Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
12 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
Yakushima (1): Jomon sugi ตอนต้น

วันนี้มาเล่าเรื่องไปเที่ยวที่ Yakushima เมื่อวันที่ 13-17 สิงหาคมที่ผ่านมาค่ะ

ทำไมถึงอยากไป Yakushima ก็เพราะว่าที่นั่นถูกจัดเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งหนึ่งค่ะ ลักษณะโดยทั่วไปก็คือเป็นเกาะเล็กๆ อยู่ทางตอนใต้ของประเทศ ในเขตจังหวัด Kagoshima บนเกาะคิวชู



กลมๆ เล็กๆ นั่นล่ะค่ะ เกาะยาคุ (ชิม่า แปลว่า เกาะ) เป็นเกาะที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟนะคะ สัณฐานน่ารักมากมาย




วันที่ 12-13 สิงหาคม 2551

พวกเราออกเดินทางกันตั้งแต่คืนวันที่ 12 นั่งเรือเฟอร์รี่จากจังหวัดเอฮิเมะมายังเมืองคิตะคิวชู จังหวัดฟุกุโอกะ ในตอนตีห้า แล้วก็นั่งรถบัสต่อไปยังใจกลางเมืองฟุกุโอกะ เพื่อต่อรถบัสไปยังจังหวัดคาโกชิม่าค่ะ เสร็จแล้วก็ต้องนั่งเรือเร็วไปยังเกาะ



ถ่ายรูปกับเรือ Toppy

ไปถึงเกาะตอนบ่ายสามโมงโดยประมาณ (รวมเวลาทั้งสิ้นประมาณ 17 ชั่วโมงค่ะ) บริษัทรถเช่าที่จองไว้มารอที่ท่าเรือแล้ว ตอนที่ไปเป็นช่วงโอบ้ง ซึ่งเป็นวันหยุดยาวของญี่ปุ่น เลยต้องจองทุกสิ่งทุกอย่างให้เรียบร้อยล่วงหน้าประมาณสองเดือน ไม่งั้นอย่าหวังว่าจะได้ไปค่ะ เพราะทุกอย่างจะเต็มหมด

นั่งรถตู้ของทางบริษัทรถเช่าไปเอารถ รถคันเล็กมาก เพราะเลือกแบบถูกสุด (ฮา) เสร็จแล้วก็เริ่มกางแผนไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ไปถามหาตั๋วรถบัสที่จะพาพวกเราไปขึ้นเขา เพื่อจะไปจุดเริ่มต้นของการเดินป่าค่ะ (หน้าท่องเที่ยวห้ามเอารถขึ้นไปค่ะ ต้องจอดไว้ในจุดที่เขากำหนด) ได้ข้อมูลและตั๋วรถเรียบร้อย ก็ซื้อน้ำผลไม้ของเกาะมาชิม



น้ำเสาวรสกับน้ำ tankan (เป็นส้มชนิดหนึ่ง) อร่อยดีค่ะ

เสร็จแล้วก็เดินทางต่อไปยังโรงแรมที่จองไว้




ด้านหน้าเป็นแกลอรี่



ขายของที่ระลึกที่ทำจากไม้สนซีดาร์ สวยดีค่ะ (แต่ข้างในมืดเลยไม่ได้ถ่ายรูปมาเท่าไหร่) ไปถึงยังไม่ได้เช็กอิน ทางเจ้าของโรงแรม (จริงๆ ไม่เชิงเป็นโรงแรมนะคะ แบบเป็นบ้านพักแยกเป็นหลังๆ หลังหนึ่งมีหลายห้อง และใช้ร่วมกันอ่ะค่ะ) ก็เลี้ยงชา กาแฟ กันก่อน แล้วก็พูดคุยกันเล็กน้อย (เลยได้ทราบว่าต้น sugi ก็คือ ต้นสนซีดาร์นี่เอง) ก่อนจะเอาของเข้าไปเก็บในห้อง



ต้นส้นซีดาร์หลังห้องพัก




ลำธารข้างที่พัก น้ำใสเย็นมากๆ ค่ะ น่าเล่นน้ำจริงๆ

จากนั้นก็ออกไปหาอะไรกินกัน อาหารหลักๆ ของคนในเกาะนี้ไม่ใช่อาหารทะเลค่ะ จริงๆ อาหารขึ้นชื่อเลยก็คือปลาซาบะ กับปลานกกระจอก ส่วนอาหารทะเลชนิดอื่นๆ ต้องนำมาจากจังหวัดอื่น วันนี้เป้าหมายของเราเลยเป็นเนื้อย่าง (ฮา)



