Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
24 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
Kansai Trip (จบ): Houryuuji - Nara

วันที่ 27 พฤษภาคม 2550

คอนเสิร์ตทักกี้กับซึบาสะ ติดตามได้ที่นี่ค่ะ -> ”T&T’s concert”




วันที่ 28 พฤษภาคม 2550

มาต่อกันด้วยทริปวันสุดท้ายค่ะ วันนี้มีเวลาถึงสี่ทุ่ม เพราะบัสที่จะกลับคุมาโมโต้จะออกตอนสี่ทุ่มสิบนาที

ตอนเช้าตื่นมาก็เตรียมตัวเช็กเอ้าท์ เอากระเป๋าไปฝากไว้ที่โรงแรมก่อน เดี๋ยวตอนเย็นๆ จะมาเอา แล้วก็เดินไปสถานีโอซาก้า ไปถาม information ว่าจะไปวัด Houryuuji (Hōryūji 法隆寺)ที่จังหวัดนาราได้ยังไง ปกติแล้วจะมีรถจากโอซาก้าไปถึงเลย แต่มีเฉพาะตอนเช้าๆ แต่ตอนไปมันสายแล้ว (ประมาณเก้าโมงนิดๆ) ก็เลยต้องไปต่อรถอีกรอบ

ตอนต่อรถก็หนุกหนานมาก เพราะรถไฟมีสี่ขบวน แต่ที่จะไปนารามีแค่สองขบวนแรก สองขบวนหลังจะถูกตัดที่สถานีระหว่างทาง ก็ต้องเดินขึ้นไปนั่งที่ขบวนหน้ากัน คนไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะเป็นวันธรรมดา นั่งรถไฟประมาณสี่สิบนาทีก็ถึงสถานี Houryuuji ค่ะ

สถานีเงียบๆ คนไม่เยอะ แถมที่ information ยังไม่เปิด (เปิดประมาณสิบโมง แต่ตอนไปถึงมันยังไม่สิบโมงดี) แต่มีป้ายเขียนบอกว่าจะไป Houryuuji ยังไงนะคะ เขียนเป็นภาษาอังกฤษด้วย เพราะโฮริวจิคือวัดที่เป็นมรดกโลกค่ะ (ถูกจัดเป็นมรดกโลกเมื่อปี 1993 ค่ะ) เป็นวัดไม้ที่มีอายุมากที่สุดในโลก คือสร้างขึ้นมาเมื่อประมาณ 1300 ปีมาแล้วค่ะ สนใจอ่านรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ -> Houryuji

จริงๆ วัดสามารถเดินไปจากสถานีรถไฟได้ค่ะ โดยใช้เวลา 20 นาที แต่พวกเราขี้เกียจ เลยนั่งรอรถเมล์กัน สักพักรถเมล์ก็มาค่ะ นั่งไปประมาณไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงวัด มีร้านขายของที่ระลึกตั้งอยู่หน้าวัดหลายร้าน บรรยากาศเงียบๆ คนไม่เยอะ เพราะเป็นวันธรรมดา


หน้าวัด




ทางเดินเข้าไปในตัววัด



อากาศดีมากๆ ฟ้าใส เริ่มเห็นคน ซึ่งส่วนมากเป็นนักเรียนมาทัศนศึกษา มาเป็นกลุ่มใหญ่มากๆ หลายกลุ่มเลยค่ะ ก็จะพยายามเดินหนีเด็กกัน (พอดีโหมดนางงามยังไม่เข้าสิง เลยไม่รักเด็ก ฮา)


มังกรพ่นน้ำ จุดล้างมือก่อนเข้าวัดค่ะ



(ริว แปลว่า มังกรค่ะ)


หน้าวัดทางด้านใน



มีทหารยืนเฝ้า (คล้ายๆ ยักษ์เฝ้าหน้าวัดบ้านเรา)



รูปนี้ปากจะเปิดเป็นการออกเสียง “อะ” (ตัวอักษรเริ่มต้นของญี่ปุ่น)




ส่วนคนนี้จะปากจะปิด เป็นการออกเสียง “อึน” (ตัวอักษรสุดท้ายของญี่ปุ่น)



ถ่ายกับป้ายซะหน่อย




พวกเราก็เดินกันรอบนอกก่อน ยังไม่ได้เข้าไปข้างใน แล้วก็ไปเจอแม่แมวนอนอยู่ มีลูกๆ อยู่สามสี่ตัว น่ารักมาก แต่พอเดินเข้าไปใกล้ ลูกๆ ก็หนีเข้าพุ่มไม้หมดเลย มีสองตัวโผล่ตาแป๋วๆ ออกมาดู





