Derivatives THAI & Overseas Trading Group //// " THAI TRADER CLUB "

<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
15 ตุลาคม 2554
 

----------ถ้า ลงทำนิวโลว์ ที่ขึ้นผ่านมาก็ไม่ใช่คลื่น 1 ././././././-----------

เคยเห็นแล้วสงสัยมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้ศึกษาอย่างจริงจัง
เพียงอ่านผ่านๆๆ ให้พอรู้ว่าจริงแล้วเขากำลังคุยอะไรกัน

" Elliot wave " ว่าเอามาจาก wave theory

จาก

//en.wikipedia.org/wiki/Elliott_Wave_Principle

1 เป็นเรื่องของจิตวิทยามวลชน หรืออารมณ์ ของกลุ่มคนในตลาดหุ้น

3 ภาพที่เห็นประจำ แล้วสังเกตว่า C ไม่เคยต่ำกว่า 1




//www.richerstock.net/Elliott/ELTHEORY.htm




เมื่อมีขึ้น ก็ต้องมีลงจนหยุดนิ่ง

นั่นหมายถึง ทฤษฏีนี้ จะเริ่มต้นใช้เมื่อ มีเหตุการณ์ช๊อตทุกคนให้ กลัวหรือขายกันจนหมดแล้ว

จนเมื่อเหตุการณ์สงบนิ่ง

จึงเริ่มเกิด การขึ้น 12345 ( ในตำรามักพูดว่า ขาขึ้น Up trend )
และจะมี ABC ในช่วงขาลง ( Down trend)

และมีภาพ การนับดังกล่าวเสมอ จนสงสัยว่า ถ้ามันขึ้นแล้วลงทุกครั้ง C ไม่เคยต่ำกว่า 1 แล้วมันจะต่อด้วยขาขึ้นใหม่ 12345 เลยหรือ
งั้นมันก็ต้องสูงขึ้นไปเรื่อยๆๆ

แต่เมื่อมาเจอ ประโยค ในบทความข้างบน ประโยคหมายเลข 2

In a bear market the dominant trend is downward, so the pattern is reversed—five waves down and three up.

จึงทำให้เข้าใจใหม่ได้ถูกต้องว่า

เมื่อ มีเหตการณ์ดีหรือร้าย จนทำให้ตลาดเกิด การขึ้นอย่างรุนแรงหรือตกอย่างรุนแรง แบบไม่คาดคิดมาก่อน

จนเหตุการณ์นั้นจบแล้ว

เท่ากับอารมณ์ทุกคนหยุดสงบแล้ว

เริ่มมีคนแรก ที่เห็นว่าต่อจากนี้ ดัชนีควรจะขึ้นแล้ว จะเป็นรอบ Up trend ( ตามหลักการ ทางจิตวิทยา ก็ย่อมจะเริ่มมีคนเชื่อ ถ้าเขาเป็นคนเป็นนักวิชาการ ที่มีหลักการ การนำเสนอจนคนเชื่อ คนที่เชื่อก็จะเริ่มเพิ่ม 1-2-3-4-5-6-7---------ก็จะมีคนซื้อตามเขามากขึ้น จนเป็นทิศทางขึ้น)

จนถึงจุดหนึ่ง ก็จะเริ่มมีคนขาย จนเกิด คลื่นที่ 2 ถ้าคลื่นที่2 ต่ำกว่า ตอนเริ่มเกิด 1 แสดงว่าผิดหลักการอีเลียตเวพ



และจาก ประโยคที่ กล่าวถึงตลาดหมี

อารมณ์คนย่อมจะดีใจซื้อกันมาจนถึงไฮที่หนึ่งเริ่มมีคนออกมาบอกว่า ต่อจากนี้ไปน่าจะต้องขายกันแล้วละ

