ไม่ยุ่งเลยสักติ๊ด~
ช่วงนี้หนูถีบจักรเหนื่อยนิดหน่อยอ่ะค่ะ
..แหะ ๆ..
อยู่ในช่วงจำศีลหัวใจและการกระทำเล็กน้อย ก็เลยไม่ค่อยจะมีเรื่องอะไรตื่นเต้ววมาอัพบล้อกให้ได้อ่านกันนัก..
.................
เอาเป็นว่า ขอส่งข่าว ด้วยการอัพชีวิตประจำวันที่ซ้ำ ๆ กันเกือบทู๊กกกวันให้อ่านก็ละกันเนอะ..
.........................
เมื่อวานนี้ อิชั้นออกจากบ้านตั้งแต่ 8 โมงเช้าเฮ่าะ..
นายแม่ติดรถไปเที่ยวด้วยตามเคย แต่ก่อนอื่น เราต้องแวะไปที่บ้านของช่างผู้รับเหมา ที่ขนนั่งร้านเหล็กของเรามา เพื่อให้คนงานขนคืนใส่รถเสียก่อน
อันว่านั่งร้านเหล็กเหล่านี้ เป็นนั่งร้านเหล็ก ที่ผู้รับเหมารายเก่าซึ่งสร้างตึก 5 ของอิชั้นทิ้งเอาไว้จำนวนเกือบ 30 ชุดอ่ะนะคะ
ความจริงเค้าก็จะมาเอาคืนแหละ แต่ด้วยความที่เค้าเองก็ยังต้องมาคิดบัญชีเพื่อจ่ายเงินคืนอิชั้น ถึงเกือบ 3-4 แสนบาท(เบิกเงินเกินไปแล้วทิ้งงานอ่ะค่ะ ) ..คุงพี่ก็เลยมิยอมมาเอาซะงั้น..นั่งร้านเหล่านี้ก็เลยตกเป็นจำเลยรักของอิชั้นไปโดยปริยาย
ไอ้ครั้นจะวางของ กองทิ้งไว้เขละขละเจ๋ย ๆ..ก็ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์เกินไปอ่ะเนอะ ดังนั้น นายแม่จึงอนุญาตให้ช่างผู้รับเหมาตึก 6 นำนั่งร้านเหล่านั้น มาใช้งานได้ ปรากฎว่า พอสร้างตึก 6 เสร็จ ช่างผู้รับเหมาเจ้านี้ จะหักคอ(ตีเข่า) ขอซื้อต่อนั่งร้าน ในราคาชุดละ 700 บาทซะนี่ ยังไม่ทันได้ตกลง เออออห่อหมกเลย..คุงพี่ก็จัดแจงให้ลูกน้องขนขึ้นรถแล้วก็เอากลับบ้านไปหมด เล่นเอานายแม่เต้นเป็นจังหวะสามช่า บอกว่า ตรูม่ายขายว้อยย..จาเก็บไว้ให้ลูกสาวปีนเล่น 555 เอาก็เอา เผื่อสูงกว่านี้อีกสักติ๊ด...(ความจริง จะเก็บเอาไว้ใช้งานเองอ่ะค่ะ เพราะนั่งร้านใหม่ชุดละ 2,000 กว่าบาท แถมถ้าไปเช่าเค้าเอาก็แพงตับฉี่..อีกอย่าง อิชั้นเองก็ยังมิรู้ว่าจะขยายงานอีกรึเปล่า เงินที่ขายได้ก็นิดเดียว สู้เก็บไว้เผื่อใช้งานดีกว่า)
เมื่อไม่ขาย..ก็เลยต้องไปขนคืนค่ะ เมื่อวานนี้ก็เลยต้องไหว้วานให้น้าชายไปช่วยเอารถปิคอัพมาบรรทุกอีกคันนึง แล้วก็เอาไปฝากเก็บไว้ที่หน้างานน้าชายก่อน...ถือเป็นอันเสร็จเรื่องไป
ขนนั่งร้านกันเสร็จ อิชั้นก็พานายแม่เข้าไปเช็คงานที่ตึก
เซ็นต์งานเสร็จแย้ว นายแม่ก็ชวนยิก ๆ ให้ขับรถไปแถว อ.วังทองหน่อย เพราะอยากซื้อพวก เปลหวาย ตะแกรง กระด้ง ไม้กวาดหยากไย่ ไปเติมที่ร้าน เนื่องจากลูกค้ามาหาซื้อแล้ว มันมิมีอ่ะ อิชั้นก็เลยสั่งงานลูกน้องไว้ แล้วพายัยคุงนายขับไปไกลถึงตีนเขานู่นอ่ะนะคะ..
เสร็จจากซื้อของที่ร้านนั้น นายแม่ก็ยังมิหนำใจ.. ยังทำกระลิ้มกระเหลี่ยบอกว่า..เนี่ย..ขับอีกนี๊ดดดเดียวก็จะถึง ร้านขายต้นไม้(ขาประจำ) ของนายแม่แล้วน๊า..อิชั้นช่วยขับเลยไปหน่อยเป็นไร เพราะตอนเน้ อยากจะได้ ต้นพวงแสด สักสองต้น เอาไปปลูกที่ตึก..มั่กมากก
อิชั้นก็..อ่ะนะ..มีแม่กะเค้าอยู่คนเดียว..แถมวันนี้เป็นวันหยุดซึ่งถือเป็นวันแห่ง "การตามใจ" เค้าอีกต่างหาก ก็..เอาฟระ..ขับไปอีกหน่อยก็ได้..
