life sucks
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
23 พฤศจิกายน 2552

XXXแหกคอกมหาลัยXXX41XXX



ผมไม่อาจควบคุมขาทั้งสองข้างได้อีกต่อไปแล้ว มันก้าวเบียดฝูงชนไปอยู่หน้าเวที ทุกอย่างดำเนินไปโดยอัตโนมัติ ในวังวนแห่งภูตผีทุกตนที่กำลังจับจ้องอยู่กับการขับร้องของเจน เธอพัฒนาขึ้นจนแทบไม่น่าเชื่อ ผมอยากจะตะโกนบอกทั้งโลกด้วยความภาคภูมิใจว่านั่นละ แฟนเก่าผม! ผมจ้องมองส้นสูงสีแดงสดที่เธอใส่อยู่ ผมจำมันได้ มันเป็นคู่ที่ผมซื้อให้เธอในวันเกิดหลังจากที่เราคบกันมาสองปี ส้นสูงสีแดงสดสะท้อนแสงที่สูงที่สุดเท่าที่มนุษย์จะสามารถเหยียดเท้าใส่ลงไปแล้วเดินได้โดยไม่เป็นตะคริวไปเสียก่อน มันยังดูใหม่และทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างนี้เป็นช่วงเวลาที่เหลือเพียงความประทับใจ เธอคงอยากให้ผมเห็น ผมแน่ใจอย่างนั้น มันไม่มีอะไรที่ผมจะสามารถทำได้เพื่อต้านทานความต้องการของตัวเองได้เลย ใจที่เต้นจนแทบจะหลุดออกมาทางปาก ทั้งรยางค์ทุกชิ้นของร่างกายที่สั่นจนแทบจะควบคุมไม่ได้ ทุกสิ่งเป็นกิเลส เป็นความสุข เป็นความเร้าร้อนตื่นเต้นและจริงเสียยิ่งกว่าจริง ผมเห็นเธออยู่ตรงนั้น บนวีทีที่สปอตไลท์ส่องกระทบผิวเนื้อจนสว่างไปทั้งร่าง เธอผอมลง? ใช่... เธอผอมลงแน่นอน มันเป็นแค่ความทรงจำเท่านั้นละที่กลับเข้ามาเล่นงานผมจนหัวปั่น ผมเกลียดเธอ ผมรักเธอ เธอคือความผิดหวัง ความหวัง และเคยเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่แวดล้อม เหมือนบ่อทรายดูดที่จะกลืนกินชีวิตทุกชนิดเข้าไปและไม่มีทางดิ้นหลุด แต่ผมก็หลุดออกมาได้แล้ว หลุดออกจากเธอมาได้นานนับสองปีแล้วแต่บัดนี้ผมจะเดินกลับเข้าไปสู่หล่มแห่งความทุกข์ทรมานอีกอย่างงั้นหรือ อันที่จริงผมก็เป็นเพียงคนโง่คนหนึ่งที่สมองมีเอาไว้เพียงทำตามความต้องการของร่างกาย ร่างกายที่ต้องการเธอเหมือนปลาที่ไม่อาจจะขาดน้ำ ผมต้องการความชุ่มชื้นจากเธอเหมือนที่ผมเคยได้มันมาแล้ว ผมไม่แน่ใจสาเหตุที่ทำให้ผมเกิดอารมณ์มากมายในตอนนี้จะเป็นเพราะควันกลิ่นแปลกๆที่ลอยอยู่รอบตัวตอนนี้หรือเป็นเพียงปฏิกิริยาการสันดาบภายในที่ทำให้ผมรู้สึกถึงพลังแห่งความเป็นชายที่อัดแน่นอยู่ตรงกลางร่างกาย ผมกำลังจะเอื้อมมือออกไปคว้ามัน ส้นสูงคู่นั้น สีแดงแห่งความเร่าร้อน สีที่เผ็ดเหมือนพริกแต่มีความสำคัญเหมือนสายโลหิต มันคือเลือด มันคือความต้องการ ที่ทำให้ร่างกายผมเป็นเหมือนเครื่องยนต์พลังแรงสูงที่เบียดฝูงชนซึ่งกำลังกระโดดกันอย่างบ้าคลั่งจนสามารถเกาะขอบเวที สายตาของผมจับจ้องอยู่แต่ที่ส้นสูงของเธอ ของแบรนเนมส์ที่ผมตั้งใจซื้อให้เธอและบัดนี้มันเป็นเสมือนหนึ่งในอวัยวะสำคัญในร่างกาย สำคัญเท่ากับเส้นเสียง สำคัญเท่ากับหัวใจ เพราะมันทำให้เธอโดดเด่นอยู่บนเวทีได้อย่างไรข้อกังขา ส้นสูงยกช่องท้องให้เธอสามารถเปล่งพลังเสียงได้อย่างสุดขั้วปอด ผมคงเป็นคนเดียวในที่นี้ที่รู้ว่าหากปราศจากรองเท้าคู่นี้ไปแล้ว เธอคงไม่อาจลากเสียงไปจนสุดในจุดที่ผู้ฟังจะระเบิดต่อมน้ำตาไปกับมัน ผมเอื้อมมือออกไปเพื่อหวังจะไปคว้ามัน ข้อเท้าคู่นั้นที่ยืดตัวอยู่อย่างท้าทาย นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่? ผมถามตัวเองแต่มันเป็นเพียงเสียงสะท้อนในหัวที่เบาและไร้พลังมากซะจนไม่อาจจะเอาชนะจิตใต้สำนึกอันบ้าคลั่งของผมได้ แต่ในจังหวะที่ผมกำลังจะจับมันก็มีท่อนแขนอันใหญ่โตล็อกเข้ามาที่คอผม ลากออกไปข้างนอก ผ่านผู้คนที่แหวกกันเป็นทางเพื่อให้ผมถูกลากออกไป หายใจไม่ออก มือและขาพยายามเหวี่ยงไปอย่างไร้ทิศทาง เหมือนตกลงไปในกระแสน้ำอันเชี่ยวกราด ไม่อาจว่ายเข้าหาฝั่ง ไร้เรี่ยวแรง ผมลูกลากไปจนถึงหน้าร้าน


"น้องนั่งตั้งสติก่อนละกัน" การ์ดตัวใหญ่ท่าทางใจดีของร้านที่ลากผมออกมาบอกผมขณะกดผมจมลงไปนั่งที่โซฟาหน้าร้าน "พี่รู้ว่าน้องคงแค่เมายา แต่น้องไม่ควรจะเบียดเบียนคนอื่น" พี่แกพูดจบ ยิ้มให้ผม แล้วก็เดินหายไปในปาร์ตี้


ผมเมายางั้นหรือ? ยาอะไร? ผมไม่ได้แม้แต่ดื่มเหล้าสักแก้วเดียว ผมอาจจะทำตัวเพี้ยนไปหน่อย แต่ผมก็รู้สึกดีที่การ์ดผู้นั้นกระทำการลงโทษผมเพียงละม่อม แค่ลากออกมาง่ายๆ พูดจาก็ดีไม่มีมึงกู อาจจะเป็นเพราะผมดูไร้ทางสู้หรือดูไร้พิษสง ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน มันอาจจะมีคนแบบผมเยอะเกินไป กลายเป็นเรื่องธรรมดาเกินไป จากความอ่อนแอเกินไปจนการ์ดตัวใหญ่อย่างพี่แกคงรู้ว่าไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรงกับคนเมายา... ผมเดินเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าเพื่อตั้งสติ ผมมองหน้าตัวเอง ตาแดง เยิ้มนิดหน่อยแต่ก็ไม่ถึงกับน่าเกลียด บางทีผมก็รู้ตัวเองเหมือนกันว่าผมสติไม่ดี คือไม่ได้หูแว่วหรือพูดคุยกับตัวเองอะไรขนาดนั้นนะครับ เพียงแค่บางทีผมก็เหมือนตกอยู่ในภวังค์ที่ไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้ หรือว่าผมมีเชื้อบ้าอยู่ในตัวก็ไม่ทราบ บางทีผมอาจจะต้องหาเวลาไปคุยกับจิตแพทย์หรือไปบวชซักหนึ่งพรรษาให้จิตใจมันสะอาดสะอ้านขึ้นกว่าเดิมสักนิดก็ยังดี เออ... พูดถึงเรื่องบวชเกิดมาผมยังไม่เคยบวชเลยครับ แม่ผมก็อยากให้ผมลองบวชบ้างเผื่อมันจะได้ขัดเกลาจิตใจ ช่วยให้มีสมาธิ อะไรเชิงที่จะทำให้เรียนดีขึ้น ชีวิตดีขึ้น ไปบวชวัดในป่า หาวัดปฏิบัติดีๆสงบๆ แต่ผมก็ยังไม่ยอมตามใจท่าน คิดดูสิครับ... ผู้ชายไทยบวชกันเยอะขนาดไหน เอาแค่เพื่อนรอบตัวผมก็เคยบวชกันทุกคนแล้ว ถ้าบวชมันช่วยได้จริงๆผมว่า... ป่านนี้ประเทศชาติเราคงเจริญไปนานแล้ว โอเคครับ... มันอาจจะเป็นแค่ปากหมาๆของผมที่เพิ่งโดนการ์ดล็อกคอเอาไว้จึงอยากสำรอกความคิดอะไรออกมาเพียงเล็กน้อย เพียงความคิดโง่ๆเล็กน้อยเท่านั้น
ผมไปที่บาร์ ซื้อไฮเนเก้นขวดเล็กขึ้นมากระดกเล่น เบียร์ขวดเขียวเย็นเฉียบจนปวดนิ้ว เมื่อเพลงจบลง ดีเจกลับมาเปิดแผ่นอีกครั้ง ผมจึงโทรหาเธอ


