หนัง 5 เรื่องที่ได้ดูในช่วงเดือนที่ผ่านมา
ตอนที่เปิดห้องนี้เนี่ย กะไว้ว่า จะรีวิวหนังที่ได้ดูมาอย่างละเอียดลออ แต่ไปๆ มาๆ ... ขี้เกียจค่ะ ฮา อีกอย่าง ช่วงนี้ไอซ์ดูหนังโรงน่ะ เรียกว่าหนังในกระแสก็คงจะได้มั้ง มีคนดูเยอะแยะ และมีคนอื่นๆ รีวิวไว้อย่างดีมากๆ เลย โดยเฉพาะคุณ ผมอยู่ข้างหลังคุณ กิกิไหนๆ ก็มีคนรีวิวเจ๋งๆ ค่อนข้างตรงใจเป็นส่วนใหญ่แล้ว เลยไม่รีวิวดีกว่า ฮา ((ขี้เกียจง่ายๆ อย่างนี้เลย)) แต่จะใช้ห้องนี้เป็นที่บันทึกละกันว่า ไปดูหนังเรื่องไหนมาบ้าง ชอบหรือเปล่า ความรู้สึกส่วนตัวที่มีต่อหนังเรื่องนั้นๆ เป็นยังไง ฯลฯก็คงจะมี Spoil บ้างนะคะ ฮา.....ช่วงที่ผ่านมาเดือนกว่าๆ ดูหนังไปนิดหน่อยค่ะ ^^The Wicker Man (2006)Edward Malus (Nicolas Cage) นายอำเภอผู้ได้รับการขอร้องจากแฟนเก่า ให้ช่วยสืบหาลูกสาวที่หายตัวไป ทำให้เขาต้องเข้าไปในหมู่บ้านที่ปิดตัวจากสังคมภายนอก ที่นั่น เขาได้พบกับความลับของหมู่บ้าน....ฮา...เรื่องนี้หลงไปดูเพราะชื่อ Nicolas Cage แท้ๆ ... ไม่น่าเลยค่ะ เพราะว่า...ไม่สนุกเลยยยยเพิ่งรู้ทีหลังว่า เรื่องนี้เป็นหนัง re-make น่ะ หนังอืดดดด น่าเบื่อโครตๆๆๆ ดูจบด้วยความทรมาน ถ้าไม่ได้ดูหนังโรงนี่ คงจะปิดทีวีเสียแล้วน่าเสียดายความสามารถของนักแสดงค่ะ หนังเรื่องนี้แย่กว่าหนังเกรด B หลายๆ เรื่องซะอีกนะMunich (2005) เป็นหนังที่ base on true story หลังจากเกิดเรื่องในปี 1972 ... ระหว่างการแข่งขันโอลิมปิกที่มิวนิค ประเทศเยอรมัน นักกีฬาจากประเทศอิสราเอล 11 คนถูกลักพาสังหารโดยกลุ่มก่อการร้าย Palestinian terrorist group ที่ใช้ชื่อว่า Black Septemberนายกรัฐมนตรีของอิสราเอล Golda Meir เปิดไฟเขียวให้ปฏิบัติการลับ ในการสังหารผู้ก่อการทั้งหมด......Avner (Eric Bana) เป็นผู้ถูกเลือกให้นำการปฏิบัติการครั้งนี้ เนื่องจากเขาเป็นคนที่ไม่มีใครรู้จัก ... จากชายหนุ่มผู้มีจิตใจอ่อนไหว และอ่อนโยน ค่อยๆ ดูดซึมความ numb ในการสังหารคน .. เขาสูญเสียจิตวิญญาณไปอย่างไม่มีวันได้คืนเป็นหนังเกี่ยวกับการแก้แค้นอันไร้ประโยชน์สิ้นดีค่ะ ถึงแม้ว่า แต่ละคนจะบอกว่า มีเหตุผลของตัวเอง ด้วยความรักชาติ รักดินแดนก็ตามทีเถอะ ไม่รู้ว่า เรื่องผู้ก่อการร้าย การแย่งชิงดินแดน การแย่งชิงอำนาจเนี่ย เมื่อไหร่จะหมดไปซะทีก็ไม่รู้ไอซ์ชอบดูหนังที่สร้าง base on true story แบบนี้นะคะ แต่ดูเมื่อไหร่ ก็หดหู่ทุกทีสิน่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีนะคะ สะท้อนอะไรๆ ออกมาได้ชัดเจนทีเดียว และที่สำคัญ ไอซ์ว่าหนังเรื่องนี้มีความเป็นกลางพอสมควรนะเรื่องนี้ไม่ได้ดูในโรงหนังค่ะ ดูแผ่นที่บ้าน อารมณ์เลยไม่ค่อยอินเหมือนอยู่ในโรง อืมแต่สรุปว่า ดูแล้วชอบค่ะ แต่ดูเหมือนว่า