Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2548
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
17 สิงหาคม 2548
 
All Blogs
 

พาเที่ยว "Ghibli Museum, Mitaka"

"Ghibli Museum, Mitaka" - Tokyo

ไปเที่ยวมา (คนเดียว) เมื่อตอนเดือนเมษายนที่ผ่านมา (เพิ่งได้ฤกษ์มาเขียน) เห็นได้ว่ามีหลายคนเป็นสาวกหนังอะนิเมชั่นของ studio ghibli อยู่ไม่น้อย ซึ่งข้าพเจ้าเองก็เช่นกัน ก่อนไปญี่ปุ่นไม่เคยรู้เรื่องเลย จนมีใครบางคนมาเปิดโลกให้ได้รู้จัก laputa ก่อน แล้วเรื่องอื่นๆ ก็ตามมาจนดูครบหมด จนกระทั่งเรื่องล่าสุด Howl's moving castle หรือ Hauru no ugoku shiro

ขออนุญาตเล่าตั้งแต่การจองตั๋ว เผื่อมีใครอยากจะไปเยี่ยมเยือนนะคะ จะได้ไปได้สะดวก


จองตั๋ว

ในการจองตั๋วนั้นจะทำการจองตั๋วได้เพียงที่เดียวเท่านั้นคือในร้านสะดวกซื้อที่ชื่อ "Lawson"

//www.at-lawson.com/AboutView.cfm?LayoutGroupID=2812

เข้าไปสาขาไหนก็ได้ค่ะ มีทั่วประเทศญี่ปุ่น (มีที่หน้าพิพิธภัณฑ์ด้วย แต่ถ้าไปจองก่อนเข้านี่ไม่แน่ใจว่าจะเต็มหรือเปล่านะคะ) จะเปิดให้จองล่วงหน้าได้หนึ่งเดือนค่ะ และจะหยุดวันอังคาร

ค่าตั๋วราคา 1,000 เยน สำหรับผู้ใหญ่อายุ 19 ปีขึ้นไป, 700 เยนสำหรับอายุ 13-18 ปี. 400 เยน สำหรับอายุ 7-12 ปี และ 100 เยนสำหรับอายุ 4-6 ปีค่ะ

พิพิธภัณฑ์จะเปิดตั้งแต่ 10-18 น. ค่ะ และการเข้าชมพิพิธภัณฑ์นั้นจะสามารถเลือกเข้าชมทั้งหมด 4 รอบ (ต้องเลือกรอบใดรอบหนึ่ง) คือรอบ 10, 12, 14 และ 16 น. ค่ะ สามารถเข้าชมตามเวลาที่กำหนดไว้ในตั๋ว ห้ามไปผิดเวลาเด็ดขาด และสามารถเข้าเลทได้ไม่เกินครึ่งชั่วโมงค่ะ ถ้าช้ากว่านั้นคือตัดสิทธิ์ห้ามเข้าค่ะ

เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว จะได้รับแผ่นกระดาษว่าจองตั๋วเอาไว้แล้วให้นำกระดาษแผ่นนี้ไปที่พิพิธภัณฑ์เพื่อรับตั๋วต่อไปค่ะ


การเข้าชม

ตอนที่ไปเด็กทะเลเลือกเข้ารอบแรก (เพราะว่าเขาไม่กำหนดว่าต้องอยู่นานแค่ไหน เข้าตั้งแต่รอบสิบโมงเช้าอยู่ถึงหกโมงเย็นก็ได้ ถ้าต้องการ) ก็นั่งรถบัสจากสถานี Mitaka ไปลงหน้าพิพิธภัณฑ์ค่ะ หาไม่ยาก เมื่อเดินออกมาจากสถานีรถไฟแล้ว ให้เลือกเดินออกทางประตูทิศใต้ พอเดินออกมานอกสถานีก็มองไปทางด้านซ้ายมือของคุณ มองไปไกลๆ หน่อย จะเห็นป้ายรถบัสที่จะนำไปยังพิพิธภัณฑ์ และรถบัสจะมีหน้าตาธรรมดา และพิเศษแบบนี้



