พฤศจิกายน 2554

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
พฤติกรรมพยากรณ์ - โหมดวิเคราะห์ตัวเอง
พ่อ ตั้งแต่จำความไม่ได้ พ่อก็มีเหตุให้ต้องไกลกันเรื่อยๆ

แม่เล่าว่า ฉันติดพ่อ เวลาแม่กลับบ้านดึก เพราะไปทำงาน ฉันจะนอนดูดแขนพ่อ จนหลับไป
เมื่อแม่หอบฉันหนีพ่อ ฉันร้องไห้ "หาพ่อๆ"
นั่นเป็นสาเหตุ ที่ทำให้แม่ ไป ไม่ได้


ชั้นประถมหนึ่ง แม่พาฉันกลับบ้านที่ต่างจังหวัด เพราะทะเลาะกับพ่อ
ไปเรียนหนึ่งปี ก็กลับมาต่อ ป 2 - 5 ที่กรุงเทพ
จบ ป 5 โชคชะตา เล่นตลกอีกครั้ง ฉัน แม่ และน้อง ต้องไปอยู่ ไกล
พ่อกับฉัน ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ต้องแอบๆ แวะเวียนมาหา มาเจอตลอด ป 6
เข้า ม 1 ฉันย้ายไปอีกจังหวัด พ่อก็ได้แต่มาหาเป็นช่วงๆ จาก กทม
ยาวจนถึง ม 3
เวลาพ่อมาที ก็หอบของฝากมามากมาย
เสื้อผ้า ของเล่น เกมกด
พาไปซื้อหนังสือ
หอบกลับมาทีกองโต
ลูกที่อยู่ห่างพ่อ
พ่อย่อมรัก และตามใจ เป็นพิเศษ
ฉันดีใจที่พ่อมา
แต่ คาดว่า ดีใจ เช่นกัน ที่พ่อมาช่วงสั้นๆ
และกลับไป
เพราะพ่อนั้น ขึ้นชื่อเรื่องจู้จี้จุกจิก มากเรื่อง


ขึ้น ม ปลาย ฉันย้ายกลับเข้า กทม อีก
แต่..ไม่นาน พ่อกับแม่ ก็ เลิกกัน

พ่อจึงย้ายไปอยู่ที่อื่น
และ นานนาน แวะมาหา เอาตังค์มาให้แป๊บๆ แล้วกลับ..แค่นั้น

พฤติกรรมทางแม่

แม่ เป็นผู้หญิงเก่ง
ไม่ง้อใคร
ปากกับใจไม่ตรงกัน
ขี้น้อยใจ
ช่างประชด เหน็บกัด ได้จี๊ดใจ
แถมยังช่างเก็บ ช่างแค้น
เรื่องเมื่อยี่สิบสามสิบปีก่อน แม่เล่าได้เป็นฉากๆ
ล้วนเป็นเรื่องสมัยลำบาก
โดนกระทำให้เจ็บช้ำน้ำใจ ให้เสียหน้าเสียศักดิ์ศรี
ฉันจำได้ ว่าเด็กๆ เคยตั้งใจไว้ว่า อยากได้ผู้ชายแบบพ่อ
ที่ขรึม พูดน้อย

แต่ หลังจากโดนแม่ ที่เจ้าคิดเจ้าแค้น เล่าความทรงจำอันโหดร้าย
เล่าความไม่เอาไหนของพ่อ
ที่ไม่สามารถปกป้องดูแลแม่และลูกได้
ต้องคอยไปอาศัยแต่พี่น้อง
โดนเค้าดูถูกต่างๆนานา
ให้ฟัง..บ่อยๆ
แม้ไม่ได้คิด
แต่จิตใต้สำนึก คงโปรแกรมลงไปแบบสลักหลัง เรียบร้อยแล้ว

จำได้ ตอน ม ปลาย ฉันฟังแม่เล่า จนร้องไห้น้ำตาไหลพราก
แต่ไม่อยากให้แม่รู้ จึงร้องไห้แบบไม่มีเสียง
ทั้งๆที่ร้องหนักมาก แต่ซ่อนไว้ จนแม่ที่นอนข้างๆยังไม่รู้
จำ..จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ ไม่อยากไปยุ่งกะพี่น้องทางพ่อ
จำ..ได้ว่า แค้นตาม จนปักมีดพยาบาท..ของแม่..ลงไปที่ใจตัวเอง
แม้ตอนนี้จะคลายได้มาก
แต่การคลายนั้น ไม่ใช่การคลายแบบอภัยได้
แต่เป็นการคลาย เพราะไม่ยุ่งเกี่ยว ไม่สนใจใยดี ไม่แยแส