การเกิด คลื่น 1ก็แฉกเช่น กลับของ 12345ABC ดังกล่าวนั้นเอง

ก็จะเริ่มมีคนที่ 1-2-3-4-5-6-7-----------เข้าไปขายจนราคาลงเรื่อยๆๆ

และเมื่อขายถึงจุดหนึ่ง ย่อมมีคนมองว่าราคาถูกเกินไปแล้วน่าซื้อ
ก็จะเกิด คลื่นที 2 ซึ่งยอดของคลื่นที่ 2 ก็ย่อมจะไม่น่า เกิน ยอดคลื่นที่ 1 ถ้าเกินก็จะผิด หลักการ

จากจุดเริ่มต้นนี้เอง ถ้า ท่านที่ศึกษาอีเลียตเวพ แล้ว

ไปเลือกจุดไหนก็ได้เป็น 1 หรือ เป็น C หรือ อันใดอันหนึ่งใน 12345ABC

โดยลืมนึกไปว่า ทฤษฏีนี้ ต้องใช้กับการอ่านอารมณ์คน

ที่ได้เกิด อารมณ์ ตกใจมาก ขายกันจนหยุดนิ่ง

หรือดีใจมากซื้อกันจนหมด เงิน แล้วเริ่มหยุดนิ่ง

ต่อไปจากหยุดนิ่งจึงเริ่ม คลื่นที่ 1

1 การทีไปมองเพียงกราฟตรงนี้ เป็นขาขึ้นมา น่าจะเป็น 1หรือ3 หรือ 5 หรือ B

sไปหากราฟที่กำลังลงตรงนั้น ว่าน่าจะเป็น 2 หรือ 4 หรือ A หรือ C

ย่อมจะผิดตั้งแต่ ตรงนี้แล้วละ จึงเป็นเหตุให้เรียกชื่อคลื่นไม่ตรงกัน

2 การที่ถอยหลังย้อนไปในอดีตมากไป จะยิ่ง เข้าใจอารมณ์ คนยุคนั้นยาก หรือเข้าใจได้ แต่ก็ไม่ทราบเหตุการณ์ที่แท้จริง
หรือสภาพแวดล้อมตอนนั้น จะทำให้อารมณ์ต่อเนื่องมาถึงวันนี้
จึงไม่น่าจะถูก

เช่นคนที่เอากราฟ ย้อนไป ตั้งแต่ 1977 หรือ 1997 มาใส่อีเลียตเวพ

ก็ต้องลองหาตำราอ่านกันใหม่ ว่าจริงๆๆแล้ว

การเกิด คลื่น12345ใช้เวลานานแค่ไหน แล้วอารมณ์คนกลุ่มนั้นก็จะเปลี่ยนไปมองว่า น่าจะหมดทิศทางขึ้น ( up trend ) แล้ว

ถ้าเข้าใจความจริงแบบนี้ การเลือกใช้time frame คงไม่น่าจะใช่กราฟ ปี กราฟเดือน มาเขียนอีเลียตเวพแน่นอน

(บทความ นี่ เขียนเพื่อ อธิบายว่า เคยสงสัยอะไร และพบอะไร ถ้า ท่านยังคิอว่าท่านเรียนมาถูกต้องเข้าใจถูกต้องก็ได้ศึกษาต่อไป เพราะถ้า หาจุดคลื่นที่ 1 เจอก็เปรียบเสมือนท่าน เข้าซื้อได้จังหวะถูกทาง ขาขึ้น หรือ ท่านเข้าถูกทางขาลง จึงช๊อต ได้พอดี กำไรก็จะเป็นกอบเป็นกำ )

ดังนั้นถ้าไม่เข้าใจ หรือทำผิด ก็หาระบบที่จะใช้เข้าออกตลาดให้ถูกแบบง่ายๆๆวิธีอื่นจะดีกว่า
====================================================

สุขสันต์วันหยุดครับ








Create Date : 15 ตุลาคม 2554
Last Update : 15 ตุลาคม 2554 6:34:44 น. 11 comments
Counter : 1725 Pageviews.  
 
 
 
 
อ่านได้ประโยชน์มาก ได้คิด ได้ตรึกตรอง
 
 

โดย: ปลาน่ารัก IP: 58.11.76.177 วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:9:01:40 น.  

