ทำไมมันยากอย่างนี้หนอ...ภาษาเจ้า
จั่วหัวมาต้องคิดว่าวันนี้ฉันจะมาบ่นเรื่องอะไรอีกล่ะสิ แฮ่ๆ ไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องบ่นหรือว่าเรื่องเล่าดี เอาเป็นว่าเจอกันครึ่งทางดีกว่านะค่ะทั้งบ่นและเล่าพร้อมกันไปเลย
เรื่องที่ว่ายากนี่ก็คือเจ้าภาษาดัตช์ที่ว่านี่ล่ะค่ะ ต้องบอกว่าไม่ว่าภาษาอะไรสำหรับตัวเองแล้วก็ถือว่ายากเหมือนกันทั้งนั้นนะ รวมถึงภาษาไทยที่เราใช้อยู่ทุกวันด้วยเพราะคำบางคำเรายังใช้ผิด อ่านผิด ตีความหมายผิด แถมยังเขียนผิดอีกบ่อยๆ เลย บ่นแบบนี้ถ้ากลับไปเปิดสมุดพกของฉันแล้วจะไม่แปลกใจเลยเพราะตอนเรียนมาจะได้เกรดสองอยู่ร่ำไป โผล่มาสองหนได้มั้งค่ะถ้าจำไม่ผิดที่ได้เกรดสาม สาเหตุเพราะว่าอะไรก็มิอาจจะรู้ได้ หุ หุ
ครูคนโปรดสองคนที่ฉันรักมาก เปาและเอลลี่
การเรียนภาษาดัตช์ที่นี่ก็เริ่มจากการมาอยู่ของคนต่างด้าวถ้าหากว่าอยู่เกินสามเดือนหรือขอวีซ่าประเภท MVV มาทุกคนก็จะได้รับการติดต่อจากรัฐให้ไปเข้าเรียนภาษาได้ฟรี ( ซึ่งกฏ ณ ตอนนี้ก็อาจจะมีเปลี่ยนแปลงบ้างตามสถานการณ์ของรัฐบาลไป ) ฉันเองก็หนีไม่พ้นต้องได้ไปเรียนภาษาตามกฏของที่นี่ซึ่งแรกๆ เลยบอกได้ว่าตื่นเต้นแกมตกใจเพราะว่าไม่เคยคิดว่าจะได้มาเริ่มเรียนภาษาต่างด้าวอะไรอีกในวัยเช่นนี้ แต่เอาอ่ะอยากมาอยู่ที่นี่ก็ต้องพูดภาษาให้ได้สิก็เลยต้องไปเรียน
บรรดาครูๆ ใน รร ที่เจอกัน ถึงไม่ได้สอนก็รู้จักกันหมดเพราะว่า รร ที่ฉันเรียนเป็น รร เล็กๆ
จำได้ว่าวันแรกที่ไป รร เหมือนตัวเองกลับไปเป็นเด็ก นร ตัวเล็ก ๆ อีกครั้งเพราะไม่รู้อะไรสักอย่างเกี่ยวกับภาษา เพื่อนในห้องเค้าก็เริ่มคุ้นๆ กันแล้วเพราะว่าเค้าเริ่มเรียนกันก่อนมาก่อน ส่วนฉันมันพอเข้าไปภาษาอะไรอ่ะไม่เข้าหูเลย แถมเข้าไปแล้วครูก็ไม่ยักพูดภาษาที่เข้าใจด้วยเพราะเค้ามีกฏใน รร ว่าห้ามพูดภาษาต่างด้าวอื่นๆ เลย ยกเว้นช่วงพักถ้าหากว่าอยากคุยกันเอง เอาล่ะสิจะทำอย่างไร วันแรกผ่านไปอย่างเกร็งๆ เพราะครูก็มักจะคอยถามอยู่เรื่อยๆ ไอ้เราก็คอยจะหลบเรื่อยๆ เหมือนกัน แต่ยิ่งดูเหมือนว่ายิ่งหลบก็ยิ่งถูกถาม หลังๆ พอชินก็ทำสีหน้าเฉยๆ ( ชินนี่คือไม่รู้เรื่องขึ้นหรอกแต่ทำหน้าเฉยๆ ข้างในตุ้มๆ ต่อมๆ แต่ก็ทำให้เก่งไว้ก่อนจะได้มองข้ามเราไป )และแล้วทุกอย่างมันก็เป็นไปตามสเต็ปคือจากไม่ชิน กลัว ก็กลับมาเป็นสนุกเพราะว่าได้เพื่อนใหม่ พูดกันไม่รู้เรื่องก็ใช้ภาษามือกันไปก่อนช่วงแรกๆ แต่คนที่ฉันมักจะตีซี้หน่อยก็คือสาวสวีเดนเพราะว่าเธอเป็นคนเดียวที่ฉันสามารถคุยได้รู้เรื่องหน่อยและเธอก็เป็นล่ามให้ฉันได้ดีจริงๆ เวลาฉันถูกถามและต้องตอบครู
นี่ล่ะโฉมหน้าผู้ช่วยชีวิตฉันช่วงแรกๆ ในห้องเรียน คาริน
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เพื่อนๆ ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ บางคนมาเรียนไม่กี่เดือนก็ย้าย ไม่ขึ้นก็ลง ส่วนฉันยืนพื้นกับเพื่อนร่วมชั้นเก่าๆ ห้าหกคนไปตามสเต็ปจนถึงวันสุดท้ายใน รร เพื่อนห้าหกคนนี้ก็ถือว่าเป็นเพื่อนสนิทกลุ่มแรกในการมาอยู่ที่นี่ก็มีทั้งเวียดนาม อัฟกัน ตุรกี รัสเซีย โมร็อคกัน พูดถึงแล้วก็ไม่รู้ว่าเพื่อนๆ เหล่านี้เป็นอย่างไรบ้างเพราะหลังจากจบไปแล้วก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยมารู้ไม่กี่อาทิตย์ผ่านมาว่าเพื่อนเวียดนามที่ปากพูดนักพูดหนาว่าจะไม่มีลูกตอนนี้ก็ตั้งท้องเกือบคลอดอีกด้วย
การเรียนใน รร มันก็เริ่มจากการเรียนศัพท์พื้นฐาน ประโยคพื้นฐานและมันก็ยากขึ้นเรื่อยๆ ผมที่เรียบตรงกลับฟูขึ้นมาอย่างไม่ต้องเข้าร้านทำผม เฮ้อ รู้ตัวเองเลยว่าการเริ่มเรียนภาษาใหม่มันช่างทรมานและยากยิ่ง เรื่องการออกเสียงยิ่งยากใหญ่โดยฉันกับเพื่อนเวียดนามจะเป็นสองคนที่ถูกส่งเช้าไปเรียนการออกเสียงเพราะว่าการออกเสียงบางคำในภาษาดัตช์เราไม่ได้เอาซะเลย แต่ว่าไปเรียนได้ไม่กี่เดือนก็ต้องเลิกไปเพราะว่าคนที่มาสอนเราเค้าก็ต้องเปลี่ยน รร ไปเรื่อยๆ เหมือนว่าเค้าจะเลือกคนที่มีปัญหาจริงๆ พอเรียนได้ตามระยะเวลากำหนดก็ต้องเปลี่ยน รร ไป
ช่วงพาออกนอกสถานที่ไปศึกษาพวกประวัติศาสตร์ของเมืองเล็กๆ ใกล้ๆ รร