รถบัสจะวิ่งสองเส้นทาง ทางอ้อมกับทางตรง แต่ไม่ว่าทางไหนก็จะจอดหน้าพิพิธภัณฑ์ค่ะ ไม่ต้องกลัวหลงเลย ค่ารถราคา 200 เยน ถ้าซื้อไปกลับก็ 300 เยน ค่ะ

นั่งรถบัสไปไม่ถึงสิบนาทีก็จะถึงสถานีหน้าพิพิธภัณฑ์ (หรือจะเดินเอาก็ได้นะคะ ถ้าไม่รีบร้อนไม่ไกลเท่าไหร่) พิพิธภัณฑ์จะอยู่ข้างๆ สวนสาธารณะค่ะ



ป้ายหน้าสถานี พอลงจากรถ มองไปทางซ้ายมือ ก็จะเห็นตึกสีสวยแบบนี้



และบนดาดฟ้าตึกจะมีหุ่นยนต์ในเรื่อง lapita ยืนอยู่อย่างสวยงาม เห็นมาแต่ไกล (ลืมเอารูปมา ขอโทษทีนะคะ)

เดินผ่านรั้วเข้าไปก็จะมีป้ายบอกทางต่างๆ



ตอนที่ไปถึงยังไม่ถึงเวลาเข้า (ไปถึงยังไม่สิบโมงดี) ก็เลยเดินเล่นรอบๆ เดินเลยไปทางด้านซ้ายมือลึกเข้าไป ก็จะเห็นตู้ขายตั๋วที่คนขายน่ารักมากๆๆๆๆ เห็นแล้วอยากไปกระโดดกอดแล้วทิ้งตัวลงนอนบนพุงจริงๆ



totoro จัง ยืนขายตั๋วตาแป๋วอยู่ ด้านใต้ตู้ขายตั๋วจะมีเจ้าลูกกลมๆ ดำๆ ในเรื่องโตโตโระ (จำชื่อไม่ได้ maku...อะไรสักอย่างที่แปลกว่าเถ้าถ่านสีดำ...หรือเปล่าหว่า ลืมสนิทจริงๆ)



ถ้าสังเกตดีๆ เจ้าตัวนี้จะถูกขังอยู่ตามมุมต่างๆ ในตัวพิพิธภัณฑ์ค่ะ เรียกว่าเดินไปทางไหนก็เจอ ถ้าสังเกตนะ

ถ่ายรูปรอบๆ จนพอใจแล้วก็ใกล้จะถึงเวลา เลยเดินไปเข้าแถวรอ ตอนที่ไปเป็นช่วงเปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิพอดี เด็กๆ เยอะ (ขนาดไปวันธรรมดา) คนต่างชาติก็มี ได้ยินพูดภาษาจีนกัน



ยืนเข้าคิวรอกันเป็นแถว อากาศค่อนข้างร้อน ซากุระกำลังบานสวยเลยตอนนั้น อ้อ ข้างในตัวอาคารไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปนะคะ พอถึงเวลาก็ปล่อยให้เดินเข้าพิพิธภัณฑ์ไป ตรงด้านหน้าประตูจะมีคนคอยเช็กกระดาษจองตั๋ว ดูวันและเวลาให้ตรงกับรอบ และเมื่อเข้าไปข้างในก็จะได้รับตั๋วจริงๆ ที่เก็บสะสมได้แบบนี้



เป็นฟิล์มอะนิเมชั่นในเรื่อง laputa จะนำตั๋วนี้ไปชมหนังสั้นในโรงหนังของพิพิธภัณฑ์อีกที เมื่อเดินเข้าไปแล้ว...ก็ต้องเก็บกล้องค่ะ ไม่สามารถเอาออกมาถ่ายได้ เพราะเขาห้าม