 
 
 

สวัสดีตอนเช้า ค่ะ อาหมอ

ใครไม่ไป นู๋ดาว ไปก่อนค่ะ

พร้อมหุ้นในมือ หน้าเดินนนนนน!!!!!!
 
 

โดย: dawreung51 วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:10:14:03 น.  

 
 
 
อาทิตย์หน้าน่าจะได้ลุ้นกันสนุก

ดูจะต้องฝ่าแนวต้านกันละ
 
 

โดย: หมอสัจจะ วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:10:21:20 น.  

 
 
 
E-Wave = ??

Thanks, Krub
 
 

โดย: Prasert_J IP: 180.183.50.224 วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:10:50:30 น.  

 
 
 
สวัสดีครับคุณหมอ

เห็นด้วยกับประโยคทิ้งท้ายของคุณหมอที่ว่า
"ถ้าไม่เข้าใจหรือทำผิด ก็หาระบบที่จะใช้เข้าออกตลาดให้ถูกแบบง่ายๆๆวิธีอื่นจะดีกว่า"

อีเลียตเวฟ ผมเคยลองนับดูแล้ว
ปรากฏว่า แค่ผมคนเดียวก็นับออกมาได้หลายๆแบบแล้วล่ะ
คงไม่ต้องไปพูดถึงการนับของคนอื่นๆอีก
ผมเลยรู้สึกว่า ผมคงใช้ประโยชน์จากคลื่นนี้ไม่ได้แน่ๆ
จึงไม่เคยสนใจมันอีกเลยครับผม

ซึ่งผมก็ใช้ง่ายๆแค่ 2 ตัว คือ
1. MACD เอาไว้ดูสัญญาณซื้อและขาย
2. RSI เอาไว้ดู Over Bought Over Sold
ทั้งๆที่เรียนรู้มาตั้งหลายตัว แต่ก็ใช้แค่นี้เองแหละครับ

ตามอ่านของคุณหมอเป็นประจำ
ขอขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆ ที่คุณหมอมอบให้ทุกๆวันนะครับ
ให้กำลังใจคุณหมอทำต่อไปนะครับ สู้ๆครับ
 
 

โดย: X-Soldier IP: 118.173.140.194 วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:11:12:24 น.  

 
 
 
อ๋อ มันมีหลักการนับอย่างนี้นี่เอง
ขอบคุณครับ
 
 

โดย: vanetwork IP: 202.176.94.53 วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:11:13:54 น.  

 
 
 
สั้น ง่าย กระชับ ได้ใจความ อ่านแล้วแจ่มแจ้งเลย
ขอบคุณครับ
 
 

โดย: เก้า IP: 125.26.104.158 วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:11:15:16 น.  

 
 
 
ขอบคุณครับ
 
 

โดย: kamo IP: 27.130.172.111 วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:11:26:28 น.  

 
 
 
ขอบคุณคุณหมอมากครับ ช่วยยืนยันความเข้าใจของผมได้มากเลยครับ

ผมก็เป็นคนนับคลื่นไม่เก่งคนนึงครับ (ความจริงแล้วไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้เท่าไหร่เพราะเล่นสั้นครับ)

แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้ก็จะเน้นหลักจิตวิทยามวลชนเป็นหลัก พยายามเปรียบเทียบว่า อารมณ์ตลาดน่าจะเข้ากับเวฟที่เรานับหรือเปล่า

อย่างตอนนี้ผมก็นับได้ที่คลื่น 1 ครับ ใช้การสังเกตปริมาณของรายย่อยที่เข้ามาใหม่มากขึ้น และทุกคนมองในแง่ดีแม้จะเกิดไดเวอร์เจนท์ตั้งนานแล้ว

สุดท้ายก็จบรอบของคลื่น 5 บวกกับการแพนิคเล็กๆเมื่อเดือนก่อน และ อารมณ์กล้าๆกลัวๆของตลาดจะซื้อก็ไม่กล้าจะขายก็เสียดาย ทำให้ค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะใช่คลื่น 1

แต่จะรอยืนยันจากท้องคลื่นลูกที่สองอีกทีครับ ถ้าถึงตอนนั้นก็เทหมดหน้าตักครับ รบกวนขอคำแนะนำเพิ่มเติมด้วยนะครับ
 
 

โดย: กล้า IP: 49.48.117.100 วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:11:55:25 น.  

