Derivatives THAI & Overseas Trading Group //// " THAI TRADER CLUB "

<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
12 ธันวาคม 2553
 

-------VI คือแบบนี้ใช่ไหมครับ???----------

VI ตามวิธีของผม

แม่เคยสอนว่าให้ซื้อทอง เก็บไว้บ้าง ตั้งแต่เด็กๆๆ แต่สมัยนั้น มีสุภาษิตว่า โจรปล้นสิบครั้งไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว ในสมัยเด็กๆๆที่จังหวัด ที่เกิด ตลาดเคยเกิด ไฟไห้ม บ้านที่อยู่ห่างไปไม่มากนัก ต้องขนของกันจ้าละหวั่น เพราะเป็นบ้านไม้สองชั้น เกือบทั้งสิ้นในตลาดสมัยนั้น ดังนั้น การซื้อทอง จึงได้รับความนิยมน้อยกว่าการฝากธนาคาร เมื่อเริ่มมีธนาคารเกิดขึ้น

พอราวประถม 5 ที่บ้านได้ย้ายออกมาปากทางเข้าตัวจังหวัด ที่ดินแปลงใหม่ ราว8ไร่ เป็นทุ่งนา ได้ซื้อมาราว 800บาทก่อน พศ ประมาณ 2505 เวลาต่อมา ที่ใก้ลเคียงก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆๆ เมื่อจังหวัดเริ่มเจริญ มีถนนสายเอเซียผ่านมาใก้ลๆๆ การใช้รถยนตร์ ที่เพิ่มากขึ้นกว่าทางน้ำในสมัยเด็กที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ที่ใหม่พ่อกะแม่ได้สร้างปั้มน้ำมัน ตราดาว(Caltex) (สมัยนั้นมี หอยShell เสือใส่ถัง Esso และม้าบิน Mobile)ยุคเริ่มต้นของน้ำมัน ดีเซล ผมได้เห็นวิวัฒนาการจาก รถ สี่ล้อมาเป็นรถบันทุก(รถยีเอ็มซี ทหารสมัยก่อน หรือรถบันทุก ไม้ในป่า ที่มีวิน หรือเกียร์สโลว์ ป้องกันการติดหล่มได้ โดยมี ที่หมุนให้รถติดถ้าไฟไม่พอสตาร์ท พอพอกับในหนังสมัยก่อน ต้องหมุนใบพัดเครื่องบิดนั่นแหละ แล้วมาเป็น หกล้อ ล้อหลังข้างละสองล้อป้องกันยางแตก สักล้อรถยังวิ่งได้ และรับน้ำหนักเพิ่มได้
ยุคนั้นก็เริ่มต้น อีซุซุหน้ายาวๆๆ ฮีโน หน้ายาวๆๆ และเบนซ์บรรทุก หน้าสั้นๆๆเรียกหัวแตงโม
พอต่างประเทศมี 10ล้อ พี่ไทยก็ยืดคัชซี่ ให้รถยาวออกไป แล้วใส่ล้อปลอมเข้าไปอีก 4ล้อ เพื่อบรรทุกน้ำหนักได้เพิ่มขึ้น
จากดีเซลลิตร์ละไม่ถึงบาท เบนซิน ก็เริ่มมีน้ำมันซุเปอร์ สีแดงเข้มออกมาขาย จากเบนซินบาทกว่าซุเปอร์ สองบาทกว่า