หนังยังไม่ค่อยกระชับเท่าไหร่อะนะThe Banquet (Ye yan) (2006) หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากบทประพันธ์ของเช็คสเปียร์เรื่อง Hamlet น่ะค่ะ ก็อย่างที่รู้ๆ กันนะคะว่า บทประพันธ์ของลุงวิลนั้น ที่ดังๆ ส่วนใหญ่จะออกแนวโศกนาฎกรรมทั้งนั้นเรื่องนี้ขอไม่เล่าเรื่องย่อละกันค่ะ เพราะเนื้อเรื่องวนอยู่กับการชิงรักหักสวาทและอำนาจทางการเมืองความรู้สึกส่วนตัวที่ดูหนังเรื่องนี้ เหมือนกับเวลาไปเห็นอาหารหรูๆ ที่จัดอย่างงดงาม ... แต่ไม่อร่อย ฮาฉากเรื่องนี้สวยมากๆ ค่ะ แต่ละฉากทำให้ตะลึงสุดๆ ตั้งแต่ฉากเปิดที่มีการฆ่ากันในโรงละคร ฉากต่างๆ ในราชวัง ... แต่...การเดินเรื่องอืดเอื่อยไปไม่น้อยทีเดียวค่ะ ทำให้ดึงอารมณ์คนดูไม่ได้การแสดงของ Zhang Ziyi ไอซ์ว่า...ธรรมดาอะค่ะ คือ แสดงได้ดี แต่ไม่ powerful พอที่จะดึงคนดูเอาไว้ได้สรุปว่า ... ดูเอาฉากค่ะ ที่เหลือค่อนข้างผิดหวังThe Prestige (2006)Robert Angier (Hugh Jackman) กับ Alfred Borden (Christian Bale) เป็นชายหนุ่มสองคนที่มีความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักมายากลที่เก่งสุดยอดทั้งสองร่วมงานอยู่ในคณะมายากลแห่งหนึ่งเพื่อฝึกฝนฝีมือ เป็นคู่แข่งของกันและกัน ... แต่จุดหักเหก็คือ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ความอยากท้าทายของ Borden ทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ ... ภรรยาของ Angier ตายไปการแข่งขันธรรมดาของคนทั้งคู่ กลายเป็นการแก้แค้น ความชิงดีชิงเด่น จนเกิดเป็น "สงคราม" ระหว่างนักมายากลสองคน.....ชอบบบบบเรื่องนี้สุดๆ เลยค่ะ บทภาพยนตร์เจ๋งมากๆ ตัดต่อเวลาได้อย่างแนบเนียน เนื้อเรื่องมีพลิกไปพลิกมา ทำให้อยากติดตามไปตลอด นำเอา "หลัก" ของมายากล 3 ขั้นตอน ... The Pledge, The Turn และ The Prestige มาเล่นกับเนื้อเรื่องได้อย่างแยบยลหนังเข้าใจ "เล่น" กับคนดู ด้วยการ "แอบเฉลย" ทุกอย่างเอาไว้ในฉากต่างๆ เข้ากับคำที่ย้ำนักย้ำหนาในหนังว่า "Are you watching closely?" จริงๆ ทีเดียวอิอิ ดูจบอดขำไม่ได้ว่า คน cast เข้าใจเลือกตัวแสดงเนาะ เอา Batman มาเจอกับ Wolverine ฮา ... แต่นักแสดงทั้งสองคนสลัดคราบยอดมนุษย์มาเป็นนักมายากลได้อย่างน่าเชื่อถือค่ะสรุปว่า ... ชอบๆๆๆๆ ค่ะ เรื่องนี้จะต้องซื้อแผ่นมาเก็บไว้ดูอีกแน่ๆ Casino Royale (2006) เรื่องสุดท้ายของ blog นี้ เพิ่งไปดูมาเมื่อคืนค่ะ ^^ บอนด์ฉบับล่าสุดจากกระแสต่อต้านต่างๆ นานา ว่า พี่ Daniel Craig ช่างหาความหล่อไม่ได้ ไม่เหมาะกับบท James Bond เลยแม้แต่น้อย กลายเป็นบอนด์ภาคที่หลายๆ คนยอมรับว่า เป็นบอนด์ภาคที่ดีที่สุดตอนแรกๆ ที่เห็นผลการคัดเลือกนักแสดง ไอซ์ยอมรับเลยนะคะว่า เหวอไปเหมือนกัน ฮา