานุภาพแห่งบุญของโค้ชและเด็กๆที่ทำสมาธิส่งดวงจิตออกมาและอานุภาพแห่งดวงจิตของคนทั้งโลกที่ภาวนาให้ทุกคนที่ติดอยู่ในถ้ำปลอดภัยส่งผลให้มีปาฏิหารย์ขณะทีนักประดาน้ำชาวอังกฤษดึงเชือกจนสุดแล้วโผล่พ้นน้ำออกมาพบเด็กๆและโค้ชพอดี ท่านว่ามันไม่ใช่เหตุบังเอิญแต่เกิดจากพลังจิตและเป็นเรื่องของสิ่งศักดิสิทธิ์ดลบันดาล ขณะทำสมาธิในถ้ำท่านเล่าว่าท่านสัมผัสถึงกาลมรณะตลอดเวลา ซึ่งจะต้องมีคนเสียชีวิต ในที่สุดคุณแซมก็เสียชีวิต ท่านว่าจะเรียกว่าเด็กเป็นฮีโร่ไม่ได้และต้องสอนให้เด็กๆมีความกตัญญูรู้คุณต่อผู้ที่ช่วยเหลือเขาให้รอดปลอดภัยออกมา ท่านว่าเด็กพวกนี้เป็นเด็กดี โค้ชก็เป็นคนดีอยู่ในศีลธรรม
จึงรอดปลอดภัยมาได้ด้วยอานุภาพแห่งบุญมีคนเกื้อหนุนทั้งโลก
ธรรมนี้ สรุปตาม อาจารย์อารยวังโส แห่งวัดป่าพุทธพจน์ จังหวัดลำพูน

สถาบันวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติ

กระแสจิต กระแสธรรม : เรื่องราว มหัศจรรย์ทางจิตที่เกิดขึ้นก่อนที่จะค้นพบ ตำแหน่งที่ทีมหมูป่า ถูก’ถ้ำบัง’
ด้วยโลกภายนอกไม่รู้ชะตากรรมของพวกเขา พิธีกรรม มงคลเมตตาได้ถูกนิมนต์ให้ดำเนินขึ้น ในโพรงถ้ำ เปิดมิติเร้นลับ ระบุตำแหน่ง
โดยมีประจักษ์พยาน ผู้บัญชาการหน่วยซีล อยู่ในพิธี
คุณค่าของการปฏิบัติธรรม ส่งโทรจิตด้วยพลังสมาธิ ในภาวะวิกฤตของทีมหมูป่า
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตเมตตา ได้เห็นการร่วมแรง ร่วมใจกันช่วยเหลือเด็กๆ 13 คน ที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย
จ.เชียงราย แล้วต้องกล่าวว่า น่าอนุโมทนายิ่งในน้ำจิตน้ำใจของทุกฝ่าย จนได้พบว่าเด็กๆ ยังมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยดีทุกคน
ซึ่งก่อนหน้านี้ยากจะคาดเดา ด้วยไม่มีใครรู้จริงในการเผชิญกับภัยธรรมชาติจากน้ำ ที่ไหลหลากมาเติมเต็มช่องทางเดินในถ้ำหลวง
ที่พาดตัวยาวไปตามแนวเขา ระยะทางหลายกิโลเมตร

เมื่อตอนค่ำประมาณสามทุ่มของวันที่ 3 กรกฎาคม ผบ.หน่วยซีล หัวหน้ามนุษย์กบและเจ้าหน้าที่ทหารเรือหลายท่าน มากราบอาตมาที่ถ้ำพระ ที่อยู่ใกล้กับถ้ำหลวงในเทือกเขานางนอน ที่อาตมามาแขวนกลดนั่งภาวนาอยู่ในค่ำคืนนี้ พร้อมคณะสงฆ์วัดป่าฯ จำนวน 7 รูป เพื่อปฏิบัติศาสนกิจเจริญภาวนาแผ่เมตตาแด่สรรพสัตว์ทั้งหลายไปทั่วอาณาบริเวณ อันเป็นกิจปกติของพระกรรมฐาน โดยมีหน่วยซีลถวายการดูแลตามความเหมาะควร เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่กำลังเคร่งเครียดต่อการทำงาน แม้ว่าจะได้พบเด็กๆ แล้วก็ตาม แต่ตราบที่ยังนำเด็กๆ ออกมาไม่ได้... Mission Impossible ดังกล่าวก็ยังไม่สามารถยุติได้
จึงเห็นใบหน้าเคร่งเครียดของ ผบ.หน่วยซีล ที่เพิ่งโทรศัพท์คุยกัน เมื่อวันที่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ประทับแรม เพื่อทรงปฏิบัติธรรม ณ วัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) จ.ลำพูน

