------------สรุป วิธีหาทิศทางตลาดไทย ที่ได้ประยุกต์ใช้มาหนึ่งปี---------
ตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดทั่วโลกมีผลกระทบมาจาก ตลาดดาวโจนส์ เกิดวิกฤตในระบบเศรษฐกิจของเมกาทำให้แต่ละประเทศต้องหามาตราการเพื่อแก้ไข ประเทศของตน ตามพื้นฐานของตน ที่แตกต่างกันไป เมกาใช้วิธีพิมพ์ ดอลล่ารืเพื่ออัดฉีดเข้าไปแก้ไขปัญหา แต่ประเทศอื่นไม่สามารถจะกระทำได้อิสระเช่นนั้น ก็แก้ไขด้วยการลดดอกเบี้ย ยืดหยุ่นค่าเงิน หรือออกพันธบัตร์ แต่เนื่องจาก แต่ละประเทศมีปัญหาเดิมเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว เช่น เมกาเอง หรือยุโรปเกือบทั้งหมด ที่เป็นหนี้สาธารณะมาก จากการที่เขาปกครองด้วยระบบเสรีนิยม การเมืองระบบประชาธิปไตย แบบเลือกตั้ง นักการเมืองจึงพยายามเสนอนโยบายเพื่อให้ประชาชนพอใจและเลือกเข้ามา ดังนั้น นโยบายจึงมักจะเน้นการให้ประชาชนอยู่ดีกินดี จนก่อให้เกิดหนี้ เมื่อรายได้ของประเทศไม่พอกับรายจ่ายด้านงบประมาณ ก็ใช้วิธีก่อหนี้ด้วยการออกพันธบัตร์ เอาเงินมาจัดการงบประมาณให้ได้ตามนโยบาย นานวันเข้า การเกิดหนี้พอกพูนเกินร้อยเปอร์เซนต์ของจีดีพี (ของไทยกฏหมายให้เพียง 50% แต่รัฐบาลกำลังจะขอแก้กฏหมายเป็น 60% มีนักวิชาการที่เห็นโทษ จากรอบโลกขณะนี้เลยพยายามคัดค้านให้เป็นการ เกิน 50ชั่วคราวรายปีมากกว่าจะให้ต่อไปถาวรในอนาคต ) ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก ตลาดเงิน ตลาดพันธบัตร์ จึงระส่ำระสายกันไปหมด มิสามารถที่จะคาดการณ์ว่าตลาดจะเป็นอย่างไรได้ด้วย กราฟ เทคนิคคอลดังที่เคยใช้มา ดังจะเห็นได้จาก พอมีข่าวสำคัญมา คนก็จะต้องคิด ว่าข่าวนั้น มีผลกับตลาดประเทศตัวเองแค่ไหน เช่น ข่าวดูไบ มีบริษัทอะไรของประเทศเราเข้าไปเกี่ยวข้องและจะเสียอะไรมากมายแค่ไหน เป็นต้น กราฟ จึงเป็นข้อมูลอดีต ที่มารับผลจากข่าวไป บันทึกไว้ ไม่สามารถบอกล่วงหน้า ได้แบบ ข่าว จึงให้ความสำคัญในการปรับระบบ การหาทิศทางตลาดไทยเสียใหม่ โดยเน้น 1 ข่าวจากปากบุคคลสำคัญที่ออกความเห็น ในปัญหาที่เขามอง 2 ข่าวตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาของแต่ละประเทศ ว่าจะสำคัญต่อประเทศเราด้วยไหม 3 รายงานตลาดหุ้นทั่วโลกไล่ไปตามเวลา ตามการหมุนของโลก 4 รายงานค่าเงิน ที่สำคัญ 5 รายงานตลาดน้ำมัน ทอง ที่ขยับเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างมีนัยยะ ในบางช่วง เช่นตอนดอลล่าร์ตก ตลาดทองขึ้น หรือตอนยูโรตก ทองกลับมาขึ้นอีกครั้ง 6 รายงานตลาดพันธบัตร์ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในช่วงที่มีนัยยะ เช่น ตอนข่าว หนี้มากของยุโรป แล้วต้องระดมเงินฉุกเฉิน และออกพันธบัตร์ 7 สรุปกราฟจากทั่วโลก ที่เป็นตลาดสำคัญ และเป็นตลาดที่มีปัญหา ในบางช่วง จาก หลักการดังกล่าว เรานำผลมา เขียนลงบล๊อก มาตลอด จนเราเริ่มเข้าใจ ระบบต่างๆๆภาษาทางเศรษฐศาสตร์ ทางการเงินการคลัง สำนวน หรือ เรื่องสำคัญในอดีต ที่นำมากล่าวอ้างถึง แม้ว่า จะไม่ค่อยได้มีคอมเมนท์ กลับมากันมากนัก (คนเขียนไม่ชอบเลย เหมือนโดนเอาเปรียบ อ่านแล้วจะบอกเสียหน่อยก็ไม่ได้หรือ ว่า เข้าใจหรือไม่เข้าใจ ยังสงสัยตรงไหน หรือ ได้ประโยชน์ หรือไม่ได้ ประโยชน์ หรือคิดต่างอย่างไร หรือ น่าจะเป็นอย่างไร ) เราอยากให้ คนไทยกล้าแสดงออกทางความคิด เหตุผล และกล้าที่จะออกมาสู่สังคมที่ไม่เห็นตัวตน นี้ เป็นผู้ให้แก่คนอื่นด้วยความรู้ ที่มีในตัวท่าน อาจจะเพียงคำถามเพื่อให้ฉุกคิดกัน หรือเตือนสติกัน เพื่อ ก่อ ให้สังคม ดีขึ้น หรือเพื่อน้องๆๆมือใหม่ ที่เข้าตลาดหลักทรัพย์มาได้มาอ่านเก็บเกี่ยวสิ่งดีดีไป มันจะต้องเกิดจากคนรุ่นเรา ที่จะช่วยกันทำไว้ ให้คนรุ่นหลังสานต่อไป ให้ดีมากขึ้น ส่วนตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมา การจะหาข้อมูลตามที่กล่าวข้างบนนี้ เราได้เริ่มตั้งแต่เวบไหน เปิดดูอะไร เราบอกรายละเอียดไว้ที่กระทู้นี้ ครั้งหนึ่งแล้ว //www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I9311948/I9311948.html จากคห ที่ 1 ไล่ไปจนจบ ก็จะถึงเวลาเข้าตลาดไทย ก่อน 10โมงเราจะมีข้อมูลสรุปได้แล้วในใจว่าทิศทางตลาดไทยจะไปอย่างไร ส่วนกราฟ ก็เพียงเบสิคง่ายๆๆกับอินดี้บางตัว เมื่อวานก็ได้ทดลองเอากราฟมาทบทวนอีกครั้งที่บลีอก นี้ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=doctor-sajja&month=27-06-2010&group=6&gblog=21
ลิ้งค์ บล๊อกข้างบนจะมีกราฟตลาดสำคัญสรุปไว้แล้วนะ นี่เป็นข้อมูลเพิ่ม ว่ายุโรป ปิดแดงหมด
เดี๋ยวติดตาม ตลาดออสซี่นิวซีแลนด์ และเอเซีย ต่อนะครับ
Create Date : 28 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 28 มิถุนายน 2553 7:20:32 น. |
|
37 comments
|
Counter : 1736 Pageviews. |
|
|
|
wave ยังมีน้อยเลยต้องอ่านไปก่อน