จนไปเรียนมัธยมปลายแล้วเข้ามหาลัย ด้วยเงินรายเดือน 750บาท จนจบมาด้วยเงินเดือน 2700 (2520)
ทำราชการ5ปี ลาออกทำส่วนตัว
แล้วซื้อที่ดินไว้ ด้วยเงินขอทางบ้าน 25000ได้ที่ดิน 5ไร่ไร่ละ5000 (ชายทะเลจะไร่ละหมื่น )กะไว้สร้าง โรงพยาบาลเมื่อลาออก
แล้วเริ่ม ทำส่วนตัว ด้วยดัดแปลงบ้านลูกน้อง ด้วยเงินที่เหลือติดตัวมา ใช้ตกแต่งบ้าน เขาเป็นคลีนิค หมด แต่ ผู้แทนยาช่วยให้เครดิต เอายามให้ใช้ก่อน หลายเดือน
ก็เริ่มขยับมาซื้อทีเพื่อทำถาวร ให้ธนาคารจัดการซื้อให้แล้วทำโอดี ผ่อนกับธนาคาร ( โอดี บัญชี เบิกเกินบัญชีได้ ดอกแพง แต่ เมื่อเอาเงินใส่ ไปเรื่อยๆๆพออยากใช้ถอนออกมาใช้ใหมได้เลย ไม่เหมือนกู้ผ่อนบ้าน คืนแล้วเอาออกอีกไม่ได้ )
ตกลงตลอดเวลาสามสิบปี ก็ไม่เคยมีเงินสดมีแต่หนี้ นี้มาตลอด
จากแปลงแรก ไร่ครึ่ง ไร่ละสองแสน ปัจจุบัน ประเมินไร่ละสองล้าน
แปลงที่สองอยากทำฟาร์มเพาะลุกกุ้งกุลาดำเลยขายแปลง 5ไร่ได้ไร่ละแสน มีแปลงติดต่อขายเพิ่มให้อีก 7ไร่ (ราว10ปีที่ซื้อไว้ )เลยได้เห็นเงินล้าน เอามาซื้อแปลงใหม่ไร่ละเจ็ดหมื่นห้าใก้ลชายทะเล ดูดน้ำทะเลได้ ได้ไว้สองไร่ ทำเพาะลุกกุ้งอยู่พักหนึ่ง เห็นว่าการเลี้ยงสู้โรคไม่ไหว ก็หยุด ตอนนี้ ราคาที่พุ่งไปเลยไร่ละ4ล้านแล้ว


เมื่อวานและเมื่อเช้าได้มานั่งค้นหา ราคาหุ้นเมื่อก่อน จำได้ว่าหุ้นปูนใหญ่ ราคา7พันบาท แต่หากราฟไม่เจอว่ามีราคาดังกล่าว แล้วอยากทราบว่าปัจจุบัน ราคาพาร์ ปูนใหญ่เท่าไร และนี้คือบทสรุปที่พบ

จากการค้นด้วยกูลเกิ้ล ราคาปูนใหญ่ จึงได้พบบทความนี้



ลองอ่านเนื้อหาของบทความดูซิ




ความจริง ที่ผมก็ผ่านมันมาแล้ว
1 ทุกยุคทุกสมัย จะมีบูลชิฟ หรือหุ้นชั้นดีที่ ผลประกอบการดี และมีปันผลจ่ายทุกปีสม่ำเสมอ หุ้นนั้นก็จะได้รับความนิยม ราคาจะแพงขึ้นไปเรื่อยๆๆ (ไม่มีหลักฐานยืนยันนะ ว่าเคยได้ยินก่อนเข้าตลาดว่าปูนใหญ่ราคา 7พันบาท ถ้าใคร จำได้บอกด้วย น่าจะก่อน 2532
เพราะผมเข้ามาเกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นเพราะที่อำเภอที่อยู่มีธนาคารกรุงไทยมาเปิดใหม่ แล้วผู้จัดการเรียกไปพบ10คนให้ช่วยซื้อหุ้นจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ คนละ100หุ้น หุ้นละ100บาท(เพิ่งค้นเจอว่ากรุงไทยเข้าตลาด พศ 2532