ภาษาดัตช์สำหรับฉันมันยากเพราะว่าไวยากรณ์มีกฏข้อยกเว้นเยอะ สมองน้อยของฉันมันจับทั้งหมดยัดเข้าไปไม่ได้หมด เพื่อนคนไทยบางคนมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานเค้าก็พูดกันได้แล้วแต่ฉันเองก็ยังมั่ว ๆ สั่วๆ อยู่ทุกวันนี้ แต่ก็พยายามนาไม่ใช่ว่าไม่พยายามเลยแต่เหมือนว่ายิ่งพยายามมันจะยิ่งมั่ว ครูที่ รร ถ้าหากว่ารู้ว่าฉันเป็นแบบนี้คงจะรู้สึกอ่อนใจเป็นแน่แท้ว่าทำไมสอนไปเป็นปีเธอยังเป็นแบบนี้ล่อน๊อ นอกจากไวยากรณ์เยอะแล้วยังมีพวกศัพท์เหมือนกันอีกเยอะ รวมทั้งพวกประโยคสุภาษิตคำพังเพย ก็ด้วย เฮ้อ จะไปจำได้ยังไงไหวล่ะนั่น อ้อ อีกอย่างที่เป็นสูตรเลยก็คือมีการบ้านอย่าถามคุณสามีค่ะ เพราะมันจะทำให้ชีวิตคู่มีปัญหาทันที เหตุเพราะว่าถามแล้วต้องได้เถียงกันตลอด เพราะบางทีเกิดอาการ งง กับการบ้านพอถามแล้วเค้าบอกแล้วเราก็ งง ต่อเลยถามต่อว่าทำไมเป็นอย่างนี้ เหอ เหอ เค้าก็ดันตอบไม่ได้อีกแน่ะ นีล่ะน๊า ภาษา ขนาดเจ้าของภาษายังอธิบายไม่ได้เลย อาจจะเป็นเพราะว่าภาษาของเค้าเป็นภาษาที่ใช้ด้วยความชินพอไปถามเหมือนเอาหลักการก็กลับตอบไม่ได้ คิดได้ตรงนี้แล้วก็ได้แต่ปลงว่าขนาดคนดัตช์เองอธิบายไม่ได้มีเหรอว่าเราจะเก่งเลิศได้ หุ หุ เจ้าการบ้านครูก็เหมือนซาดิสต์ทำวันนี้ยังไม่ทันเสร็จก็ให้งานมาอีกแหละตอนนั้นโมโหครูจริงสั่ง สั่ง สั่ง แต่พอทำแล้วไม่ยักตรวจอีกแน่ะ แถมพอเรียนไปเรือยๆ ก็ชอบจะจิกถามแต่เราอีกตอบไม่ได้ก็บอกว่าเรานี่ผมเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีบรอนด์อีกแน่ะ ว๊า ครูนี่กัดจัง แต่เอาเหอะครูแซวไม่ถือเพราะครูเป็นแบบนี้แหละเลยร้ากกกกก มารู้ว่ารักครูก็ตอนจะเรียนจบนี่ล่ะ
มาถึงตอนนี้ไม่ได้ไป รร มาเกือบสองปี ตอนเรียนก็บ่นอยากจบ พอจบแล้วก็บ่นอยากเรียนอีกเพราะว่าภาษามันเริ่มถอยหลังลงแม่น้ำเมืองนี้ไปแล้ว แต่จะไปเรียนต่ออีกก็ไม่ได้เพราะว่าค่าเรียนเองก็แพงหรือว่าจะกลับไป รร เก่าก็ไม่ได้อีกเพราะว่าเค้าไม่รับให้เรียนต่ออีก ตอนนี้ก็เลยต้องหัดดูหนังไปเรื่อยๆ อย่างน้อยก็ให้มันผ่านหูผ่านตาบ้างไม่งั้นเชื่อแน่ว่าภาษาที่รู้อันน้อยนิดอาจจะต้องส่งกลับครูทั้งหมดในไม่ช้าแน่นอน
Create Date : 06 สิงหาคม 2548 |
|
65 comments |
Last Update : 8 ธันวาคม 2548 19:36:21 น. |
Counter : 956 Pageviews. |
|
|
ฝันดีนะคะพี่นิดจ๋าจุ๊บๆๆๆ