ต้วนเหวิน (断纹 หรือลายร้าว) ถือเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงกู่ฉินที่เก่าแก่
และยังเป็นจุดเด่นหนึ่งเดียวของกู่ฉินที่เครื่องดนตรีชนิดอื่นไม่มี ซึ่งลายหเล่านี้เกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติของไม้ ยางรักกับส่วนผสมที่เริ่มแห้ง สภาพแวดล้อม และสำคัญที่สุดคือ กาลเวลา ดังนั้นต้วนเหวินของกู่ฉินจึงเป็นสิ่งที่ช่างทำกู่ฉินไม่สามารถกำหนดได้เลย (นอกซะจากเป็นกู่ฉินที่ทำเลียนแบบ ไม่ใช่แตกลายตามธรรมชาติ)
ตั้งแต่สมัยซ่ง ผู้บรรเลงฉินก็เริ่มให้ความสำคัญกับต้วนเหวินเป็นอย่างมาก
รูปแบบของต้วนเหวินมีหลายประเภท อาทิเช่น ลายกระดองเต่า ลายดอกเหมย ลายเกล็ดงู ลายขนวัว ลายกระแสน้ำ ลายน้ำแข็งเป็นต้น ลายกระดองเต่าและลายดอกเหมยปกติจะหาดูได้ยากมาก เพราะโอกาศเกิดขึ้นน้อย
ต้วนเหวินลายเกล็ดงู
คือลายที่เกิดจากการแตกตะแคงตัดกับหน้าของกู่ฉินต้วนเหวินลายเกล็ดงูยังแบ่งได้เป็นสองชนิด คือเกล็กงูใหญ่และเกล็ดงูเล็ก
เกล็ดงูใหญ่
เกล็ดงูเล็กต้วนเหวินลายกระแสน้ำ
รูปแบบจะละเอียดเป็นเส้นๆเหมือนสายน้ำไหล มีบางส่วนคล้ายๆ ฟองน้ำ
ต้วนเหวินลายขนวัว
ดูเผินๆจะคล้ายกัยลายเกล็ดงูเล็ก แต่ถ้ามองกันแบบละเอียดๆแล้ว จะพบว่า ลายขนวัวจะสั้น และละเอียดกว่า โดยปกติลายขนวัวมักจะไปเกิดตามขอบโค้งของผิวหน้าฉิน ทำให้มองดูอ่อนนุ่มเหมือนขนวัวจริงๆ
และต้วนเหวินลายอื่นๆ
ปกติแล้วการเกิดต้วนเหวินจะทำให้เสียงของกู่ฉินดีขึ้น เนื่องจากยางรักที่แห้งสนิทไปเกาะกับผิวไม้ได้ดีขึ้น และเสียงด็อาจจะออกมาทางรอยแตกบ้าง ทำให้กู่ฉินเสียงกังวาลขึ้นอีก แต่การเกิดต้วนเหวินก็มีข้อเสีย คือถ้าแตกมากไป (คล้ายกับเปลือกโลกแตกแล้วเผยอขึ้นมา) อาจทำให้มีผลต่อการบรรเลง ดังนั้นจึงต้องนำไปขัดผิวหน้าในส่วนที่ใช้งานให้เรียบก่อนถึงจะใช้งานได้อย่างราบลื่น
ขอเก็บเป็นความรู้นะคะ เพิ่งเคยเห็นเครื่องดนตรีชนิดนี้เมื่อไม่กี่ปีมานี่เอง
ขอบคุณที่แวะไปทักทายคะ