แต่พอได้เห็นตัวอย่างหนังเท่านั้นแหละ ก็เชื่อมั่นได้เลยว่า บอนด์ภาคนี้จะต้องดีแน่ๆ ตั้งใจรอดูเลยทีเดียวพอได้ดูมาเมื่อคืนนี้ บอกตรงๆ เลยค่ะว่า "ไม่ผิดหวัง" และออกจะเกินคาดหวังด้วยล่ะตั้งแต่ดูมา ชอบบุคคลิกของ James Bond คนนี้มากที่สุด เพราะรู้สึกว่า "มีความเป็นคน" สูง และ "จับต้องได้" รู้สึกว่า อย่างนี้สิ ค่อยเหมาะกับการเป็น "สายลับ" หน่อย ไม่หล่อจริงๆ ค่ะ แต่เท่ห์โครตๆ ฮา พี่เคร็คสร้างบอนด์ออกมาเป็นบอนด์ที่ฉีกแนวไปอีกแบบ ดิบ เถื่อน ฉลาด มีไหวพริบ อบอุ่นและอ่อนไหวในขณะเดียวกันตัวละครอื่นๆ ก็ชอบมาก ตั้งแต่นางเอก Vesper Lynd (Eva Green) เป็นสาวบอนด์ที่สวย มีสมอง และดูเป็นผู้หญิงธรรมดาที่น่าปกป้องเป็นที่สุด ((แอบส่วนตัวนิดหน่อย ... ชอบตอนนางเอกแต่งหน้าอ่อนๆ อย่างตอนฉากที่แต่งหน้าในห้องน้ำมากกว่าตอนแต่งหน้าขอบตาดำปี๋ๆ ซะอีกนะคะ Eva ดูสวยใสๆ มากๆ เลย ชอบจัง))ตัวร้าย Le Chiffre (Mads Mikkelsen) ไม่ได้เป็นตัวร้ายที่โครตร้ายอย่างทุกตอน แต่เป็นตัวร้ายที่ธรรมดา และมีตัวตนอยู่ในโลกกลมๆ ใบนี้ฉากแอ็คชั่นก็บู๊ล้างผลาญดี ทำให้บอนด์ดูเป็นคนที่มีความสามารถในการต่อสู้จริงๆ ไม่ใช่แต่จะคอยพึ่ง gadget ต่างๆ เพียงอย่างเดียวที่ชอบมากที่สุด คือ dialogues ต่างๆ ในหนังเรื่องนี้ ช่าง witty น่าติดตามจริงๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่บอนด์ประชันกับนางเอกหรือผู้ร้าย ... เริ่ดสุดๆ ชอบมากกกกกกต่อไปนี้ไอซ์ก๊อปมาจาก imdb นะคะ ชอบเจรงๆ..Steven Obanno: Do you believe in God, Mr. Le Chiffre? Le Chiffre: No, I believe in a reasonable rate of return. ..M: This may be too much for a blunt instrument to understand. Any thug can kill. I want you to take your ego out of the equation. James Bond: So you want me to be half-monk, half-hitman. M: I knew it was too early to promote you. James Bond: What I understand, double-ohs have a very short life expectancy. ..Vesper Lynd: Am I going to have a problem with you, Bond? James Bond: No, dont worry. You're not my type. Vesper Lynd: Smart? James Bond: Single. ..Bartender: Shaken or stirred? James Bond: Does it look like I give a damn? <-- กร๊ากมากๆ ฮา..และอันสุดท้าย ... ทำเอาละลายไปตรงนั้นเลย โอ้วววววVesper Lynd: You're not going to let me in there. You've got your armour back on. James Bond: I have no armour left. You've stripped it from me. Whatever is left of me - whatever I am - I'm yours.อา...สรุปว่า ... ชอบๆๆ ค่ะ ใครที่กะว่าจะไม่ไปดูเพราะบอนด์ภาคนี้ไม่หล่อล่ะก็ น่าเสียดายน้าาาา หนังสนุกมากค่ะ ^^หมดแล้วค่า ... ช่วงที่ผ่านมาดูหนังแค่นี้แหละ เรื่องต่อไปจะดูเรื่องอะไรดีน้า ^^