 
 
 
หวัดดีครับคุณหมอและเพื่อน ๆ
ขอแชร์ด้วยคนนะครับ ได้ยินและได้อ่านนักวิเคราะห์หลายคน ต่างก็วิเคราะห์กันไปตามสไตล์ตัวเอง บ้างก็มั่นใจถึงขนาดฟันธงมันต้องไปเท่าโน้นเท่านี้ รายย่อยอย่างเรา ๆ ก็เลยมึนตึ๊บ วันหนึ่งถูก วันหนึ่งผิด ผิด ๆ ถูก ๆ ไปเรื่อย ๆ จึงเห็นด้วยกับคุณหมอเราต้องหาระบบของตัวเอง สร้างเองเล่นเอง ได้หรือเสียไม่ต้องโทษใคร รับรองวันหนึ่งคุณจะยืนอยู่ในตลาดได้อย่างมั่นใจและมั่นคง ภาพตลาดตอนนี้ ไม่เหมือนแต่ก่อน หุ้น ทอง น้ำมัน ค่าเงิน ทุกตลาดเป็นตลาดพนันไปหมดแล้ว ผมเองก็เคยเป็นนักเก็งกำไรคนหนึ่งยามคิดถูกได้กำไรก็ดีใจ ยามคิดผิดขาดทุนก็อยากได้ทุนคืนยิ่งเล่นยิ่งขาดทุน แล้วทำงัยดี
ตอนนี้ผมเปลี่ยนจากนักเก็งกำไรเป็นนักลงทุน แล้วผลที่ออกมาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง แต่ที่สำคัญเราต้องยืนถูกฝั่ง อะไรถือว่าถูกฝั่งหรือผิดฝั่ง ผมใช้สัญญานอินดิเกเตอร์ในการมองภาพตลาด แต่หลายคนเห็นแย้งเพราะมองว่ามันช้ากว่าจะบอกเราต้องรอให้ตลาดสรุปก่อน แต่นั้นละครับมันคือความจริงที่ไม่เคยหลอกเรา แม้ว่าช้าแต่ก็ชัวร์ Macd ดูแนวโน้มตลาดขึ้นหรือลง Sto ดูแนวโน้มราคา Ob หรือ Os ใช้ Elliot wave ดูการเคลื่อนที่ของตลาดคลื่นไหน ใช้ Fibo วัดราคาเป้าหมาย ใช้ Adx ดูความแข็งแกร่งของตลาด และเสริมด้วยการสังเกตสัญญานจากแท่งเทียน ส่วนที่สำคัญที่สุดการตีเส้นเทรนไลน์ แค่นี้พอแล้วครับสำหรับระบบผม หวังว่าทุกคนคงโชคดีมีกำไรทุกครั้งในการเล่นนะครับ ส่วนใครใช้การวางจุดหยุดขาดทุน อันนี้ผมไม่เห็นด้วยสุด ๆ เพราะท่านจะรู้ได้งัยว่าตรงไหนควรหยุดขาดทุน เพราะจุดที่เราวางเป็นจุดที่ทุกคนวางเจ้ามือเค้าก็รู้ ลองสังเกตุซิ ทุกครั้งที่ลงไปผ่านจุดที่เราวางไว้แล้วกลับขึ้นมาอีก นี่ละครับที่ไม่เห็นด้วย ทั้งหมดแค่แชร์นะครับ
 
 

โดย: อดีตแมงเม่า IP: 110.168.120.213 วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:20:50:10 น.  

 
 
 
ขอบคุณมากครับ
ได้ความรู้มากครับ
(นับไม่ถูก)
 
 

โดย: นะโม IP: 101.109.209.116 วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:21:01:45 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

หมอสัจจะ
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 185 คน [?]




[Add หมอสัจจะ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com