ภายในร้าน ไส้กรอกอันยาวมากๆ กินข้าวไม่ได้กินปลาเสร็จ ก็พากันกลับที่พัก โทรไปสั่งจองข้างกล่องสำหรับพรุ่งนี้ที่จะเดินทางไกล อาบน้ำอาบท่าเสร็จก็เข้าห้องนอนเลย เพราะพรุ่งนี้จะตื่นกันตอนตีสามครึ่ง เพื่อจะไปให้ทันรถบัสเที่ยวตีห้าขึ้นไปยังจุดเริ่มต้นเดินป่าค่ะ

เล่านิดหนึ่งก่อน ในยาคุชิม่าจะมีเส้นทางเดินป่าทั้งหมดสามเส้นทาง และหนึ่งเส้นทางขึ้นเขา (สำหรับโปรเท่านั้น) โดยเส้นทางแรกที่เราจะไปเดินกันนั้นมีระยะทาง 22 กิโลเมตร ใช้เวลาไปกลับประมาณสิบชั่วโมง เพื่อไปดูต้นสนซีดาร์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อายุประเมินคือ 2000-7000 ปี ค่ะ

และเส้นทางท่สองมีระยะทาง 9 กิโลเมตร ใช้เวลาไปกลับประมาณสี่ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งกะกันว่าจะไปเดินวันที่สาม (ถ้าสภาพร่างกายไหว ฮา) เส้นทางนี้จะเดินไปดูป่าสนและมอส ฉากหนึ่งใน animation เรื่อง princess mononoke ค่ะ และเส้นทางสุดท้ายใช้เวลาเดินสองชั่วโมง ระยะทางประมาณสี่กิโลเมตร จะได้ไปหรือไม่ ก็ขึ้นกับร่างกายอีกแล้ว ^^



วันที่ 14 สิงหาคม 2551

วันนี้เริ่มต้นขึ้นตอนตีสามครึ่ง ออกจากที่พักตอนก่อนตีสี่นิดๆ ท้องฟ้าสวยมากๆ เพราะดาวเต็มฟ้าเลยค่ะ ก็ขับรถไปเอาข้าวกล่องที่สั่งไว้ จากนั้นก็ตรงไปยังจุดจอดรถเพื่อขึ้นรถบัส (ขับรถประมาณสี่สิบนาทีจากที่พัก) ไปถึงก็มีคนมารอเต็มแล้วค่ะ พวกเราได้นั่งเก้าอี้เสริมกลางรถ แบบว่ารถโยกมาก (เพราะเป็นทางขึ้นเขา) นั่งกันประมาณสามสิบนาที กะว่าถ้านานอีกนิด ได้เมารถแน่ๆ เลย

จุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินป่าค่ะ



พวกเราจะต้องเดินไปตามเส้นทางของรถไฟสายนี้ประมาณแปดกิโล ก่อนจะขึ้นเขาอีกประมาณสามกิโล รถไฟสายนี้สร้างขึ้นเมื่อนานมาแล้ว สมัยที่แถบนี้ให้สัมปทานตัดไม้สนซีดาร์ และใช้รถไฟในการขนบรรทุกออกมา ในภูเขาแถบนี้มีหมู่บ้านและโรงเรียนประถมด้วยนะคะ

ออกเดินทางไปตามเส้นทางสายรถไฟ (เมื่อเวลาตีห้าห้าสิบนาที)




ลอดผ่านอุโมงค์ (ได้อารมณ์อะนิเมทเรื่อง spirited away เลย)




ต้นมอสข้างทาง



ที่ยาคุชิม่า มีมอสถึงหกร้อยกว่าชนิดค่ะ เนื่องจากที่นี่มีฝนตกทุกวัน อากาศจึงค่อนข้างชื้น มอสจึงขึ้นได้เป็นอย่างดี


รากไม้ข้างทาง ใหญ่มากๆ ค่ะ




ทางรถไฟเลียบขอบเขา




ระหว่างทางที่เดินก็พบเห็นต้นสนซีดาร์ใหญ่มากๆ ตามรายทาง ส่วนใหญ่จะเป็นแบบว่าต้นเดิมที่อายุหลายร้อยปีตายลง และมีต้นไม้เติบโตคร่อมต้นเดิมน่ะค่ะ แล้วต้นไม้อายุหลายร้อยปีก็มักจะมีโพรงไม้ให้เห็นอย่างนี้



ใฝ่ฝันอยากมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เห็นรูปของเด็กที่แล็บ