ช่วงที่ผ่านมาเดือนกว่าๆ ดูหนังไปนิดหน่อยค่ะ ^^The Wicker Man (2006)Edward Malus (Nicolas Cage) นายอำเภอผู้ได้รับการขอร้องจากแฟนเก่า ให้ช่วยสืบหาลูกสาวที่หายตัวไป ทำให้เขาต้องเข้าไปในหมู่บ้านที่ปิดตัวจากสังคมภายนอก ที่นั่น เขาได้พบกับความลับของหมู่บ้าน....ฮา...เรื่องนี้หลงไปดูเพราะชื่อ Nicolas Cage แท้ๆ ... ไม่น่าเลยค่ะ เพราะว่า...ไม่สนุกเลยยยยเพิ่งรู้ทีหลังว่า เรื่องนี้เป็นหนัง re-make น่ะ หนังอืดดดด น่าเบื่อโครตๆๆๆ ดูจบด้วยความทรมาน ถ้าไม่ได้ดูหนังโรงนี่ คงจะปิดทีวีเสียแล้วน่าเสียดายความสามารถของนักแสดงค่ะ หนังเรื่องนี้แย่กว่าหนังเกรด B หลายๆ เรื่องซะอีกนะMunich (2005) เป็นหนังที่ base on true story หลังจากเกิดเรื่องในปี 1972 ... ระหว่างการแข่งขันโอลิมปิกที่มิวนิค ประเทศเยอรมัน นักกีฬาจากประเทศอิสราเอล 11 คนถูกลักพาสังหารโดยกลุ่มก่อการร้าย Palestinian terrorist group ที่ใช้ชื่อว่า Black Septemberนายกรัฐมนตรีของอิสราเอล Golda Meir เปิดไฟเขียวให้ปฏิบัติการลับ ในการสังหารผู้ก่อการทั้งหมด......Avner (Eric Bana) เป็นผู้ถูกเลือกให้นำการปฏิบัติการครั้งนี้ เนื่องจากเขาเป็นคนที่ไม่มีใครรู้จัก ... จากชายหนุ่มผู้มีจิตใจอ่อนไหว และอ่อนโยน ค่อยๆ ดูดซึมความ numb ในการสังหารคน .. เขาสูญเสียจิตวิญญาณไปอย่างไม่มีวันได้คืนเป็นหนังเกี่ยวกับการแก้แค้นอันไร้ประโยชน์สิ้นดีค่ะ ถึงแม้ว่า แต่ละคนจะบอกว่า มีเหตุผลของตัวเอง ด้วยความรักชาติ รักดินแดนก็ตามทีเถอะ ไม่รู้ว่า เรื่องผู้ก่อการร้าย การแย่งชิงดินแดน การแย่งชิงอำนาจเนี่ย เมื่อไหร่จะหมดไปซะทีก็ไม่รู้ไอซ์ชอบดูหนังที่สร้าง base on true story แบบนี้นะคะ แต่ดูเมื่อไหร่ ก็หดหู่ทุกทีสิน่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีนะคะ สะท้อนอะไรๆ ออกมาได้ชัดเจนทีเดียว และที่สำคัญ ไอซ์ว่าหนังเรื่องนี้มีความเป็นกลางพอสมควรนะเรื่องนี้ไม่ได้ดูในโรงหนังค่ะ ดูแผ่นที่บ้าน อารมณ์เลยไม่ค่อยอินเหมือนอยู่ในโรง อืมแต่สรุปว่า ดูแล้วชอบค่ะ แต่ดูเหมือนว่า หนังยังไม่ค่อยกระชับเท่าไหร่อะนะThe Banquet (Ye yan) (2006) หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากบทประพันธ์ของเช็คสเปียร์เรื่อง Hamlet น่ะค่ะ ก็อย่างที่รู้ๆ กันนะคะว่า บทประพันธ์ของลุงวิลนั้น ที่ดังๆ ส่วนใหญ่จะออกแนวโศกนาฎกรรมทั้งนั้นเรื่องนี้ขอไม่เล่าเรื่องย่อละกันค่ะ เพราะเนื้อเรื่องวนอยู่กับการชิงรักหักสวาทและอำนาจทางการเมืองความรู้สึกส่วนตัวที่ดูหนังเรื่องนี้ เหมือนกับเวลาไปเห็นอาหารหรูๆ ที่จัดอย่างงดงาม ... แต่ไม่อร่อย ฮาฉากเรื่องนี้สวยมากๆ ค่ะ แต่ละฉากทำให้ตะลึงสุดๆ ตั้งแต่ฉากเปิดที่มีการฆ่ากันในโรงละคร ฉากต่างๆ ในราชวัง ... แต่...