::::: เรื่องราวในอินเดีย 6 ... ตอน โยคะนิทรา (เกือบ) หลับปุ๋ยกลางห้องเรียน :::::
วันนี้มีคลาสโยคะนิทราด้วย ซึ่งก็นิทราไปเลยจริงๆ ชื่อเขาเรียกว่าโยคะนิทรา แต่ว่าจริงๆ แล้วไม่ได้หมายความว่าให้เราหลับ แต่ว่าเป็นการผ่อนคลายอย่างลึก คือผ่อนคลายร่างกายโดยไม่ให้หลับ เขาจะให้เรานอนเฉยๆ 30 นาที ระหว่างนั้นครูก็มีคำสั่งให้เราทำตามไปเรื่อยๆ เริ่มด้วยการบอกให้เราผ่อนคลายร่างกายทีละส่วนๆ จินตนาการถึงสิ่งนู้นสิ่งนี้ โดยมีจุดประสงค์ต่างๆ เช่น ผ่อนคลายร่างกาย หรือรักษาโรคบางอย่าง จะว่าไปก็คล้ายๆ กับการสะกดจิต ของตะวันตกอยู่เหมือนกัน ให้เราตั้งใจผ่อนคลายร่างกายไปทีละส่วนๆ โดยต้องประคองสติให้ตื่นตลอดเวลา สติของเราจะอยู่ตรงเส้นแบ่งระหว่างความตื่นกับความหลับ ทั้งนี้เพราะว่าระหว่างที่เราหลับนั้น ร่างกายเราไม่ได้ผ่อนคลายจริงๆ เขามีวิธีให้เราทดสอบตัวเองว่าหลับรึเปล่า โดยการนับถอยหลัง 27-1 ถ้าเชี่ยวแล้วเขาก็ให้เรานับ 54-1 (ซึ่งเรานับไม่เคยสำเร็จเลย) ที่ต้องเป็น 27 หรือ 54 เพราะว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของจำนวน 108 ซึ่งเป็นจำนวนที่มีความหมายพิเศษ จะเล่าให้ฟังวันหลังค่ะ
ก่อนจะล้มตัวลงนอน ต้องนั่งสวดโอมก่อนสามจบ แต่เพื่อนบางคนมาถึงก็นอนไปเลย แบบว่าเตรียมตัวหลับเต็มที่
สำหรับโยคะนิทราครั้งแรกนี้ เราพยายามจะตื่น แต่ว่ามันยากเหลือเกิน มันยากที่จะตั้งสติให้ตามคำพูดของครูได้ตลอด (มันยากนะ พยายามนอนผ่อนคลายร่างกาย โดยไม่ให้หลับน่ะ) ทั้งนี้เพราะมันเป็นภาษาอังกฤษด้วย ทำให้ลำบากมากยิ่งขึ้นไปอีก สุดท้ายทนไม่ไหวก็เลยหลับไปเลย โชคดีที่ตื่นขึ้นมาทันก่อนที่จะจบ เพื่อนๆ ก็เลยไม่รู้ว่าเราเผลอหลับ แต่สุดท้ายก็รู้อยู่ดี เพราะคนที่หลับจะลุกขึ้นมาแบบงัวเงียๆ อยากจะหลับต่อไรงี้ แต่คนที่ไม่หลับ (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกหัวทองทั้งนั้น ก็ภาษาเขานี่) ตื่นขึ้นมาแล้วจะสดใส เหมือนหลับมาแล้วเต็มอิ่ม พร้อมที่จะทำงาน อ่านหนังสือ อะไรได้ต่อไปอีกมากมาย (ที่รู้นี้เพราะมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันทีหลัง)
ตามตารางแล้วเราจะมีโยคะนิทราทุกวัน ยกเว้นวันที่มีครูพิเศษเข้ามาเลกเชอร์สามชั่วโมงรวด เพราะฉะนั้นเรายังมีเวลาแก้ตัวอีกหลายครั้งเลยทีเดียว คอยดู ครั้งต่อไปจะตื่นให้ตลอดครึ่งชั่วโมงเลย
ฝน.... ฝนมันยังตกไม่หยุดไม่หย่อน มันซูนนี้จะจำไปอีกนานเลย ฝนอะไรเนี่ย ตกแบบไม่ลืมหูลืมตาเลย ตกแบบชิลๆ น่ะ คือไม่ต้องรีบหยุด ตกไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆ น่าหงุดหงิดมากๆ ผ้าตากมาสามวันแล้ว ไม่แห้งเลย ไม่หมาดเลยด้วย คือเปียกยังไงก็เปียกอย่างนั้น
