deeplove
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2556
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
11 พฤษภาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add deeplove's blog to your web]
Links
 

 
ทำงานอย่างไรดีนะถึงจะทำให้เรามีความสุข..



เชื่อว่าคนทำงานทุกคนจะเคยเกิดความรู้สึกเหล่านี้ ไม่มีสมาธิในการทำงาน ไม่สนุกในการทำงาน เหมือนกำลังหมดไฟในการทำงาน และสุดท้ายคือเหมือนตัวเองย่ำอยู่กับที่ไม่ไปไหนสักทีจนเกิดความเบื่อเหนื่อยและเซ็งในที่สุด

เมื่อรู้สึกหมดไฟการทำงาน และรู้สึกไม่สนุกกับงานที่ทำ..ก็คงไม่มีใครช่วยได้นอกตัวเราเองนี่ล่ะ ลองเปลี่ยนทัศนคติในการทำงาน ก็จริงงานบางอย่างอาจน่าเบื่อที่ต้องเจอกับงานที่ทำแบบซ้ำๆ ซากๆ ทำแล้วทำอีก แก้แล้วแก้อีก หรือเจอเพื่อนร่วมงานไม่ดี หัวหน้าเอาแต่ใจ ไม่ดีไม่เข้าใจ ไม่ยุติธรรม ไม่ว่าเป็นเรื่องงาน เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถกำหนดให้เป็นไปอย่างที่ใจเราต้องการได้ วิธีปรับเปลี่ยนสำหรับ จขบ. ก็คือ ปรับเปลี่ยนตัวเราเองนี่ล่ะ ให้ยอมรับว่าเราต้องทำงานเพื่อเงิน เพื่อความก้าวหน้า เพื่อความอยู่รอด ไม่ทำไม่ได้เป็นเช่นนี้สำหรับ จขบ. เปลี่ยนความคิดตัวเราเองให้ยอมรับในงาน เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า เป็นสิ่งที่เราไปบังคับไม่ได้ ขนาดตัวเราเองบางเรื่องบางอย่างเรายังบังคับใจบังคับตัวเราเองไม่ได้เลยแล้วเราจะไปบังคับคนอื่นสิ่งต่างๆ รอบๆ ตัวเราเองให้เป็นดั่งใจเราได้อย่างไร เมื่อเกิดความรู้สึกแย่ก็ต้องหาทางผ่อนคลายด้วยการหยุดพักการทำงานนั้นด้วยการเดินไปไหนสักพัก หาน้ำขนมดื่มแก้เซ็งแก้เบื่อ หรือหันไปคุยกะเพื่อนร่วมงาน ฟังเพลงด้วยหูฟัง หรืออ่านหนังสือสารคดีเบาสมองเพื่อผ่อนคลาย ถ้ายังไม่ไหวลองหาวันพักผ่อนออกไปดูหนัง ฟังเพลง เล่นกีฬา ปลูกต้นไม้ใบหญ้าที่ชอบ หรือ ไปเที่ยว ตจว. กะคนที่รู้ใจกัน แต่ถ้าคิดว่าเป็นการสิ้นเปลืองก็คุยกะเพื่อนร่วมงานด้วยเรื่องสัพเพเหระ หรือถ้าหนักกว่านั้นก็ระบายความเครียดความทุกข์เท่าที่พอจะคุยได้ หรือคุยกะคนในครอบครัวเพื่อระบายความรู้สึกก็ได้ ถ้ายังไม่หายก็หาอะไรทำเพื่อลดความจำเจ