นอกจากนี้ แม่ยังบู๊ล้างผลาญ
ไม่ง้อ ไม่ขอความเห็นใจจากใคร
สู้ ในทุกสถานการณ์
ยิ่งมีคนมาดูถูก
แม่ยิ่งฮึด
จึงดูเหมือน แม่จะ"มี" มากกว่าใครในครอบครัว
จริงๆความมีของแม่
คือแม่ มีใจ เท่านั้นเอง
ทรัพย์ศฤงคารใดๆ แม่ไม่เคยมี

แต่ญาติพี่น้องไม่เข้าใจ
คิดว่า ขอให้ช่วยได้..ขอ
และแม่ก็มักจะช่วย
แม่ช่วย เต็มที่ คนเดียวไม่พอ
บอกพี่สาวของฉัน คือลูกคนโตของแม่ ไปช่วยอีก

แม่เป็นแม่ที่ประเสริฐ
เป็นลูกที่เป็นกุลธิดา
เป็นพี่น้องที่เสียสละอย่างเป็นเลิศ
แม่เหมาทำคนเดียวหมด
อะไรที่แม่ทำไหว ทำได้
แม่ทำ แม่ให้เสมอ
แต่ แม่ไม่เคยให้พี่น้องคนไหน เข้ามาคลุกคลี กับครอบครัวของแม่
กับลูกๆ อันเป็นที่รักยิ่ง
เราไม่เคยได้คลุกคลีกับญาติคนไหนเป็นพิเศษ
จนถึงขนาดที่ว่า แม่เอาไปฝากไว้ได้อย่างสบายใจ
แม่ไม่มีเพื่อนสนิท
ไม่เคยไว้ใจใคร
แม่กลัวเค้าเลี้ยงลูกแม่ไม่ดี
แม่หยิ่งที่จะขอร้องใคร
กำแพงในใจของแม่ หนาหนัก

ฉัน เติบโตมา กับจุดอ่อนอันสำคัญคือ แสดงความรักไม่เป็น
เก็บกด อาฆาตพยาบาท เจ้าคิดเจ้าแค้น (ราศีเราก็ขึ้นชื่อทางนี้เป็นทุนอยู่แล้วด้วย)
และ..มีกำแพงในใจ..สูงมาก
ความลับจึงเยอะ เมื่อไหร่ที่คนมารู้ มาอยากรู้เรื่องของตัวเอง
จะรู้สึกถูกรุกราน
จะรู้สึก เหมือนถูกจับแก้ผ้ากลางสี่แยก
ฉันจะเหวี่ยง จะป้องกันตัวเองอย่างรุนแรง
กลัวการถูกทำร้าย
จึงไม่กล้ารักใคร จึงขังตัวเองไว้หลังกำแพงหนา หนัก ยิ่งกว่าของแม่
และไม่ศรัทธาการแต่งงาน และ ครอบครัว
รังเกียจผู้ชายเจ้าชู้ มากก
คิดดูถูกคนเหล่านั้นในใจ
หัวโบราณสุดๆ
จึง"ออกแบบทดสอบ"ให้บรรดาผู้ชายที่เข้ามา
โหด..ซะจนแต่ละคน..น่วม


ทำร้ายใครรอบข้างมาหลายครั้ง
ครั้งหนึ่งที่รุนแรง กับคนที่คิดว่ารัก ณ ตอนนั้น
จนต้องเปลี่ยนความคิด ว่าแต่นี้ไปจะไม่เอาอีกแล้ว
มีอะไร จะพูด จะบอก ออกไป อย่างตรงไปตรงมา
รัก ก็บอกว่า รัก
โกรธ ก็บอกว่าโกรธ
อยากได้อะไร บอกเลย
ไม่ต้องให้มาเดา


หลายปีที่ผ่านมา ดีที่เติบโตทางความคิดขึ้นมาก
จึงไม่เอามีดเล่มนั้นของแม่ มาปักตัวเองซ้ำอีก
จึงไม่เอามีดนั้น มาปั๊ม ทำเล่มที่สอง
ไม่ทำพฤตติกรรม แบบแม่ ซ้ำ กับคนอื่นอีก

ฉัน ให้อภัยคนอื่นได้
ทั้งที่เป็นคนที่ฉันบอกกับตัวเองว่า เขาทำฉันเจ็บซะจนอยากจะเอาคืนยังไงก็ได้
แม้จะต้องจองเวรกันไปทุกชาติ ก็จะทำ!!


