|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ต้น ผักปลัง
ใบและต้นอวบน้ำ นำมาขยี้จะเป็นเมือกเหนียว
วิธีรับประทาน ยอดอ่อน กานอ่อน ใบอ่อน ดอกอ่อนของผักปลัง รับประทานเป็นผักได้โดยนำไปต้ม ลวก หรือนึ่งให้สุก ใช้แกล้มกับน้ำพริก หรือนำไปแกงแค แกงส้ม แกงปลา ผัดน้ำมันหอย แกงเลียง แกงกับแหนม ใส่แกงหน่อไม้ หรือใส่แกงอ่อมก็ได้
เป็นไม้เลื้อยเลื้อยยาวได้หลายเมตร ปลูกเลื้อยรั้วบ้านหรือแซมต้นไม้สูงใหญ่ก็ได้ ต้นที่บ้านไม่เคยได้เลื้อยยาวมาก เพราะเด็ดยอดไปกินก่อน55555
ดอก
ผลแก่สีม่วง-ดำมีแฉก นำมาขยี้จะฉ่ำน้ำเป็นเมือกเหนียว ผลของผักปลังที่สุกคั้นเอาน้ำจากผลจะจะมีสีม่วงแดงสามารถนำมาใช้แต่งสีขนมเยลลี่ หรืออาหารต่างๆได้ หรือเอาไปย้อมผ้าก็ได้
ปลูกง่ายขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ และเพาะเมล็ด ปลอดจากสารพิษ ไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลงแมลงเพราะไม่มีแมลงมาสนใจกิน
ประโยชน์ ในตำราแพทย์แผนไทยระบุว่า ใบ ใช้บดพอกแผลแก้อักเสบ น้ำคั้นจากใบแก้ผื่นคัน แก้กลาก ผื่นคัน ฝี เป็นยาขับปัสสาวะ ใบมีสรรพคุณ ใช้ทาถูนวดตามร่างกายเพื่อคลายเมื่อย เพราะมีส่วนทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น (ข้อมูลจากสถาบันแพทย์แผน ไทย กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข/2544)
ดอก ใช้ทาแก้เกลื้อน ฝีดาษ แก้พิษ
ราก แก้มือเท้าด่าง แก้รังแค ใช้ทาถูนวดให้ร้อนเพื่อให้เลือดมาหล่อเลี้ยงบริเวณที่ทามากขึ้น
ต้นหรือเถาใช้กินแก้พิษฝีดาษ แก้ขัดเบา ลดไข้
ผลสีม่วงใช้แต่งสีอาหาร
มีเบต้า-แคโรทีน ที่ช่วยป้องกันมะเร็ง แก้โรคมะเร็ง โดยนำมาต้มหรือแกงทำเป็นอาหาร ใช้ได้ทั้งใบและก้าน ให้คนป่วยรับประทานประจำ
ผักปังยักษ์ ไม่รู้กลายพันธุ์รึเปล่าใบใหญ่มากกก ขนาดยังกะจาน
นอกจากนี้ ยอดอ่อน ใบอ่อน และดอกอ่อน ใช้เป็นยาระบายอย่างอ่อน ช่วยลดอาการแน่อนท้อง บำรุงธาตุ บำรุงดวงตาและฟันให้แข็งแรง ช่วยระบายในคนที่ท้องผูกเป็นประจำ
ชาวบ้านใช้ผักปลังเป็นยา โดยเฉพาะผักปลังแดง ตามตำรายาไทย เขาใช้ใบแก้โรคผิวหนัง โดยนำมาตำให้ละเอียด คั้นเอาแต่น้ำมาละลายน้ำแล้วทา ใช้ใบรักษาโรคผื่นคันธรรมดา นอกจากนี้หมอตำแยทางเหนือยังนิยมคั้นเอาน้ำเมือกของใบผักปลังมาทาช่องคลอด นัยว่าจะช่วยให้คลอดง่ายขึ้น ผู้เฒ่าผู้แก่ยังแนะนำให้หญิงมีครรภ์กินผักปลังเป็นประจำ โดยเชื่อว่าความลื่นของเมือกจากใบจะทำให้คลอดง่ายขึ้น
ลำต้นและเมล็ดของผักปลังแดงที่มีสีแดงม่วง มีเม็ดสีแอนโทไซยานิน ถ้าหากนำน้ำคั้นจากลำต้นและเมล็ดของมันไปย้อมผ้าจะได้สีม่วงอ่อนสวยมาก อย่างไรก็ตามคนโบราณใช้น้ำคั้นสีแดงเข้มจากผักปลังมาแต่งสีในขนมเช่นทำขนมถ้วยฟู ขนมน้ำดอกไม้ ทำบัวลอย และซ่าหริ่ม เป็นต้น
อ้างอิง
//www.balavi.com/content_th/nanasara/Con00111.asp
//oho.ipst.ac.th/Bookroom/snet4/may11/malabar.htm
//www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87
Create Date : 29 เมษายน 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 30 สิงหาคม 2559 14:56:44 น. |
Counter : 2343 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|