การมีสมาธิในการทำงาน เป็นสิ่งจำเป็นมาก เมื่อมีสมาธิทำให้เราทำงานได้รวดเร็ว ถูกต้อง และทันเวลาทำให้งานมีประสิทธิภาพ หากใครไม่มีสมาธิในการทำงาน ก็ลองฝึกสมาธิในการทำงาน เช่น ตั้งใจที่จะพิมพ์งานไม่ให้ผิดพลาด ไม่ต้องแก้ไข หรือหลังจากพิมพ์งานเสร็จอาจใช้เวลาตรวจหาคำผิดอาจลองใช้เวลาในช่วงแรกสัก 5-10 นาทีให้ใจจดจ่อในการตรวจหาคำผิดโดยไม่สนใจกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราเอง ฝึกแบบนี้ทุกวัน เมื่อรู้สึกมีสมาธิดีขึ้นแล้วลองเพิ่มเวลาให้มากขึ้นเป็นการฝึกให้มีสมาธิเพิ่มขึ้นนั่นเอง ถ้าอยากฝึกสมาธิในการฟังก็ให้ลองเปิดฟังคำสอน ปาฐกถา หรือตั้งใจฟังเวลาใครพูดและจับใจความเรื่องราวต่างๆ ให้ได้ด้วยความตั้งใจ พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองให้มีสติ สมาธิ เมื่อใดที่มีจิตสงบแล้ว สมาธิในการทำงานก็จะเกิดขึ้นมาเอง และทำให้งานเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น สิ่งสำคัญ คือ ต้องมีความเชื่อมั่นว่าเราทำได้และทำได้ดี เพราะเรามีสมอง ความคิด ปัญญา เหมือนที่คนอื่นๆ มีเช่นกัน ถ้าอยากมีความก้าวหน้าในการทำงาน ก็ต้องคิดเสมอว่า งานที่ทำในปัจจุบันยังไม่ดีที่สุด เราต้องปรับปรุงงานให้ดีกว่านี้ เริ่มเปลี่ยนจากสิ่งที่ง่ายๆ แล้วก้าวให้ยากยิ่งขึ้นไปเรื่อย เพราะเมื่อเราทำสิ่งที่ง่ายๆ ได้สำเร็จเมื่อไรจะทำให้เรามีกำลังใจที่จะทำงานต่อไป ฝึกแบบนี้ไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องและอย่าหยุดนิ่ง เพราะหากเราหยุดไปสักนิดนั่นหมายถึงมีคนก้าวนำเราไปก้าวหนึ่งทุกครั้ง

สำหรับ จขบ. เองเมื่องานยุ่งมากๆ ก็มีหลายครั้งรู้สึกเหนื่อยอ่อนล้า เบื่อที่ต้องทำงานที่ไม่รู้จักเสร็จสักที เหมือนพักก่อนที่ต้องทำงานกว่าจะถึงบ้านก็ดึกดื่นมืดค่ำแล้ว ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน ไม่ได้ดูหนัง ไปเที่ยวที่ไหน นอกจากไปทำงาน ตจว. ซึ่งถือเป็นการผ่อนคลายไปในตัว อย่างเมื่อเดือนก่อนที่ต้องไปทำงานที่ จ.เชียงใหม่ ก็ต้องรีบไปและรีบกลับ แต่ก็เหมือนได้ผ่อนคลายการทำงานกว่าตอนที่อยู่ใน กทม. เพราะอย่างน้อยการอบรมก็เป็นการอบรม ในโรงแรมที่พัก ตื่นมาก็อาบน้ำ แต่งตัวลงมาทานข้าวเช้าและเข้าห้องอบรม กลางวันก็ทานอาหารในโรงแรมนั้น มีโอกาสได้พักและโต๋เต๋ก็ตอนเย็น ก็ไม่ได้ไปไหนไกลอีก เดินอยู่ในห้างใกล้โรงแรมทานอาหารเย็นที่นั่นแล้วกลับเข้าที่พักเพื่อพักผ่อนเตรียมความพร้อมที่จะอบรมวันต่อไป อีกวันก็เป็นแบบนี้จนกลับ กทม. ไม่ได้ไปไหนเลย ใครมาถามว่า ช.ม เป็นอย่างไรบ้างตอบไม่ได้เลยบอกได้อย่างเดียวว่าร้อนแม้จะเป็นเวลากลางคืนไม่ต่างกับ กทม. นั่นล่ะ (เผอิญไปช่วงอากาศร้อน) การไปทำงาน ตจว. แบบนี้ก็เลยถือเป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดซ้ำซากจำเจในการทำงานประจำได้พอสมควร แต่ถ้าหากไม่ได้ไปไหน จขบ. ก็จะนั่งนอนเล่นอยู่กับบ้าน แบบไม่เปิดแอร์ ใช้เป่าพัดเลมเปิดประตูหน้าต่างรับลมมากๆ แทน ร้อนนักก็อาบน้ำ หรือเอาน้ำลูบตัวปะแป้งเพื่อดับร้อน เล่นเกมไปตามเรื่องตามราวสลับกับการทำงานบ้าน นี่เป็นวิธีผ่อนคลายการรู้สึกเหนื่อยล้ากับการทำงานในช่วงที่งานยุ่งของ จขบ. ที่ผ่านมา