2 เมื่อถึงเวลาหนึ่ง หุ้นบูลชิฟ ก็จะมีราคาสูงมากจนคนไม่รวยไม่อยากเล่น วอลุมการซื้อขายก็จะลดลงไป เพราะรายย่อยจะเล่นหุ้นราคาต่ำและได้จำนวนมาก เพื่อกำไรที่ ไวและมากกว่า หุ้นที่ถือได้จำนวนน้อยๆๆ และแล้ว ตลาดก็มีนโยบาย ให้ลดพาร์ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้หุ้นตัวนั้น จากพาร์ 100ก็ลดลงมา 10บาท (อันนี้ผมเคยได้ประโยชน์ จากหุ้นเดิม มาเป็นหุ้นพาร์ใหม่ได้เป็น 1000หุ้นราคาพาร์ 10บาท เป็นจำนวนเงิน 10000เท่ากับใบหุ้นเดิม พาร์100จำนวน100หุ้น=10000บาท)
แต่กาลเวลาต่อมา ราคาที่ลดลงมาตามราคาพาร์ก็กลับไปสูงอีก เช่นเมื่อก่อน
ปัจจุบัน กรุงไทยที่ พาร์5.15บาท ถ้าผมยังถืออยู่ก็จะมีอยู่ประมาณ 2000หุ้นราคาหุ้นละ 16.4 ผมก็จะมีเงิน 32800บาท มากกว่าเดิม 2.28
ดังนั้น VI ที่ผมเข้าใจ จึงน่าจะสรุปได้ดังนี้
จากเวลาที่ผ่านไป ค่าของสิ่งของ ได้เพิ่มขึ้นไปตามความเจริญ
ที่ผ่านมา ทุกคนคงจะยอมรับ ค่าของที่ดิน เป็นอันดับหนึ่ง แต่ มันเป็นเรื่องยุ่งยากพอสมควร กับการดูแล และต้องระวัง เขต จ่ายภาษีที่ดินทุกปี
ถ้าเป็นหุ้นละ ในเมื่อจากประสพการณื ที่ได้เห็นมา จึงสรุปเป็น VI ของตัวเองได้ว่า
1 ต้องมีเงินเย็น ก้อน
2 ก หาหุ้นที่พาร์ 100/50/10/5 แยกเป็นหมวดหมู่ไว้
(เหตุผลที่เลือกหุ้น พาร์เยอะก่อน เพราะโอกาสที่จะแตกพาร์เป็นพาร์ต่ำยังได้หลายหนมากกว่าพาร์ต่ำแล้ว) เช่น ปูนใหญ่ กับธนาคาร กรุงเทพ


ปูนใหญ่



ธนาคาร กรุงเทพ



ข หาหุ้นที่พาร์เท่ากัน เทียบราคาในกระดานกัน ตัวที่ราคาสูงมากกว่า โอกาสแตกพาร์มากกว่า
ค หาหุ้นที่มีการซื้อขายน้อยกว่า (ไม่ใช่เพราะคนไม่อยากเล่นนะ )ต้องเป็นไม่อยากซื้อเพราะใช้เงินมากต่างหาก จะมีโอกาสแตกพาร์ไวกว่า(ดูจำนวนหุ้นด้วยว่ายังน้อย ถ้าแตกแล้วยอดจำนวนหุ้นมากเกินไปคนก็เริ่มไม่ชอบ เพราะ ราคาขยับยาก ปั่นยาก )
3 เมื่อเลือกได้แล้ว ซื้อแล้วขอใบหุ้นเก็บเข้าเซฟไปเลย อีก 10ปีค่อยมาดู
ระวังนะครับ ธุรกิจบางอย่างตายไปเพราะกาลเวลาไฮเทคมันเข้ามาไว เท่าที่เคยเห็นกับตา
1โรงหนังต่างจังหวัดแพ้ วิดีโอดูตามบ้าน
2ร้านเช่าม้วนวิดีโอ แพ้ หนังแผ่นซีดีผี
3 ร้านถ่ายรูป แพ้ กล้องดิจิตอล
4 ร้านโชว์ห่วย แพ้ห้าง
5 ไปรษณีย์ ไม่มีโทรเลขและจดหมายเขียนใส่ซอง แพ้ อีเมล และSMS
อ้าวนี่ผมกลายเป็น วีไอ ที่ดินไปด้วยหรือนี่

อ่านเอาขำนะครับ ส่งท้ายปีเก่า


Create Date : 12 ธันวาคม 2553
Last Update : 12 ธันวาคม 2553 10:30:53 น. 12 comments
Counter : 2642 Pageviews.  
 
 
 
 
ขอบคุณคะ เป็นข้อมูลที่ดีมากๆคะ ขอให้รวยๆๆๆคะ ^_^
 
 

โดย: Nita IP: 58.8.129.5 วันที่: 12 ธันวาคม 2553 เวลา:11:21:07 น.  

