Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
20 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
บ้านเมืองเรา เราต้องรักษา~

20 พฤษภาคม 2553~หดหู่ หดหู่ หดหู่

ยาวหน่อย ใหญ่ด้วย...(ฮ้า)

แหม......

อย่าคิดเมิ่กกกก...

อิชั้นหมายถึงบล้อกอ่ะนะคะ

ใครไม่อยากอ่านก็ข้ามไปถึงย่อหน้าสุดท้ายเลยละกันเน้อ วันนี้ขอบ่นใส่บล้อกให้ชุ่มปอดสักวันหนึ่งในฐานะที่เป็นคนที่ได้รับผลกระทบทางสมองซีกซ้ายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาหลายวันแล้วอ่ะนะ..

.....................


ปกติส่วนใหญ่บล้อกนี้ อิชั้นมักจะใช้เป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับอัพสถานะฟามเคลื่อนไหวทางหัวใจและการงานเฮ่าะ

แต่หลายต่อหลายวันที่ผ่านมานี้ มันมีเรื่องราวในบ้านในเมืองหลายต่อหลายอย่างที่ทำให้อิชั้นอยากจะพูดแต่พูดไม่ออก อยากจะบอกแต่บอกไม่ถูก ประดังประเดโถมซัดกันเข้ามามากมายเหลือเกิน และเรื่องราวเหล่านั้นถึงปิดหู ก็ได้ยิน ปิดตาก็ยังได้เห็น ได้รับรู้รับทราบแทรกซึมเข้ามาจากข่าวสารทุกทิศทุกทางเหมือนมันออสโมซิสสเข้ามาในหัวขมองอิชั้นโดยที่มิทันจะอนุญาตยังไงยังงั้น

วันนี้ลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมด้วยอาการมึน ๆ เหมือนเมื่อคืน (ขนาดเมื่อคืนได้เสียกะไทลินอลไปสองเม็ด+คลอเฟนิรามีนอีกหนึ่ง ก็ยังเอาไม่อยู่) อารมณ์บานเบิกที่ควรที่ควรจะเป็นมันหายไป จะไปแจ้งฟามที่โรงพัก ก็กลัวจะไปเจอมะเขือเทศในดงตำหนวด อิชั้นก็เลยได้แต่นั่งนิ่ง ๆ ดวดกาแฟแกล้มความคิด แล้วก็นึกลำดับถึงสาเหตุและผลของเหตุการณ์ที่ผู้คนลุกขึ้นมาเผาบ้านเผาเมืองตัวเองในครั้งนี้อยู่เงียบ ๆ คนเดียว(แต่หลายใจ)อ่ะนะคะ

จะผิดไหม ถ้าจะลำดับมาลำดับไปแล้วอิชั้นเห็นสาเหตุเพียงข้อเดียวที่ทำให้ประเทศชาติต้องดำเนินไปสู่แดนมิคสัญญีอย่างเช่นที่เราเห็นเมื่อสองสามวันก่อนนี้..

สาเหตุข้อเดียวข้อนั้นมีชื่อเล่นว่า "แม้ว" เฮ่าะ

อาจจะมีคนบางคนที่หัวจิตหัวใจเอนเอียงไปทางอดีตผู้นำคนนั้นแย้งมาว่า..พวกเขาก้าวข้ามแม้วไปแล้ว สิ่งที่ทำไม่เกี่ยวข้องอะไรกับแม้ว (แม้วถูกรังแก แม้วถูกรังแกร๋..)..แต่ถ้าหูไม่บอด ตาไม่หนวกเกินไปนัก คุณจะรู้ว่า..ไอ้สิ่งที่คุณพูด ๆ ๆ ๆ มานั่นอ่ะ มันมีความจริงขนาดเท่าแค่ตรูดมด

แม้วคือใคร..มายังไง..เป็นวีรบุรุษประชาธิปไตยแบบที่ผู้ชุมนุมกล่าวอ้างประเภทไหนถึงได้กล้าทำลาย ทำร้ายประเทศชาติของเราถึงขนาดนี้..อิชั้นคงไม่ลงไปในรายละเอียดหรอกนะคะ มายังไงไม่ว่า แต่มาแล้ว..ทำหน้าที่ที่ได้รับมาได้คุ้มค่า ซื่อตรงแค่ไหน นี่สิสำคัญกว่า

ไม่ใช่มา..เพราะมีนัยยะแอบแฝงและผลประโยชน์ส่วนตนที่ซ้อนทับผลประโยชน์ของชาติ ด้วยความอยากได้ใคร่มีของตัวเองแบบไม่สนว่าเมืองไทยจะต้อง ship หายหรือไม่แบบที่เขาทำอยู่นั่น (และอยู่นี่)