เมื่อมุ่งมั่นในการทำงานไม่ว่าจะเกิดผลดีหรือไม่ดีในการทำงานก็อย่าไปคิดและคาดหวังอะไรมาก เพราะการทำงานทุกอย่าง จขบ.เองตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดตั้งความคาดหวังไว้ว่างานที่ทำเสร็จทันเวลาและไม่มีข้อผิดพลาดในการทำงาน หรือผิดพลาดให้น้อยที่สุด ไม่เคยคาดหวังว่างานที่ทำเมื่อทำแล้วจะไปเข้าตาแตะตาใคร หรือจะได้อะไรจากการทำงาน อาจเพราะเป็นคนมองโลกในแง่ดีและไม่เคยยอมแพ้กับอุปสรรคอะไร เป็นคนกล้าคิด กล้าทำและกล้ายอมรับหากเกิดความผิดพลาด ไม่เคยยอมแพ้ถ้าหากงานเกิดความผิดพลาดก็พร้อมจะแก้ไขและยอมรับผิด ยอมรับอุปสรรคต่างๆ ที่เกิด เพราะงานทุกอย่างเมื่อเราได้ทำก็ย่อมมีปัญหาและอุปสรรคเพื่อท้ายทายความสามารถคนเราให้คิดแก้ไข และเป็นประสบการณ์ที่ดีของมนุษย์เรา เพราะเมื่อผ่านอุปสรรคปัญหาแล้วทำให้ จขบ. ภูมิใจที่สามารถแก้ไขปัญหานั้นได้ เพราะทุกครั้งที่ทำงานล้มเหลวทำให้เราได้รับประสบการณ์เพิ่มขึ้นนั่นเอง จขบ. จะขอบคุณทุกปัญหาที่เกิดและสร้างประสบการณ์ชีวิตให้เราได้เรียนรู้มากๆ ...แหะๆๆ..ก็ไม่มีอะไรแค่มาบ่นในหน้าบล๊อก เพราะนึกถึงงานที่ยังทำไม่เสร็จ และอยากทำให้เสร็จ แต่มันก็ไม่เสร็จสักที และนี่หยุดอีก 3 วัน งานก็เลยดองค้างเติ่งบนโต๊ะทำงานรอให้เรากลับไปสะสางเมื่อวันเปิดงานนั่นเอง.....5555555....ถือเป็นการแชร์ประสบการณ์ก็แล้วกันค่ะ....












































01 Westlife - My Love
02 Savage Garden - I Knew I Loved You
03 Bangles - Eternal Flame
04 Bette Midler - From A Distance
05 LeAnn Rimes - How Do I Live
06 Trademark - Only Love
07 Michael Learns To Rock - You Took My Heart Away
08 R.Kelly - I Believe I Can Fly
09 All-4-One - I Swear
10 Josh Groban - You Raise Me Up
11 Sarah Brightman - Time To Say Goodbye
12 Sarah McLachlan - Angel
13 Spandau Ballet - True
14 Cyndi Lauper - Time After Time
15 Foreigner - I Want To Know What Love Is







Create Date : 11 พฤษภาคม 2556
Last Update : 11 พฤษภาคม 2556 17:13:07 น. 2 comments
Counter : 1029 Pageviews.

 
สวัสดียามค่ำคืนครับ

ขอขอบคุณสำหรับแนวคิดดีๆในการทำงานให้มีความสุข เพลงเพราะด้วย Like ครับ


โดย: **mp5** วันที่: 12 พฤษภาคม 2556 เวลา:21:42:50 น.  

 
สวัสดีครับพี่ภัทร

โอโชเป็นทั้งคนดัง และคนที่คนเกลียด
แต่ถ้าอ่านเฉพาะงานหนังสือและงานบรรยาย
ผมว่าเขาสอนได้สนุกมากๆเลยครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 พฤษภาคม 2556 เวลา:22:03:59 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.