เพิ่งมารู้ว่าที่อาศรมนี้มีเครื่องซักผ้า กับเครื่องปั่นแห้งบริการด้วย ครั้งละ 25 รูปี ใครใช้ก็จำไว้ แล้วก็ไว้ไปรวมกับบัญชีของร้านค้า ใช้ระบบซื่อสัตย์กับตัวเองเท่านั้น เพราะอาศรมไม่มีบันทึกอะไรทั้งนั้น พวกเราสี่คนในห้องซักเสื้อกันไปแล้ว เหลือแต่ตากให้มันแห้งเท่านั้น สงสัยต้องใช้เครื่องปั่นผ้าก็คราวนี้แหละ ก่อนที่ผ้าจะเหม็นอับมากไปกว่านี้ แต่จะใช้เครื่องปั่นผ้าก็ไม่ใช่ง่าย เพราะใครๆ ก็ต้องการใช้ คน 36 คน ต่อเครื่องปั่นผ้าเครื่องเดียวเท่านั้น เราสี่คนเอาผ้าที่ไม่ยอมแห้งยัดใส่ถังรวมกันแล้วหิ้วถังไปจ่อคิวรอ จนถึงตอนกลางคืนนั่นแหละ ที่ทุกคนจะนอนกันแล้ว คิวถึงจะว่าง กะว่าปั่นแค่ครึ่งชั่วโมงก็คงจะโอเคแล้ว เรากับแร็กเคลรับหน้าที่นั่งรอผ้าให้ ไม่เป็นไร ยอมนอนน้อยลงครึ่งชั่วโมง ดีกว่าไม่มีเสื้อผ้าใส่ ไว้คราวหน้าค่อยให้อีกสองสาวเป็นคนทำบ้าง
ปรากฏว่าแจ็กพอต -_- พอเราเอาผ้าของเราใส่เครื่องปั่นเท่านั้นแหละ ... เครื่องไม่ทำงาน!!!
ทำไมมันเป็นอย่างนี้ (วะ) ทั้งๆ ที่ไฟก็ยังไม่ดับ ที่อาศรมนี้เขาใช้เครื่องปั่นไฟ บางทีกำลังไฟมันเกิน ไฟมันก็ดับเอาเสียดื้อๆ ห้องของไอรีนเพื่อนชาวฟิลิปปินส์ใส่ผ้าค้างเอาไว้ในเครื่องเมื่อคืนนี้ ปรากฏว่าไฟดับกลางดึก ตื่นมาเจอว่าผ้าเปียกค้างอยู่ในเครื่องทั้งคืน ก็เหม็นอับยิ่งกว่าเดิมหลายเท่าตัว ห้องนั้นเลยต้องซักผ้าใหม่ทั้งหมด แต่นี่ไม่ใช่ จะว่าไปไฟที่เครื่องก็ยังติดอยู่ด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่ามันไม่ทำงาน เคทเดินมาดูแล้วก็บอกว่าสงสัยกำลังไฟยังมี แต่สงสัยมีไม่พอที่เครื่องจะทำงาน เป็นอันว่าเราก็ต้องเอาผ้ากลับห้องกันอีกครั้ง แล้วก็ตากมันไว้ในห้องตามเดิม กลายเป็นว่าตอนนี้ อากาศก็ชื้น ผ้าปูเตียงก็ชื้น หมอนก็เปียก แถมทั้งห้องยังอบอวลไปด้วยผ้าเปียกๆ ที่ตากไว้เต็มห้อง เอ้า!! จะปอดบวมก็งานนี้แหละพี่น้องเอ๋ยยยยย.... แงๆๆๆ เค้าคิดถึงบ้านนนนนน!!!!
ตากผ้ากันในห้องอย่างนี้เลย ราวที่เห็นนั่นจริงๆ แล้วเป็นม่านกั้นสัดส่วนของใครของมัน แต่ตอนนี้มันกลายเป็นราวตากผ้าไปแล้ว
บทเพลงขลุ่ยทิเบต โดยนาวัง เกช็อก nawang khechog - quiet mind album: universal love
Create Date : 08 ตุลาคม 2553 |
|
9 comments |
Last Update : 8 ตุลาคม 2553 0:23:18 น. |
Counter : 2407 Pageviews. |
|
|
|
อ่านมาห้าตอน
ไม่มีตอนไหนไม่เจอฝนเลยนะครับ 555
ชื้นๆแฉะๆตลอดเลย 555
โยคะนิทรา
พี่ก๋าว่าแค่สองนาทีพี่ก๋าก็กรนแล้วครับ 5555