ครั้งนึง..มีสาวสวยแดนไกลคนนึงจากโต๊ะราชดำเนิน หลังไมค์มาหาอิชั้นเฮ่าะ

เธอกล่าวว่า ".......วันนี้ดิฉันเป็นเสื้อแดงค่ะ ไม่ใช่เพราะทักสิน เเต่ดิฉันเกลียดสังคมดัดจริต สังคมที่ใช้คุณธรรมจอมปลอม ใช้ถิ่นที่อยู่อาศัย ฐานะ ความรู้มา prejudice คนที่คิดต่าง..." แล้วก็ไม่วายกล่าวอีกว่า.."..สำหรับเราเราเคารพทุกเสียงค่ะ แต่ไม่ชอบคนที่อ้าง"เสียงส่วนใหญ่"โดยใช้เพียงลมปาก.." เธอจะรู้ไหมหนอ...ว่าไอ้สิ่งที่เธอพูด เธอกล่าวมาทั้งหมดนั้น มันย้อนศรกลับไปทิ่มแทงตรรกะแถ ๆ ของตัวเธอเองเต็มประตู ไอ้ความชอบธรรม สังคมอุดมปัญญา และสังคมในอุดมคติของเธอ มันแลกมาด้วยการเหยียบย่ำชาติ บ้านเมือง และคนร่วมชาติ โดยไม่ให้แม้แต่โอกาสในการแสดงความเห็นต่างเลยแม้แต่น้อย..งั้นหรือคะ

"ความไม่เท่าเทียมกันในสังคม" เป็น "ความดัดจริต เป็นสังคมจอมปลอม" อย่างนั้นหรือ..อิชั้นอยากให้คนสวยคนนั้น มองไปรอบ ๆ ตัวเธอสักนิดนึงค่ะ

จะเอี้ยวซ้ายแลขวา ไขว้ขาหน้าขอกล้วย อิชั้นก็ไม่ว่า (เฮ่ย..อันนั้นมันช้างแล้ว) แต่อยากให้เบิ่งตา เปิดความคิดดูสักนิด ว่า ใดใดในโลกนี้ล้วนมีความเท่าเทียมกันหรือไม่

เอาง่าย ๆ ค่ะ..ใบไม้ทุกใบ ต้นไม้ทุกต้น ใบเท่ากัน ดอกเท่ากัน สีเหมือนกัน ความสูง สัดส่วน รอบอก รอบเอว รวมไปถึงความสามารถในการจรรโลงโลกให้เขียวสดใส เหมือนกันหรือไม่..

บางต้นเป็นได้แค่วัชพืช (แต่ก็ยังมีประโยชน์นะ ยังคลุมดินรักษาความชุ่มชื้นให้ผืนโลก)..บางต้นเป็นต้นไม้มีพิษ บางต้นเป็นต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา บางต้นออกดอกเพื่อแต่งแต้มสีสันให้โลกสวย บางต้นเป็นยารักษาโรค แต่แม้ความสำคัญไม่เท่าเทียมกัน..แต่ทุกต้น ล้วนเกิดมามี "ความหมาย" และมี "หน้าที่" กันทั้งนั้นอ่ะนะ

สังคมก็เช่นกันค่ะ..

แต่ละคนที่เกิดมาบนโลกใบนี้ ใช้ชีวิตอยู่บนสังคมง่อย ๆ และดัดจริตอย่างที่คุณว่านี้ ถึงแม้มีความไม่เท่าเทียมกัน แต่ทุกคน ล้วนมีความสำคัญและมีหน้าที่ที่สำคัญต่อชาติบ้านเมืองเหมือนกัน..ทุกชีวิตต่างต้อง "เอื้อประโยชน์" แก่กันทั้งต่อต้นไม้ด้วยกันเอง หรือแม้แต่กับสัตว์สปีชี่อื่น

อิชั้นคงไม่ปฏิเสธว่าสังคมทุกวันนี้..มีความไม่เท่าเทียมกันในหลาย ๆ ด้าน แต่ขอย้อนกลับไปถามสาวสวยคนนั้นดูสักหน่อย ว่าปัจจัยก่อนที่จะเกิดความไม่เท่าเทียมนั้นเกิดจากอะไรบ้าง..

มันไม่ใช่ลำพังแต่ปัจจัยภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่ความไม่เท่าเทียมกันของแต่ละชีวิตนั้น ยังเกิดมาจากปัจจัยส่วนตน ของมนุษย์แต่ละผู้อีกด้วย

คุณตะแบงอยากแก้สังคมให้เท่าเทียมกัน..แต่คุณดันลืมไปว่า สังคมเป็นอย่างไร ก็เพราะผู้คนในสังคมเป็นอย่างนั้น.....เพราะฉะนั้นคุณจะมาร่ำร้องขู่กรรโชกให้แก้ไขความไม่เท่าเทียมกันในสังคมอย่างเดียวไม่ได้ มันปลายเหตุไปแล้ว คุณต้องแก้ที่ "คน" (โว้ยย..) กลับไปแก้ตรงจุดเริ่มต้นเสียก่อน