น่ารักมาก พยายามรอ แต่มันก็ไม่ออกมาอีก เลยตัดใจเดินเข้าไปดูด้านในวัดแทน

เสียค่าเข้าชม 1000 เยน แต่คุ้มค่ะ เพราะเข้าดูได้หลายส่วนเลย ไม่ต้องเสียเพิ่ม (ยกเว้นส่วนพิเศษอื่นๆ) จะเข้าดูได้ทั้งหมดสามส่วนนะคะ เข้าชมห้องแสดงโบราณวัตถุได้ด้วย


โปรยรูปเลยนะคะ อากาศดีฟ้าใส คนไม่เยอะ ชอบมากๆ







ในตัวอาคารต่างๆ เข้าไม่ได้นะคะ แต่ยืนดูข้างนอกได้ มีบางอาคารเท่านั้นที่เปิดให้เข้าชม


ส่วนนี้จะเปิดให้เข้าชมค่ะ มีรูปปั้นของเทพเจ้าต่างๆ ตั้งเอาไว้ให้ชม แต่ข้างในห้ามถ่ายรูปนะคะ




สิงโตรอบฐานของโคม (?) สีเขียวหน้าอาคารข้างบนค่ะ มีทั้งหมดสี่ด้าน ลักษณะท่าทางไม่เหมือนกัน









มีคนเอาเงินไปใส่ไว้ด้วย ตามรูปข้างบนเลยค่ะ ^^


มุมนี้สวย




ในตัวอาคารที่ห้ามถ่ายรูป แต่ถ่ายจากข้างนอกเข้าไป




ข้างในที่ให้ทำบุญซื้อหลังคาโบสถ์เอาไว้ซ่อมแซมด้วย (เหมือนบ้านเรา ที่ซื้อพวกกระเบื้องปูหลังคาโบสถ์ พวกนั้น) เรากับวายซังก็ทำบุญซื้อกระเบื้องหลังคาคนละชิ้น ได้เขียนชื่อลงบนหลังคา คุณลุงใจดีมากๆ ให้เอาออกมาถ่ายรูปข้างนอกด้วย (ข้างในห้ามถ่าย)



(เขียนนามสกุลเอาไว้ แอบทำเบลอนะคะ ฮา)

ถ่ายซะหน่อย



(แดดจัด แต่วันนั้นอากาศค่อนข้างเย็นค่ะ)

ตรงส่วนนี้เหมือนกับเป็น main ของวัดนี้น่ะค่ะ ชมเสร็จก็เดินออก



เปิดแผนที่ที่ได้รับแจกดู แล้วก็เดินไปตามแผ่นที่ เพื่อไปดูส่วนอื่นๆ ต่อไป วัดกว้างมากๆ


จุดล้างมือตรงด้านหน้าอีกส่วนของวัดที่จะเข้าชมได้



ด้านใน



ผลซากุระ พราวเต็มต้นมากๆ



ตรงส่วนนี้ไม่กว้างมาเหมือนเมื่อครู่ ดูกันแป๊บหนึ่งก็เสร็จ แล้วเดินต่อ


ถ่ายจากข้างนอก ถ้าจะเข้าชมข้างใน (เป็นสวนญี่ปุ่น) ต้องเสียค่าเข้าอีกสามร้อยเยน พวกเรางก เลยไม่เข้าค่ะ ฮา




ถัดจากนี้ก็เข้าไปชมโบราณวัตถุที่เป็นสมบัติของชาติญี่ปุ่นค่ะ เป็นโบราณวัตถุจำพวกรูปปั้นต่างๆ เป็นศิลปะของศาสนาฮินดูเยอะค่ะ นำเข้ามาจากอินเดีย ชื่อค่อนข้างคุ้นพวกเราพอสมควร ก็ดูกันเพลินเลย (วายซังชอบมาก) แต่ข้างในห้ามถ่ายภาพเลยไม่มีภาพมาอวดนะคะ

ดูกันจนบ่ายโมงนิดๆ ก็โบกมือลา Houryuuji มรดกโลกค่ะ ภาพสุดท้าย



เสร็จแล้ว เราก็นั่งรถบัสมาลงสถานีรถไฟ (เด็กๆ เต็มรถเลย มาลงสถานีเหมือนกัน แล้วนั่งต่อไปนารา) จริงๆ อยากเที่ยวนาราต่อ แต่เสียดายเวลาไม่มี เลยตกลงใจกลับโอซาก้ากัน เพราะวายซังจะไปซื้อของที่ร้านลุงจอห์นนี่ ฮา