วันนี้ ฉันอภัยให้เขา
และลิ้มรสความโปร่งเบา.สบาย ของคำว่า "อภัย"
สุขสงบ ที่ปลดปล่อยตัวเองออกจากพันธนาการหนามแหลม ที่เกี่ยวร้อยดวงใจเอาไว้..ได้

วันนี้ ฉันสามารถกอด หอม จูบ คนที่รัก ได้อย่างไม่เคอะเขิน
วันนี้ฉันสามารถบอกว่า ฉันมีความสุขที่ได้อยู่กับเธอ
แม้ต้องเสียใจ
แม้ไม่มีอะไรแน่นอน
แม้ไม่มีคำสัญญา
ได้

ฉันกล้าที่จะรัก และแสดงออกถึงความรู้สึกอ่อนหวาน
กับคนที่ฉันรู้สึก
โดยไม่กลัวที่จะเจ็บ


ด้วยความเปิดกว้าง และความรักของแม่ ที่มีให้
ฉัน กล้าที่จะปลดปล่อยตัวเองออกจากพันธนาการโบราณในอดีต
กล้าที่จะเผชิญโลก
กล้าที่จะค้นหาความหมายของสิ่งต่างๆในชีวิตด้วยตัวเอง
กล้าที่จะบอกแม่ บอกใครๆ ถึงสิ่งที่ฉันเป็น
อย่างกล้าหาญ
อย่างมั่นใจ
เดี๋ยวนี้ ความลับฉันน้อยลงเยอะ
คนรอบข้างมองว่า ฉันเป็นคนตรงไปตรงมา เปิดเผย
ฉันมั่นใจ ว่าประสบการณ์ที่ฉันมี ทำให้ฉันรู้จักตัวเองดีขึ้น
ทำให้ฉันรู้ว่า ตัวเองต้องการอะไร
และ ฉันไม่จำเป็น ต้องปิดบัง ซ่อนเร้น มัน เอาไว้

จนกระทั่ง ฉันได้หนังสือเล่มหนึ่งมา
"If love could think"
สิ่งที่ฉันค้นพบ ว่ายังเหลือไว้เป็นรอยระลึก จากแรงเผาไหม้แห่งวันวารของพ่อกับแม่
คือ
รักทางไกล

รู้ตัว ว่าเป็นคนที่หลงรักอะไรไกลๆ มานานแล้ว
ชอบมาก ประเภท แฟนต้องเดินทาง
อยู่คนละที่ คนละประเทศ
ไม่ได้เจอกันบ่อย
ต้องโหยหากัน
ต้องคิดถึงคร่ำครวญ
ต้องเฝ้ารอจดหมาย รอการติดต่อ
ต้องถามตัวเอง ว่า เขาทำอะไรอยู่ คิดถึงเราบ้างไหม
เจอหน้ากัน ก็ยิ้มแย้ม หัวเราะ เล่าแต่สิ่งดีๆให้กัน
รักกัน มีความสุขกัน

เหมือนตอนที่พ่อมาหาฉัน
ฉันไม่เคย ต้องอยู่กับความเป็นจริงที่ว่า..
พ่อเป็นผู้ชายจุกจิก น่ารำคาญ นานนาน

เช่นกัน ฉันจึงไม่เคยคบใครแบบจริงจัง อยู่ด้วยกัน นานนาน
ไม่เคยต้องเผชิญกับข้อเสีย ของคนคนนั้น
ผู้ชายที่ครอบครองไม่ได้..จริง
ผู้ชายที่โลดแล่น ในจินตนาการของฉัน
แต่..ไม่มีตัวตน ในชีวิตประจำวันของฉัน
ไม่มีตัวตนโลกความเป็นจริง


โอเค ฉันคบจริงจัง
แต่ อยู่ห่างกันหลายพันหลายหมื่นไมล์
คนแรก ห่างกันหนึ่งปี
กลับมา..ล่ม