"คน" ยังแตกต่างแล้วจะให้สังคม "เท่าเทียมกัน" ได้หรือคะ

ความแตกต่างและไม่เท่าเทียมกันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนค่ะ นักการเมืองบางคนหยิบยกเอาความน้อยเนื้อต่ำใจพวกนี้มาเล่น เพียงเพื่อปูทางให้ตนก้าวขึ้นเสวยอำนาจ โดยไม่ได้มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมกันเหล่านี้แต่อย่างไร (แก้อย่างไรให้ยั่งยืนเป็นสิ่งสำคัญ มิใช้แก้โดยใช้นโยบายประชานิยม เพียงเพื่อให้ตัวเองอยู่แสวงสุข+อำนาจ เพื่อกอบโกยผลประโยชน์ไปนาน ๆ)

ผู้คนคลั่งแค้นสังคม เพราะสังคม "ไม่ให้" ในสิ่งที่พวกเขาต้องการ..พวกเขาคงลืมไปว่า ตัวเองก็มีหน้าที่ให้แก่สังคมเช่นกัน..แล้วพวกเขา "มี" และ "ให้" ในสิ่งที่สังคมต้องการกันรึเปล่า..ลองย้อนถามกลับไปที่ตนเองดูกันบ้างก็ดีนะ

ไม่มีอะไรได้มาโดยง่ายค่ะ ลำพังแค่เศษเงิน เศษเนื้อของนักการเมืองขี้ฉ้อที่โยนลงจากโต๊ะบุปเฟ่ต์ที่ชื่อว่า ประเทศชาติ มันไม่ได้พอยาไส้ทั้งตัวคนที่ได้รับรวมไปถึงลูกหลานและพยาธิตัวตืดที่ขดเป็นรูปตัว S กลางลำไส้ใหญ่ ได้ตลอดชีวิตหรอก

"รักแม้ว" เพราะแม้ว "ให้กิน" ระวังว่าไอ้สิ่งที่กิน ๆ กันเข้าไปนั่นน่ะ จะเป็นเศษเนื้อจากหน้าแข้งของตัวเองกันนะคะ

..............

ณ.วันนี้ อิชั้นสะสมความเครียดจนเกือบจะได้แต้มทัวร์อุรุกวัยอยู่แล้วค่ะ.. (อยากไปรึ)

ในฐานะประชาชนตัวเล็ก ๆ (แต่สวย..) มันเป็นความทรมานใจอย่างหนึ่ง ที่ทำได้แต่เฝ้าดูความเสียหายย่อยยับของบ้านเราเมืองเรา โดยทำอะไรไม่ได้เลย

สิ่งหนึ่งที่พอจะทำได้ในขณะนี้ก็คือ การรู้จัก "หน้าที่" ของตัวเอง ว่ามีหน้าที่อะไรทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น และทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด

เฝ้าภาวนาขอให้บ้านเมืองสงบ ความสุขกลับคืนมาอยู่ในใจคนไทยทุกคนโดยเร็ววัน ขอให้ความรังเกียจเดียจฉันท์ที่เกิดจากการปลุกปั่นของคนบางจำพวกจางหายไปโดยเร็ว..

คนไทยทุกคนควรจะได้รับบทเรียนแล้ว ว่าสิ่งที่ตนเองทำ สิ่งที่ตนเองเจอ มันส่งผลดีผลเสียอย่างไรกับชีวิตและประเทศชาติบ้าง

หวังใจไว้ว่าผลแห่งการเรียนรู้ และได้รับบทเรียนนั้น จะเป็นตัวช่วยพลิกผันให้ประเทศชาติพัฒนาไปอีกระดับหนึ่ง..ช่วยกันสอดส่องดูแลความทุกข์สุขของคนในชาติ พยายามคัดเลือกผู้แทนใจซื่อมือสะอาดเข้าไปบริหารบ้านเมือง ใช้สติมากกว่าใช้อารมณ์

............



อิชั้นไม่ใช่พวกสีแอ๊บขาว ไม่ได้มีความเป็นกลางจนกล้าพูดว่าตัวเองดีเลิศประสริฐศรีกว่าชาวบ้าน แต่อิชั้นก็มั่นใจว่า อิชั้นรักชาติ ศาสน์ กษัติย์ เสมอนะคะ

แล้วคุณล่ะ............บอกรักชาติบ้างหรือยัง

i'm not superman









Create Date : 20 พฤษภาคม 2553
Last Update : 20 พฤษภาคม 2553 20:13:51 น. 1 comments
Counter : 1360 Pageviews.

 
อ่านแล้วหลงรักเจ้าของ blog เลยนะเนี่ย


โดย: ไม่บอก IP: 148.88.227.217, 194.80.32.8 วันที่: 20 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:11:04 น.  

i'm not superman
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




ผู้ใหญ่ไซส์ S ที่พยายามจะทำให้ชีวิตมีความสุขไซส์ L
เสมอ~

...................

สงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๘ ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน Blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และโดยอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ใดฝ่าฝืน จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด

..................................

ถ้าอยากมีความสุขหนึ่งปี ก็แค่ถูกหวย แต่ถ้าอยากมีความสุขตลอดชีวิต ก็จงรักงานที่ทำ~













Friends' blogs
[Add i'm not superman's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.