เยือนเชียงใหม่ ย่ำไนท์บาซาร์ แล้วไปจิบน้ำชาที่ COFFEE IMPRESSO

ช่วงที่ผ่านมาผมหายไปหลายวัน เหตุที่หายไปก็เพราะต้องเดินทางไปดูงานที่เชียงใหม่ คณะของเราออกเดินทางตั้งแต่เช้าวันที่ ๖ กรกฎาคม ไปถึงเชียงใหม่ก็เย็นพอดี เช็คอินเข้าโรงแรมประมาณ ๕ โมงเย็น ไปถึงยังไม่ต้องทำอะไรก็ถูกกวาดต้อนเข้าห้องประชุม ประชุมเสร็จจึงได้รับประทานอาหารและเข้าห้องพัก โรงแรมที่เราพักคือโรงแรมพรพิงค์ ทาวเวอร์ อยู่ใกล้ๆไนท์บาซาร์ เมื่อเสร็จธุระแล้ว ผมกับเพื่อนจึงออกไปเดินเล่นที่ไนท์บาซาร์กัน



เดินไปแล้วก็รู้สึกเหงาๆ ผมคิดว่าคนเดินที่นี่น้อยผิดปกติ ในส่วนตัวผมเองก็ไม่มีความรู้สึกตื่นเต้นกับสินค้าหลากหลายที่วางขายอยู่ จำได้ว่าตอนที่มาเยือนไนท์บาซาร์ครั้งแรก ผมรู้สึกตื่นตาตื่นใจมากทีเดียว



สำหรับสินค้าที่วางขายในไนท์ฯ ผมและเพื่อนลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นสินค้าอย่างเดียวกับที่วางขายในตลาดจตุจักร เรียกว่าที่ไนท์ฯมีอะไร ที่จตุจักรก็มีเหมือนกัน



ส่วนมากคนที่มาเดินที่นี่จะเป็นชาวต่างชาติ



เดินไปได้นิดเดียวก็รู้สึกว่าสุขภาพไม่เอื้ออำนวยจึงกลับโรงแรม มานั่งพักบริเวณลอบบี้ของโรงแรม นั่งอยู่สักพักเกิดหายเมื่อยขึ้นมาจึงชวนเพื่อนไปดื่มกาแฟ

เราเดินออกมาที่ไนท์บาซาร์อีกครั้ง แล้วนั่งรถสองแถวแดงไปที่ถนนห้วยแก้ว บอกสองแถวว่าลงตรงคอนโดล้านนา ๒ คนขับบอกราคา ๔๐ บาท (สองคน) ผมไม่รู้ว่าแพงไปหรือเปล่า แต่ตอนที่ผมอยู่ที่เชียงใหม่ (เมื่อนานมาแล้ว) ใช้เงินแค่คนละ ๕ บาทก็ไปถึงแล้ว พอรถจอดตรงคอนโดล้านนา ๒ ผมกับเพื่อนเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามก็ถึงร้านที่เป็นจุดมุ่งหมายของเรา



ร้าน COFFEE IMPRESSO



ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆแต่บรรยากาศดีทีเดียวครับ



ที่จริงตอนแรกเราตั้งใจจะไปดื่มกาแฟกัน แต่เปลี่ยนใจมาดื่มน้ำชาแทนเพราะวันนั้นเราดื่มกาแฟกันมาคนละ ๓-๔ แก้วแล้ว แต่ที่จริงทั้งชากาแฟก็ล้วนแต่มีคาเฟอีน



บังเอิญที่ตอนที่เราไปไม่มีลูกค้าอื่นเลย ผมจึงนั่งคุยกับเจ้าของร้านชื่อที่มีชื่อเล่นว่า"แน่" เขาบอกว่าเขามีความสุขกับการชงกาแฟมากกว่าชงชา แล้วเล่าให้ฟังถึงเรื่องกาแฟ ฟังแล้วก็รู้สึกว่ากว่าที่จะเป็นกาแฟให้เราดื่มในร้านนี้มันเป็นศิลปมากกว่าอาหารธรรมดา ตั้งแต่การคัดเลือกกาแฟจากแหล่งต่างๆ ซึ่งกาแฟที่ปลูกแต่ละแห่งจะให้รสชาติไม่เหมือนกัน เรื่อยมาจนถึงการชง ผมเพิ่งรู้เป็นครั้งแรกว่าแม้แต่นมยังต้องควบคุมอุณภูมิ



เมื่อได้ฟังคำบอกเล่าของ"แน่" แล้ว ผมคิดว่าการดื่มกาแฟซึ่งมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ ๓๕-๔๐ บาท นั้น ไม่แพงเลยครับ



ก่อนที่ผมจะกลับ "แน่"บอกผมว่าก่อนที่จะเปิดร้านนี้ เขาเสียเงินสำหรับการดื่มกาแฟเป็นเรือนหมื่น เขาจึงมั่นใจว่าร้านกาแฟของเขาไม่เป็นสองรองใครในเชียงใหม่ในเรื่องของคุณภาพอย่างแน่นอน ใครที่อยู่เชียงใหม่หรือมีโอกาสไปเยือนเชียงใหม่ ผมอยากจะเชิญชวนลองเข้าไปจิบกาแฟที่ร้านนี้ครับ และถ้าพบชายหนุ่มร่างผอมเพรียวสวมแว่นสายตา ลองคุยกับเขาดู ผมเชื่อว่าเขาเป็นกันเองกับทุกคนครับ



คืนนั้นกว่าเราจะออกจากร้านก็เป็นเวลาเกือบ ๕ ทุ่ม ก่อนที่จะได้เวลาปิดร้านเล็กน้อย ร้านนี้เปิดตั้งแต่ ๑๐.๐๐ น. ถึง ๒๓.๐๐ น. ทุกวันไม่มีวันหยุด ผมเก็บมาเล่าเพราะรู้สึกว่าน้องเขามีความฝันและมีความมุ่งมั่นมากครับ

Create Date : 10 กรกฎาคม 2548 Last Update : 28 มกราคม 2559 1:28:56 น. Counter : 1485 Pageviews.		32 comments
Share Tweet