ก็นั่งรถไฟฟ้าไปต่อรถไฟใต้ดิน ไปลงสถานี shinsaibashi แล้วก็เดินหาร้านลุงจอห์นฯ ร้านลุงสีเหลืองมาก ดูเล็กๆ ไม่มีอะไร เขียนแต่ว่า johnny’s shop (วายซังถ่ายรูปคู่มา) แล้ววายซังก็เดินเข้าไปซื้อ...หมดไปประมาณห้าสิบกว่ารูป พร้อมกับ goods อีกหลายๆ อย่าง (เผาอีกแล้ว ฮา) เราก็ได้แต่ดู พร้อมกับซื้อรูปจินมาหนึ่งใบ จะส่งให้น้องที่เล่นเกมได้รางวัลเมื่อเดือนก่อนโน้น สัญญากันไว้ ว่าน้องไม่เอาพวงกุญแจ แต่ขอเป็นรูปจินแทน ฮา

ซื้อเสร็จ ก็เดินไปหาอะไรกิน หิวมาก ไปกินบุฟเฟ่ต์พิซซ่า พอกินได้ค่ะ พยายามกินหลายชิ้น จะได้คุ้ม ก็อร่อยดี เสร็จแล้วก็เดินช้อปต่อ พาวายซังไปละลายเงินที่เคาน์เตอร์ RMK ตอนแรกเข้าของไดมารุ แต่คนเยอะมากๆ เลยไปโซโก้แทน คนไม่มีเลย (สงสัยใกล้เจ๊ง) วายซังไปลองหลายๆ อย่าง แล้วก็ควักเงินซื้อมาสองอย่าง (ฮา) ส่วนเราไปซื้อเป็น skin care ของ RMK แทนของเดิม คือปกติใช้ body shop แต่ร้านที่คุมาโมโต้มันย้ายหนี เลยต้องเปลี่ยนใหม่ (ฮา) สรุปจ่ายเงินกันไปเกือบคนละหมื่นเยน เดินตัวปลิวออกจากร้านเลย ฮา

แล้วก็ไปถ่ายสติ๊กเกอร์กันหนุกหนานมากมาย แต่งรูปกันเหนื่อยมากๆ เพราะเขาไม่จับเวลา อยากแต่งนานแค่ไหนก็ตามสบายเลย บ้าบอกันดี

ตัวอย่างรูป เผยโฉมวายซัง ฮา



ท่าเลียนแบบทักกี้ในรูปถ่ายที่ขายอยู่ในร้านลุงจอห์น

เสร็จแล้วเราก็นั่งรถไฟใต้ดินกลับไปโรงแรม เอากระเป๋า แล้วพาวายซังไปเช็กอินอีกโรงแรมใกล้ๆ กัน (คือห้อง single ของโรงแรมนี้ถูกกว่าโรงแรมเดิมมากอ่ะค่ะ) ก็จัดการเช็กอิน ให้วายซังเอาของขึ้นไปเก็บ แล้วเราก็นั่งรอข้างล่าง วายซังลงมาอีกรอบ ใช้วายซังเอากระเป๋าเราขึ้นห้องไปเก็บไว้ก่อน (แอบเลวนี่ ฮา) แล้วก็ออกไปหาไรกินกัน

ไปจองตั๋วชินกันเซนให้วายซังก่อน แต่ตั๋วตอนเช้าเต็มหมด เลยเอาตอนสายๆ แทน เสร็จแล้วก็เดินวนไปมาหลายรอบ ก่อนจะไปลงเอยที่ร้านอาหารใกล้ๆ สถานีรถไฟ วายซังกินอะไรหว่า เรากินข้าวเซตปลา (มั้ง) รูปก็ไม่ได้ถ่ายมา ลืม ฮา รู้แต่ว่าก็อร่อยดี

กินเสร็จก็เดินกลับโรงแรม มาเอากระเป๋า เตรียมตัวเดินไปขึ้นรถ วายซังเดินมาส่งตรงถนนใหญ่ แล้วก็โบกมือลา เราก็เดินไปรอขึ้นบัส บัสมาช้ากว่ากำหนดเกือบสิบห้านาที สลบบนรถเลย โชคดีมากที่ที่นั่งข้างๆ เราไม่มีคน (รถแน่นมากๆ) เลยหลับสบายหน่อย ไปถึงเช้า ไปมหาลัยสาย (วันรุ่งขึ้นโดนว่าเลย ว่ามาทำงานสายประจำ T-T)