ข้างในสวยมากๆ...สวยมากจริงๆ ถ้าใครเป็นแฟน ghibli studio ถ้ามีโอกาสมาญี่ปุ่นต้องไปให้ได้จริงๆ เข้าไปดูแล้วจะรู้ว่าคุ้มกับค่าตั๋วมากๆ และในแต่ละช่วงจะมีการจัดนิทรรศการหมุนเวียนกันไป ตอนช่วงที่ไปเป็นการจัดนิทรรศการของพิกเซลค่ะ น่ารักดี แต่ยังไงก็ยังชอบของ ghibli มากกว่า ฮา

ในตัวอาคารมีทั้งหมดสองชั้นค่ะ มีชั้นใต้ดินและดาดฟ้าแยกต่างหาก ก็เดินชมไปเรื่อยๆ แบบดูช้าๆ มาก เพราะว่าไปคนเดียวเลยไม่ต้องกังวลถึงใคร

บนชั้นสองจะมี neko bus ในเรื่อง totoro ด้วย แต่ว่า...เข้าไม่ได้ เพราะวันที่ไปเด็กเยอะ แล้วเขาสงวนสิทธิ์ว่าถ้าวันไหนคนเยอะขออนุญาตให้แต่เด็กเข้านะคะ ผู้ใหญ่ (ที่เกินชั้นประถมฯ) ห้ามเข้า เสียดายมากๆ มองดูเด็กๆ เล่นกันแล้วอิจฉาสุดๆ เลย

เดินออกมานอกตัวอาคาร ไต่บันไดขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้า คราวนี้ถ่ายรูปได้แล้ว ก็เลยจัดการซะเลย



ถ้าใครได้ดู laputa คงจะจำหุ่นยนต์แบบนี้ได้อย่างแน่นอน ยืนอย่างโดดเดี่ยวบนดาดฟ้า มีเด็กๆ ไปถ่ายรูปคู่มากมาย เดินอ้อมไปข้างหลัง แล้วก็เห็น...เหมือนในหนังเลย



มีต้นหญ้าขึ้นอยู่ค่ะ ไม่ทราบว่าทางพิพิธภัณฑ์ปลูกเอาไว้ หรือมันขึ้นมาเอง (คงจะปลูกมั้งนะ) แต่ว่าได้อารมณ์เหมือนในการ์ตูนมากๆ เลย ชอบสุดๆ

พอเดินเลยห่างลึกเข้าไป หันกลับมามองก็จะเห็นวิวนี้



วันนั้นฟ้าใสมากๆ ดูแล้วรู้สึกว่าโดดเดี่ยวดี เหมือนเจ้าหุ่นยนต์ที่ยืนเหงาเพียงลำพังบนนครลอยฟ้าที่ชื่อ laputa จริงๆ

ตรงมุมในสุดของดาดฟ้าเป็นแท่นศิลาที่ตั้งอยู่ใจกลางนครลอยฟ้า lapita ด้านบนมีรอยสลักเป็นภาษาของ lapita ด้วย แต่ถ้าออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เลยเอาภาพด้านข้างมาให้ดูแทน



ชมจนทั่วดาดฟ้าแล้วก็เดินไต่บันไดลงมา พบกับสิ่งนี้



เป็นม้านั่งที่ทำเป็นรูปปลา ตรงตาปลาจะมีแท่นจับให้หมุนได้ หมุนไปเพื่อความสนุกสนานของเด็กๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ (มาจากเรื่องอะไรหว่า ใครจำได้ช่วยบอกที)

และใกล้ๆ กันนั้นก็เป็นสิ่งนี้



เด็กน้อยกำลังหมุนๆ เพื่อให้มีน้ำดื่มพุ่งออกมา ดื่มได้ค่ะ ตอนที่ดูอยากไปหมุนมากๆ แต่ว่ามีแต่เด็กๆ ทั้งนั้นเลย ก็เลยแบบว่า...นะ...เขิน ฮา เลยดูและเก็บรูปอย่างเดียว