“ร้องดีมากเลย” ผมชมเธอ มีคำตั้งมากมายที่สามารถให้คำจำกัดความถึงความประทับใจได้ดีกว่าเพียงชมว่าร้องดี แต่อย่างว่า... คนกำลังตื่นเต้นมักจะคิดอะไรไม่ค่อยออกหรอกจริงไหมครับ?


“ขอบคุณจ้ะ” เธอตอบ “ชัดอยู่ไหนหรอ เมื่อกี้น่ากลัวมากเลย มีคนพยายามจะขึ้นมาบนเวที”
ผมหน้าแดงด้วยความอายเลยครับ อยากจะบอกเธอว่ามันคือผมเองนั่นละที่พยายามจะทำอย่างนั้น ผมที่ไม่อาจต้านทานเสน่ห์อันเย้ายวนเกินไปของเธอได้ ผมที่พ่ายแพ้แก่ทุกสิ่งโดยเฉพาะความต้องการของตัวเอง แต่ถ้าเธอรู้แน่นอนว่าเธอคงจะกลัวผม ไม่ได้เจอกันมาตั้งสองปีก็ไม่ควรจะทำให้เธอรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงไปในทางเลวลงของผมจริงไหมครับ


“จริงหรอ?" ผมแกล้งทำเป็นถาม "เจนไม่ต้องกลัวหรอกเพราะวันนี้เราอยู่ด้วย" ผมพูดแล้วก็หัวเราะเล็กน้อยไม่ให้ดูมีซีเรียสจนเกินไป


"จริงสินะ... วันนี้ชัดอยู่ด้วย" เธอเงียบไปพักนึง "แล้วตกลงเธออยู่ไหนหรอ?" เธอถาม


"หน้าร้านจ้ะ” ผมบอกเธอ “จะออกมาหาหรือเปล่าผมถาม


“อีกแป๊บละกันนะ เดี๋ยวเราก็ร้องเพลงสุดท้ายแล้ว จะได้ออกไปเลย” เธอตอบ


“เคจ้ะ... เดี๋ยวเรารอฟัง”