ส่วนวายซังวันรุ่งขึ้นก็นั่งชินกันเซนไปชินโยโกฮาม่า เพื่อเช็กอินโรงแรม แล้วก็ไปร้านลุงจอห์นฯ นี่ฮาราจุกุ ช้อปรูปไปอีก...เกือบยี่สิบใบ (ฮา) วายซังพักที่ชินโยโกฮาม่าสองคืน ก่อนจะกลับอเมริกาพร้อมด้วย (รูปและของ)ทักกี้กับซึบะสะค่ะ

จบทริปคันไซกับคอนเสิร์ตทักกี้ ขอบคุณที่ติดตามกันมานะคะ ^^


เด็กทะเล
07.6.24



Create Date : 24 มิถุนายน 2550
Last Update : 24 มิถุนายน 2550 11:57:18 น. 14 comments
Counter : 1665 Pageviews.

 
เปิดโลกทัศน์ดีคะ
goodpeople มาเยี่ยมในวันหยุดคะ


โดย: goodpeople วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:12:12:56 น.  

 
ดูสะอาดสะอ้านมากเลยครับน่าเที่ยวจริงๆ แต่มังกรพ่นน้ำญี่ปุ่นนี่แปลกๆแฮะ ไม่เหมือนมังกรเลย


โดย: หลั่มหมั่นเหม่ง วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:18:04:36 น.  

 
ชอบมากเลยครับ...โดยเฉพาะรูปแมว สองรูป สองตัวนั้น...


โดย: pompier วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:18:07:36 น.  

 
วิวสวยดีค่ะ ชอบรุปปั้นที่ออกเสียงอะกับอึน นึกภาพตอนลี่ฝึกออกเสียงได้เลย

ตอนนี้แอบสับสนตัวคาตะคานะหลายตัวอ่ะค่ะ เพราะมีลักษณะคล้ายกันมากๆๆๆๆๆๆๆ เลยค่ะ คือตัว shi กับ tsu so กับ -n เขียนคล้ายกันซะ จนต้องหาข้อแตกต่างให้ได้ ก็กลัวนะคะว่าเวลาอ่าน อาจจะตีกันยุ่ง เพราะมันดูคล้ายกันมากๆ เลย แล้วก็แอบมึนกับคาตะคานะ เพราะดันมีบางตัวเหมือนอักษรจีนที่เคยรู้มาก่อน พอเห็นก็ไม่คุ้นเคยที่จะต้องท่องจำเป็นเสียงญี่ปุ่นอ่ะค่ะ 555+

วันนี้มาเก็บความรู้จากพี่อ้อมค่ะ ริว แปลว่า มังกร



โดย: lily (lovekalo ) วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:20:03:34 น.  

 
++ คุณ goodpeople++
ขอบคุณที่เข้ามาทักทายค่ะ

++ คุณหลั่มหมั่นเหม่ง++
ออกแนวจีนๆ หน่อยอ่ะค่ะ แต่ตัวผอมเลยดูแปลกตา ^^

++ คุณ pompier ++
แมวน่ารักมากๆ ค่ะ รูปยังไม่น่ารักเท่าตัวจริงๆ ^^

++ น้องลี่ ++

จำหลักง่ายๆ นะคะ คาตากานะจะใช้สำหรับคำที่มาจากต่างประเทศน่ะค่ะ เอามาเขียนเป็นคำอ่าน เช่นคำว่า thank you, restuarant เป็นต้นอ่ะค่ะ แต่คาตากานะจำยากนะ ออกเสียงลำบากมาก (คืออ่านไม่ออกอ่ะ ไม่รู้ว่าจะอ่านมันว่าไรดี ^^'')

ส่วนที่น้องถาม shi, tsu, so, n มองเผินๆ คล้ายกันนะคะ แต่ถ้าสังเกตดูดีๆ จะไม่เหมือนกันค่ะ คิดว่าลี่น่าจะรู้ว่าการเขียนตัวอักษรของญี่ปุ่นจะมีลำดับในการลากเส้นน่ะค่ะ และทั้งสี่ตัวข้างบน เวลาเขียนจะมีลำดับที่แตกต่างกัน ดังนั้นตัวอักษรจะต่างกันด้วยค่ะ ลองสังเกตดีๆ นะ (อธิบายลำบาก ต้องเขียนให้ดูอ่ะ ไว้เจอกันตอนพี่กลับไทย ทวงนะ เดี๋ยวเขียนให้ดู ^^)

สู้ๆ เรื่องเรียนน้า ^^


โดย: เด็กทะเล (ลิปิการ์ ) วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:22:02:29 น.  