ลงจากดาดฟ้าก็ทัวร์ชั้นสองยันใต้ดินอีกรอบ ก่อนจะเดินทะลุออกมาทางด้านหลังของชั้นใต้ดิน (มันก็ไม่ใต้ดินนะ เพราะว่ามันเปิดโล่ง แต่อยู่ต่ำกว่าระดับพื้นดินปกติเท่านั้นเอง) จัดเป็นสวนน่ารักๆ มีมุมนี้



จากที่ไปส่องดูข้างในไว้เก็บพวกเครื่องมือต่างๆ และเก็บพวกฟืนด้วย นอกจากนั้นก็มีมุมนี้



เห็นกองฟืนชัดๆ เลย ว่าแต่เขาใช้กันจริงๆ หรือเปล่านะ คาดว่าคงจะไม่หรอกมั้ง เอามาประดับเพื่อความสวยงามมากกว่าก็ไม่รู้

ไม่ไกลจากมุมน่ารักๆ นั่นเท่าไหร่ก็จะมีคันโยกน้ำบาดาลแบบที่เคยเห็นตอนไปออกค่ายสมัยเรียนอยู่เกษตรฯ คณะประมง ที่ชัยภูมิ แต่ที่นั่นไม่สวยเหมือนที่นี่ เด็กๆ ไปโยกกันใหญ่ด้วยความสนุกสนาน



ห่างจากคันโยกน้ำออกมาอีกนิดจะมีท่อระบายน้ำที่ให้น้ำที่ไหลออกมาไหลลงไป ฝาปิดท่อระบายน้ำน่ารักมากๆ



ยิ้มแฉ่งมาเลย ชอบจัง

ชมรอบๆ จนหมด ก็เดินไต่บันไดขึ้นไปที่ชั้นหนึ่งทางด้านหลัง ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านอาหาร น่ารักมาก แต่คนเยอะสุดๆ เลยไม่ได้ไปเข้าคิวรอกิน เสียดายเหมือนกัน แต่ไม่มีเวลารอ



เดินเก็บภาพมาเรื่อยๆ ตรงใกล้ๆ กับร้านอาหารก็มีซุ้มขายพวกฮอกดอก น้ำดื่มอยู่เหมือนกัน คนเยอะเหมือนเดิม ยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ก็เลยไม่ไปต่อแถวกิน แต่เดินห่างออกมา พบสิ่งน่าสนใจใกล้ร้านอาหารเป็นสิ่งนี้



มุมน่ารักๆ ที่มีสิ่งพิเศษคือก๊อกน้ำเป็นรูปนี้



แมวน้อยจากเรื่อง kiki's delivery service หรือ majo no takkyubin

เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ แวบกลับเข้าไปในตัวอาคารเก็บรายละเอียดอีกครั้ง แล้วก็ได้เวลาอำลาเมื่อใช้เวลาในนั้นไปสี่ชั่วโมงนิดๆ (ช้อปปิ้งไปกระเป๋าเบาเลย จริงๆ อยากได้อีก แต่ไร้ซึ่งเงินตรา ฮา) ก็เดินมายังทางออกใกล้ๆ กับร้านอาหาร เป็นทางออกที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะใกล้ๆ กัน



ออกแล้วห้ามเข้าอีก คิดให้ดีก่อนย่างเท้าออกนะคะ มีคุณป้าหน้าตาใจดีคอยยืนเฝ้าประตูอยู่ค่ะ

จบการนำทัวร์เที่ยวพิพิธภัณฑ์ Ghibli ค่ะ

ถ้ามีโอกาสอยากจะไปอีกสักครั้งเหมือนกันนะ เคยเห็นข่าว...เมื่อนานมาแล้ว ว่ากำลังดำเนินการสร้างบ้านของซัทสึกิกับเมย์ ในเรื่อง totoro แต่ไม่เห็นข่าวว่าเสร็จหรือไม่เสร็จยังไง แต่อยากไปดูอีกจัง

ยังคงเป็นแฟนเหนียวแน่นของ ghibli studio ค่ะ

ชอบมากจริงๆ

aoiumi
05.04.07

(วันที่ไป)




 

Create Date : 17 สิงหาคม 2548
11 comments
Last Update : 23 สิงหาคม 2548 19:33:00 น.
Counter : 1339 Pageviews.