หลายวันที่ผ่านมา ชาวไทยทุกคนคงจดจ่อต่อการติดตามข่าวสารเรื่องดังกล่าว แม้ในส่วนของพระสงฆ์ก็เช่นเดียวกัน
จึงมีการประกอบศาสนกิจเพื่อกระทำสัตยาธิษฐาน ขออำนาจธรรมช่วยขจัดภัยทั้งปวงให้สิ้นไป
เด็กๆ จะได้ออกมาจากถ้ำกลับคืนอ้อมกอดพ่อแม่โดยสวัสดี แต่ในสถานการณ์ที่รับทราบกันดีว่า อันตรายพอสมควรต่อการต้องติดกับภัยธรรมชาติที่เป็นปกติของเขา
แต่ไม่ปกติของเรา จึงไม่มีใครเชื่อมั่น 100 เปอร์เซ็นต์ว่า เด็กๆ จะปลอดภัย จึงมีกระแสข่าวหลากหลายหลุดออกมาจากช่องทางของถ้ำในภูเขาขุนน้ำเทือกเขานางนอน เรื่องราวระหว่างเจ้าหญิงกับชายหนุ่มที่เป็นสามีจึงถูกนำมาเล่ากันในหลายรูปแบบ
สร้างสีสันให้น่าสนใจประกอบกับข่าวสารเด็กๆ ติดอยู่ในถ้ำที่ผู้เชี่ยวชาญทุกสาขากำลังหาหนทางช่วยเหลือทั้งจากในและต่างประเทศ

ในขณะที่ด้านนอกกำลังโกลาหลด้วยการทำงานวิธีการต่างๆ และข่าวสารที่ถูกแพร่กว้างไปทั่วในทุกมิติจนเป็นที่น่าสนใจไปทั่วโลก.. ภายในถ้ำหลวงที่เด็กๆ หนีภัยน้ำป่าไหลหลากลงมาทางช่องทางเดินในภูเขา ที่เชื่อมโยงสู่ถ้ำต่างๆ ออกสู่ถ้ำหลวง กลับสงบเงียบ เพื่อรอคอยการช่วยเหลืออย่างมีสติปัญญา... พระเถราจารย์รูปหนึ่งได้เจริญภาวนาตามปกติ และได้รับสัมผัสจากการส่งจิตของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ดูน่าจะมีอายุมากกว่าเด็กทุกคน ที่ส่งออกมาขอความช่วยเหลือ โดยจิตของเด็กมีกำลังสมาธิพอสมควร มีความสว่างพอรับรู้ได้ ที่น่าสนใจตามที่พระเถราจารย์ ท่านกล่าว คือ จิตไม่เดือดร้อนเป็นทุกข์ใดๆ มีความสงบพอสมควร แม้จะปรากฏภาพซุกตัวนั่งกันอยู่บนซอกถ้ำที่ยกตัวสูงเหนือน้ำไปทางด้านซ้าย ตรงตำแหน่งใกล้ฐานนมที่ทราบภายหลังว่า เรียกตรงจุดดังกล่าวว่า ฐานนมสาว ห่างจากพัทยาบีชไปหลายร้อยเมตร