 
 
 
ขอให้โชคดีปีใหม่ ขอให้ร่ำขอให้รวยครับพี่หมอ
 
 

โดย: lertchai1955 IP: 58.8.227.206 วันที่: 12 ธันวาคม 2553 เวลา:12:59:13 น.  

 
 
 
มาฟังพี่หมอเล่าเรื่องในอดีต

ขอบคุณครับ
 
 

โดย: เฉลียง IP: 58.9.146.144 วันที่: 12 ธันวาคม 2553 เวลา:13:06:06 น.  

 
 
 
ชอบจังคนมะเก่าเล่าเรื่อง ให้ข้อคิดดีคะ คิดว่าโดยทั่วไปทุก ๆ ธุรกิจต้องปรับตัวเอง เปลี่ยนแปลงไปตามกระแสของโลก คิด วิเคราะห์ และปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอ เราก็จะไม่แพ้ และอยู่ได้ มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ให้เห็น ประสพการณ์สอนเราเสมอ แต่ที่แน่ ๆ มีเงินสด เงินก็บูด ตามกระแสโลกไม่ทันเพราะเงิน เล็กลง เล็กลง และในตลาดทุนและตลาดอนุพันธ์ ตลาดเงิน ตลาดทอง ก็คือภาพลวงตา สติ สมาธิ ปัญญา แล้วสตางค์จะตามมา อยู่ที่เราจะบริหารเงิน และเวลา ขอบคุณ 365 วันคะพี่หมอ
 
 

โดย: candy IP: 118.172.121.51 วันที่: 12 ธันวาคม 2553 เวลา:14:15:18 น.  

 
 
 
อยากให้พี่หมอเล่าเรื่องธุรกิจปั้มน้ำมันจัง เพราะน่าจะรู้จักธุรกิจนี้ดี ถึงยุกเชลล์ เอสโซ่ ตราดาว ในอดีตรุ่งเรื่องมากแต่ตอนนี้ ปตท พลังงานเพื่อใคร เพื่อใคร เพื่อใครหว่า อยากให้ที่หมอเล่าเอามันส์ เอาขำหน่อยนะคะ ขอบคุณ365 วันคะ
 
 

โดย: candy IP: 118.172.121.51 วันที่: 12 ธันวาคม 2553 เวลา:14:27:38 น.  

 
 
 
สวัสดีคะคุณลุงหมอขา ปีใหม่นี้จะซื้ออะไรดี ระหว่างทองคำ อนุพันธ์ดอกเบี้ย หรือปูนซีเมนต์ไทยดีคะ
 
 

โดย: ิbamboo IP: 110.168.100.244 วันที่: 12 ธันวาคม 2553 เวลา:16:42:07 น.  

 
 
 

สวัสดีค่ะ อาหมอ...........

31ปี ดาวเรืองอกแตกตายแน่ค่ะ

ตอนนั้น ติดหุ้นปูน ราคา 210 บาท ตั้งใจรอขายเลขสวยค่ะ 222 บาท แต่ ดูสิคะ มันขึ้นไป แค่ 220 ใครจะไปคิดคะ ว่า อีก 1 ช่องเท่านั้น ทำไมจะไม่ได้ล่ะ 220 ไม่ขายค่ะ รอ 222 บาท

ในที่สุด หุ้นวันลงคืน จนลงมาที่ 60 กว่าบาท

อาศัยว่า ได้ปันผลดี ปีละ 750,000 บาท เลยทนถือ หลับหูหลับตา ลืมมันไปก่อน 2 ปีกว่า ผ่านไป กินปันผลมาเรื่อย

จนราคา 330 ถึงได้ขายไปหมดค่ะ ....ยังไม่พอความช้ำใจ...

ขายปุ๊บ วิ่งต่อไป 340กว่า อีก โหๆๆๆ ช้ำแล้วช้ำอีก....

ตั้งแต่นั้น .....เลยไม่อยากเป็นวีไอ อีกต่อไป มันทรมาน ใจมากค่ะ............ยึดอาชีพ เทรดดิ้งนี่ล่ะ ช้ำไม่นาน ค่ะ......อาหมอ............
 
 

โดย: dawreung51 วันที่: 12 ธันวาคม 2553 เวลา:18:24:54 น.  