ผลก็คือ...พวงแสด 2 ต้นของนายแม่..งอกเป็น พวงแสด 4 ต้น ศรีมาลา 2 ต้น และต้นโกศลอีก 10 ต้น อย่างเน้เข้าข่ายหลอกลวงลูกนี่หว่า..ไหนว่าจะซื้อแค่ฉองต้นไงเล่า....อุอุ ..อย่างงี้ทุกทีแหละ บอกจะซื้อต้นไม้แค่ 2 ก็งอกเป็น 4 บอกจะซื้อ 10 ก็งอกเป็น 15 อีกหน่อยปลูกต้นไม้ที่ตึกมาก ๆ เข้าจนกลายเป็นป่าดงดิบ ลูกมิต้องแจกแผนที่ให้ลูกค้าแหวกดงต้นไม้ขึ้นตึกเร๊อะ...
.....................
กลับมาเช็คงานที่ตึกอีกรอบ ตอนเกือบ 4 โมงเย็นค่ะ..
ว่าจะตรงกลับบ้านแล้วเชียว ถ้าไม่บังเอิญว่าเดินไปดูงานหน้าตึก แล้วเห็นสภาพของ เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่อยู่หน้าตึกซะก่อน
สภาพเครื่องซักผ้าทั้ง 5 เครื่อง..ซกมกมากก.. อิชั้นเห็นแล้วของขึ้นอ่ะนะคะ ทำไมแม่บ้านไม่ดูแลเลย ทั้ง ๆ ที่เป็นหน้าที่ของเค้าแท้ ๆ แต่กลับปล่อยให้ทั้ง 5 เครื่องเขลอะซะยิ่งกว่าถังขยะในตึกซะอีก (พูดไม่เกินไปหรอกค่ะ อันนี้อยากให้เห็นด้วยตาซะจริง ๆ ทั้งคราบน้ำยาปรับผ้านุ่มที่แข็งกรังอยู่ในเครื่อง เศษผงซักฟอกที่กระจายไปทั่ว เศษผง หยากไย่ ตัวแมลง โอ้ย..เห็นแล้วจาเปงลม) อิชั้นก็เลยต้องโทร.เรียกแม่บ้าน เอาอุปกรณ์ทำความสะอาดออกมาช่วยกันลุเป็นการด่วน
เช็ด..ล้าง..ขัด..ถู..
ดึงเอาเศษสิ่งสกปรกที่อยู่ด้านหลังเครื่องออกมา พวกเศษขยะ เศษถุงน้ำยาปรับผ้านุ่ม ถุงผงซักฟอก กระทั่ง กุงเกงในที่หล่นไปหลังเครื่อง(เอาไปซักแล้วเอาไปขายเป็นของมือสองได้ป่าววะเนี่ย) อิชั้นกวาดดด..ออกมากองข้างนอกหมด..ช่วยกันทำไป ก็อบรมป้าแม่บ้านไปว่าหมกงานแบบนี้ไม่ถูก..แกยังเถียงอีกแน่ะ..ว่าแม่บ้านตึกหน้าก็ใช้ ทำไมไม่ให้เค้าทำบ้าง..อิชั้นล่ะของขึ้นเลยอ่ะ..ก็งานนี้มันเป็นงานของแกมาตั้งแต่แรกนะ แล้วเวลาแม่บ้านตึกหน้ามาใช้ เค้าก็หยอดเหรียญซักเหมือนกัน ก็ถือว่าเค้าเป็นลูกค้า ทำไมจะต้องเกี่ยงงานให้เค้ามาทำด้วย..อย่างนี้มันไม่ถูก..ดุป้าแม่บ้านไปหลายคำค่ะ..เล่นเอาแกหน้าจ๋อยไปเลย อีกอย่าง..อิชั้นก็บอกแกว่า แกก็รู้ว่านิสัยอิชั้นเป็นยังไง..ถ้าอะไรที่มันไม่หนักหนาเกินไป อิชั้นจะไม่พูดไม่เตือนอยู่แล้ว..แต่อันนี้ที่ต้องพูด เพราะก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าแกละเลยหน้าที่ถึงขนาดไหน..คิดดูจิ่คะ..ขนาด 4 คนมาช่วยกันขัดล้าง..แค่ 2 เครื่องยังปาเข้าไปเป็นชั่วโมง..อย่างนี้ไม่เรียกว่าปล่อยปละละเลยขนาดหนัก แล้วจะเรียกว่าอะไรเหรอ..
. . .
เอ๊า..บ่นให้ฟังซะงั้น ..แหะ ๆ..
เอาเป็นว่าช่วงนี้ชีวิตมิได้วุ่นวายอะไรนักค่ะ..
เนื่องจากปีนี้เป็นปีที่อิชั้นตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นปีแห่งการ "ซ่อมแซม สะสาง และส่งเสริม" ดังนั้น ปีนี้ก็จะเป็นปีที่ไม่ได้เข้าไปวุ่นวายในเรื่องของการ "สร้าง" เหมือนปีที่ผ่าน ๆ มา แม้จะยุ่งน้อยกว่า แต่ก็ปวดหัวได้ปานกลาง เกือบเท่าเทียมกัน..
ก็คงต้องพยายามกันต่อไปอ่ะเนอะ..
ใครที่กำลังวุ่นวายเรื่องงาน เรื่องหัวใจอยู่ ก็สู้ ๆ นะคะ..
................
คิดถึงและเป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ
i'm not superman
Create Date : 07 มกราคม 2551 |
Last Update : 7 มกราคม 2551 18:01:11 น. |
|
29 comments
|
Counter : 1593 Pageviews. |
|
|
จขบ. ก็สู้ๆ เช่นกันจ้ะ