อีกคน ต้องบินข้ามโลก
เจอกันได้ ปีละครั้งสองครั้ง
สุดท้าย ก็ ไม่รอด

ล่าสุด บินหกชั่วโมง
เจอกันได้ ปีละครั้งสองครั้ง โดยประมาณ
แถมไม่แน่นอน ไม่มีการผูกมัด สัญญิงสัญญาใดๆทั้งสิ้น
สถานะที่มี คือเพื่อน เท่านั้น

แถม ในใจลึกๆ ฉันรู้ดี
เพราะฉันต้องการ space แบบที่แม่ฉันทำ
ไม่ต้องการเข้าใกล้ใครมากเกินไป

แม้หลายอย่างจะดีขึ้น แต่พฤติกรรมเดิมๆ ก็ไม่หมดไปเสียทีเดียว

เข้าใจมาตลอด ว่าตัวเองเป็นคนชอบบงการ ชอบผูกมัด
กับคนล่าสุดจึงบอกตัวเองว่า ลองไม่ผูกมัดดูบ้าง จะเป็นไร

ที่ไหนได้ ตอนนี้ ฉันเริ่มสับสน
หรือว่า ฉันกำลังเดินซ้ำรอยเดิม??

มีกำแพงในใจ อีกรูปแบบหนึ่ง
รูปแบบที่แยบยลกว่าเดิม

ดูเหมือนจะเปิดโอกาสให้กัน
ดูเป็นความสัมพันธ์ ที่เบาๆ สบายๆ

แต่ เข้าอีหรอบเดิม..เป๊ะ!!

แถม นิสัยดูถูกผู้ชาย ก็ยังไม่หาย
ชอบหว่านเสน่ห์ ดูท่าที
ยิ่งคนมีเจ้าของ ที่มากะลิ้มกะเหลี่ย
จะสนุกที่ได้ยั่ว
พอเค้าติดกับ แสดงอาการ
ก็คิดดูถูก..ในใจ

คนที่จะดึงดูดฉันได้จริง คือคนที่ honest เสมอต้นเสมอปลาย ยาวนาน
ฉันจะให้ความนับถือ
ฉันจะให้ความสนิทอย่างจริงใจ ไม่เล่มเกม ไม่ปั่นหัว
และนับเป็นเพื่อนแท้

เฮ้ออ เหนื่อย
ในเมื่อรู้แล้ว จะไปยังไงต่อดีล่ะ ทีนี้ - -'



Create Date : 12 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2554 1:08:58 น.
Counter : 990 Pageviews.

4 comments
  
แวะมาเยี่ยมยามเย็น...สวัสดีครับ
โดย: **mp5** วันที่: 12 พฤศจิกายน 2554 เวลา:17:21:03 น.
  
destiny!! อ่านแล้วโดน ทำไม๊ตัวเองเป็นแบบนี้ เป็นอย่างนี้ วิเคราะห์ตัวเอง พฤติกรรมตัวเอง ตัวเราเองก็เป็นแบบคุณค่ะ ส่วนหนึ่งการเติบโต และอีกส่วนคือเรามีเลือดของพ่อแม่อยู่ คงต้องค้นหาและพบคนที่ใช่ ของเราค่ะ
โดย: กะทิ IP: 124.122.116.79 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2554 เวลา:23:13:23 น.
  
คล้ายกันเลยค่ะ แต่เราต้องอยู่กับพ่อและแม่เลี้ยง แต่สุดท้ายเราก็ปลงได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เจอคนที่ perfect 100 แต่ก็เจอคนที่คิดว่าจะอยู่ด้วยกันไปตลอดนะคะ

ขอให้คุณ cinta เจอคนดีๆและคนที่ใช่นะคะ เอาใจช่วยค่ะ
โดย: m IP: 223.24.232.50 วันที่: 24 พฤษภาคม 2555 เวลา:20:40:34 น.
  
ขอบคุณมากค่ะ

ไม่รู้จะไปตามขอบคุณที่ไหน

แต่อยากบอกว่า ดีใจที่เข้ามาฝากข้อความไว้กันนะคะ ^^
โดย: cinta วันที่: 4 มิถุนายน 2555 เวลา:0:51:44 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

cinta
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สวัสดีค่า ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค้า
แบบว่ายังใหม่มากๆสำหรับที่นี่
เห็นบล็อกคนอื่นเค้าสวยๆงามๆก็ให้อิจฉาตาร้อนผ่าวๆ
ไม่รู้เค้าทำกันยังไง
ใครมีจิตเมตตาก็มาบอกกันมั่งเน้อ
free counters
New Comments