ผมคงจะรออยู่ตรงนี้ละครับ ข้างในคนเยอะอึดอัดเกินไป ผมจะยืนสูบบุหรี่รอจนเธอขึ้นเวทีอีกเมื่อไรก็คงเข้าไปฟังเพลงสุดท้าย สำหรับผมแล้ว...บุหรี่และหนังสือเป็นเพียงสองสิ่งที่สามารถช่วยเหลือผมให้เวลาผ่านไปได้โดยไม่เบื่อเกินไปเมื่อต้องรออะไรสักอย่าง แต่ขืนหยิบหนังสือติดมือมาเที่ยวผับคนอื่นก็คงหาว่าผมบ้าแน่ๆ มันจึงเหลือเพียงบุหรี่เท่านั้นละครับที่เป็นเพื่อนแท้ ใครจะบอกผมว่าบุหรี่ไม่ดีอย่างไรก็ผมก็ไม่สน ถึงเพื่อนแท้จะหักหลังกันโดยทำให้ผมเป็นมะเร็งในอีกยี่สิบปีก็ช่างมันเหอะครับ ใครจะบอกได้ว่าผมจะไม่ตายก่อนหน้านั้น อีกอย่างพ่อแม่สอนผมให้อยู่กับปัจจุบันเสียด้วย หน้ากากที่ผมซื้อมาปกปิดเพียงส่วนตา ปากผมคาบบุหรี่ ความทรงจำถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกับควันขาวๆเหล่านั้น ใบหน้าของเจนลอยเข้ามาในควันเหล่านั้น ควันแห่งความเหงา มองไปรอบๆ ผู้คนยังคงสนุกอยู่กับเสียงเพลงแห่งดาวอังคาร ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องแต่งกายระยิบระยับอลังการ ชายกอดชาย ชายจูบชาย หนวดแข็งๆที่เสียดสีกันจนมีสะเก็ดไฟ ผมทรงสามเหลี่ยมติดงูสีทองตรงกลางเข้าชุดกับเสื้อเลื่อมให้ดูเป็นคลีโอพัตรา ชายหนุ่มกล้ามโตกับกางเกงในสีแดงใส่ไว้ข้างนอกให้เหมือนซูเปอร์แมน แบทแมน ผีดิบ ผีดูดเลือด มนุษย์หมาป่า มีแม้กระทั่งคิงคอง คิงคอง?? ผมคุ้นเคยกับแผ่นหลังของคิงคองตัวนี้มากจนกระทั่งได้ยินเสียงมันเท่านั้นละ


มันเป็นความบังเอิญทั้งนั้นที่เกิดขึ้นในชีวิตผม ผมเคยลองคิดทบทวนดูกับตัวเองหลายทีแล้ว ว่าถ้าเวรกรรมมีจริงแล้วจะอธิบายคนเป็นหมื่นเป็นแสนที่ตายเพราะแผ่นดินไหวว่าอย่างไร จะบอกว่าพวกเขาที่อยู่ตรงนั้นทำบาปตั้งแต่ชาติที่แล้วและจะต้องถึงคราวตายพร้อมๆกันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ มันไม่ Make sense อะไรเลยในความรู้สึกผมถ้าจะบอกว่าคุณเกิดมาจนเพราะชาติที่แล้วไม่ได้ทำบุญให้มากพอ มันเป็นเพียงความบังเอิญเท่านั้นที่เกิดขึ้นกับชีวิตและไม่อาจจะโทษใครได้เลยที่ผมต้องมายืนอยู่ตรงนี้เพื่อมาเจอกับแฟนเก่าแต่กลับต้องมาได้ยินสิ่งที่ผมไม่สมควรจะได้ยิน ผมกล้าเดินเข้าไปใกล้ด้วยความมั่นใจว่าหน้ากากสามารถช่วยพรางตัวได้ในระดับหนึ่ง ผมมองหน้ามัน ถึงมันจะแต่งหน้าแต่ตัวได้พิศดารเพียงใดแต่ด้วยรูปร่างและน้ำเสียงทำให้มันไม่สามารถเป็นใครอื่นได้เลยนอกจากไอ้หมีควาย กระเทยตัวใหญ่ที่มีฐานะเป็นรูมเมทของผมนั่นเอง


ผมถามตัวเองว่าควรจะทักมันหรือไม่? ผมสังเกตรอบๆตัวมันแล้วคุ้นๆหน้ากระเทยหอหลายคน พวกมันเมา คุยกันเสียงดัง วิ๊ดว้ายเมื่อมีหนุ่มๆเดินผ่าน อยู่เป็นแก๊งแต๋วแตกจนผมคิดว่ามันไม่ใช่เวลาอันสมควรที่ผมจะทักคนรู้จักในลักษณะนี้ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นอันเป็นคาแรคเตอร์ส่วนตัว ผมจึงพยายามสังเกตว่ามีคนที่ผมพอคุ้นๆหน่าอยู่ในกลุ่มนั้นอีกหรือไม่ ทันใดนั้นผมก็ได้ยินอะไรบางอย่างที่ทำให้ประสาทหูของผมตื่นตัวเต็มที่






Free TextEditor




 

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2552
0 comments
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2552 1:40:52 น.
Counter : 280 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Chud S.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add Chud S.'s blog to your web]