 
ไม่ค่อยเห็นมีรูปพี่อ้อมเลย
ไม่ชอบถ่ายรูปเหรอค่ะ
อยากเห็นน่ะค่ะ
จะได้หายคิดถึง


โดย: wi IP: 58.9.59.90 วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:59:34 น.  

 
++ น้องวิ ++
ดูรูปวิวไปแทนก่อนน้า รูปพี่นานๆ ออกมาทีค่ะ ฮา


โดย: เด็กทะเล (ลิปิการ์ ) วันที่: 12 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:13:10 น.  

 
วิวสวยจังเลยค่ะ อยากไปเที่ยวบ้างจังเลย แต่ไม่ค่อยมีรูปพี่อ้อมเลยนะคะ *-*


โดย: inkumi IP: 125.24.136.220 วันที่: 18 สิงหาคม 2550 เวลา:3:35:35 น.  

 
อยากไปเที่ยวมั่งจัง


โดย: aon IP: 61.7.166.111 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:19:40:41 น.  

 
เด๋วถ้ามีลูกชายเมื่อไหร่ จะให้ชื่อว่า "ริว" นะคะพี่อ้อม ชอบชื่อนี้มากๆเลยอ่ะค่ะ ไม่รู้ทำไม

โอ๊ย!! อยากไป อยากไป อยากไปญี่ปุ่น


โดย: NiD kaaa""" IP: 203.156.10.87 วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:12:26:46 น.  

 
++ น้องอิง++
ดูรูปวิวดีกว่าน้า ^^

++ น้อง aon ++
ขอให้ได้มาเร็วๆ ค่า

++ น้องนิด++
สนับสนุนค่ะ ชอบชื่อนี้เหมือนกันน้า ^^


โดย: เด็กทะเล (ลิปิการ์ ) วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:23:07:23 น.  

 
มาตามไปเที่ยวก่อนเข้าห้องสอบค่ะ ^^


โดย: คอเล่า IP: 203.131.210.30 วันที่: 31 ตุลาคม 2550 เวลา:9:14:42 น.  

 
ไปมาสองครั้งแล้วค่ะที่นารา แต่พอมาเห็นทีเวปคุณอ้อมก็เหมือนได้รำลึกความหลัง
(ทั้งที่ไม่นานมานี้เอง ฮิๆๆ)
ชอบรูปแมวมากๆ ค่า น่ารักสุดๆเลย

คงไม่สายหากจะหวัดดีปีใหม่กันนะคะ
เราเคยคุยกันผ่านเมล์แล้ว แต่อาจจำไม่ได้เพราะนานมากแล้ว ฮิๆ

ยังติดตามผลงาน "เด็กทะเล"อยู่ค่ะ

ขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ


โดย: นางฟ้าหน้าหมวย (บินปร๋อ ) วันที่: 8 มกราคม 2551 เวลา:8:30:57 น.  

 
อยากไปมั่งอ่าค่ะ....

แต่อยากไปดูคอนของจอนนี่จัง....

ไม่ว่าจะเป็นทักกี้...นิวส์ ก็อยากไปดูหมดเลยอ่าค่ะ

จะติดตามผลงานของเด็กทะเลเสมอนะคะ.....

จะบอกว่าเลือกเรียนมารีนเพราะเด็กทะเลเลยนะคะ.....เรียนตามค่ะ (เกี่ยวมั๊ยง่ะ??) แต่คนละสถาบันค่ะ....เรียนอยู่ในรั้วจามจุรีค่ะ

วันนี้ไปงานสัปดาห์หนังสือด้วย....เห็นแล้วล่ะค่ะ แต่ไม่ได้เข้าไปขอลายเซ็น เพราะคนเยอะมากกกกก

ขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ


โดย: yamagoshi IP: 58.8.99.14 วันที่: 30 มีนาคม 2551 เวลา:20:06:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลิปิการ์
Location :
ตอนใต้ Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537

ห้ามผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์ โดยการนำรูปภาพ และบทความงานเขียน รวมทั้งข้อความต่างๆ ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดในบล็อกแห่งนี้ไปใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญติไว้สูงสุด
Friends' blogs
[Add ลิปิการ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.