 
 
 
ไปรษณีย์ไทย ตอนนี้เค้าพัฒนาแล้ว ไม่ใช่เฉพาะส่งโทรเลขกับจดหมาย

เค้ามีบริการจ่ายบิล , จองรถทัวส์ , ทำวีซ่า ,ขายอาหาร , ขนม , จ่ายค่าปรับจราจร , ที่สำคัญเมื่ออินเตอร์เน็ตพัฒนาขึ้น E-commerce มันก็โตตาม ค่าน้ำมันแพง ซื้อทางเน็ตส่งของถึงบ้าน ทุกหลังในประเทศไทย ในราคาแสนถูก ผมขายของทางเน็ตรู้ดีครับ ส่งวันนึ่งมิใช่น้อย

ระบบเครือข่ายไปรษณีย์ที่แข็งแกร่ง มีทุกอำเภอ ครอบครุมทุกตารางนิ้วของประเทศไทย ถามว่าใครจะมาแข่งด้วยครับ
 
 

โดย: PN IP: 61.90.95.245 วันที่: 12 ธันวาคม 2553 เวลา:19:13:56 น.  

 
 
 
นักวิเคราะห์ฟันธงตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าเขียวยกแผง หลังเอสแอนด์พีปรับเครดิตดีขึ้น ^_^

//www.posttoday.com/หุ้น-ทอง/โปรหุ้น/เปิดหุ้นเด็ด/64374/เครดิตไทยพุ่งดันหุ้นทะยาน

ด้านบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (13-17 ธ.ค. 2553) ว่า จุดสนใจจะอยู่ที่ข้อมูลเงินเฟ้อของจีน รวมถึงปฏิกิริยาตอบสนองเชิงนโยบายของธนาคารกลางจีนว่า จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ หากปรับขึ้นจริงก็อาจช่วยคลายความกังวลลง

 
 

โดย: Nita IP: 58.11.73.141 วันที่: 12 ธันวาคม 2553 เวลา:22:32:03 น.  

 
 
 
ชอบเข้ามาอ่านความเห็นของคุณหมอสัจจะ
เพราะดูรอบคอบ สงบแบบผู้ผ่านทางมานาน
แม้บางคนจะอึดอัดใจในยามภาวะกระทิง
คล้ายคุณหมอจะมองในแง่ลบมากเกิน
แต่ผมกลับมองว่า ผู้ใหญ่เตือนพร้อมสัญญาณบางอย่าง
จากภาวะโดยรวมรอบโลก ทั้งหุ้น ค่าเงิน น้ำมัน ทอง และ
ภาวะเศรษฐกิจการเมือง
ขอแอบอ่านไปตลอดนะครับ
ขอบคุณมากครับ
 
 

โดย: ลุงอ้วน IP: 118.172.69.216 วันที่: 12 ธันวาคม 2553 เวลา:22:37:39 น.  

 
 
 
สวัสดีจ้ะพี่หมอ
นานๆ เขียนนอกเรื่องออฟชั่น ก็น่าอ่านเหมือนเดิม

จากแฟนขับแดนไกล
 
 

โดย: smilesunset IP: 66.110.118.2 วันที่: 13 ธันวาคม 2553 เวลา:4:39:33 น.  

 
 
 
อ่านไปยิ้มไปค่ะ
31ปี (ข้างหน้านะคะ ) ...มิใช่เราแน่นอน

อยากทราบเรื่องเก่าๆๆอย่างที่คุณหมอเล่าให้ฟังเกี่ยวกับ ปตท. ค่ะ
เดิมเค้าคือ 3ทหาร ใช่ไม๊คะ เท่าที่ทราบ

ปูนกะปอ คือบลูชิพตลาดหุ้นไทย

จะว่าไปความเสี่ยงต่อการหมดสิ้น ก้อมีมากมาย

เป็นกำลังใจให้คุณหมอเล่าเรื่องเก่าๆๆและความเห็นที่ค่อนมาทางเตือนๆๆ นะหลานๆๆ ของคุณหมอเสมอ ค่ะ

 
 

โดย: เอื้อยค่ะ IP: 180.180.24.148 วันที่: 9 มกราคม 2554 เวลา:7:10:49 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

หมอสัจจะ
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 185 คน [?]




[Add หมอสัจจะ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com