 

ตามไปเที่ยวค๊า

 

โดย: yadegari 17 สิงหาคม 2548 17:40:42 น.  

 

อ่า...อยากปายยยย

 

โดย: Clear Ice IP: 61.91.136.145 17 สิงหาคม 2548 20:33:28 น.  

 

ชอบ Ghibli มากๆค้า

 

โดย: ใสแจ๋วแหว๋ว 17 สิงหาคม 2548 22:09:07 น.  

 

แล้วเจอกันชัวๆ นะคะ พี่อ้อม แล้วอย่าลืมพาดาวไปเที่ยวบ้างนา หุ หุ ตามรอยพี่อ้อมไปทุกที่เลย อิ อิ (ตื่นๆ ตื่นได้แล้ว สายแล้ว ฮา)

 

โดย: nuna'dao IP: 203.151.140.116 18 สิงหาคม 2548 10:51:43 น.  

 

อยกไปบ้างจังอ่ะ พาไปหน่อยสิคะ ฮิ ฮิ

ว่าแต่ aoiumi นี่ใช่ความฝันสีฟ้าหรือเปล่าคะ

 

โดย: เนตรนภัส 18 สิงหาคม 2548 17:45:38 น.  

 

แวะมาทักค่ะ :)

ตัวอยู่อังกฤษแต่ใจคิดถึงญี่ปุ่น ผิดมั้ยอะ อิอิ

 

โดย: I aM nOt PerFecT IP: 82.43.180.139 18 สิงหาคม 2548 21:53:43 น.  

 

แวะมาเยี่มชมครับ

ตกหลุมรัก Studio Ghibli มานาน

 

โดย: เด็กละเมอ IP: 213.244.16.77 31 สิงหาคม 2548 15:10:05 น.  

 



ตามมาเที่ยวค่ะ..

ญี่ปุ่นเป็นอีกประเทศที่ไปแล้ว...เฮอ้... อยากไปอีกๆๆๆอ่ะค่ะ

หนูใฝ่ฝันว่าสักวันต้องไปทากายาม่าให้ได้... ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ไปอ่ะค่ะ

><"

 

โดย: p_jung (P_JUNG_PIGLET ) 10 ตุลาคม 2548 14:40:45 น.  

 

ญี่ปุ่นๆ อะไรๆ ก็ญี่ปุ่น ที่ทำงานก็มีแต่ญี่ปุ่น พี่เขาไปญี่ปุ่นมา นี่พี่อ้อมก็ได้เที่ยวจนจะทั่วญี่ปุ่นแล้วสิ...
T-T เศร้าอ่ะ ปลากัดอยากไปมั่งไม่ใช่ไรหรอก แหะๆ ก็อยากไปนี่นา อยากไปๆ อิจฉาๆ อิจฉาๆ

 

โดย: ปลากัด IP: 203.130.144.55 21 ตุลาคม 2548 8:16:58 น.  

 

แวะมาค่ะ สวัสดีค่ะ กำลังจะไป ghibli แต่ไม่รู้ว่าจะซื้อตั๋วยังไง ได้ความรู้มากมายค่ะ ต้องหาทางซื้อตั๋วให้ได้
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ค่ะ

 

โดย: littleblackoz IP: 124.121.175.233 20 เมษายน 2551 11:03:12 น.  

 

อยากไปๆ
น่าจะไกลจากโอซาก้านะ

 

โดย: คนขับช้า 26 ตุลาคม 2553 6:45:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ลิปิการ์
Location :
ตอนใต้ Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537

ห้ามผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์ โดยการนำรูปภาพ และบทความงานเขียน รวมทั้งข้อความต่างๆ ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดในบล็อกแห่งนี้ไปใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญติไว้สูงสุด
Friends' blogs
[Add ลิปิการ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.