การเดินเรื่องอืดเอื่อยไปไม่น้อยทีเดียวค่ะ ทำให้ดึงอารมณ์คนดูไม่ได้การแสดงของ Zhang Ziyi ไอซ์ว่า...ธรรมดาอะค่ะ คือ แสดงได้ดี แต่ไม่ powerful พอที่จะดึงคนดูเอาไว้ได้สรุปว่า ... ดูเอาฉากค่ะ ที่เหลือค่อนข้างผิดหวังThe Prestige (2006)Robert Angier (Hugh Jackman) กับ Alfred Borden (Christian Bale) เป็นชายหนุ่มสองคนที่มีความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักมายากลที่เก่งสุดยอดทั้งสองร่วมงานอยู่ในคณะมายากลแห่งหนึ่งเพื่อฝึกฝนฝีมือ เป็นคู่แข่งของกันและกัน ... แต่จุดหักเหก็คือ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ความอยากท้าทายของ Borden ทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ ... ภรรยาของ Angier ตายไปการแข่งขันธรรมดาของคนทั้งคู่ กลายเป็นการแก้แค้น ความชิงดีชิงเด่น จนเกิดเป็น "สงคราม" ระหว่างนักมายากลสองคน.....ชอบบบบบเรื่องนี้สุดๆ เลยค่ะ บทภาพยนตร์เจ๋งมากๆ ตัดต่อเวลาได้อย่างแนบเนียน เนื้อเรื่องมีพลิกไปพลิกมา ทำให้อยากติดตามไปตลอด นำเอา "หลัก" ของมายากล 3 ขั้นตอน ... The Pledge, The Turn และ The Prestige มาเล่นกับเนื้อเรื่องได้อย่างแยบยลหนังเข้าใจ "เล่น" กับคนดู ด้วยการ "แอบเฉลย" ทุกอย่างเอาไว้ในฉากต่างๆ เข้ากับคำที่ย้ำนักย้ำหนาในหนังว่า "Are you watching closely?" จริงๆ ทีเดียวอิอิ ดูจบอดขำไม่ได้ว่า คน cast เข้าใจเลือกตัวแสดงเนาะ เอา Batman มาเจอกับ Wolverine ฮา ... แต่นักแสดงทั้งสองคนสลัดคราบยอดมนุษย์มาเป็นนักมายากลได้อย่างน่าเชื่อถือค่ะสรุปว่า ... ชอบๆๆๆๆ ค่ะ เรื่องนี้จะต้องซื้อแผ่นมาเก็บไว้ดูอีกแน่ๆ Casino Royale (2006) เรื่องสุดท้ายของ blog นี้ เพิ่งไปดูมาเมื่อคืนค่ะ ^^ บอนด์ฉบับล่าสุดจากกระแสต่อต้านต่างๆ นานา ว่า พี่ Daniel Craig ช่างหาความหล่อไม่ได้ ไม่เหมาะกับบท James Bond เลยแม้แต่น้อย กลายเป็นบอนด์ภาคที่หลายๆ คนยอมรับว่า เป็นบอนด์ภาคที่ดีที่สุดตอนแรกๆ ที่เห็นผลการคัดเลือกนักแสดง ไอซ์ยอมรับเลยนะคะว่า เหวอไปเหมือนกัน ฮา แต่พอได้เห็นตัวอย่างหนังเท่านั้นแหละ ก็เชื่อมั่นได้เลยว่า บอนด์ภาคนี้จะต้องดีแน่ๆ ตั้งใจรอดูเลยทีเดียวพอได้ดูมาเมื่อคืนนี้ บอกตรงๆ เลยค่ะว่า "ไม่ผิดหวัง" และออกจะเกินคาดหวังด้วยล่ะตั้งแต่ดูมา ชอบบุคคลิกของ James Bond คนนี้มากที่สุด เพราะรู้สึกว่า "มีความเป็นคน" สูง และ "จับต้องได้" รู้สึกว่า อย่างนี้สิ ค่อยเหมาะกับการเป็น "สายลับ" หน่อย ไม่หล่อจริงๆ ค่ะ แต่เท่ห์โครตๆ ฮา พี่เคร็คสร้างบอนด์ออกมาเป็นบอนด์ที่ฉีกแนวไปอีกแบบ ดิบ เถื่อน ฉลาด มีไหวพริบ อบอุ่นและอ่อนไหวในขณะเดียวกันตัวละครอื่นๆ ก็ชอบมาก ตั้งแต่นางเอก Vesper Lynd (Eva Green) เป็นสาวบอนด์ที่สวย มีสมอง และดูเป็นผู้หญิงธรรมดาที่น่าปกป้องเป็นที่สุด ((แอบส่วนตัวนิดหน่อย ... ชอบตอนนางเอกแต่งหน้าอ่อนๆ อย่างตอนฉากที่แต่งหน้าในห้องน้ำมากกว่าตอนแต่งหน้าขอบตาดำปี๋ๆ ซะอีกนะคะ Eva ดูสวยใสๆ มากๆ เลย ชอบจัง))ตัวร้าย Le Chiffre (Mads Mikkelsen) ไม่ได้เป็นตัวร้ายที่โครตร้ายอย่างทุกตอน แต่เป็นตัวร้ายที่ธรรมดา และมีตัวตนอยู่ในโลกกลมๆ ใบนี้ฉากแอ็คชั่นก็บู๊ล้างผลาญดี ทำให้บอนด์ดูเป็นคนที่มีความสามารถในการต่อสู้จริงๆ ไม่ใช่แต่จะคอยพึ่ง gadget ต่างๆ เพียงอย่างเดียวที่ชอบมากที่สุด คือ dialogues ต่างๆ ในหนังเรื่องนี้ ช่าง witty น่าติดตามจริงๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่บอนด์ประชันกับนางเอกหรือผู้ร้าย ... เริ่ดสุดๆ ชอบมากกกกกกต่อไปนี้ไอซ์ก๊อปมาจาก imdb นะคะ ชอบเจรงๆ..Steven Obanno: Do you believe in God, Mr. Le Chiffre? Le Chiffre: No, I believe in a reasonable rate of return. ..M: This may be too much for a blunt instrument to understand. Any thug can kill. I want you to take your ego out of the equation. James Bond: So you want me to be half-monk, half-hitman. M: I knew it was too early to promote you. James Bond: What I understand, double-ohs have a very short life expectancy. ..Vesper Lynd: Am I going to have a problem with you, Bond? James Bond: No, dont worry. You're not my type. Vesper Lynd: Smart? James Bond: Single. ..Bartender: Shaken or stirred? James Bond: Does it look like I give a damn? <-- กร๊ากมากๆ ฮา..และอันสุดท้าย ... ทำเอาละลายไปตรงนั้นเลย โอ้วววววVesper Lynd: You're not going to let me in there. You've got your armour back on. James Bond: I have no armour left. You've stripped it from me. Whatever is left of me - whatever I am - I'm yours.อา...สรุปว่า ... ชอบๆๆ ค่ะ ใครที่กะว่าจะไม่ไปดูเพราะบอนด์ภาคนี้ไม่หล่อล่ะก็ น่าเสียดายน้าาาา หนังสนุกมากค่ะ ^^
The Prestige นี่ต้องซื้อแผ่นไว้เก็บไว้ดู
และที่ผิดคาดคือเจมส์ บอนด์
ชอบบอนด์ภาคนี้จริง ๆ พี่เคร็กแกลบภาพบอนด์เจ้าสำอางไปได้ จริงๆ ด้วย
มีฉากขำๆ หลายฉากเชียว
คือภาคนี้นี่มันมีทั้ง บู๊ โรแมนติค และฉากลุ้นเงียบๆ อย่างในคาสิโน หลายรสชาติดี ผู้กำกับ ฯ แกคงตั้งใจให้พี่เคร็กแกซื้อใจคนดูให้ได้ ( และก็ได้จริงๆ ด้วย )
แต่ตอนที่บอนด์พูดจีบนางเอก นี่พี่แอบเลี่ยนนิดนึง
แต่ก็โอเคนะ
ถ้าชอบ เอวา กรีน แนะนำให้เอา
The Dreamers หนังของ Bernardo Bertolucci
มาดู พี่ชอบน้องเอวา จากเรื่องนี้มากกว่าอีก