แต่ขณะที่พระเถราจารย์รับรู้ถึงจิตของเด็กคนดังกล่าวว่า
ขอความช่วยเหลือมาสู่จิตภายนอก พร้อมจิตเด็กคนอื่นที่ช่วยกันส่งความรู้สึกนึกคิดออกมาตามกำลังสมาธิที่พอมีกันบ้าง กลับปรากฏคำว่ากาลมรณะเข้ามาจนยากตัดกระแสจิตเด็กเหล่านั้น...
จึงนำไปสู่ความห่วงใยของพระเถราจารย์รูปนั้นต่อความปลอดภัยในชีวิตของเด็กๆ เหล่านั้น การกระทำสัตยาธิษฐานตามหลักธรรมในพุทธศาสนาจึงเกิดขึ้น หลังจาก 27 มิถุนายน 2561 ที่ได้รับทราบกระแสจิตของเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กหนุ่มที่มีอายุมากกว่าทุกคน
เมื่อนำรูปมาถวายให้ท่านได้พิจารณา ในภาพทั้ง 13 เด็กของทีมหมูป่าฯ พระเถระท่านได้ชี้ไปที่รูปใบหน้าออกเหลี่ยมๆ ซึ่งเป็นภาพของโค้ชทีมหมูป่าฯ ซึ่งเมื่อเปิดดูประวัติทราบว่า เคยบวชเรียนมาหลายพรรษา รู้จักการเจริญสมาธิ มีสติปัญญา เข้าใจหลักธรรมปฏิบัติพอสมควร ให้สมเหตุสมผลว่าน่าจะเป็นผู้มีสมาธิมากกว่าเด็กๆ ทุกคน และอาจจะสอนให้เด็กๆ ทุกคนช่วยกันทำสมาธิ
ก่อกระแสจิตออกมาขอความช่วยเหลือจากบุคคลภายนอก จึงอยู่ในข่ายที่พระเถราจารย์รับรู้ได้ ในยามบ่ายประมาณ 3-4 โมงเย็นของวันที่ ๒๗ มิถุนายน 2561 เมื่อออกจากสมาธิมา ท่านจึงเขียนตำแหน่งห้องตรงฐานนม (นมสาว) ส่งให้กับนายทหารรบพิเศษท่านหนึ่ง ระบุว่า เด็กน่าจะอยู่ตรงห้องดังกล่าวใกล้ฐานนมตามรูปภูเขาขุนน้ำนางนอน ที่มีลักษณะเหมือนผู้หญิงนอนขดตัวยาวไปทางแม่สายออกพม่าทางท่าขี้เหล็ก และระบุว่า ควรหาทางลงจากด้านบน น่าจะมีปล่องอากาศเจาะตรงลงไปที่ปริมณฑลของห้องดังกล่าว ที่เด็กๆ อาศัยหลบภัยอยู่... แต่ปรากฏคำว่า มรณกาล ขึ้นมา จึงไม่มั่นใจว่า เด็กๆ จะปลอดภัยหรือไม่...

เรื่องดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการนิมนต์พระป่ากรรมฐานในรูปของคณะสงฆ์เข้าพื้นที่ภูเขาขุนน้ำนางนอน เพื่อเจริญภาวนา
ขออำนาจธรรมขจัดอุปสรรคปัญหาต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่หน่วยซีล
ที่ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำไหลหลากมาตามช่องทางเดินในถ้ำ ให้ยากต่อการเข้าไปช่วยเหลือเด็กๆ ที่ทุกคนได้แต่ภาวนา ขอให้พวกเขามีชีวิตปลอดภัย
ด้วยสถานการณ์ที่ไม่เอื้อต่อการทำงานของหน่วยซีล ที่เล่นยึกยักอยู่กับกระแสน้ำในถ้ำ คณะพระภิกษุสงฆ์ที่ได้รับบัญชาจากพระเถราจารย์จึงสมาทานธุดงควัตร เพื่อออกจาริกปฏิบัติธรรม มุ่งหน้าสู่เขาขุนน้ำนางนอนในวันที่ 2 กรกฎาคม 2561 โดยมีหน่วยซีลถวายการต้อนรับ จัดให้เข้าพักภาวนาบริเวณถ้ำพระ
เพื่อประกอบศาสนกิจของสงฆ์ตามธรรมวิธีในการอธิษฐานให้พื้นที่ดังกล่าวเป็น มงคลสถานจะได้หมดสิ้นอุปสรรคปัญหา และในเวลาสามทุ่มเศษวันเดียวกัน จึงได้พบเด็กๆ ทั้ง 13 ชีวิตปลอดภัยอยู่ในถ้ำตรงตำแหน่งใกล้ฐานนมสาว
ห่างจากพัทยาบีชไปหลายร้อยเมตรจริงๆ ตามที่เด็กๆ พยายามส่งกระแสจิตออกมาขอความช่วยเหลือที่พระเถราจารย์รับได้