เจ้าตัวนี้โผล่มาทักทายที่ข้างทาง



ที่เกาะนี่มีกวางและลิงเยอะมากค่ะ


เดินไปได้สักพักก็เริ่มหิว เลยหยิบเอาเสบียงมากิน



ขนมปังไส้ครีม อร่อยมากมาย


ต้นเห็ดข้างทาง




ตัวอย่างการที่ต้นไม้เติบโตบนต้นอื่น



ภาพที่เห็นมีสามรุ่นนะคะ รุ่นปู่, พ่อ และลูก รู้สึกว่ารุ่นปีจะอายุพันปีค่ะ


วิวข้างทาง




เดินกันมาหลายชั่วโมง ก็มาถึงจุดสิ้นสุดทางรถไฟ และต้องปีนเขาขึ้นไป




เดินหลายชั่วโมง แต่ไม่เหนื่อยนะคะ อาจจะเป็นเพราะอากาศไม่ร้อนมาก แถมฝนก็ไม่ตก (คือถ้าฝนตกนี่ลำบากแน่เลย แต่ก็เตรียมเสื้อกันฝนไปนะคะ เพราะฝนกับเกาะนี่เป็นเรื่องธรรมดามาก)


ตอไม้ใหญ่สุดๆ




จุดนี้อยากมามากๆ





เป็นโพรงไม้อายุราวๆ ห้าร้อยปี มองด้านนอกไม่ใหญ่ใช่มั้ยคะ แต่คนสามารถเข้าไปได้ถึงสิบกว่าคนเลยค่ะ ด้านในมีศาลเจ้าเล็กๆ ตั้งอยู่ด้วย



แล้วยังมีธารน้ำเล็กๆ ไหลผ่านด้านในด้วยค่ะ และจุดเด่นของโพรงไม้นี้ก็คือ...ปล่องด้านบนเป็นรูปหัวใจค่ะ ^^ แต่เรายังไม่เอามาให้ดูกันน้า เพราะตอนขาไปนี่ถ่ายเห็นไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แวะตอนขากลับถ่ายออกมาสวยมากค่ะ



เอาไยแมงมุมมาให้ดูก่อน





หมีน้อยพักเหนื่อยบนต้นมอส





ตอนเดินบนทางรถไฟนี่สบายๆ มาก ไม่ร้อน แต่พอเดินขึ้นเขานี่ทั้งร้อนทั้งเหนื่อย แบบว่าต้องถกขากางเกง (ฮา)




ไม้ล้มต้นใหญ่ๆ ก็ปกคลุมเต็มไปด้วยต้นมอสค่ะ




ทางเดิน เหมือนเดินง่าย แต่ไม่เลย







เจ้าต้นนี้อีกสักสามร้อยปีก็คงใหญ่เหมือนต้นอื่นๆ เนอะ




เทียบความใหญ่โต








กิ่งก้านของต้นสนซีดาร์ จะอยู่ทางด้านบนๆ





ใกล้ถึงแล้วค่ะ



เดินขึ้นบันไดไปก็ถึงแล้ว...


โจมอนสึกิ อายุสองพันถึงเจ็ดพันปี






ดูเหมือนไม่ใหญ่ใช่มั้ยคะ แต่จริงๆ ใหญ่น้า เพียงแต่เข้าไปใกล้ๆ ไม่ได้อ่ะค่ะ เพราะเขากั้นเอาไว้ พวกเรามาถึงที่นี่ตอนสิบเอ็ดโมงกว่าๆ มาถึงปุ๊บก็กินข้าวเลย


ข้าวกล่องที่สั่งไว้



อร่อยมากมาย (เดินเหนื่อยๆ มากินอร่อยมากๆ ฮา) กินเสร็จก็ถ่ายรูปต่อ




หมีน้อยมาด้วย (ฮา)




รูปเยอะมากๆ เลยขอแยกขากลับเป็นอีกบล็อกน้า

เด็กทะเล
08.9.12



Create Date : 12 กันยายน 2551
Last Update : 15 กันยายน 2551 16:27:26 น. 4 comments
Counter : 2550 Pageviews.

 
งี้ด เห็นพี่มอส แล้วอยากไปด้วย อยากไปถ่ายรูปอ้ะ


โดย: waidhaya วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:23:48:27 น.  

 
ธรรมชาติบ้านเขายังสวยอยู่เลย เรียวมะอยากให้บ้านเราเป็นอย่างนั้นบ้าง


โดย: ryoma19 IP: 202.12.73.19 วันที่: 13 กันยายน 2551 เวลา:9:24:47 น.  

 
ขอบอกดังๆว่า อิจฉาเฟ่ย!! ฮาาา

ปล. จะเอาน้องหมีมั่งอ้ะ :P


โดย: small Qpid IP: 24.16.223.117 วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:14:55:05 น.  

 
สวยมากเลยพี่อ้อมมมมมมมมมม


โดย: บินหลา (Bann_Andaman ) วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:8:55:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลิปิการ์
Location :
ตอนใต้ Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537

ห้ามผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์ โดยการนำรูปภาพ และบทความงานเขียน รวมทั้งข้อความต่างๆ ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดในบล็อกแห่งนี้ไปใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญติไว้สูงสุด
Friends' blogs
[Add ลิปิการ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.