อาตมาจึงเดินทางมาสมทบกับหมู่คณะในคืนวันที่ 3 กรกฎาคม 2561 เพื่อร่วมปฏิบัติศาสนกิจภาวนา
กระทำเทวตาพลีในยามใกล้รุ่งของวันที่ 4 กรกฎาคม ก่อนจะจาริกกลับเชียงแสนยามเช้า เพราะเห็นว่าเหมาะควรกับการปฏิบัติศาสนกิจแล้วในนามคณะสงฆ์ ซึ่งขณะนี้พื้นที่บริเวณถ้ำหลวงล้วนคราคร่ำไปด้วยหมู่คนจากสาขาอาชีพต่างๆ โดยเฉพาะสื่อมวลชนทุกแขนงที่เฝ้าติดตามข่าวนาทีต่อนาที เพื่อรายงานข่าวสารไปสู่สังคมตามหน้าที่ในยุคการสื่อสารไร้พรมแดน

สำหรับอาตมาได้พิจารณาเห็นประโยชน์ที่เด็กๆ
รู้จักการเจริญสมาธิ จนสามารถส่งกระแสจิตออกมาสู่บุคคลที่มีสมาธิให้สามารถรับรู้กันได้ ดังที่พระเถราจารย์ท่านได้เมตตาเล่าจากจิตภาวนาของท่าน.. ซึ่งคงจะได้สัมภาษณ์เด็กๆ เหล่านั้น เมื่อออกจากถ้ำในเรื่องดังกล่าว เพื่อเป็นบทเรียนให้เยาวชนหรือเด็กๆ ในวัยเรียนได้รู้คุณแห่งการเจริญสมาธิจิต ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ในทุกด้าน ซึ่งเรื่องดังกล่าวน่าจะนำมาเป็นจุดขยายผลในการชักชวนชักนำเด็กๆ หรือเยาวชนของชาติให้หันกลับมาเจริญสมาธิ
ปฏิบัติธรรมกันให้มากขึ้น เพราะอานิสงส์แห่งการเจริญภาวนา เมื่อบวกกับกำลังจิตจากการอธิษฐานธรรมของบุคคลที่ส่งมาสนับสนุน
ดังกรณีดังกล่าว ที่ประชาชนจำนวนมาก รวมถึงคณะสงฆ์ได้ช่วยกันอธิษฐานจิต เพื่อขอให้เกิดความปลอดภัยต่อเด็กๆ ทั้ง 13 ชีวิต จึงทำให้เด็กๆ เหล่านั้นผ่านพ้น กาลมรณะ ที่กำลังคุกคามได้ อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งในธรรมานุภาพแห่งจิต.. ที่ต้องอาศัยสมาธิ คือ สติปัญญา ที่รองรับด้วยศีล เป็นอุปการธรรม และโชคดียิ่งที่โค้ชของเด็กๆ ทีมหมูป่ามีความรู้ความสามารถในการเจริญสมาธิ .. รู้จักวิธีการอธิษฐานธรรม จนสามารถส่งกระแสจิตออกมาถึงผู้รู้พระเถราจารย์ ได้ เพราะนั่นย่อมให้ผลต่อการรับอำนาจบารมีธรรมคืนกลับไปสู่ชีวิตของเด็กๆ เหล่านั้น ให้มีกำลังชีวิต มีกำลังจิตที่เข้มแข็ง สามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ได้... อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง นับเป็นกุศลอย่างยิ่งในเด็กๆ ทั้ง 13 คน ที่รู้จักใช้วิกฤติเป็นโอกาสในการเจริญภาวนา เพื่อพึ่งอำนาจธรรม... ตั้งอยู่ในความอดทนจนได้พบกับการช่วยเหลือของบรรดาเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความสามารถจากทุกหน่วยงาน .. ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ทุ่มเทอุทิศชีวิตต่อการทำงานช่วยเหลือเด็กๆ ในครั้งนี้อย่างเต็มความสามารถ ดังปรากฏเป็นข่าวที่ควรแก่การสาธุการไปทั่วโลก.....

เจริญพร
‭dhamma_araya@hotmail.com‬
คอลัมน์: ปักธงธรรม: อัศจรรย์แห่งธรรม .. จากเด็กๆ ทีมหมูป่าฯ
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ศุกร์ที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๑
โดย. พระ อ.อารยวังโส

Create Date : 19 กรกฎาคม 2561

Last Update : 19 กรกฎาคม 2561 16:45:47 น.

0 comments

Counter : 4662 Pageviews.